“ไม่ไหวแล้ว... ไมค์จ๋า ได้โปรดเอาน้าเถอะนะ อย่าทรมานกันแบบนี้... อูย” คนที่นอนหงายอยู่บนเตียงร้องขอเสียงกระเส่า ไร้สิ้นยางอาย อ้อนวอนอย่างซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองว่าอยากโดนเอา ดาวรินเสียวซ่านจนต้องเปล่งเสียงร้องครางออกมาเป็นระยะ เมื่อจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายกำลังถูกกระตุ้นทั้งบนและล่าง เพราะว่าขณะริมฝีปากร้อนผ่าวของ ไมเคิลแนบเน้นลงมาเบิร์นกุหลาบงามของหล่อน มือของเขาก็ดันต้นขาด้านในให้แบะอ้า และมืออีกข้างที่เหลือก็เอื้อมขึ้นมาบีบบี้หัวนมของหล่อนไปพร้อมๆ กัน “ได้ครับ... ผมใส่ให้แน่ๆ แต่ขอเลียอีกนิดนะครับ” หนุ่มน้อยสายเบิร์นกระตุกยิ้ม ลากลิ้นเฉาะผ่าลงมากลางร่องกลีบอวบนูน ทำให้โพรงสวาทของสาวใหญ่เพื่อนแม่ขมิบหมุบๆ ใบหน้าบิดเบ้ทรมาน เรือนร่างของน้าดาวเริ่มสั่นเกร็งตามจังหวะปลายลิ้นเสียบแทงเข้ามารัวๆ
‘ดาวริน’ หรือ ‘น้าดาว’หล่อนยังจดจำได้ไม่เคยลืม ตอนที่ไมเคิลยังเป็นเด็กๆ น่ารักน่าชัง ดาวรินเคยมองเด็กชายลูกครึ่งฝรั่งคนนี้ด้วยสายตา ‘เอ็นดู’ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มา ‘ดูเอ็น’ ของเขา ในวันที่ไมเคิลเติบใหญ่เป็นหนุ่มฉกรรจ์สุดหล่อเหลากระชากใจสาว
ดาวรินไม่เคยคาดคิด ว่าเรื่องราวความใกล้ชิดของหล่อนกับลูกชายเพื่อนจะกลายมาเป็นความสัมพันธ์ฉันชู้สาวสุดเร่าร้อนเกินกว่าใครจะคาดคิด... ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่วัยก็แตกต่างกัน
.........
‘ไมเคิล ชายหนุ่มยังคงรักและรอคอย ‘น้าดาว’ เสมอมา ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ต้องห่างกัน ไมเคิลไม่เคยเปิดใจรับผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิต ด้วยหัวใจมันยืนยันว่ารักมั่นกับ ‘เพื่อนแม่’ คนนี้คนเดียวเท่านั้น
ไมเคิลยังคงรอโอกาสที่จะได้พิสูจน์ความรักของตนอีกครั้ง เมื่อพบว่าระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา... ยังไม่นานพอที่จะลืม ‘น้าดาว’ สุดเร่าร้อนคนนี้
(รสสวาทรักต่างวัย)
“นั่นไมเคิลใช่ไหม”
หัวคิ้วของสาวใหญ่วัยสามสิบแปดปีชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย ‘ดาวริน’ หันมาถาม ‘กานดา’ เมื่อเหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ไซส์ฝรั่งซึ่งเป็นลูกชายของกานดา ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดที่โรงจอดรถ
“อะไรกัน... นี่เธอจำหลานไม่ได้หรือไง... นี่แหละเจ้าไมเคิลลูกชายฉัน”
กานดากล่าว
“โห... โตเร็วมากอ่ะ”
ดาวรินนึกย้อนไปเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นไมเคิลยังไม่สูงใหญ่ขนาดนี้ แต่ด้วยพันธุกรรมของบิดาซึ่งเป็นฝรั่งชาวอเมริกัน ก็ทำให้ไมเคิลแลดูสูงใหญ่สะดุดอย่างที่เห็น
“ไมค์... จำได้ไหมนี่ใคร”
กานดาร้องเรียกลูกชายที่กำลังเดินตรงเข้ามาใกล้เทอเรสที่หล่อนกับเพื่อนรักกำลังนั่งคุยกันอยู่
“จำได้สิครับ... สวัสดีครับน้าดาว”
ชายหนุ่มเข้ามายกมือไหว้ ก่อนจะทรุดร่างลงนั่งใกล้นางกานดาผู้เป็นมารดา
ไมเคิลไม่เคยลืมเพื่อนของแม่คนนี้ จะเพราะอะไรเสียอีกล่ะ... ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าดาวรินเป็นผู้หญิงที่มีความสะสวยสะดุดตาเหลือเกิน ใบหน้าของหล่อนคมสวย ผมดำขลับ ตาคม ผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน และที่สำคัญก็คือทรวงอกอะร้าอร่ามคัพดับเบิ้ลดีที่ทำเอาหนุ่มน้อยอย่างไมเคิลใจเต้นระทึกทุกครั้งเมื่อได้เจอหน้า
“นึกว่าจำน้าดาวไม่ได้เสียแล้ว”
นางกานดากล่าวกลับลูกชาย
“จำได้สิครับ”
ไมเคิลมองหน้าสาวใหญ่เพื่อนมารดา รอยหยักที่มุมปากขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหวาน
สาเหตุที่ไมเคิลต้องเรียกเพื่อนของแม่ว่า ‘น้า’ ก็เพราะว่าหล่อนเป็นเพื่อนรุ่นน้องของนางกานดา ดาวรินอายุก่อนกว่ากานดาสามปี
“เหนื่อยไหมลูก... รอเดี๋ยวนะแม่จะเอาน้ำเย็นมาให้”
นางกานดามองร่างอาบเหงื่อของลูกชาย เพราะว่าไมเคิลเพิ่งกลับจากแตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ ที่สนามหน้าเทศบาล ร่างกายจึงโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อาบพราวไปทั่วเรือนร่าง ริ้วลายกล้ามเนื้อของหนุ่มฉกรรจ์น่ามอง ดาวรินมองเห็นสรีระของไมเคิลชัดเจนเต็มตาก็เพราะว่าเขาถอดเสื้อยืดพาดบ่าเอาไว้ ทั้งตัวก็เหลือแค่กางเกงบอลผ้าร่มขาสั้นปิดกึ่งกลางกายเอาไว้แค่นั้น
“ไม่ได้เจอกันนาน... โตขึ้นเป็นกอง”
ดาวรินยังคงตะลึงมองลูกชายของเพื่อนรัก ก็ใครจะคิดว่าเด็กชายตัวเล็กๆ ที่หล่อนเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อน วันนี้จะเติบโตเป็นชายหนุ่มสุดหล่อเหลา ออร่าเจิดจรัสไม่แพ้ดารา
ดาวรินรู้ว่าไมเคิลได้ความหล่อเหลาของบิดามาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
หล่อนยังจดจำ ‘วิลเลี่ยม’ ซึ่งเป็นพ่อของไมเคิลได้ไม่เคยลืม ดาวรินยอมรับว่าเคยนึกอิจฉากานดา ที่หล่อนได้สามีเป็นฝรั่งชาวอเมริกันสุดหล่อเหลาที่เพื่อนๆ แอบมองอย่างนึกอิจฉา
“ไมเคิล... ตอนนี้หนูอายุเท่าไรแล้วจ๊ะ”
ดาวรินอยากรู้
“สิบแปด... ย่างสิบเก้าแล้วครับน้าดาว”
ชายหนุ่มตอบพลางคว้าเสื้อยืดที่พาดบ่ามาเช็ดเหงื่ออาบพราวอยู่ทั่วแขน ดาวรินเผลอมองเส้นขนสีดำที่แผ่คลุมแผงอกแกร่งไปด้วยมัดกล้าม ขนบางส่วนลามลงมาถึงกล้ามท้อง ก่อนจะไปรวมกันเป็นแพหนาอยู่รอบสะดือและลึกลงไปใต้ขอบกางเกงผ้าร่มชื้นเหงื่อแนบเนื้อ มองเห็นต้นขาแข็งแกร่งสุดเซ็กซี่ กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายของหนุ่มฉกรรจ์ที่นั่งอยู่เหนือลมโชยมากระทบจมูกของดาวรินเป็นระยะ... ทำเอาหัวใจเต้นแรง
“นอกจากเล่นฟุตบอลแล้วยังเล่นกล้ามด้วยหรือจ๊ะ”
สาวใหญ่เพื่อนมารดาชวนคุย ขณะสายตายังแสดงความสนใจในตัวชายหนุ่มไม่คลาย
“ครับน้าดาว... ใกล้สนามบอลมีโรงยิม เสร็จจากเล่นบอลผมก็แวะเล่นเวททุกวันครับ”
“แล้วตอนนี้เรียนชั้นไหนแล้ว”
“จมมอหกแล้วครับ... ระหว่างนี้กำลังรอเอ็นทรานส์ อาทิตย์หน้าผมกะว่าจะเข้าไปติวที่กรุงเทพฯ ครับ”
เสียงฝีเท้าของกานดาดังใกล้เข้ามาทุกที อึดใจสั้นๆ ต่อมาเจ้าของบ้านก็มาถึงพร้อมกับแก้วน้ำเย็นในถาดโลหะสีเงินสำหรับลูกชาย ส่วนอีกแก้วเป็นน้ำมะเขือเทศ สำหรับดาวรินเพื่อนรัก
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"