เฮ็นริค เจ้าพ่อแห่งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งเยอรมนี ชายหนุ่มได้รับฉายาว่า ‘เจ้าพ่อคาสโนว่าแห่งฮัมบูร์ก’ เขาไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนออกงานเกินสามครั้งด้วยซ้ำไป แล้วนับประสาอะไรกับนางหงส์ที่คิดจะกลายร่างเป็นลูกเป็ดมาให้เขาเด็ดปีกจนถึงที่ แล้วหวังจะยื่นตำแหน่ง ‘สามี’ ให้กับเขา หล่อนฝันไปหรือเปล่า "การที่คุณจะมาเป็นเมียของผม มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ลำพังแค่ใช่เต้าไต่ คุณไม่ผ่านพิจารณาง่ายๆ หรอก ตอนนี้คุณอยู่ในขั้นทดลองงาน ก่อนอื่นผมต้องสัมภาษณ์คุณก่อน" คนเจ้าเล่ห์ทำสีหน้าจริงจัง สายตาคมสำรวจมองร่างอรชรอย่างรวดเร็ว รูปร่างของหล่อนน่ากินใช้ได้ทีเดียว "สะ...สัมภาษณ์อะไรเหรอคะ" เสียงหวานเริ่มสั่นเล็กน้อย "คุณมีประสบการณ์มานานแค่ไหนแล้ว บอกตรงๆ นะ ผมไม่ชอบผู้หญิงไร้ประสบการณ์ ขี้เกียจสอน มันเสียเวลาในการทำสถิติ" ปากสีสดกดยิ้มนิดๆ มือกร้านดึงร่างนุ่มเข้าหาอกแกร่ง สบตาเธอไม่กะพริบ "สะ...สถิติอะไรคะ" เสียงหวานสั่นมากขึ้น "แหม พูดอย่างกับว่าคุณไม่เคยอย่างนั้นแหละ" "คะ...คือว่าฉันยัง..." แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ "ยังใหม่อยู่ใช่ไหม โอเค...ถ้าอย่างนั้น ผมลดหย่อนให้ วันนี้เป็นวันแรกของเราสามยกพอ ถ้าคุณทำไม่ถึง ผมไม่ให้ผ่านแน่นอน และจะไม่ยอมพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอคุณแน่" เขาขู่เสียงเข้ม คนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์จริงสักครั้งเริ่มหน้าขาวสลับแดงเพราะเขินจัด จังหวัะหัวใจก็เต้นกระหน่ำไม่หยุด เฮ็นริคเกือบหลุดขำเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางตกใจของยัยลูกเป็ดตรงหน้า "อ้อ ผมบอกก่อนนะ ถึงคุณจะผ่านงานบนเตียง แต่ถ้างานนอกเตียงคุณไม่เอาไหน คุณก็เป็นได้แค่ผู้หญิงชั่วคราวของผมเท่านั้น เข้าใจเอาไว้ด้วยนะ เป็ดน้อย" "ฉันไม่ใช่ ปะ...อุ๊บ! คำพูดต่อมาถูกกลืนลงคอระหงแทบไม่ทัน เมื่อริมฝีปากร้อนบางเฉียบได้รูปฉกวูบลงมาแนบแน่นติดหนึบ ก่อนจะดูดกลืนความหอมหวานและหลอมละลายหัวใจ 'ยัยเป็ดน้อย' ลงในพริบตา แล้วคนที่เคยท่องจำแต่ทฤษฎีอย่าง มนต์นรี จะต้านทานวงแขนที่แสนเร่าร้อนของ ‘ผู้ชายกระหายรัก’ คนนี้ได้หรือ
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
ร่างหนาในสูทสีน้ำตาลทองที่กำลังเตรียมตัวจะลุกจากโต๊ะทำงาน เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแนบหู
“มีอะไรครับแด๊ด” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ แต่ทว่าเมื่อได้ยินเสียงเข้มทรงอำนาจทางปลายสายตอบกลับมา ก็ทำให้คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ค่อนข้างสงบต้องลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าตกใจไม่น้อย กับคำสั่งของบิดาที่เพิ่งได้รับ
“ว่ายังไงนะครับแด๊ด! จะให้ผมไปคุยงานกับคู่ค้าของแด๊ดที่เมืองไทยวันจันทร์หน้าหรือครับ ผมไม่ไป!” เจ้าพ่อคาสโนวาแห่งฮัมบูร์กรีบปฏิเสธคำสั่งของบิดาทันทีเมื่อได้ยินท่านบอกให้เขาไปคุยงานที่เมืองไทย แล้วทำไมจะต้องเป็นเขาด้วย ทำไมถึงไม่ให้มาติโนไปแทน และเหตุผลที่เฮ็นริครีบปฏิเสธบิดา ก็เพราะเขาไม่อยากไปเจอใครบางคนที่เมืองไทยนั่นเอง
“แต่แกต้องไป!” เสียงปลายสายสั่งเฉียบขาดดังขึ้นอีกครั้งจนแก้วหูคนฟังแทบระบม
“อาทิตย์หน้าผมมีนัดทั้งอาทิตย์”
“ยกเลิกไปซะ”
“ไม่ได้นะครับแด๊ด ซิลเวียคือผู้หญิงคนแรกที่ผมไม่อยากผิดนัดกับเธอ”
เจ้าของชื่อที่เฮ็นริคพูดถึง คือลูกสาวคนเล็กทายาทของเจ้าของโรงแรมชื่อดังหลายแห่งในกรุงเบอร์ลิน ชายหนุ่มพบหล่อนในงานการกุศลแห่งหนึ่ง หล่อนเป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ในงานประมูลเครื่องเพชรสุดหรูเพื่อมอบรายได้ให้กับเด็กด้อยโอกาสในประเทศเอธิโอเปีย หล่อนสวย หุ่นดี เซ็กซี่ ตรงสเปคเขาทุกอย่าง
“งานนี้แกห้ามปฏิเสธเด็ดขาด เพราะนี่คือคำสั่งของท่านประธานแห่งบีเอ็นซี กรุ๊ป!”
เสียงเข้มเน้นหนักที่ท้ายประโยค ทำให้คนฟังที่อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก เฮ็นริครู้ว่าคำสั่งของท่านประธานฯ ใครก็ขัดไม่ได้เด็ดขาด ไม่เว้นแม้แต่เขาหรือพี่ชายของเขา แต่เมื่อกลับมาจากการทำงาน ผู้ชายที่กุมอำนาจแห่งบีเอ็นซี กรุ๊ป จะดูอ่อนโยนและรักครอบครัวมาก ไม่ค่อยขัดใจภรรยากับลูกชายทั้งสองคนเท่าไรนัก
“แด๊ด!” เฮ็นริคอยากจะปฏิเสธแทบขาดใจ แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงจริงจังและทรงพลังที่ส่งมา ทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่ามันคือคำประกาศิตที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม และเขาก็คงต้องทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
เจ้าของร่างสูงเกือบสองเมตรในชุดสูทสีน้ำตาลทองเรียบหรูสอดมือทั้งสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง สูดหายใจเข้าปอดหนักๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างหนักใจ แล้วกรอกเสียงลงไปตามสายอย่างยอมจำนน
‘นี่เขาเป็นถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนะเนี่ย ไม่มีข้อยกเว้นเลยหรือไง’
“ก็ได้ครับแด๊ด แต่ผมไม่รับประกันความพอใจนะครับ” จบประโยคห้วนๆ คนที่ไม่เต็มใจรับคำสั่งก็กดวางสายทันที โดยไม่คิดจะฟังคำทักท้วงใดๆ จากบิดาที่ตะโกนไล่หลังเรียกชื่อเขาสองสามครั้งทางปลายสายอีก เจ้าของดวงตาสีกาแฟเข้มแสดงความรู้สึกเซ็งที่สุดในชีวิตออกมาอย่างเห็นได้ชัด
‘หวังว่าการไปเยือนประเทศไทยครั้งแรกนี้ เขาคงจะได้พบกับความเพลิดเพลินเจริญใจบ้างนะ อย่างน้อย...ก็ขออย่าให้เขาได้เจอกับผู้หญิงที่ทำตัวเป็นตุ๊กแก ชอบวีนเหวี่ยงและหึงร้ายกาจคนนั้นอีกก็แล้วกัน’
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าของร่างอรชรในชุดเดรสสั้นสีครีมที่เน้นทรวดทรงองค์เอวและเรียวขาเรียวสวย กำลังมองหาร่างสูงของใครบางคนที่มารอรับเธอตามคำสั่งของบิดา ก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องที่สนามบินดึสเซลดอ์ฟ เยอรมนี เขาชื่อ ‘ทาคุมิ โคบายาชิ’ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในเครือ ‘พิบูลชัย กรุ๊ป’ หลายสาขาทั่วประเทศไทย เธอไม่รู้ว่าทำไมบิดาของเธอถึงเจาะจงให้เขามารับเธอด้วย ทั้งๆ ที่ท่านก็รู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบหน้าซีอีโอหนุ่มคนนี้นัก
ความจริงแล้ว เธอทำใจให้ชอบผู้ชายคนไหนไม่ได้อีกทั้งนั้นแหละ นับตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากเที่ยวเมืองโคโลญจน์เยอรมนีเมื่อหลายปีที่แล้ว ผู้ชายผู้เป็นเจ้าของนัยน์ตาคมราวกับดวงตาของพญาเหยี่ยวคนนั้น ทำให้เธอลืมเขาไม่ลง ทั้งที่พยายามหักใจให้ลืมแล้ว แต่ภาพวันวานระหว่างเธอกับเขาก็หวนเข้ามาในมโนครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น
อุ๊บ!
ความใจลอยทำให้ร่างระหงเดินชนเข้ากับ ‘กำแพง’ อย่างจัง ใช่เธอคิดว่าตนเองกำลังเดินชนเข้ากับกำแพงอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะมันแข็งมาก แต่เมื่อมีมือสองข้างยื่นเข้ามาประคองร่างของเธอที่เกือบเซล้ม ก็ทำให้หญิงสาวรู้ว่าสิ่งที่เธอชนไม่ใช่กำแพงอย่างที่เธอคิดแต่แรก
ใบหน้าสวยหยาดเยิ้ม ที่มีเครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใสเรืองรอง จมูกโด่งเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยแสดงถึงความดื้อรั้นเอาแต่ใจของผู้เป็นเจ้าของค่อยๆ เงยหน้าขึ้น หญิงสาวกะพริบตาสองสามครั้งด้วยความตกตะลึง นี่เธอกำลังฝันอยู่หรือเปล่า และกว่าหญิงสาวจะหาเสียงของตนเองเจอก็ปาเข้าไปหลายวินาที
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” หัวใจทั้งดวงเต้นกระหน่ำโครมคราม เมื่อดวงตาคู่สวยสบประสานเข้ากับดวงตาคมกล้าชวนฝันของผู้ชายที่มีเครื่องหน้าคมคร้ามหล่อเหลาสุดๆ ในสามโลกตรงหน้า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ยังจดจำเขาได้เสมอไม่มีวันลืมเลือน ริมฝีปากอิ่มเล็กสีชมพูสดอ้าเผยอเล็กน้อยอย่างน่ามอง
‘ผู้หญิงคนนี้หน้าตาคุ้นๆ’
ชายหนุ่มพยายามคิดว่าเคยเจอเธอที่ไหน แต่ก็ยังคิดไม่ออกเมื่อสายตาคมเอาแต่จดจ้องไปยังเรียวปากอิ่มน่าจูบของเธอ ระยะห่างไม่ถึงคืบกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวหญิงสาว มันทำให้เขาอยากจะกระชากร่างอรชรที่แสนจะเซ็กซี่เข้ามากอดแล้วบดจูบให้หนำใจมากเหลือเกิน รสชาติของเธอคงจะหอมหวาน เธอสวยมีเสน่ห์มากเลยทีเดียว เฮ็นริคเผลอคิดในใจยิ้มๆ
‘ดูเธอจ้องตาเขาสิ แววตาของเธอ ริมฝีปากอันเซ็กซี่ของเธอ ช่างยั่วยวนใจเขานัก มันน่า...จริงๆ’
ทั้งสองร่างที่เพิ่งชนกันค่อยๆ พยุงตัวยืนตัวตรง ร่างบางถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแหงนหน้ามองพ่อเสาโทรเลขนี่จนคอตั้ง ขนาดว่าเธอเป็นคนรูปร่างสูงโปร่งเกินมาตรฐานหญิงไทยส่วนใหญ่แล้วนะ ทว่าเมื่อยืนเทียบความสูงกับผู้ชายคนนี้ ก็ทำให้คนตัวสูงเช่นเธอดูแคระไปเลย
เมื่อเฮ็นริคสบตาเธอด้วยแววตาเป็นประกายระยับ บวกกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของเขา มันก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้าหลายร้อยโวลต์วิ่งผ่านร่างกายของหญิงสาวจนร้อนวูบวาบไปหมด เลือดสาวสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าเนียนผ่องอย่างเฉียบพลัน จนแก้มนวลสองข้างซับไปด้วยสีแดงระเรื่อราวกับมะเขือเทศสุก
เฮ็นริคเผลอมองเรียวหน้านวลปลั่งที่แดงระเรื่อขึ้นด้วยความประหม่าเขินอายของสาวน้อยตรงหน้าอย่างหลงใหลตั้งแต่นาทีแรก ‘ใช่ เขาคิดว่าเธอคือสาวน้อยที่แสนขี้อาย’ ก็แค่สบตากัน แก้มนวลทั้งสองข้างของเธอก็แดงเถือกเสียแล้ว ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าถ้าหากเธอถูกเขาเปลื้องผ้า เรือนร่างขาวผ่องของเธอคงแดงเป็นกุ้งต้มแน่
หัวใจของมนต์นรียังเต้นโครมครามไม่หยุด เมื่อถูกผู้ชายที่เธอแอบฝันถึงมานานจ้องมองเธอราวกับจะเปลื้องผ้า ทั้งที่ตัวเธอออกจะเป็นสาวมั่นเกินร้อย แต่กับผู้ชายคนนี้เขาสามารถเขย่าหัวใจของเธอให้สั่นคลอนได้ทุกครั้งเมื่อได้เห็นหน้า ใช่แล้ว...เธอแอบเห็นเขาบ่อยๆ ตามสถานที่ต่างๆ แต่เขาคงมองไม่เห็นเธอหรอก ก็เธอไม่ใช่ผู้หญิงในสายตา ทว่าเฮ็นริคคือผู้ชายในฝันที่ไม่ได้อยู่แค่ในสายตา แต่เขาอยู่ในใจของเธอเรื่อยมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ว่าแต่ผู้ชายตรงหน้าจะยังจำเธอได้หรือเปล่า
‘เพราะว่าคืนนั้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว...เขา...’
ก่อนที่จะมนต์นรีจะทันได้คิดอะไรต่อ ร่างอรชรก็ถูกเบี่ยงออกอย่างแรงจนเสียหลัก พร้อมกับร่างเพรียวบางสมส่วนของสาวสวยนางหนึ่งเบียดแทรกเข้ามาตรงกลางอย่างเสียมารยาท พร้อมกับที่เจ้าหล่อนปรายตามองมาทางเธออย่างไม่พอใจแกมสะใจ ก่อนจะหันหน้าไปทางเจ้าของร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยที่มีผมสีบลอนด์เข้มด้วยสายตาพราวระยับอย่างดีใจ
1 พ่ายปรารถนาเจ้ารัตติกาล 2 กระหายรักใต้เงาจันทร์ 3 พิศวาสหวามข้ามกาลเวลา(ภาคจบ) ร่างสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ชิดรวดเร็ว จับบ่าบอบบางสองข้างเอาไว้แน่น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ทั้งกล้าหาญและหวาดหวั่น “คุณเลือกทางของคุณเองนะ ณิชา เกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษผม” “ฉะ...ฉันไม่กลัว” “คุณกำลังกลัวมากที่สุดต่างหากล่ะณิชา” ร่างเล็กถูกกระชากเข้ามาบดจูบด้วยความกระหาย ‘ณิชา ยอดรักของข้า’ เขาไม่พูดคำว่ารักออกมาให้เธอได้ยิน แต่ส่งผ่านความรู้สึกนั้นด้วยเซ็กส์ที่ทรงพลัง... เขาทะยานไปข้างหน้ารุนแรง ตอกย้ำกายใหญ่เข้าหาราวกับจะแทงทะลุให้ถึงจิตวิญญาณ ราตรีนี้ความต้องการทางกายของแวมไพร์หนุ่มจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า เขาหลอกล่อเธอด้วยไฟพิศวาสร้อนแรง เพื่อจะดับไฟแค้นในหัวใจ ส่วนเธอทั้งรักทั้งหลงเขา ไม่อาจห้ามใจสักครั้งเมื่อได้ชิดใกล้ แต่เมื่อรู้ความจริงว่าเขาคือใคร ดวงตะวันจะเลือนหายไปจากเธอและเขาหรือเปล่า วันเวลาหมุนเวียน ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนผัน มีเพียงดวงจิตที่ผูกพัน ร้อยปีผันผ่านยังเฝ้าคอย ‘เชอร์ลีน ยอดรักของข้า “ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่เชอร์ลีน ฉันชื่อกิรณา และฉันไม่เคยไปทำความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยรู้จักคุณ แล้วคุณจับฉันมาทำไม”
‘ทั้งๆ ที่รักแต่ไม่อาจครอบครอง ของของเขา เธอจะแย่งมาได้อย่างไร’ “เลิกคิดเถอะ คุณไม่เหมาะสมกับผมสักนิด และสเปคผู้หญิงของผมก็คงไม่ใช่เด็กสาวกะโปโลอย่างคุณ กลับไปเรียนหนังสือให้จบแล้วมีคนอื่นไปซะ ไม่ต้องมายั่วผมอีก เข้าใจที่ผมพูดมั้ย” เธอเข้าใจ... จึงเดินวกกลับมาจูบเขาอย่างยั่วยวนอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มหวาน “ถ้าเรียนจบแล้ว แพรจะกลับมา อย่าเพิ่งแต่งงานนะคะ...” ทว่าเมื่อเรียนจบกลับมาหาเขาอีกครั้ง ได้ใกล้ชิดชายหนุ่มอีกหน ครานี้เธอ ‘ยั่ว’ เขาหนักขึ้น แต่... เธอก็ต้องมาพบกับความร้ายกาจของผู้หญิงของเขา ที่ต้องการจะ ‘เอาเธอให้ถึงตาย!’ ลูกแพรจึงต้อง ‘ร้าย’ กลับบ้าง ‘ร้ายเพราะรัก มันต้องร้ายให้ลึกที่สุด!’
“ผมจะยอมแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยนสามข้อ คุณจะยอมรับได้ไหมแต่คุณต้องผ่านการทดสอบของผมในคืนนี้ให้ได้ก่อนนะ แล้วเราค่อยมาตกลงกัน” ความเป็นชายของเขาก็กำลังร้อนเป็นไฟ เธอมองเขาด้วยสายตาวิงวอน เธอกำลังกลัว กลัวมากที่สุด! “อย่ากลัวผมเลยนะ คุณรู้มั้ยว่าคุณน่ารักไปทั้งตัว คุณสวยจนผมอดใจไม่ไหว แล้วก็หอมหวานจนผมแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว” กฤตภพเก่งกาจเกินกว่าที่เธอจะต้านทานไหว เขาใช้ประสบการณ์อันช่ำชองพาให้เธอเคลิบเคลิ้ม และคล้อยตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าเขาจะดึงขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงนรก เธอก็โบยบินตามเขาไปทุกที่ ตามที่เขาปรารถนา อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากเรียวขาเมื่อไหร่ไม่ทันได้รู้สึกตัว แต่รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อเห็นร่างกายกำยำของเขายืนตรงปลายเตียง
ฟรานซิส ฟาร์นองเดซ เจ้าพ่อธุรกิจไวน์รายใหญ่ที่สุดแห่งอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เขาไม่ต่างกับอสูรร้ายที่ร้ายกาจ ป่าเถื่อน เพียงเพื่อจะกำจัด ‘ผู้หญิงที่หวังรวยทางลัด’ อัญญาลิน ทายาทสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของบริษัทไวน์เนอรี่ชั้นแนวหน้าของไทย เธอตั้งใจไปเที่ยวฝรั่งเศส เพียงเพื่อจะหาความรู้เรื่องการผลิตไวน์มาบริหารงานช่วยผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอ ‘น้องชายของเขา’ “คุณกำลังเข้าใจผิด” “เปล่า ผมกำลังเข้าใจถูกต่างหาก และผมก็รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเองก็คงแอบมีใจให้ผมไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคุณจะยั่วผมท้าทายผม ด้วยการขัดคำสั่งผมเหรอ เพราะคุณก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าเวลาที่คุณขัดคำสั่งผมแล้ว ผมจะลงโทษคุณอย่างไรบ้าง ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย ได้...ผมจะจัดให้” ศีรษะดกดำโน้มต่ำลงมาทันที อัญญาลินคิดเสมอว่าฟรานซิสรังเกียจเธอ หญิงสาวอยากจะรู้จังว่า ในสมองของเขาเคยคิดถึงเธอในแง่ดีบ้างหรือเปล่า หรือคิดแต่จะหาเรื่องทำให้เธอเป็นคนผิดที่คิดขัดคำสั่งเขาแล้วหาทางลงโทษเธอตามอำเภอใจ ‘ผู้ชายไม่มีหัวใจ’ อัญญาลินคิดได้แค่นี้ แล้วสติสัมปชัญญะของเธอก็ดับวูบลงทันที “ก็ได้! ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นผมเป็นคนดีในสายตา ผมก็จะขอเป็นคนเลวอย่างที่คุณประณามก็แล้วกัน” ฟรานซิสสะกดเสียงต่ำลอดไรฟัน มองหน้าคนดื้อรั้นไม่ยอมฟังเหตุผลด้วยประกายตาแข็งกร้าววาววับ ด้วยอารมรณ์คุกรุ่นผสมผสานกับอารมณ์ปรารถนาของร่างกายที่อัดแน่นมานานแล้ว เขาผลักร่างบอบบางที่มีเพียงผ้าแพรปกปิดร่างกายให้นอนราบลงไปกับที่นอน ก่อนที่จะคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ สวมบทอสูรร้ายบ้ากามทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องอ้อนวอนใดๆ จากหญิงสาวอีกต่อไป
ด้วยอำนาจแห่งมนตรา หรือเพราะพรหมลิขิต ชักนำเธอเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรัตติกาล ที่ทั้ง ‘เร่าร้อน’ และ ‘เหน็บหนาว’ ในคราวเดียวกัน ครั้งแรกที่สบตากับเขา ‘รุ้งราตรี’ ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร ทันทีที่ได้ใกล้ชิด โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะหยุดหมุน และแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เธอก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง แต่ทำไมถึงได้หวั่นไหวนัก แค่เพียงจุมพิตแรก หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งมานานของ ‘แดเนียล’ ก็เริ่มสั่นคลอน แค่จูบเดียวก็เหมาเอาว่า เธอเป็น ‘เนื้อคู่’ ของเขา แล้วใครจะเชื่อ เธอไม่อยากเข้าใกล้เขานัก แต่ความจำเป็นบางอย่าง เธอจึงพาตัวองเข้าสู่ ‘คฤหาสน์ที่น่าสะพรึงกลัว’ เป็นหนที่สอง
“คุณพลประภัทร คุณมันเป็นเจ้าหนี้ที่เผด็จการมากที่สุด ทำไมจะต้องให้ฉันไปถ่ายโฆษณากับหมอนั่นด้วย” ...นายอลัน...นายเป็นญาติฝ่ายไหนของคุณพลประภัทร... แล้วเธอจะรู้หรือเปล่า...ว่าความจริงแล้วสองคนนี้เป็นคนๆ เดียวกัน “คงถึงเวลาที่ฉันจะเริ่มคิดดอกเบี้ยเธอแล้วนะสาวน้อย” “ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุด คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ!” อลันรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาทันที และรู้สึกโมโหคนใต้ร่างมากขึ้น จึงใช้กำลังข่มเหงรุกรานหญิงสาวอีกครั้ง เขาบดขยี้เรียวปากอิ่มสีกุลาบอย่างไม่ปรานี... แล้วเมื่อความจริงปรากฏ สมองของดุจดาวก็พร่าเลือนไปหมด แต่ไฟปรารถนาที่กำลังลุกโชนท่วมร่างแกร่งกำยำของเขา มันกำลังพร้อมที่จะแผดเผาร่างของเธอให้หลอมละลาย อะไรก็หยุดเขาไม่ได้! “คุณพลประภัทร อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัว” “ผมกำลังจะมอบความสุขให้กับคุณ จะกลัวทำไม” แต่คุณกำลังจะข่มขืนฉันอยู่นะ” คนไม่มีทางสู้เริ่มขึ้นเสียง “ผมไม่ได้ข่มขืนคุณสักหน่อย เขาเรียกว่าเรียกร้องสิทธิ์ต่างหาก อย่าลืมสิว่าคุณเป็นลูกหนี้ผม และคุณทำผิดสัญญา คุณก็ต้องชดใช้”
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย