‘บุษบารัญจวน’ ซีรีส์ดอกไม้โชยกลิ่นหอมรัญจวนล่อแมลงตัวผู้มาดอมดม ถูกสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนความดิบเถื่อนของมนุษย์ ที่มีทุกอารมณ์และแง่มุมของเหตุผลที่ยากจะทำความเข้าใจได้ เพราะบางครั้งความงดงามอ่อนหวานที่เห็นอาจแฝงไปด้วยความร้อนแรงจนเกินจะคาดเดา ‘กระดังงาร่อนไฟ’ เธอถูกตราหน้าว่าเป็นคน ‘กินผัว’ แม้จะเข็ดขยาดในชีวิตคู่ ทว่าความเร่าร้อนที่มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันก็ทำให้เธอต้านแรงปรารถนานั้นไม่ไหว ‘เธอไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟ แต่เธอก็พร้อมที่จะร่อนกับไฟหากมีคนมาจุดชนวนความร้อนแรงนั้นให้’
‘หญิง 3 ผัว’ นั่นคือคำพูดที่ทุกคนตราหน้า ‘ชวนพิศ’ แต่เธอผิดอะไรกันเล่าในเมื่อเธอก็เป็นแค่แม่ม่ายผัวตาย และเธอก็มีผัวคนต่อๆ ไปอย่างเช่น ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการคนปกป้องดูแล ต้องโทษว่าผัวเหล่านั้นชิงตายไปจากเธอเสียก่อนถึงจะถูก
ในเมื่อคนหนึ่งตายไปเธอก็ต้องหาคนใหม่มาทดแทน เพราะเธอเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อมีความต้องการขั้นพื้นฐานที่ผู้หญิงทุกคนต้องการไม่ต่างกัน และความอร่อยที่เคยได้ลิ้มลองไปแล้วนั้น หากจะจำกัดสิทธิ์ไม่ให้กินอีกเลย เธอคงทนไม่ได้
ชวนพิศคิดถึงความต้องการของตัวเธอเองที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันทั้งที่เธอจำต้องสะกดเก็บไว้เพื่อฐานะและหน้าตาในสังคม แม้ว่าจะต้องทนทรมานกับกระแสความอยากของตัวเองที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกวันก็ตามที
ชวนพิศ... เธอเชื่อว่า ‘เธอไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟแต่เธอก็พร้อมที่จะร่อนกับไฟหากมีคนมาจุดชนวนความร้อนแรงนั้นให้’ ซึ่งทั้ง 3 ผัวที่ผ่านมานั้นรู้ดี แค่ร้างราหรือมีธุระที่ต้องห่างกันไม่กี่ช่วงวัน เธอยังกระหายในรสสวาทนั้นจนต้องตักตวงอย่างไม่รู้เบื่อรู้หน่ายเมื่อเขากลับมาทำหน้าที่ผัวให้เธออีกครั้ง
และในเวลานี้เมื่อผัวคนที่ 3 มาตายจากไปเกือบครึ่งปี เธอจะต้องทนเก็บกดความทรมานไว้นานแค่ไหนใครจะรู้บ้าง แค่ถ้อยคำสบประมาทของชาวบ้านที่พนันกันว่าไม่เกินเดือนเธอต้องมีผัวใหม่มาเติมเต็มความไม่พอของเธออย่างแน่นอน
แม้จะไม่แคร์ใคร แต่สายตาของญาติพี่น้องที่มองเธออย่างคลางแคลงใจก็ทำให้เธอต้องสะกดเก็บความอยากไว้ให้ลึกที่สุดในหัวใจ แม้ในทุกค่ำคืนเธอจะทรมานเพราะหวนหารสสัมผัสจากของจริงที่ไม่มีวันเป็นไปได้ก็ตาม
“เฮ้อ!.”.
ชวนพิศถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคิดไปแล้วคนที่กลุ้มก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น และมันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเวลานี้เธอยังคงไร้คนข้างกาย ดวงตาฉ่ำหวานแต่งแต้มเฉดสีเย้ายวนสายตาทอดมองตรงไปข้างหน้า
หญิงสาววัยเกือบเข้าเลข 3 ที่เห็นอยู่ในบานกระจกใหญ่สุดแสนจะอลังการของโรงแรมเลิศหรูแห่งนี้ยังคงสวยงามไร้ที่ติ ทรวดทรงองค์เอวอะร้าอร่ามเต่งตึงไม่แพ้สาววัยแรกรุ่น ยิ่งอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปคอปาดสีม่วงเม็ดมะปรางก็ยิ่งช่วยขับเน้นผิวสีขาวอมชมพูให้ยิ่งนวลเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
ค่ำคืนนี้เธอบรรจงแต่งตัวให้งดงามที่สุดแต่ไม่ใช่อยากจะให้ใครดู แต่ต้องแต่งเพราะว่างานแต่งงานที่ได้รับเชิญนี้จัดขึ้นที่โรงงามหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เธอในฐานะแขกก็ควรจะแต่งกายให้เกียรติสถานที่ และการได้ไปพบปะผู้คนบ้างก็อาจทำให้เธอลืมความร้อนแรงอันเป็นสัญชาตญาณของตัวเองลงไปได้บ้าง ทว่าเธอคิดผิดถนัด
เพราะยิ่งมาในสถานที่ที่ตอกย้ำว่าในค่ำคืนนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องทำอะไรกันบ้าง เพียงแค่คิดขึ้นมาความร้อนแรงก็ไม่ได้ปรานีเธออีกแล้ว เพราะเธอรู้ดีว่าสัมผัสร้อนๆ ในค่ำคืนแรกสำหรับการเข้าหอไม่ว่าอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ความทรงจำร้อนๆ สำหรับคืนเข้าหอหวนมาในความคิด จนทำให้เธอไม่สนใจผู้คนรอบข้างที่ต่างเดินอวดโฉมกันไปมา ภาพเหตุการณ์ดำดิ่งสู่คืนวันเข้าหอ... ครั้งแรก
“หนูหน่อยเหนื่อยไหมจ๊ะ”
เสียง ‘พี่ชัย’ เจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธอเอ่ยถามในทันทีที่ญาติทั้งสองฝ่ายออกจากห้องหอไปกันหมดแล้วและทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังกับเจ้าบ่าวซึ่งเป็นรักแรกของเธอและเป็นรักเดียวมาตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยจนจบ
พี่ชัยทำงานเป็นคนขับรถให้นายฝรั่ง ซึ่งแม้ใครจะมองว่าอาชีพคนขับรถเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยเธอก็ไม่แคร์ เพราะเข้าใจและรู้ดีว่าหากพี่ชัยเลือกทำงานบริษัทตามสายอาชีพที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา เธอและเขาก็คงจะไม่มีวันนี้ ไม่มีทางที่พี่ชัยจะก่อร่างสร้างตัวจนมีบ้านมีรถเป็นของตัวเองและถึงขนาดมีเงินมาสู่ขอเธอได้ เพราะแม้จะเป็นคนขับรถทว่าเงินเดือนก็มากกว่าพนักงานบริษัทถึงสามเท่าด้วยกัน
อาจเพราะได้ภาษา และอาจเพราะเป็นคนอัธยาศัยดีเจ้านายรักเพื่อนร่วมงานชื่นชอบ ทำให้พี่ชัยยังมีอาชีพเสริมคือขายสินค้าเงินผ่อนทุกอย่างในบริษัทด้วย เพราะระหว่างวันเมื่อส่งเจ้านายเข้าบริษัทแล้ว หากเจ้านายไม่มีตารางงานที่จะไปไหนต่อ พี่ชัยก็สามารถเป็นอิสระจะทำอะไรก็ได้ รวมทั้งไปจัดหาสินค้ามาขายด้วย
เธอจึงตกลงร่วมชีวิตกับเขาทันทีที่เรียนจบและที่สำคัญที่สุดก็คือ พี่ชัยให้เกียรติเธอเสมอไม่เคยคิดที่จะฉวยโอกาสเอากับเธอสักครั้ง อย่างมากก็แค่จับมือ หอมแก้มตามประสาคนรักกันเท่านั้น แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่ สายตาหวานหยดย้อยที่มองมาสื่อความหมายบางอย่าง ความหมายที่เธอรู้ดีว่าคืออะไร
“เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ พี่ชัยไปอาบน้ำก่อนสิคะ เดี๋ยวหนูหน่อยจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้”
เธอตอบเอียงอายก่อนจะพาร่างกรุยกรายไปด้วยชุดเจ้าสาวเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่บรรจุเสื้อผ้าของเขาเอาไว้ก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงไม่กี่วัน นิ้วมือเกลี่ยไปมาตามชุดของเขาด้วยความประหม่า ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอเริ่มมีเงาของเขาเข้ามาปะปนไปทุกแห่ง
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"