ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!
“ได้ยินว่าอีกไม่นานจะมีงานมงคลใหญ่ เจ้ารู้หรือไม่”
“งานมงคล?”
“เป็นเช่นนั้น”
“คุณชายคุณหนูตระกูลไหนหรือ”
ชายหน้าเหลี่ยมผิวดำแดง กรามนูนเด่นชัด แววตาล่อกแล่กเหลือบมองผู้คนบนโรงเตี๊ยมเห็นว่ามิมีผู้ใดสนใจใครก็กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์บอก “เรื่องมงคลเช่นนี้ เห็นแก่เจ้าที่เป็นเพื่อนข้าหรอกนะ”
ชายที่ถูกยกยอจนใจฟูจึงกระตือรือร้นเอียงหูไปใกล้ไม่วายถาม “เช่นนั้นเล่ามาเถิด... พี่ชาย”
คนถูกเรียกพี่ชายลอบยิ้มก่อนป้องปากกระซิบ “แต่หน้าต่างมีหู ประตูมีตา ข้าเกรงว่าเจ้าจะ...”
“หากกลัวข้าเอาไปพูดต่อ คราวหน้าก็อย่าเอามาเล่าให้ข้าฟัง... เหอะ!” ชายร่างอ้วนเอ่ยวาจาฉุนเฉียว วงหน้ากลมดุจลูกพุทธาเริ่มออกสีแดงก่ำเพราะอากาศร้อนจนพานหงุดหงิดอีกทั้งไม่ได้คำตอบที่คาใจเพราะคนที่บอกว่าเพื่อนทำราวกับไม่เชื่อกัน มืออวบอ้วนกระแทกจอกสุราลงบนโต๊ะก่อนโยนเศษเงินลงบนโต๊ะทันที
“ใจเย็นก่อน เรื่องนี้เด็ดจริงๆ นา”
“หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องเล่าแล้ว ข้ามิได้อยากรู้”
ชายหน้าเหลี่ยมดวงตาโหลลึกหนวดเคราเป็นระเบียบที่เพิ่งถูกเอ็ดอึงใส่ส่งแววตาเจ้าเล่ห์ไปยังชายหนุ่มชุดสีดำสนิทสวมหมวกปีกกว้างครอบทับผ้าบางสีดำนั่งอยู่ถัดไปไม่ไกลก่อนจะกระตุกยิ้มพึงพอใจ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าให้จึงเอนตัวเข้าหาคู่สนทนาครานี้ร่ายยาว
“หา!”
“เป็นเรื่องจริง”
“สมรสพระราชทานระหว่างอ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้เย็นชากับคุณหนูตระกูลจินนะรึ” ชายร่างอ้วนถามกลับไม่พอยังตาเบิกกว้างคล้ายเชื่อคล้ายไม่เชื่อละล่ำละลักถามต่อ “คนไหนล่ะ คนพี่หรือคนน้อง”
“ว่ากันตามธรรมเนียมก็ต้องคนพี่ เพราะว่าหากเป็นคนน้องล่ะก็... หึหึ” หยุดคำพูดไว้เท่านั้นทำให้อีกฝ่ายสนใจทันใด “ช่างเถอะๆ อีกไม่นานเกินรอ”
“เช่นนั้นก็เล่าให้ข้าฟังบ้าง“
เมื่อทุกอย่างสมดังความตั้งใจ เรื่องราวจึงพร่างพรูออกมาจากริมฝีปากของคนเปิดประเด็น ส่วนคนฟังเก็บรายละเอียดทุกอย่างดังที่ต้องการก่อนเอ่ย “เรื่องทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ เชื่อได้หรือไม่สุดแท้แต่เจ้า ข้าเพียงได้ยินข่าวลือมาเท่านั้น”
“ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จล้วนเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องดี ครานี้เห็นทีข้าต้องประกาศข่าวงานมงคลนี้ให้รู้ทั่วกัน”
ชายร่างอ้วนผู้ล่วงรู้ความลับของราชสำนักเก็บอาการลิงโลดไว้ไม่มิด มืออวบๆ โบกพัดไล่ความร้อนไปมา ไม่รู้ว่าใจหรือกายสิ่งใดร้อนกว่า ครั้นจะเอ่ยคำพูดต่อก็กลับเป็นว่าอีกฝ่ายหันหลังเดินลงบันไดไปเสียแล้วจึงได้แต่มองตามหลังชายร่างสูงในชุดเทาเข้มที่เพิ่งบอกข่าวให้เขาเมื่อครู่ไปอย่างนอบน้อมแม้อีกฝ่ายจะไม่มีตาหลังมองเห็น
แต่หากจะเป็นเช่นนั้นได้...
เขาก็คงรู้ว่าคำพูดทั้งหมดที่ตั้งจะถูกถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณะชนสมดังตั้งใจในไม่ช้า..
ชายชุดดำสวมหมวกปีกกว้างวางเศษเงินลงบนโต๊ะ ดวงหน้าเสี้ยมเผยรอยยิ้มมุมปากที่มองแทบไม่ออกว่ามันคือรอยยิ้มชนิดใดกันแน่ เขาหยิบกระบี่ขึ้นมาอย่างใจเย็นกระทั่งเดินลงบันไดโรงเตี๊ยมไปอีกทาง ในใจครุ่นคิดถึงแต่คนที่แสนชิงชังคิดหวังไว้ให้คนผู้นี้ต้องเจ็บช้ำจากการกระทำที่เคยทำไว้เมื่อนานมาแล้ว
หลี่หลานหมิง...
เจ้าคนจองหองอวดดี เป็นแค่อ๋องปลายแถวยังกล้ากำแหง!
เห็นทีความสว่างไสวหยิ่งยโสโอหังเยี่ยงพยัคฆ์ของเจ้าจะต้องถูกดับด้วยความโกลาหลจนแทบไม่เป็นอันทำอะไรแทบเท้าข้า!
หนึ่งเดือนต่อมา...
ท่าน้ำทิศตะวันออกเฉียงเหนือเมืองฉู่ ยามอิ๋ว
ก่อนตะวันลับลาแสง หนทางมุ่งสู่ประตูเมืองแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าเดินสวนไปมาจับจ่ายซื้อของเต็มไม้เต็มมือ ดรุณีงามในชุดไหมจีนอ่อนชมพูบางพลิ้ววางหวีไม้ประดับลายดอกไม้ด้วยมุกเล็กสีขาวปนชมพูลงที่เดิมเพราะร่างเตี้ยผอมเพรียวในชุดสีแสดที่วิ่งเข้ามาดึงดูดความสนใจของนางไปก่อน
“คุณหนูรีบกลับกันได้แล้วเจ้าค่ะ ใกล้มืดค่ำแล้วนายท่านจะดุเอา”
“ช้าก่อนเถอะอาติง ข้ายังดูของที่ต้องการไม่หมดเลย” เสียงหวานกังวานออกจากริมฝีปากแย้มยิ้มแต่สีหน้ากลับบ่งบอกความขุ่นเคืองที่ถูกขัดใจ แต่ถึงอย่างไรดวงหน้าแช่มช้อยก็ยังคงงดงามอยู่ดี
“แต่ฮูหยินบอกว่าวันนี้จะมี...”
“ช่างเถอะๆ ข้ากลับไปค่อยแก้ตัวกับท่านแม่ก็ได้”
“คุณหนูใหญ่” สาวใช้ได้แต่อิดออดแต่มิอาจขัดความตั้งใจของผู้เป็นนายได้
จินฮุ่ยอิงละสายตาจากสาวใช้กลับมายังเป้าหมายที่มองไว้ก่อนหน้า รีบเดินเข้าไปด้านในร้านที่ลมพัดพลิ้วสีสันของเนื้อผ้าบางเบาเป็นที่ต้องใจ อึดใจต่อมาจึงปรากฏร่างสูงกำยำของบุรุษผู้หนึ่งเดินตามเข้าไป
“อาติง เจ้าดูสิว่าชิ้นนี้เหมาะกับซิงซินของข้าหรือไม่” นางเอ่ยถาม ครั้นไร้เสียงตอบรับจึงหันไปหา “ข้าถามว่า... อ๊ะ!”
“แม่นางผู้นี้คือ...”
“จินฮุ่ยอิง”
นางเผลอตอบเสียงอ่อนหวานโดยไม่รู้ตัว แม้กระนั้นก็มิอาจขัดขืนเมื่อเขารั้งนางไว้จากด้านหลัง กระทั่งอีกฝ่ายปล่อยมือจินฮุ่ยอิงจึงพลิกตัวหันกลับมาเผชิญหน้าจึงพบคนผู้นี้ส่งยิ้มบาดใจมาอีกครา
“ยินดีที่ได้พบแม่นางจิน เจ้าช่างงดงามอย่างที่ข้ามิเคยพานพบผู้ใดในเมืองฉู่เสมอเหมือน”
“คุณชายกล่าวเกินไปแล้ว ข้าขอตัว”
จินฮุ่ยอิงผละออกมาไม่พูดพร่ำทำเพลง นางตระหนกแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าคนผู้นี้มิใช่เสี่ยวติงบ่าวประจำตัวแต่กลับเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามไปแทนเสียได้
ราวกับโลกทั้งใบไร้สรรพเสียง จินฮุ่ยอิงคล้ายสติไม่อยู่กับเนื้อตัว คนผู้นี้มิรู้ชื่อเรียงเสียงใดแต่กลับทำให้นางใจสั่นสะท้านคล้ายดั่งมีผีเสื้อน้อยวนเวียนนับร้อยนับพัน กระทั่งก้าวออกมาจากร้าน นางก็ถูกรถม้าพุ่งตรงมาด้วยความเร็วสุดที่จะหลบหนีได้
ทว่า...
เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...
เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...