“จูบไม่ได้เรื่อง ยังกับไม่เคยจูบ” เขาถอนริมฝีปากออกห่าง กระซิบถามเธอเสียงแหบพร่า “นี่คุณ!” เธอเม้มปากแน่น อายจนหน้าแดง หน้าร้อนเห่อ หัวใจเต้นผิดจังหวะ “อื้อ...” เธอถูกบดจูบอีกครั้งเมื่อทำท่าจะพูดอะไร ในเวลานี้เขาไม่อยากฟังคำปฏิเสธของเธออีก “นี่คุณ! จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ยินยอม” เธอดิ้นรนเมื่อเขาจับเธออุ้มพาดบ่า เดินผ่านห้องรับแขกเข้ามาในห้องนอน เขาโยนเธอลงบนเตียงโครมใหญ่ “โอ๊ย! นี่คุณ มันจะมากเกินไปแล้วนะ” “อะไรที่ว่ามากไปไม่ทราบ” เขาปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว รัตนาวดีหันรีหันขวางเพื่อหาทางเอาตัวรอด เธอกลิ้งตัวทำท่าจะลงจากเตียง แต่เขากระโดดขึ้นมาตะครุบเธอเอาไว้ ใช้แขนกันเอาไว้อีกด้าน หญิงสาวกวาดสายตามองหาอะไรสักอย่างที่จะหยุดการกระทำของเขาได้ โคมไฟที่หัวเตียงอยู่ไกลเกินไป “หาอะไรเหรอ อ้อ... โคมไฟ คิดผิดคิดใหม่นะ มันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เขากดมือเธอเอาไว้บนศีรษะ เธอพยายามดิ้น แต่หนทางรอดลิบลับ
“น้องคะ น้อง”
“คะ?” รัตนาวดีหันไปตามเสียงเรียกของรุ่นพี่คนหนึ่ง เธอเป็นคนค่อนข้างสวย แต่งตัวเก่ง แม้จะอยู่ในชุดนักศึกษาเช่นนี้ สีผมของอีกฝ่ายเป็นสีน้ำตาลทองม้วนเป็นลอนตามสมัยนิยม
“น้องชื่ออะไรคะ พี่ชื่อพี่เจี๊ยบนะคะ” พิจิตรายิ้มหวานส่งมาให้
“ชื่องามค่ะ” รัตนาวดีตอบออกไป เธอเป็นแค่น้องปีหนึ่งไม่กล้าแข็งข้อกับพี่ๆ รุ่นพี่เข้ามาทักทายดีๆ เธอก็ควรจะตอบดีๆ ด้วย
“ชื่อน่ารักจัง รู้ไหม เพื่อนพี่คนโน้นน่ะชอบน้องนะ” พิจิตราชี้ไปยังกลุ่มของตน รัตนาวดีมองตามเห็นผู้ชายที่บอกว่าชอบเธอท่าทางดูนักเลง วางก้ามใหญ่โตอย่างไรไม่รู้
“เขาให้พี่มาถามชื่อน้องและขอเบอร์โทรด้วย” พิจิตรารีบบอก
“เอ่อ...” รัตนาวดีอึกอัก
“จริงๆ พี่ไม่อยากมาขอให้หรอกนะ เพราะเพื่อนพี่คนนี้นิสัยเสียมากๆ เลยจ้ะ”
“คะ” รัตนาวดีมองคนตรงหน้างุนงง ตกลงจะมาเชียร์เพื่อนหรือจะมาถล่มกันแน่ แต่ถึงอย่างไรเธอก็อยากเรียนหนังสือมากกว่าจะมีแฟน เพราะคิดว่าการเรียนสำคัญที่สุด
“เพื่อนพี่คนนี้ชื่อพี่ธีจ้ะ แบดบอย เจ้าชู้ คาสโนว่า มีสาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลังไม่หยุด แถมยังฟันแล้วทิ้งด้วย”
“คะ!” รัตนาวดีฟังแล้วตกใจ รีบส่ายหน้าไปมา เธอไม่อยากให้แม้แต่เบอร์โทร ทั้งยังไม่อยากรู้จักอีกด้วย
“พี่ถูกชะตากับน้องมากๆ เลยอยากเตือนเอาไว้ แต่พี่ก็แกล้งทำทีมาขอเบอร์น้องให้เพื่อนพี่นะ แต่พี่จะบอกเขาว่าน้องปฏิเสธโอเคไหม หรือน้องจะให้เบอร์เพื่อนพี่”
“ไม่ค่ะ” รัตนาวดีส่ายหน้ายิก
“ดีแล้วล่ะค่ะ น้ำตาจะได้ไม่เช็ดหัวเข่า พี่เตือนเพราะเป็นห่วง ไม่อยากให้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ขนาดพี่เองมันยังไม่เว้น”
“เพื่อนพี่นิสัยไม่ดี เห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ แต่ที่บ้านรวยไง พ่อแม่ตามใจเลยนิสัยเสียแบบนี้”
“พี่ช่วยไปบอกเพื่อนพี่ด้วยนะคะว่างามไม่สนใจเรื่องมีฟงมีแฟนหรอกค่ะ งามอยากจะตั้งใจเรียนมากกว่า” เธอสอบติดคณะบริหารธุรกิจ คิดว่าตลาดแรงงานต้องการและหางานทำได้ง่าย ถ้าเรียนจบไปจะได้เลี้ยงดูมารดาคนเดียวให้สบายได้ ทุกวันนี้ท่านต้องนั่งเย็บผ้าหลังขดหลังแข็ง แถมยังมีโรครุมเร้าอีก เธอพยายามหางานพิเศษทำหลังเลิกเรียนหรือทำในวันหยุดเพื่อแบ่งเบาภาระ แต่ในเศรษฐกิจเช่นนี้ข้าวของแพงเหลือเกิน ประหยัดยังไงก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง
“ได้สิจ๊ะ แล้วพี่จะบอกให้ น้องไปเถอะ” พิจิตรายิ้มหวานให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อนของตน
“ว่าไงเจี๊ยบ” ธีรกรเอ่ยถาม เขาไม่เคยถูกตาต้องใจผู้หญิงคนไหนมากมายแบบนี้มาก่อน น้องปีหนึ่งที่แสนน่ารัก ปากนิดจมูกหน่อย หน้าตาจิ้มลิ้มทำให้เขาเกิดชอบพอขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“เสียใจด้วยจ้ะ เขาบอกว่าไม่ชอบนาย แถมยังบอกว่ารังเกียจเสียด้วย ขาอ่อนเขาก็อย่าหวังได้เห็น”
“เฮ้ย!” เพื่อนในแก๊งอุทานพร้อมๆ กันก่อนจะหัวเราะกันยกใหญ่ ธีรกรรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก เกิดมายังไม่เคยโดนปฏิเสธมาก่อน มีแต่ผู้หญิงมาเสนอให้ เขาไม่เคยเป็นฝ่ายรุกผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่หล่อนกลับปฏิเสธเขาอย่างไม่มีชิ้นดี
“เฮ้ย! ไอ้ธี แกก็มีผู้หญิงเยอะแยะ อย่าไปสนใจเลยว่ะ” พิพัฒน์ตบบ่าเพื่อน
“คนอย่างกูมีเหรออยากได้แล้วไม่ได้”
“เขาไม่ชอบก็ยังจะไปตอแย ไม่เสียศักดิ์ศรีหรือไง” พิจิตราพูดขึ้น ก่อนส่ายหน้าไปมาทำท่าทีระอา
“กล้าดียังไงมาปฏิเสธคนอย่างฉัน” ธีรกรหน้าชาเพราะสายตาเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนโดนหยามชัดๆ เขาไม่เคยโดนปฏิเสธ และรับไม่ได้จริงๆ
“มีคนปฏิเสธถึงกับรับไม่ได้เลยเหรอวะแก” คมสันต์หัวเราะร่วน
“ฉันไม่ได้จะจีบเล่นๆ แต่คนนี้จะจีบจริงๆ มันถูกตาต้องใจ” ธีรกรพูดจริงจัง
“เขาบอกว่าไม่ชอบคนเจ้าชู้ เขารังเกียจ กลัวติดเอดส์ตาย อย่าได้ไปเฉียดใกล้เขาหรือยุ่งกับเขาเลย เขาขอร้อง แทบจะกราบฉันเลยรู้ไหม” พิจิตราพูดเสียงจริงจัง
“โหย! แรงอะ กล้าดียังไงมาว่าไอ้ธีแบบนี้” มัณฑนาร้องเสียงหลง
“มันจะมากไปแล้ว” ธีรกรโมโหแทบควันออกหู เพื่อนๆ ทุกคนเงียบกริบ ก่อนที่เขาจะลุกหนีออกจากกลุ่มเพื่อน
“อ้าว... ไอ้ธีโมโหหนีกลับบ้านไปแล้ว” เพื่อนๆ อ้าปากค้างเมื่อจู่ๆ ธีรกรก็ลุกหนีไปเสียดื้อๆ
“งั้นฉันไปด้วยดีกว่า” มัณฑนายักไหล่แล้วลุกจากโต๊ะ คมสันต์เลยรีบถือหนังสือให้และตามแฟนสาวไปทันที คมสันต์จีบมัณฑนาตั้งแต่ปีหนึ่งจนขึ้นปีสาม หญิงสาวเห็นความเสมอต้นเสมอปลายและความจริงใจของอีกฝ่ายเลยยอมตกลงปลงใจเป็นแฟนด้วย
“เมื่อกี้เธอพูดจริงเหรอ” พิพัฒน์เอ่ยถามพิจิตรา เขารู้ดีว่าธีรกรขี้โมโห แถมยังโมโหร้าย แต่ถ้าเรื่องไหนจริงจังก็จริงจัง เพื่อนรักเห็นรัตนาวดีแล้วชอบก็อยากทำความรู้จัก แต่คลาดกันเสียทุกครั้ง จนวันนี้พิจิตราอาสาจะไปขอเบอร์โทรให้ ธีรกรเลยรอลุ้นว่าจะได้คุยกับสาวเจ้าหรือเปล่า คือเรื่องชื่อสกุลหรือเบอร์โทรนั้น ก็พอจะหาได้ แต่การให้อีกฝ่ายรู้ว่าอยากได้อยากคุย มันก็มีศักดิ์ศรีกว่าไปแอบเอามาแล้วโทรไปดื้อๆ
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................