...เธอ...ซินนี่แม่มดสาวสุดเซ็กซี่ เธอมาพร้อมภารกิจสำคัญ นั่นก็คือการตามหาเนื้อคู่ แต่เนื้อคู่ของเธอสิ ทำไมช่างซื่อบื้อเสียจริง แต่อย่างไรเสียเธอต้องทำให้เขารักให้ได้ภายในสามเดือน ไม่งั้นจะต้องถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิต ...เขา...เอกภาพ อธิราช ดร.หนุ่ม นักวิทยาศาสตร์ผู้ชอบศึกษาค้นคว้า ชอบวิจัยและการทดลอง ใช้ชีวิตอยู่บ้านกับหลานๆ ตัวอ้วนกลมทั้งสอง ลูกชายและลูกสาวที่พี่สาวและพี่เขยที่ได้ฝากฝังเอาไว้ก่อนตาย ...แล้วการเจอกันของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น
“ซินนี่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องเดินทางไปยังโลกมนุษย์” คำพูดของผู้เป็นยายทำให้ซินนี่งุนงง ท่านพูดเหมือนกับว่าเธอจะต้องเดินทางไปทำภารกิจอันใดที่สำคัญมาก ทั้งๆ ที่ปกติเธอก็แอบหนีเที่ยวไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าอยู่เสมอๆ
“ท่านยายหมายความว่าเช่นไร ข้าไม่เข้าใจ” ซินนี่มองผู้เป็นยายกับแม่ด้วยความสงสัย
“ซินนี่หลานรัก เจ้าเข้าสู่วัยแห่งการมีคู่แล้ว โลกเวทมนตร์ของเราถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ที่จะสืบทอดเชื้อสายแม่มดของพวกเราต่อไป เจ้าต้องลงไปตามหาเนื้อคู่ของเจ้ายังโลกมนุษย์ เนื้อคู่ของเจ้าอยู่ที่นั่น เรื่องนี้ เจ้าคงรู้ดี” นาเนียร์ทอดตามองหลานสาวคนเดียวอย่างนึกชื่นชม ซินนี่ในวัยสาว สวยสดงดงามเกินแม่มดตนใด รวมถึงเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดาพ่อมดทั้งหลายในโลกเวทมนตร์ แต่ไม่ใช่เนื้อคู่จึงไม่สามารถฝืนครองคู่กันได้ ทำให้พ่อมดเหล่านั้นเพียงแค่แอบชื่นชม เพราะหากพ่อมดแม่มดตนใดฝืนกฎข้อนี้แล้ว ทั้งสองจะต้องถูกสาปไปชั่วชีวิต
“โลกมนุษย์เหรอเจ้าคะท่านยาย” ซินนี่ทวนคำของผู้เป็นยาย เธอแอบหนีไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าบ่อย หากครั้งนี้ต้องไปจริงๆ ก็ใจหายมิใช่น้อย เพราะไม่ใช่เป็นการหนีเที่ยวชวนตื่นเต้นเหมือนก่อน แต่เหมือนกับต้องไปทำภารกิจสำคัญ เช่นไรเสีย เธอก็ยังชอบการอยู่โลกเวทมนตร์มากกว่าอยู่ดี
ซินนี่คิดว่าตอนนี้ถึงวัยของการมีคู่แล้วจริงๆ เนื่องจากแม่มดวัยเดียวกันต่างมีคู่กันไปเกือบหมดแล้ว เธอมัวแต่เล่นซุกซนจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน สงสัยว่าคราวนี้จะจวนตัวเอามากๆ ยายกับแม่จึงได้เรียกมาคุย ซึ่งเป็นที่รู้กันในโลกเวทมนตร์ว่า หากพ่อมดแม่มดตนใดเข้าสู่วัยหนุ่มสาวก็ต้องออกตามหาเนื้อคู่ของตนกันทั้งนั้น
“ใช่ เจ้ามีเวลาสามเดือน ซินนี่หลานรักของยาย หากเจ้าไม่สามารถครองใจเนื้อคู่ของเจ้าได้ เจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิต นี่คือกฎของโลกเวทมนตร์ที่เจ้าก็คงรู้ดี” คำพูดของผู้เป็นยายเหมือนจะย้ำเตือนให้เธอได้คิด เธอรู้ดี แต่ไม่คิดจะทำต่างหาก
ซินนี่ถอนใจเบาๆ เพียงแค่ได้ยินว่าจะต้องถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิตก็รู้สึกสยองอยู่พอควร แต่แม่มดอย่างซินนี่ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว ถ้าเธอได้เจอเขาจริง แค่ร่ายเวทมนตร์ใส่ เพียงเท่านี้ เขาก็หลงเสน่ห์เธอ ยอมสารภาพรักแต่โดยดีแล้ว
“ท่านยายล้อเล่นกับข้ารึ ทำไมเหลือเวลาแค่สามเดือนเอง” ซินนี่ถามย้ำ ไม่ค่อยมั่นใจว่าทำไมถึงเหลือเวลาน้อยเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าผู้เป็นยายหาได้เคยล้อเล่น แต่กว่าเธอจะหาเขาเจอคงนานพอสมควร โลกมนุษย์กว้างใหญ่ไพศาล ที่สำคัญ เวทมนตร์ที่ไม่ได้เรื่องของเธอคงตามหาเขาได้ยากยิ่ง คิดแล้วต้องเจ็บใจที่ไม่ได้ตั้งใจฝึกวิชา ถ้าฝึกวิชาแก่กล้ากว่านี้คงส่องหาเขาเจอโดยง่าย
“ยายเคยล้อเล่นกับเจ้ารึซินนี่ ระยะเวลาทั้งหมดที่เจ้าต้องทำให้เขาสารภาพรักกับเจ้าคือเวลาสามเดือน” นาเนียร์ย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ท่านยาย โลกมนุษย์ออกกว้างใหญ่ไพศาล ข้าจะไปหาเขาเจอได้ยังไงเล่า แล้วถึงเจอก็จะรู้ได้เช่นไรเล่าว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของข้า” ซินนี่ขมวดคิ้วยุ่งกับสิ่งที่ผู้เป็นยายบอก
“หากเจ้าเจอเขาจริงๆ เขาจะมีแสงสีเงินออกจากตัว ปรากฏให้เจ้าเห็น คนนั้นคือเนื้อคู่ของเจ้า”
“แสงสีเงินเหรอคะท่านยาย”
“ใช่ ซินนี่ลูกรัก มนุษย์ที่เป็นเนื้อคู่กับแม่มด พ่อมดจะมีแสงสีเงินปรากฏให้เห็น เพื่อบอกให้รู้ว่านั่นคือเนื้อคู่” เวเนียร์บอกลูกสาวเพื่อเป็นการสำทับ
“ท่านยายกับท่านแม่จะให้ข้าออกเดินทางวันไหนเหรอคะ” ซินนี่ถามไถ่ นึกถึงโลกมนุษย์ก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
ปกติเธอมีอาจารย์สองคนคือ คูลโซ่กับอูลก้า อาจารย์คูลโซ่ค่อนข้างจะเถรตรง เคร่งขรึมมากทีเดียว เวลาเธอเรียนเวทมนตร์กับท่านต้องสงบเสงี่ยมมาก จนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ หากเธอทำอะไรผิดแค่นิดเดียวจะถูกลงโทษเสมอๆ จนเธอไม่กล้าทำอันใดให้อาจารย์โกรธ ดังนั้น เธอจึงต้องเอาแบบท่านคือต้องหัดสุขุมวางตัวให้เหมาะสมเอาไว้
สำหรับอาจารย์อูลก้าซึ่งเป็นอาจารย์อีกท่าน เขาค่อนข้างตลก เป็นกันเองแล้ว แถมยังพาเธอแอบหนีไปเที่ยวยังโลกมนุษย์เป็นประจำ ถ้าท่านรู้ว่าเธอไปโลกมนุษย์ สงสัยคงจะชวนเธอไปเที่ยวจนหนำใจ ไม่ต้องแอบหนีเหมือนเช่นที่ผ่านมา
“อีกสามวันจะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงพอดี เจ้าต้องออกเดินทาง แต่มีข้อแม้ว่า...” นาเนียร์เว้นวรรคเอาไว้เพื่อให้หลานสาวสนใจไถ่ถามมากกว่านี้ เพียงแค่นางเห็นแววตาก็รู้ว่าหลานสาวแสนซนกำลังคิดอะไรพิเรนทร์ตามเคย
“ข้อแม้อันใดเล่าท่านยาย” ซินนี่หลุดจากภวังค์ความคิดเรื่องเที่ยว รีบถามเอาใจผู้เป็นยายเมื่อเห็นท่านหน้างอ
“เจ้าต้องเจอเนื้อคู่ของเจ้าภายในหนึ่งเดือน ก่อนพระจันทร์จะเต็มดวงอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่า แล้วถึงตอนนั้น ยายกับแม่หรือใครๆ คงช่วยเจ้าไม่ได้”
“ท่านยาย ทำไมเร็วแบบนั้น” ซินนี่อวดครวญ แค่สามเดือนว่าเร็วแล้วที่จะให้เขาบอกรัก เธอยังไม่รู้จะหาเขาเจอหรือเปล่า แต่นี่เดือนเดียว คิดแล้วกลุ้ม แต่ยังพอใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อคิดถึงอาจารย์อูลก้า ท่านเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เรื่องโลกมนุษย์มากทีเดียว คงพอช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้างแหละ
ซินนี่ค้านในใจเรื่องเนื้อคู่ว่าไม่เห็นจำเป็นสักนิด ทำไมโลกเวทมนตร์ต้องมีกฎแปลกประหลาดแบบนี้ด้วยนะ จริงแล้วๆ เธอยังไม่รักใคร ไม่อยากมีคู่ด้วยซ้ำ แม้จะมีพ่อมดมาสร้างสัมพันธ์ด้วย เธอก็ไม่เคยสนใจจะสมัครรักใคร่กับผู้ใด ทั้งอาจเป็นเพราะไม่ใช่เนื้อคู่ และอาจไม่สนใจเรื่องความรักด้วยก็เป็นได้
“เป็นกฎที่เจ้าต้องดำรงเผ่าพันธุ์ของเราต่อไป” นาเนียร์ดักคออย่างรู้ทันความคิดหลานสาว ซินนี่เลือกที่จะนั่งไม่ปริปากเอ่ยอันใด “เจ้าไปเตรียมตัวเถอะซินนี่ เดี๋ยวท่านอาจารย์ทั้งสองจะมอบของวิเศษให้เจ้า เจ้ามัวแต่เที่ยวเล่น จอร์จฝึกวิชากับอาจารย์เดียวกับเจ้า เขากลับกำลังจะสำเร็จวิชาขั้นสูง ส่วนเจ้ายังไปไม่ถึงไหน”
นาเนียร์ตำหนิหลานสาวพร้อมส่ายหน้าไปมาก่อนโบกมือให้เธอไปได้ ซินนี่อยากถามผู้เป็นยายอีกหลายเรื่อง แต่เปลี่ยนใจที่เห็นผู้เป็นยายทำหน้าเคร่งเครียด
“ค่ะ ท่านยาย”
“เดี๋ยวก่อนซินนี่” เสียงของมารดาทำให้ซินนี่หันหลับมามองด้วยความสงสัย
“ท่านแม่มีอันใดบอกให้ข้ารับรู้อีกรึ”
“เจ้าต้องทำให้เนื้อคู่ของเจ้าบอกรักก่อนสามเดือนก็จริง แต่เจ้าห้ามเสพสมร่วมรักกับเขาก่อนเขาจะสารภาพรักกับเจ้า ที่สำคัญ ห้ามใช้เวทมนตร์บังคับให้เขาสารภาพรัก มิเช่นนั้นเจ้าจะกลายเป็นแมวป่าทันที แล้วจะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นแม่มดอีก จะต้องใช้ชีวิตเป็นแมวตลอดไปชั่วกัปชั่วกัลป์”
เวเนียร์ได้สบตากับบุตรสาวจึงรีบสำทับด้วยความเป็นห่วง นางรู้นิสัยของซินนี่ดี
“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว” ซินนี่ทำสีหน้าสยอง การที่ผู้เป็นยายและผู้เป็นแม่บอกว่าต้องเป็นแมวป่าตลอดไป มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับเธอจริงๆ แถมยังใช้เวทมนตร์ให้มนุษย์คนนั้นบอกรักไม่ได้อีก หากเขาไม่บอกรักเธอขึ้นมา เธอจะทำอย่างไรเล่า มิถูกสาปหรือไง
“ความจริง หากเจ้าสามารถพิชิตใจเขาได้ก็ไม่มีอะไรยาก ยายกับแม่เชื่อว่าเจ้าต้องทำได้” เป็นครั้งแรกที่ยายให้กำลังใจในตัวเธอ หญิงสาวยิ้มให้ยายกับแม่เพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะต้องทำให้จงได้
“ค่ะท่านยาย ท่านแม่ ข้าจะจำเอาไว้ งั้นข้าขอไปพบอาจารย์ทั้งสองก่อน”
“ไปเถอะซินนี่ ขอให้เจ้าตั้งใจฟังอาจารย์ของเจ้าให้ดี เพราะเจ้าต้องเรียนรู้อีกมาก”
ซินนี่ไปหาอาจารย์คูลโซ่ก่อนตามคำสั่งของยายและแม่ ระหว่างที่เดินทาง เธอได้ยินเสียงคุ้นหูเรียกเธอมาแต่ไกล
“ซินนี่ๆ” เสียงเรียกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงของอูลก้า อาจารย์ที่ขี้โม้เป็นที่สุด
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...