“อุ๊ย!” ภัทรวนันต์อุทานอย่างตกใจเมื่อทำท่าจะปิดประตู เขาแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วและกดล็อกประตูห้องเอาไว้ เสียงล็อกประตูห้องทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ตาโตเบิกกว้าง มองใบหน้านิ่งๆ ของเขาแต่ดวงตาฉายแววประหลาดล้ำ “พี่คุณเข้ามาทำไมคะ กรุณาออกไปด้วย” ภัทรวนันต์รับรู้ถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเอง เธอถอยหนีอย่างระแวดระวัง “เธอไล่ฉันอีกแล้วเหรอ” เขาถามอย่างไม่พอใจ “ไม่ได้ไล่ค่ะ แต่ชายหญิงไม่ควรอยู่ด้วยกันในห้องตามลำพัง มันจะไม่งาม อีกอย่างพัดจะอาบน้ำเปลี่ยนชุด ไม่สะดวกใจมากๆ ที่จะให้พี่คุณอยู่ในห้อง หรือถ้าพี่คุณมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ทุกคนกำลังรอทานอาหารอยู่ข้างล่าง” ภัทรวนันต์ถอยหนี ฝีเท้าหนักก้าวตามมาหาอย่างคุกคาม เธอพยายามพูดให้เขาเห็นใจ “แต่คำพูดเธอมันเหมือนไล่” เขาสาวเท้าเข้าหาเบียดหญิงสาวจนชิดกับผนังห้อง ภัทรวนันต์จึงถูกกักเอาไว้ภายใต้อ้อมแขนแกร่ง “พี่คุณคะ ได้โปรดอย่าทำอะไรพัดเลย” หญิงสาวขอร้องเสียงสั่น
เด็กสาวขี้เหร่
“ฮือ ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ระงมของเด็กหญิงวัยสิบสี่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามสงสารหรือเห็นใจเลยสักนิด มีแต่จะเพิ่มความรำคาญและไม่ชอบใจมากขึ้นเรื่อยๆ ดูจากใบหน้าเข้ม ดวงตากระด้าง ริมฝีปากบิดหยันแฝงด้วยเพลิงโทสะอย่างชัดเจน
“หยุดร้องได้แล้วยัยเด็กเหลือขอ ฉันบอกให้เธอหยุดร้องยังไงเล่า หูหนวกหรือไง” คุณธรรม อิทธิ ทายาทคนเดียว เจ้าของไร่บารมีตะโกนใส่หน้าเด็กหญิงภัทรวนันต์ รุ้งแก้ว ซึ่งเป็นบุตรสาวเพื่อนรักของบิดามารดาเขา ท่านทั้งสองได้อุปการะเลี้ยงดูภัทรวนันต์หลังจากที่มารดาของเธอเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้เอง
“น้องพัดเจ็บหัวเข่า” ภัทรวนันต์ร้องไห้สะอึกสะอื้น มือเล็กๆ ป้อมๆ ป้องแผลที่หัวเข่าเอาไว้ มันทั้งเจ็บทั้งแสบ แถมเธอยังขาแพลงอีกด้วย ยอมรับว่าเป็นคนกลัวเลือด ตอนนี้ใบหน้าอวบกลมซีดเผือด น้ำหูน้ำตาไหลอาบแก้มที่มีสิวขึ้นไปทั่ว แถมยังเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่น่ารังเกียจ เนื่องจากเด็กน้อยผ่านความลำบากมามากและไม่เคยได้ดูแลตัวเองดั่งคนอื่นๆ ทั่วไป เพราะต้องช่วยมารดาตรากตรำทำงาน ดังนั้นจึงไม่น่ามองในสายตา สำหรับใครหลายๆ คน
“อย่ามาสำออยไปหน่อยเลย ลุกขึ้นและกลับบ้านไปซะ วิ่งตามฉันมาทำไม ฮะ! น่ารำคาญที่สุด” คุณธรรมดุเด็กสาวหน้าหงิกงอ น้ำเสียงรำคาญปนด้วยความหงุดหงิดใจ
ภัทรวนันต์ร้องไห้เสียงดังมากขึ้น ตกใจเสียงตวาดดุดันของอีกฝ่ายจนตัวสั่นงันงก ทั้งเจ็บแผล มองเห็นเลือดที่ไหลออกมาก็หน้าซีดเผือดเหมือนจะเป็นลม
“นี่ยัยเด็กบ้านี่ ฉันบอกให้เธอลุกยังไงเล่า โง่หรือไง” คุณธรรมกระชากแขนเด็กสาวให้ลุกอย่างโมโห
“โอ๊ย!” ภัทรวนันต์ร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนกระชากแขนเต็มแรง
“ลุกขึ้นมาสิ ยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์ หน้าตาขี้เหร่แล้วยังขี้แยน่ารำคาญที่สุด จะทำตัวน่ารังเกียจไปถึงไหน ฮะ!” คุณธรรมตวาด ดวงตาวาววับ เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ แต่กลับทำให้ภัทรวนันต์ร้องไห้หนักมากยิ่งขึ้นด้วยความกลัว
“ฮือๆๆ พี่คุณ น้องพัดเจ็บ ปล่อยน้องพัดนะคะ” ภัทรวนันต์อ้อนวอนขอ เสียงสะอื้นฮักๆ
“ใครเป็นพี่เธอ ยัยเด็กเจ้ามารยา ฉันไม่มีน้องสาว ไม่เคยคิดอยากนับญาติกับเธอ” คุณธรรมตวาดใส่เด็กสาวด้วยความโมโห เขาไม่อยากนับญาติกับเด็กผู้หญิงคนนี้ หน้าตาก็หาความสวยไม่เจอ ผอมแห้ง สิวเขรอะ แถมยังเจ้ามารยาอ้อนให้บิดามารดาของเขารักใคร่เอ็นดู จนบางครั้งท่านทั้งสองแทบลืมไปว่ายังมีเขาเป็นลูกอยู่อีกคน
เท่านั้นยังไม่พอ คิดจะให้พ่อแม่เขารับเป็นสะใภ้ ถามเขาสักคำไหมว่าต้องการยัยเด็กนี่เป็นภรรยาในอนาคตหรือเปล่า แค่คิดเขาก็อยากจะกระอัก อยากจะอาเจียนที่ต้องมีภรรยาหน้าตาอัปลักษณ์มองไปทางไหนก็ไม่น่าพิสมัยในสายตาสักนิด
“ตายแล้ว นั่นลูกทำอะไรน้อง” จันทร์ระวีกับคุณากร มารดากับบิดาของคุณธรรมมองเหตุการณ์อย่างตกใจ
“คุณป้าขา...” ภัทรวนันต์เรียกจันทร์ระวีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ เลือดที่หัวเข่าไหลออกมาไม่หยุด แผลลึกพอสมควร เพราะหกล้มกระแทกกับหินแหลมที่ฝังอยู่บนดิน ใบหน้าซีดเผือดคล้ายจะเป็นลม เหตุการณ์ร้ายๆ ในอดีตและเลือดทำให้เธอกลัวจนสั่นระริกฟันกระทบกันอย่างน่าเวทนา
“หนูพัด เป็นไงบ้างลูก ดูสิเลือดไหลไม่หยุดเลย กรคะ คุณอุ้มหนูพัดหน่อยค่ะ พาไปทำแผลก่อน” จันทร์ระวีพูดกับสามี คุณากรรีบเข้าไปอุ้มเด็กสาวเอาไว้ ก่อนจะพูดเสียงเข้มกับบุตรชาย...
“เจ้าคุณ ตามพ่อกับแม่เข้ามาในบ้าน” เสียงเข้มเครียดของบิดาทำให้คุณธรรมไม่กล้าขัดใจ ตวัดมองร่างผอมในอ้อมแขนบิดาอย่างคาดโทษ โดยมีคนอื่นๆ ลอบมองอย่างสงสารเด็กสาว
“เจ้ามารยาชะมัดยาด” ลลนา หลานสาวป้านวล แม่บ้านประจำไร่บารมีเบะปากอย่างหมิ่นแคลน
“มองคนอื่นในแง่ร้าย น้องพัดเจ็บจริงๆ ไม่ได้มารยา ใครๆ ก็เห็น” อัครเดชแก้ต่างให้เด็กสาวที่เขาสงสารและเอ็นดูเพราะกำพร้าบิดามารดาเหมือนกัน ส่วนเขานั้น คุณากรกับจันทร์ระวีได้อุปการะเอาไว้ตั้งแต่เด็กเช่นกัน
คุณธรรมเดินตามบิดามารดาเข้ามาในบ้าน ป้านวลรีบไปหยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลตามคำสั่งของเจ้านายในทันที นางทำแผลให้ภัทรวนันต์ที่ร้องไห้สะอื้นเบาๆ อย่างเอ็นดูปนสงสาร เหลือบมองใบหน้าของเจ้าของบ้านเล็กน้อย พอจะรู้ว่าเป็นฝีมือของคุณหนูของนางอย่างแน่นอน
ลลนายืนเหยียดปากอยู่ไม่ไกลนัก นึกสะใจที่เห็นคุณธรรมรังเกียจยัยเด็กนี่ สวยก็ไม่สวย แถมยังขี้เหร่อีก ไม่อยากจะเชื่อว่าจะทำให้คุณากรและจันทร์ระวีที่เคยรักเอ็นดูตนยิ่งกว่าใครๆ หันเหแบ่งความรักไปให้อย่างเต็มเปี่ยม ความอิจฉาริษยามันล้นในหัวใจแทบอกระเบิดเมื่อแอบล่วงรู้ว่าเจ้าของบ้านทั้งสองหมายมั่นปั้นมือจะให้ยัยเด็กกำพร้านี่แต่งงานกับคุณธรรมในอนาคต เธอไม่มีวันยอมแน่นอน คุณธรรมต้องเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
“ทำไมแกปล่อยให้น้องเจ็บหนักขนาดนี้ แกเป็นคนใจไม้ไส้ระกำตั้งแต่เมื่อไหร่” คุณากรเริ่มสอบสวนบุตรชายเสียงเข้มดุ สีหน้าและแววตาบอกว่าไม่พอใจอย่างมาก
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรยัยเด็กนั่นซะหน่อย” คุณธรรมหงุดหงิดใจยิ่งนักที่โดนบิดาดุอีกแล้ว ตั้งแต่เด็กหน้าตาอัปลักษณ์ ผอมเหมือนกุ้งแห้ง สิวเขรอะคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านก็ดูเหมือนพวกท่านจะรักยัยเด็กบ้านี่มากกว่าเขา แถมยังคิดเป็นตุเป็นตะว่าจะให้เขาแต่งงานกับยัยเด็กหน้าตาน่าเกลียดคนนี้ เขาไม่มีวันแต่งงานกับเด็กคนนี้เด็ดขาด เขาเกลียดการถูกบังคับและมันหมดสมัยคลุมถุงชนไปนานแล้ว
“เดี๋ยวนี้แกขึ้นเสียงกับพ่อหรือไง” คุณากรไม่ชอบใจที่บุตรชายแสดงสีหน้าแบบนี้กับตน คุณธรรมกำหมัดแน่น ตวัดสายตามองยัยเด็กตัวปัญหานั่น เขาโดนบิดาตีทำโทษกี่ครั้งแล้วเพราะยัยเด็กนี่
“ผมแค่ชี้แจงครับพ่อ ว่าผมไม่ได้ทำอะไรยัยเด็กนี่”
“ทำไมแกเรียกน้องแบบนั้น” คุณากรไม่ชอบใจในคำพูดของบุตรชาย
“เค้าวิ่งตามผมแล้วสะดุดหกล้มเอง ก็ช่วยไม่ได้ พ่อจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” คุณธรรมถามกลับเสียงเข้มไม่ต่างกัน
“แกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า น้องวิ่งตามเพราะอยากจะเล่นกับแก แต่แกทำท่ารังเกียจน้องแบบนี้ น้องน้อยใจแย่”
“ผมขอบอกพ่อกับแม่ไว้เลยว่าผมจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมขอคุณตากับคุณยายเอาไว้แล้ว ท่านอนุญาต ไหนๆ ผมก็เรียนจบปริญญาตรีแล้ว เชิญคุณพ่อกับคุณแม่โอ๋ยัยเด็กนี่ไปเถอะครับ ผมมันไม่ใช่ลูกรักแล้วนี่ครับ ต่อไปคงยกทรัพย์สมบัติให้ยัยเด็กเหลือขอนี่จนหมด ยัยเด็กนี่คงออดอ้อนจนคุณพ่อกับคุณแม่ตายใจ”
“ตายแล้ว! ตาคุณ ทำไมลูกพูดแบบนี้กับพ่อกับแม่” จันทร์ระวียกมือขึ้นทาบอก
“ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าผมไม่มีทางแต่งงานกับยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้เด็ดขาด อย่าคิดว่าผมไม่รู้ที่คุณพ่อกับคุณแม่คาดหวังอะไรลมๆ แล้งๆ ชีวิตของผม ผมเลือกเอง”
“ไอ้คุณ!!!” คุณากรโกรธจนตัวสั่น
เผียะ!!! เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของบุตรชายจนหน้าหัน
“พ่อตบผมเพราะยัยเด็กบ้านี่เหรอครับ” คุณธรรมมองหน้าบิดาอย่างเสียใจ
“คือพ่อ” คุณากรเองก็ตกใจ อย่างมากเขาก็แค่ตีทำโทษ แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือรุนแรงถึงขั้นตบตีหนักๆ แบบนี้
ใบหน้าของคุณธรรมเป็นปื้นแดง ภัทรวนันต์ตกใจที่เห็นคุณากรทำอะไรรุนแรงแบบนี้ จันทร์ระวีรีบเข้าไปดูบุตรชายอย่างตกใจไม่แพ้กัน
“ผมไม่เป็นอะไรครับคุณแม่ ผมจะออกเดินทางวันมะรืน จองตั๋วเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อน” แผ่นหลังกว้างของบุตรชายเดินจากไป คุณากรทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง มองมือตัวเองอย่างโมโหที่ทำรุนแรงขนาดนี้
“กรคะ ไม่เป็นไรนะ ตาคุณคงแค่โมโห แต่อีกเดี๋ยวก็คงหายโกรธ” จันทร์ระวีปลอบใจสามี
“ช่างมัน มันจะไสหัวไปไหนก็เรื่องของมัน” คุณากรแม้จะรู้สึกผิดแต่กลับไม่ยอมอ่อนลง คุณธรรมได้ยินคำพูดบิดาเต็มสองหู เขายิ่งเกลียดชังตัวต้นเหตุมากขึ้นไปอีก
“พัดขอโทษค่ะ ฮึกๆๆ ฮือๆๆ เพราะพัดเลยทำให้พี่คุณโกรธ”
“ไม่ใช่ความผิดของหนูหรอกจ้ะ อย่าคิดมากเลย” จันทร์ระวีโอบกอดปลอบประโลมเด็กสาววัยสิบสี่ด้วยความสงสาร
คุณธรรมกระแทกหมัดกับกำแพงด้วยความโมโห ถึงขนาดนี้ทุกคนยังเข้าข้างยัยเด็กอัปลักษณ์มารยาสาไถยนั่น!!!
ลลนาที่ยืนฟังอยู่อีกด้านถึงกับหน้าซีดเผือด คุณธรรมจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย