“อย่าบอกใครเด็ดขาดนะคะว่าเค้าใส่กางเกงในสีชมพู” เด็กน้อยรีบเอ่ยขอตาปริบๆ “ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ” “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรเหรอคะ” เด็กหญิงแก้วกัลยาเอ่ยถาม “โตขึ้นต้องแต่งงานกับพี่นะครับ” “ทำไมต้องแต่งงานกับพี่ด้วยคะ” “เพราะพี่เป็นคู่หมั้นของน้องแก้วไงครับ” “คู่หมั้นคืออะไรเหรอคะ” เด็กน้อยถามอย่างไม่เข้าใจ “โตขึ้นก็จะรู้เองครับ” “ตอนนี้หนูก็โตแล้ว” เธอทำท่ายืดตัวให้สูงขึ้นแต่ยืดยังไงก็ไม่เท่าพี่ชายใจดีที่ช่วยเหลือเอาไว้ “ยังโตไม่พอ มาครับมาขี่หลังพี่” คเชนทร์นั่งยองๆ ลงตรงหน้า แก้วกัลยาปีนขึ้นไปบนหลังของเขาเพราะล้มเมื่อครู่ทำให้ปวดเข่าปวดแขนไปหมด คงปั่นจักรยานเองกลับไม่ไหว คเชนทร์หิ้วจักรยานคันเล็กๆ มาถือเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะแบกเด็กน้อยพาเดินกลับบ้าน “พี่ชื่ออะไรเหรอคะ” “คเชนทร์ครับ เรียกพี่ว่าเชนนะครับคนดี” +++พี่หมอ อุ๊ย!” เธอดึงเขาอีกรอบ เขาเสียหลักล้มลงมาทาบทับร่างบอบบางอย่างไม่ทันตั้งตัว สายฟ้าที่ฟาดลงมาทำให้เธอได้สบดวงตาอ่อนโยน ที่เต็มไปด้วยความปรารถนาคู่นั้นอย่างชัดเจน คเชนทร์แนบริมฝีปากลงไปหา ครั้งนี้เธอไม่ได้เบี่ยงหลบ แต่กลับสะท้านตอบรับการบดจูบของเขาด้วยริมฝีปากสั่นระริก “กลัวเหรอครับ” เขาเอ่ยถาม คเชนทร์ถอนใจหนักๆ สุดจะหักห้ามใจกับความปรารถนาที่คุกรุ่นรุนแรงอยู่ในห้วงอารมณ์ ณ ขณะนี้นัก เขาบดคลึงปากของเธออย่างเรียกร้อง ปรารถนาเธอเหลือเกินในค่ำคืนนี้ มือของเขาเริ่มสัมผัสลูบโลม แก้วกัลยาครางแผ่วๆ สายฝนห่าใหญ่ด้านนอกทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงอย่างฮวบฮาบ เธอเบียดร่างกายเข้าหา ตัวสั่นระริกเมื่อเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกจากกาย ปลายลิ้นร้อนหนาของเขากวาดเลียไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอ “เราเป็นคู่หมั้นกันแบบนี้ เคยมีอะไรกันหรือเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ สติอันน้อยนิดกำลังบอกให้เธอร้องถามออกไป “ไม่เคยครับ แก้วไม่อยากเห็นหน้าพี่เสียด้วยซ้ำ” เขาตอบเสียงแหบพร่า เอาตามจริงไม่โกหกให้เธอยินยอมพร้อมใจ “แล้วอุ๊ย! พี่หมอคือว่าแก้ว” เธอดันปลายคางของเขาออกห่าง ในขณะที่เขากำลังซุกไซ้เข้ามาหา ปากร้อนจึงงับเลียฝ่ามือของเธอเล่น แก้วกัลยาสะท้านคืนนี้เธอต้องตกเป็นของเขาจริงๆ ใช่ไหม
ร่างเล็กบอบบางของเด็กหญิงตัวน้อยปั่นจักรยานหนีออกมาเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน บิดามารดาหวงและไม่อยากให้เธอซุกซนมากเนื่องด้วยเป็นผู้หญิง แต่พี่ชายคนเดียวบอกว่าเกิดเป็นหญิงหรือเป็นชายไม่สำคัญ สำคัญที่เราเป็นคนสามารถทำอะไรก็ได้
“โอ๊ย!” ร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยล้มเพราะโดนเด็กผู้ชายปาหิน ก้อนเล็กๆ ใส่ เธอหลบและโดนดึงท้ายรถจักรยานเอาไว้จนหกล้มไม่เป็นท่า
“กางเกงเป้าขาดๆ” เด็กพวกนั้นมองร่างที่ล้มลงไปแล้วกางเกงเป้าขาดเห็นกางเกงในสีชมพูหวานแหวว “ใส่กางเกงในสีชมพูด้วย”
“อย่ามองนะ”
“จะมอง กางเกงในสีชมพู” เด็กผู้ชายพวกนั้นยังล้อเลียนอย่างสนุกสนาน
“เขาจะฟ้องพี่กริช” เพราะโดนรุมแกล้งจากหลายคน เด็กชายทั้งสามกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างๆ แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำให้เด็กหญิงหน้างอ เบะปากทำท่าจะร้องไห้เพราะเจ็บเข่า
แก้วกัลยาทำท่าจะปล่อยโฮออกมาก็ต้องหยุดกึกเมื่อได้ยินเด็กชาย ทั้งสามร้องขึ้น
เด็กหนุ่มวัยที่โตกว่าดีดหน้าผากเด็กทั้งสามก่อนจะอบรมสั่งสอนว่า ไม่ควรแกล้งผู้หญิง เด็กทั้งสามวิ่งหนีหายไปแทบจะทันที
“มาครับ” คเชนทร์ถอดเสื้อคลุมรัดเอวให้เด็กน้อยเพื่อปกปิดที่กางเกง เป้าขาดจนเห็นกางเกงใน
“อย่าบอกใครเด็ดขาดนะคะว่าเขาใส่กางเกงในสีชมพู” เด็กน้อยรีบเอ่ยขอร้องตาปริบๆ
“ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ”
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรเหรอคะ” เด็กหญิงแก้วกัลยาเอ่ยถาม
“โตขึ้นต้องแต่งงานกับพี่นะครับ”
“ทำไมต้องแต่งงานกับพี่ด้วยคะ”
“เพราะพี่เป็นคู่หมั้นของน้องแก้วไงครับ”
“คู่หมั้นคืออะไรเหรอคะ” เด็กน้อยถามอย่างไม่เข้าใจ
“โตขึ้นก็จะรู้เองครับ”
“ตอนนี้หนูก็โตแล้ว” เธอทำท่ายืดตัวให้สูงขึ้น แต่ยืดยังไงก็ไม่เท่าพี่ชายใจดีที่ช่วยเหลือเอาไว้ และยืนอยู่ด้านหน้า
“ยังโตไม่พอ มาครับ มาขี่หลังพี่” คเชนทร์นั่งยองๆ ลงตรงหน้า แก้วกัลยาปีนขึ้นไปบนหลังของเขาเพราะล้มเมื่อครู่ทำให้ปวดเข่าปวดแขนไปหมด คงปั่นจักรยานกลับเองไม่ไหว คเชนทร์หิ้วจักรยานคันเล็กๆ มาถือเอาไว้ด้วยมือ ข้างเดียวก่อนจะแบกเด็กน้อยพาเดินกลับบ้าน
“พี่ชื่ออะไรเหรอคะ”
“คเชนทร์ครับ เรียกพี่ว่าเชนนะครับคนดี” เสียงมอเตอร์ไซค์ของพี่ชาย วิ่งมาจอดอยู่ข้างๆ แก้วกัลยาโผไปกอดพี่ชายเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ คเชนทร์ปล่อยร่างน้อยให้พี่ชายของเธออย่างนุ่มนวลเด็กหญิงตัวน้อยรีบฟ้องพี่ชายทันทีว่าโดนแกล้ง
“เดี๋ยวพี่จะจัดการจับมาดีดไข่ให้หมด ไอ้พวกเด็กนรกนี่”
“ดีดไข่คืออะไรเหรอคะ” เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัย กะพริบตาปริบๆ คเชนทร์มองคู่หมั้นตัวน้อยของตัวเองแล้วแทบหลุดขำ
“เอ่อ...” กริชกรอกตาไปมา จะอธิบายยังไงดีหนา เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากคเชนทร์ คเชนทร์เป็นลูกชายของเพื่อนรักบิดามารดา พวกท่าน มาเยี่ยมเยียนครอบครัวของเขา และเขาก็ยังรู้ด้วยว่าพวกท่านหมั้นหมาย แก้วกัลยาน้องสาวของเขาเอาไว้กับคเชนทร์
“โตขึ้นจะรู้เองแหละครับ” คเชนทร์เป็นคนตอบ
“หนูยังโตไม่พอเหรอ” ประโยคนี้อีกแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยทำปากยื่น
“ยังเด็กอยู่ครับ ฟันแท้ยังไม่ขึ้น มีแค่ฟันน้ำนมแถมยังหลอด้วย”
“มาว่าหนูฟันหลอได้ยังไงกัน” เธอแยกเขี้ยวใส่ คเชนทร์ไม่กลัว แต่ยิ้มเอ็นดูส่งมาให้
“เราชอบกินลูกอมแล้วไม่แปรงฟัน ฟันเลยหลอ ถ้าขี้เกียจแปรงฟันอีก โตขึ้นไม่สวย พี่ไม่รู้ด้วยนะ” กริชหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดูน้องสาว ขณะจูงมอเตอร์ไซค์และให้น้องสาวนั่งอยู่บนเบาะ เพื่อเดินกลับบ้าน
“ต่อไปจะแปรงฟันทั้งเช้าและเย็นเหมือนที่คุณแม่บอกก็ได้ค่ะ” เด็กน้อยรีบบอก สองหนุ่มน้อยหัวเราะประสานเสียงกันในทันที
“ตายแล้วยายแก้ว แอบหนีออกไปปั่นจักรยานจนหกล้มเลยเห็นไหม”
เสียงของมารดาทำให้แก้วกัลยาหนีไปแอบอยู่ด้านหลังพี่ชาย
“คนที่แม่จะจัดการก่อนใครคือกริช ชอบตามใจน้อง สอนน้องให้เป็นลิงทโมน น้องไม่ใช่ผู้ชายนะกริช”
“น้องอยากออกไปปั่นจักรยานเล่นบ้างครับ”
“ให้โตกว่านี้หน่อย ออกไปคนเดียวได้ยังไง อันตรายมากเลยนะ เกิดโดนคนไม่ดีจับตัวไปจะทำยังไง”
“ถ้าคุณแม่จะตีน้อง ตีผมแทนก็ได้ครับ” กริชเหลือบไปมองคนที่ยืน เกาะขาอยู่ทางด้านหลังก็นึกสงสาร คงกลัวโดนตี แต่เวลาซนไม่ยักนึกกลัว
“แม่ตีเราแน่ วันหลังจะได้ดูน้องให้ดีๆ” กริชโดนตีจริงๆ โทษฐานที่ไม่ดูแลน้องให้ดี
หลังจากแก้วกัลยาเห็นพี่ชายคนเดียวโดนตีก็ไม่ค่อยกล้าหนีเที่ยวคนเดียวอีก นอกจากจะแอบหนีไปกับพี่ชาย ทำให้มารดาหัวหมุนไม่น้อย เพราะอยากอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ไม่ใช่เป็นลิงทโมน กลัวโตขึ้นจะกลายเป็นทอมบอยแทนเป็นผู้หญิงนี่สิ
“สัญญาแล้วนะว่าจะแต่งงานกับพี่” คเชนทร์นั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าคู่หมั้นตัวน้อยก่อนจะดึงนิ้วก้อยเล็กๆ มาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของตัวเอง ตีเนียนว่าอีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจไปกับตน
“พี่เชนจะกลับแล้วเหรอคะ” เด็กน้อยไม่ได้รับปากแต่เอ่ยถามแทน
“ครับ พี่ต้องกลับแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ต้องเดินทางไกล อีกนานกว่าจะได้เจอกัน ต้องคิดถึงพี่ด้วยนะ”
“หนูจะคิดถึงพี่เชนค่ะ” เด็กน้อยยิ้มยิงฟันส่งไปให้ ก่อนจะยืนส่งพี่ชาย ใจดีที่หน้าบ้านขึ้นรถ เพราะอีกฝ่ายต้องเดินทางกลับวันนี้หลังจากมาเยี่ยมเยียนและพักค้างอ้างแรมอยู่ที่บ้านบิดามารดาของเธอหลายวัน
“ยายตัวเล็กนี่โตขึ้นหัวกระไดบ้านต้องไม่แห้งแน่ๆ เลยครับคุณแม่” กริชโยกศีรษะน้องสาวก่อนจะพูดขำๆ
“คงจะมีเด็กผู้ชายตามมาแกล้งกลับน่ะสิไม่ว่า” คุณนาราค้อนให้ลูกชายตัวดี แก้วกัลยาเรียบร้อยเสียที่ไหน ได้ทีก็แกล้งกลับอย่างเจ็บแสบเหมือนกัน ไม่เคยยอมใครเลยจริงๆ
“ถ้าใครแกล้งน้องผมจะจัดการเอง ไม่ก็สอนมวยไทยให้น้องเสียเลย”
“อกอีแป้นจะแตก ดูสิคะคุณ” นาราหันไปหาสามี
“ก็ดีนะคุณ ใครมารังแกจะได้เอาตัวรอดได้ไง”
“โอ๊ย! ทั้งพ่อทั้งลูก ไม่พูดด้วยแล้ว ยายแก้วตามแม่มาเลย แม่จะสอนเรื่องความเป็นกุลสตรีให้ อย่าไปสนใจพ่อกับพี่เรามาก จะสอนเราให้เป็นนักมวยปล้ำหญิงเฉยเลย” ถามว่าแก้วกัลยาตั้งใจทำตามที่มารดาพูดไหมก็แอบตั้งใจเวลาอยู่ต่อหน้า พอลับหลังก็ยังแอบไปเล่นเกมกับพี่ชายอย่างเมามัน ไปยิงนกตกปลา เล่นอะไรแสบๆ เหมือนเด็กผู้ชาย นั่นทำให้แก้วกัลยาสนิทกับพี่ชายคนเดียวเป็นอันมาก และกริชก็รักน้องสาวคนเดียวมากเป็นที่สุด
หลังจากนั้นเรื่องราวของคเชนทร์ก็หายไปกับสายลม แก้วกัลยาเจริญวัยขึ้นมีความสุขกับการเป็นเด็กน้อยที่ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ได้กินทุกอย่างที่ อยากกิน ได้เล่นทุกอย่างที่อยากเล่น ยิ่งเมื่อบิดามารดาเสียชีวิต กริชก็ยิ่ง เป็นห่วงน้องสาวอย่างที่สุด เขาจึงทำทุกอย่างให้น้องน้อยมีความสุขมากที่สุดเท่าที่พี่คนหนึ่งจะทำได้ เพื่อทดแทนการที่น้องสาวคนเดียวสูญเสียบิดามารดาไปอย่างกะทันหัน เขาต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการดูแลครอบครัวและมรดกที่บิดามารดาทิ้งเอาไว้ให้ก่อนตาย
แก้วกัลยาสอบไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ได้ เขาจึงตามไปส่งถึงที่โน่น หาหอพักดีๆ ให้และนั่นก็ทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนรักของน้องสาว เพื่อนที่ดีคนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือกัน
ในโลกนี้นอกจากบิดามารดาผู้ให้กำเนิด หรือญาติพี่น้องที่ดีๆ แล้วการมีเพื่อนที่ดีมีมิตรที่ดีถือว่าเป็นของขวัญล้ำค่าของชีวิต เพราะการมีครอบครัวที่ดี ที่อบอุ่นทำให้เราเป็นคนที่ดีพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มีมิตรที่ดีก็จะนำพาเราไปสู่สิ่งดีๆ หรือชักนำให้ทำแต่สิ่งดีๆ กริชชื่นชมในการรู้จักคบเพื่อนของ แก้วกัลยา และยังจดจำคำขอของบิดามารดาก่อนตายได้ดีไม่ลืมเลือน
พวกท่านเคยพูดว่าหากต้องตายจากไปก่อนก็อยากให้ดูแลน้องให้ดี เรียนหนังสือจนจบ ได้ทำงานที่รักและแต่งงานกับคนดีๆ ที่ท่านเคยหมั้นหมายเอาไว้ แต่ถ้าคนที่หมั้นหมายเอาไว้ไม่ดีจริง ก็แล้วแต่ว่าจะตัดสินใจเช่นไร แต่ถ้าคเชนทร์เป็นคนดีจริงๆ ก็จงทำคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับนพรัตน์และรัศมี คุณหมอใจดีที่เคยช่วยชีวิตมารดาของเขาเอาไว้ และแก้วกัลยาก็รับรู้เรื่องนี้ เป็นอย่างดี แต่เธอไม่ได้ยินดียินร้ายและเฉยเมยเมื่อเขาเอ่ยถึงคเชนทร์ เขาจึงเลิกพูดกับน้องสาวเรื่องนี้ ปล่อยให้เธอเรียนให้จบก่อน แล้วคิดจะทำอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
ฟาเบียน ฟรองซัว (ฟา) 32 ปีลูกเสี้ยว ไทย-ฝรั่งเศส-จีนผู้กว้างขวาง และร่ำรวยจากการทำชิปปิ้งตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกรายใหญ่ของไทยชายหนุ่มที่ขาดเรื่องบนเตียงไม่ได้แต่เขาเบื่อผู้หญิงที่จ้องจะจับเขา ทิพย์ดารา นวลพรรณ (ดาด้า) นางแบบและนักแสดงสาวมากความสามารถกำลังหัวเสียที่เธอถูกฟาเบียนตัดความสัมพันธ์เธอนั่งบ่นให้กับช่างประจำที่ร้านฟังฟาเบียนบอกเธอว่า "ถ้าผมหิว ผมจะซื้อกินเอง" เพราะคำว่าแต่งงานหรือผูกมัดไม่ใช่ทางของเขา ปองรัก พลอยรัตนา (จิล) 22 ปีเธอกำลังต้องการเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวที่กำลังถูกฟ้องและถูกหุ้นส่วนโกงจำนวนเงินอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่เย็นเป็นสุขต้องเดือดร้อน แทบหมดตัวอีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังเรียนไม่จบเหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นด้วยความบังเอิญเธอได้บัตรกำนัลทำผมที่ร้านแห่งหนึ่ง..ฟรี จากเพื่อนรักสุจิรา เดชธนาดล (จิรา)ลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดังในเมืองไทย ชื่อและประวัติของ ฟาเบียนทำให้จิลเห็นทางออกหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ เธอจะทำยังไงให้ครอบครัวกลับมาอยู่ดีเหมือนเดิมได้เธอยินดี...ทำเธอเดินเข้าไปเสนอขายพรหมจรรย์ให้กับเขาเงินที่เธอร้องขอ สำหรับ ฟาเบียน แค่เศษเงินแค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ปิ๊งเสียแล้วฟาเบียน รับข้อเสนอและให้เธอมาเป็น...เมียพาร์ทไทม์ เริ่มต้นก็สนุกเสียแล้ว พลาดได้ไง ขอฝากผลงานเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจของนักอ่านที่น่ารักด้วยนะคะ
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"