เธอแอบลักหลับคุณอาข้างบ้านตอนเขาเมา
เธอแอบลักหลับคุณอาข้างบ้านตอนเขาเมา
นวินดารีบหลบสายตาของคุณอาหนุ่มข้างบ้านในทันทีที่เจอหน้ากัน หัวใจของเธอหล่นวูบไปที่ตาตุ่มเพราะกลัวเขาจะรู้ความจริงเข้า กรกานต์ไม่ใช่แค่เจ้านายของเธอแต่ยังเป็นเพื่อนสนิทรุ่นน้องของบิดาที่เธอมักเรียกติดปากว่าอากานต์
บิดามารดาฝากฝังให้เธอทำงานกับกรกานต์ตั้งแต่เรียนจบเพราะฐานะทางครอบครัวนั้นค่อนข้างระส่ำระสายด้วยว่าพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ประจวบเหมาะกับเธอเรียนจบพอดีจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงินจุนเจือครอบครัว และส่งน้องๆ อีกสองคนเล่าเรียน
กรกานต์ได้รู้จักกับบิดามารดาตอนไปเที่ยวทะเลทางปักษ์ใต้ ตอนนั้นบิดาเปิดรีสอร์ทเล็กๆ ให้พัก อีกทั้งยังทำธุรกิจร้านอาหารและขายของที่ระลึกอีกด้วย กรกานต์ถูกทำร้ายแล้วบิดาของเธอก็เข้าช่วยเหลือเอาไว้ทำให้เขารอดชีวิตมาได้
กรกานต์ซาบซึ้งบุญคุณของบิดาเป็นอันมากจึงนับถือกันเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไปมาหาสู่กันตลอดหลายปี บิดาของเธอนั้นอายุมากกว่ากรกานต์หลายปี แก่กว่ากรกานต์ถึงยี่สิบปี กรกานต์จึงเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่บิดารักมากคนหนึ่ง เขาเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาสะอาดสะอ้านในวัยสามสิบห้า ในขณะที่บิดาของเธออายุห้าสิบห้าในปีนี้
เธอสอบเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ จึงย้ายเข้ามาเรียนที่นี่โดยความช่วยเหลือของกรกานต์ เขาแบ่งบ้านอีกหลังข้างๆ ให้เธอได้เช่า ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าที่รีโนเวทใหม่ทั้งหมดเพราะเจ้าของคนเดิมย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับบุตรสาวจึงขายให้กรกานต์ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันในราคาย่อมเยาว์ด้วยว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาหลายปี
“นดา” เสียงเรียกของกรกานต์ทำให้นวินดาสะดุ้งสุดตัว
“คะ? อากานต์” เธอมีท่าทีเหลอหลาก่อนจะหลบสายตาของเขาวูบใหญ่เมื่อเขากำลังจ้องมองเธอคล้ายมีคำถามมากมายอยากจะถาม
“เมื่อคืนใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อาเหรอ” กรกานต์เอ่ยถามสาวน้อยหน้ามน
เขารับอาสาดูแลบุตรสาวของเพื่อนรุ่นพี่หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้มีพระคุณมานานหลายปี เขาเป็นลูกชายคนเดียวที่บิดามารดาเสียชีวิตไปหมดแล้ว ทิ้งมรดกเอาไว้ให้ดูแล คือบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศกับพอร์ตหุ้นและเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงบ้านเช่าและทองคำอีกจำนวนหนึ่งซึ่งฝากไว้กับธนาคาร ทำให้เขาอยู่ได้โดยไม่ลำบากหากขยันก็จะยิ่งร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“คุณอาเปลี่ยนเองหรือเปล่าคะ” คนปากแข็งเอ่ยถาม จะให้เธอบอกเขาไปได้ยังไงว่าเขาเมากลับมาเพราะไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดของบรรดาเพื่อนๆ แล้วเธอเข้าไปเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จนได้เสียกัน ด้วยว่าแอบรักกรกานต์มานานหลายปี อยากอยู่ใกล้ๆ เขาจึงพยายามสอบเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ให้ได้ ทั้งยังยินดีที่บิดาฝากงานให้ทำกับเขาอีก เธอจึงยอมทอดกายทอดใจให้เขาเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ
“อย่างนั้นเหรอครับ อาเมาถึงขนาดเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยตัวเองเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าอาทำแบบนั้นแล้วจะจำไม่ได้” วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ กรกานต์นั้นมีวันหยุดให้ตัวของเขาเองและพนักงานทุกวันอาทิตย์และวันจันทร์ ส่วนวันอังคารถึงวันเสาร์ก็จะเปิดบริษัท ทุกวันเธอจะไปทำงานกับเขา แล้วก็แอบเนียนเข้ามาในบ้านของเขาเพื่อช่วยเหลือทำความสะอาด ทำอาหารอร่อยๆ ให้ และพาตัวเองมารับประทานอาหารกับเขาแทบจะทุกวัน นอกเสียจากว่าเขาจะออกไปข้างนอก เธอถึงต้องรับประทานอาหารคนเดียว
กรกานต์โสดและไม่มีหญิงข้างกาย เธอมาอยู่ที่บ้านของเขาตอนเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย ไม่เคยเห็นเขาพาหญิงสาวคนใดมาที่บ้านหรือควงไปไหนมาไหนเลย แถมยังชอบบอกใครๆ ว่าโสด เธอเห็นว่ามีแต่สาวๆ เข้าหาและเขาก็ไม่เคยตัดสินใจคบกับใครอย่างจริงจัง
เธอเคยรู้สึกใจแป้วไปพักหนึ่งคิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะมีเพื่อนผู้ชายเยอะแยะ แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเธอเพิ่งตระหนักว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด
รั้วบ้านของเขากับเธอนั้นไม่มีเพราะกรกานต์สั่งให้คนทุบทิ้งไปตั้งแต่ที่เขาซื้อบ้านจากเจ้าของคนเดิมก็คือหลังที่เธออยู่นั่นเอง
ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีครีมกับกางเกงขายาวสีเทาเข้มเดินเข้ามาหา กรกานต์เป็นหนุ่มหล่อร่างสูง ผิวค่อนข้างขาวและสะอาดสะอ้าน เขาดื่มบ้างแต่ไม่สูบ แม้ว่าเขาจะแต่งตัวธรรมดาแค่ไหนในเวลานี้แต่ก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้านได้ทุกครั้งที่ได้สบตากันและกัน
นวินดาก้าวถอยหลังหลบสายตาวูบ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ กรกานต์เดินเข้าหาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบใบไม้แห้งที่ติดอยู่ตรงผมออก ในขณะที่เธอหลับตาปี๋
“ช่วงนี้อากาศร้อน ใบไม้แห้งเยอะไปหมด” นวินดาลืมตาขึ้น ทำท่าว่าเก้อเล็กน้อย เธอคิดว่าเขาจะทำอะไรกันล่ะ หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ใบหน้าร้อนผ่าวแก้วแดงก่ำลามไปถึงใบหู
“อายังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาลูบหน้าท้องของตัวเองไปมา ก่อนจะเอ่ยบอกเธอ
“คะ?” ท่าทีของเขาทำให้เธอหลุดอุทานออกมาแล้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อย นวินดาแก้มร้อนผ่าวที่ได้สบตากับคุณอาหนุ่มข้างบ้าน เหมือนเขาจะรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ยอมบอก ความอึดอัดใจตกมาอยู่ที่เธออีกครั้ง
"นี่เหรอลูกสาวของแก" ทศเอ่ยถามเสียงกร้าวเมื่อลูกหนี้ของเขาส่งตัวลูกสาวมาปลดหนี้ด้วยท่าทีอิดออด "ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าทำอะไรรุนแรงกับลูกสาวของฉันเลย" ธนัชเอ่ยขอร้อง "แล้วตอนที่แกทำกับฉันกับครอบครัวของฉันล่ะ" "หมายความว่ายังไง" ธนัชเอ่ยถามอย่างตกใจ "แกยังจำเพื่อนรักที่แกทรยศได้ไหม" ทศเอ่ยถาม เพราะเขาเปลี่ยนชื่อนามสกุล ธนัชเลยไม่รู้ว่าเขาคือใคร "แก แกเป็นลูกของไอ้อัฐอย่างนั้นเหรอ" ธนัชยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ "ยังดีนะที่แกยังจำได้ว่าเคยทรยศเพื่อนของแก แสดงว่าแกยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แม้จะแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตามที" "ทุกอย่างเป็นแผนการของแกอย่างนั้นเหรอ" ธนัชเอ่ยถาม "ใช่ ฉันรอวันนี้มายี่สิบกว่าปี รอเวลาที่จะได้แก้แค้นแก ฉันจะบดขยี้ลูกสาวของแกให้แหลกคามือ" ทศกระชากร่างบอบบางของน้ำรินมากอดรัดเอาไว้ หญิงสาวพยายามดิ้นรน "อย่าทำอะไรน้ำรินนะ ฉันขอร้อง" ธนัชยอมลงทุนคุกเข่าอ้อนวอน "อย่าทำอย่างนั้นเหรอ" ทศก้มลงบดจูบหญิงสาวอย่างป่าเถื่อน น้ำรินพยายามดิ้นรน แต่ไม่เป็นผล "อย่าทำอะไรลูกสาวของฉันนะ" "กระทืบมันให้ปางตายแล้วก็จับมันโยนออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องให้มันตายหรอก แต่ให้มันไปเป็นขอทานข้างถนน" ทศสั่งเสียงกร้าว
"มะนาว" นักศึกษาสาวปีสามผู้ฉลาดแกมโกง คิดว่าตัวเองเอาตัวรอดเก่ง แต่เมื่อหัวใจดันตกหลุมรัก "พี่ธันวา" รุ่นพี่ปีสี่สุดหล่อ สุขุม และเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เธอจึงต้องวาง "แผน" เพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ทุกครั้งที่คิดจะเหนือกว่า กลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมพรางหัวใจของเขาซะเอง เกมนี้ไม่มีใครแพ้ เพราะสุดท้ายความรักที่มีแผนซ่อนอยู่ก็คือความรักที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ จะหลอกล่อหรือจะวางแผนยังไงก็ไม่พ้น…เพราะพี่เขาวาง "แผนรัก" รออยู่แล้ว
การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
1. เจ้าสาวส้มหล่นของท่านประธานพันล้าน เธอ…หญิงสาวธรรมดาผู้มีหัวใจกล้าหาญ อาสากู้ภัย ช่วยชีวิตชายแปลกหน้ากลางเหตุอุบัติเหตุโดยไม่รู้เลยว่า…เขา คือประธานหนุ่มพันล้าน ผู้เย็นชา สุขุม และเป็นชายที่เธอจะต้องผูกพันไปตลอดชีวิต ค่ำคืนหนึ่งที่ผับ…เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ชีวิตของทั้งสองพันเกี่ยวกันแน่น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักที่ไม่อาจย้อนกลับ จาก "ประธานผู้ทรงอิทธิพล" กลายมาเป็น "คนรัก" ที่พร้อมดูแลเธอและครอบครัว จากหญิงสาวธรรมดา กลายเป็น "ภรรยาส้มหล่น" ที่หัวใจของเขายกให้ทั้งดวง แต่เส้นทางนี้ไม่ได้มีเพียงความหวาน ยังมีไฟริษยา ความแค้น และบททดสอบมากมายรออยู่ข้างหน้า ความรักของเขาและเธอจะก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้หรือไม่ มาร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวสุดฟินจิกหมอนที่ทั้งหวาน ซึ้ง เข้มข้น และอบอุ่นหัวใจ 2. หลงใหล เขาหลงรักเธอตั้งแต่วันแรกที่เห็น...จากเด็กสาวผู้ยิ้มสดใสผู้รับทุนการศึกษา กลายเป็นหญิงสาวแสนอบอุ่นที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเขาในรีสอร์ทกลางขุนเขา ธาวิน ชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ทผู้แอบมอบทุนให้เธอมานานแรมปี นลินฉัตร หญิงสาวธรรมดาที่ไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายคนหนึ่งแอบมองเธอมาตลอดด้วยความรัก เมื่อโชคชะตาพาให้ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง ในสถานที่ที่โอบล้อมด้วยสายหมอกและกลิ่นดอกไม้ หัวใจสองดวงที่เคยห่างไกล... กลับเต้นเป็นจังหวะเดียวกันอีกครั้งอย่างอบอุ่นและอ่อนหวาน บางที... ความรักที่แท้จริงอาจไม่ต้องการคำสัญญาใหญ่โต แค่ใครสักคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเข้าใจ และมอบ "รีสอร์ทกลางใจ" ไว้ให้ดูแล... ตลอดชีวิต 3. เพลิงพ่ายรัก เมื่อ "เพลิงฟ้า" ชายหนุ่มผู้เย็นชาและเคยผิดหวังจากความรัก ต้องมาเจอกับ "รดา" พยาบาลสาวแสนซื่อ ที่คุณย่าของเขารับเข้ามาดูแลในบ้าน เพียงแรกพบสบตา เขากลับจดจำเธอได้ในฐานะ "ผู้หญิงของเพื่อน" หญิงสาวที่เขาเคยเชื่อว่าเสแสร้งและหวังจับคนรวย! ความเข้าใจผิดในวันนั้น กลายเป็น "เพลิงแค้น" ที่เขาเผาตัวเองให้มืดมิด แต่ยิ่งได้ใกล้ ยิ่งได้เห็น เขากลับพบว่าเธอไม่ใช่อย่างที่คิด เธอคือคนที่มีหัวใจอ่อนโยน ซื่อสัตย์ และยอมเสียสละเพื่อคนอื่นจนหมดสิ้น จากความรังเกียจ กลายเป็นความห่วงหา จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความรักที่ไม่อาจปฏิเสธ เมื่อหัวใจของเพลิงฟ้า "พ่าย" ให้กับผู้หญิงที่เขาเคยดูแคลน ความรักจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางเงาแห่ง
เมื่อหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของคนแปลกหน้า และกลายเป็น น้องสาว ของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง... ความลับ ความใคร่ และพันธะที่ไม่มีใครเลือกได้ ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ต้องห้าม ที่ไม่มีใครห้ามหัวใจตนเองได้อีกต่อไป เขา คือพายุ ชายหนุ่มเจ้าอารมณ์ที่ไม่เคยยอมรับใคร เธอ คือพลอยชมพู เด็กสาวที่อยากให้แม่มีชีวิตใหม่ที่ดี แต่เมื่อโลกใบใหม่กลับกลายเป็นคุกทอง และเขาคือผู้กักขัง...เธอจะหนีไปได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจของเธอ...กำลังถูกพันธนาการไว้ด้วยความรัก
บนเกาะเงียบสงบที่ทอดตัวอยู่กลางทะเลใต้ คือพื้นที่ต้องห้ามของความปรารถนาที่ไม่มีใครล่วงรู้... สิบปีที่เขาเฝ้ารอนับจากวันที่ส่งเธอไปเรียนในเมือง ด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีใครรู้ สิบปีที่ไฟราคะสุมอยู่ในใจของ "นายหัวคณิน" ผู้ชายที่เธอเคยเรียกว่า พ่อเพื่อน และเมื่อ "ไหมแก้ว" หวนกลับคืนสู่เกาะที่เคยจากไป เธอไม่อาจคาดคิดเลยว่าตัวเองไม่ได้กลับมาในฐานะ ลูกสาวของคนรู้จัก แต่กลับถูกเรียกว่า "เจ้าสาวที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อเป็นของเขาเพียงคนเดียว" ระหว่างคำว่าบุญคุณ กับความปรารถนาอันร้อนแรง ระหว่างคำว่าเจ้าของ กับความรักที่ถูกปลูกฝังผ่านวันเวลา เธอจะหนี... หรือจะยอมจำนนให้หัวใจและร่างกายถูกผูกไว้กับผู้ชายที่รักเธอจนยอมทิ้งทั้งโลกเพื่อแลกกับแค่เธอเพียงคนเดียว...
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY