ความจริงใจของเขา จะเปิดประตูหัวใจของเธอให้รับความรักครั้งใหม่อีกครั้ง จารวีหญิงสาววัย 23 ปี มีเหตุให้ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะเจ้านายชีกอพยายามขอมีเซ็กส์ด้วย แต่เมื่อเธอไม่เล่นด้วยก็หาทางกลั่นแกล้งสารพัดจนทำให้เธอต้องออกจากงานในที่สุด สุมาลี-พี่สาวบ้านใกล้เพิ่งคลอดลูกชายสุดน่ารัก แต่การมีลูกอ่อนทำให้ไม่สามารถดูแลร้านซัก-อบ-รีดได้เต็มที่ เมื่อเห็นว่าน้องสาวบ้านใกล้ตกงานจึงชวนมาทำช่วยงานที่ร้านไปพลางๆระหว่างที่ยังหางานใหม่ไม่ได้ จารวีรีบคว้าไว้แถมยังได้ห้องพักฟรีเสียแค่ค่าน้ำกับไฟฟ้าเองเป็นของแถม ไหนๆ เธอก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศอยู่แล้ว ร้านซักอบรีดสุมาลีอยู่ใต้ตึกอพาร์เม้นท์แห่งหนึ่ง ทุกอย่างมันควรจะเริ่มต้นใหม่ด้วยดี ชีวิตของจารวีควรจะดีขึ้น ใช่มันต้องดีมากๆ ถ้าไม่เพราะผู้ชายห้องข้างๆ ที่ชอบส่งเสียงดังจนทำให้เธออดหลับอดนอน พักผ่อนไม่พอนะซิ! แล้วเรื่องวุ่นๆก็เริ่มต้นขึ้น “เค้ามาจูบผมเอง ผมไม่ได้ไปจูบเขานะ” เขาเผลอหัวเราะออกมา “นั้นไง ผู้ชายก็ได้เปรียบแบบนี้แหละ” เธอกระเง้ากระงอดแล้วผลักเขาออก แต่เขากลับรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะของเธอด้วยมือข้างเดียวของเขา “คุณหึงผม” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “ใครจะไปหึงคุณ หลงตัวเองชัดๆ” “คุณหึงผม” เขาย้ำ “คุณชอบผมแล้วใช่ไหม”
“ผัวขา แรงอีก อ่า เมียชอบ”
จารวีหรือจ๊ะจ๋า พลิกตัวเอาหมอนปิดหู เอาอีกแล้วเสียงสยองหลังเที่ยงคืนจากห้องข้างๆ ให้ตายเถอะ! เธอก็เข้าใจนะว่ากิจกรรมแบบนี้มันต้องมีเสียงดังกันบ้าง แต่นี่มันดังทะลุผนังห้องแล้วเธอก็นอนไม่หลับด้วยนะซิ! อพาร์ทเม้นก็ห้องไม่ได้ใหญ่โต จะย้ายเตียงไปอีกฝั่งก็ติดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่ของเธอเอง หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลา แล้วต้องสบถด่าในใจ นี่มันตีสองเข้าไปแล้ว ห้องข้างๆ กินอะไรเข้าไป จะไม่หลับไม่นอนบ้างหรือไงนะ แต่เธอต้องการพักผ่อนนะ! ตอนเช้าต้องเข้าไปช่วยงานในร้านซักอบรีดอีก ตอนบ่ายต้องเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานอีก เลิกส่งเสียงกินซี๊ดซ๊าดเสียทีเถอะ จะบ้าตายอยู่แล้ว!
เกือบครึ่งเดือนแล้วที่จารวีย้ายมาพักในอพาร์ทเม้นแห่งนี้ นอกจากได้ห้องพักฟรีจากพี่สุมาลี พี่สาวบ้านใกล้ที่เป็นคนดูแลอพาร์พาเม้นต์แห่งนี้และยังเป็นเจ้าของร้านซักอบรีดด้วย ในร้านมีลูกจ้าง2คน แต่พี่สุมาลีเพิ่งคลอดลูกฝาแฝดซึ่งคาดว่าชีวิตจะยุ่งเหยิงไปพักใหญ่ๆ และเธอตกงานหมาดๆ เพราะหัวหน้างี่เง่าที่พยายามจะเซ็กส์กับเธอให้ได้ พอเธอไม่เล่นด้วยก็หาวิธีแกล้งเธอสารพัด เอกสารที่ผิดพลาดในครั้งนั้นก็กลายเป็นข้ออ้าง
“ก็ไม่ยากนิแค่คุณนอนกับผม ผมก็จัดการเรื่องเอกสารนั้นให้ก็ได้”
“ถ้าดิฉันปฏิเสธละคะ”
“คุณน่าจะรู้ผลอยู่แล้วนะ”
จารวีถอนหายใจหนักๆ ถ้าเธอไม่ยอมก็ถูกฝ่ายบุคคลเรียกไปตรวจสอบ และอาจทำให้เสียประวัติ แต่ถ้าเธอยอมเขาซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าหากมีอะไรกันครั้งหนึ่งแล้ว ก็คงมีครั้งที่สอง สาม สี่ ตามมาเรื่อยๆ เผื่อไม่ให้ตัวเองเสียประวัติเพราะตัวเธอก็เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ทำงานได้แค่เจ็ด-แปดเดือน ยังมีโอกาสหางานดีกว่านี้ได้แน่นอน
เธอจึงตัดสินใจชิงยื่นใบลาออกเสียก่อน และไม่ได้รับอะไรสักอย่างเป็นการตอบแทน
หญิงสาวกลับมาอยู่บ้าน ทนฟังคนที่บ้านพร่ำบ่น เธอไม่เคยบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงลาออก หลายคนมองว่าเธอเป็นพวกเด็กจบใหม่ไม่อดทน ไม่เอางานเอาการ ทนฟังตำหนิไม่ได้ เธอเก็บความไม่สบายใจนานนับเดือนจนต้องอดไม่ไหวปรึกษากับพี่สาวข้างบ้าน
“ทำไมจ๊ะจ๋าไม่บอกพ่อกับแม่ไปล่ะ” สุมาลีหัวเสียที่ได้ยินจารวีเล่าให้ฟัง เธอรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางจะทิ้งงานเพราะแค่โดนด่าไม่กี่คำหรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“จ๋าไม่กล้าบอกหรอกค่ะ ไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นกังวลนี่คะ”
“ก็เลยยอมทนด่าอยู่คนเดียว”
“มันก็ดีกว่าไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านนี่คะ”
“ถ้าจ๊ะจ๋าไม่เลือกงานก็เอาอย่างนี้ไหม มาช่วยงานพี่ที่ร้านซักรีดไปพลางๆก่อน อีกไม่กี่สัปดาห์พี่ก็จะคลอดแล้ว ได้ลูกแฝดคงดูแลอะไรๆลำบากหน่อย”
“ดีเลยค่ะ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ตอนนี้จ๋าเองก็ยื่นใบสมัครไว้หลายที รอเรียกไปสัมภาษณ์อยู่ค่ะ”
“จริงนะ พี่จะได้ไม่ต้องหาคนอื่น ไม่ค่อยไว้ใจใครด้วย ถ้าได้งานดีๆเมื่อไหร่ก็บอกพี่แล้วกัน”
“กว่าจะได้งานดีๆคงเดือนหรือสองเดือนเลยละคะ”
“อ้อ! พี่คลอดแล้วจะกลับมาอยู่บ้านสักพัก ห้องพี่ที่อพาร์เม้นต์ก็ว่างอยู่นะ จะไปพักที่นั้นก็ได้ ทำงานใต้ตึกอพาร์ทเม้นต์”
“จริงหรือคะพี่สุ จ๋าไม่อยากอยู่บ้านฟังพ่อกับแม่บ่นอยู่ด้วย”
“จริงจ๊ะ ยังไงถือว่าช่วยพี่ก็แล้วกัน พี่จะช่วยพูดกับพ่อแม่ให้ เดี๋ยวจะคิดว่าเรียนจบมหา’ลัยมาได้ทำงานแค่พนักงานในร้านซักผ้า”
“งานสุจริตจะไปคิดแบบนั้นได้ไงคะ”
สุมาลีช่วยพูดกับพ่อแม่ให้จารวีจริงๆ ก็จริงอย่างที่สุมาลีบอก ผู้ใหญ่ก็อยากเห็นลูกหลานได้ทำงานดีๆ พอบอกว่าไปทำงานในร้านซักรีดก็ทำหน้าตึง แต่เพราะสุมาลีหว่านล้อมต่างๆนานา ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองยอมให้จารวีไปทำงานที่ร้านของหล่อน หญิงสาวดีใจที่นอกจากจะได้ทำงานยังได้ไปอยู่นอกบ้าน เธอมีเป็นลูกคนกลางมีพี่ชายกับพี่สาวสองคนและน้องชายคนเล็กที่อายุห่างจากเธอแค่3ปี แต่ดูเหมือนเธอเป็นคนเดียวที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยสักอย่าง เรียนคณะบริหารธุรกิจ ในขณะที่พี่ชายกับพี่สาวทั้งสองรับราชการ เป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว แถมเจ้าน้องชายจอมแสบก็เรียนเก่งได้ทุนเรียนดีด้านดนตรีอีกด้วย ก็จะมีแต่เธอนี่แหละที่เหมือนชีวิตไร้ตัวตนในบ้านที่สุด
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????