เอโดเกล การ์รัสโซ่ มหาเศรษฐีพันล้านชาวตุรกี ชายหนุ่มเป็นน้องคนเล็กของตระกูลดังแห่งอิสตันบูล ความโสด อิสรภาพในชีวิตหนุ่มเปรียบประดุจทองคำที่เขาหวงแหนยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่ แต่แล้วมันก็ต้องมาสั่นคลอนแทบพังทลายเพียงแค่ได้สบตากับแม่สาวใช้คนสวยญาติของพี่สะใภ้ใหญ่แห่งการ์รัสโซ่เพียงเท่านั้น นางฟ้าในคราบของสาวใช้ มันคือคำนิยามที่เขามีให้หล่อน แต่ถึงแม้จะรู้สึกสนใจคลั่งไคล้เพียงไหน กระนั้นทุกความรู้สึกกลับถูกซ่อนเร้นเอาไว้อย่างมิดชิดลึกสุดในก้นบึ้งของดวงใจกระด้าง และซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือทุกสิ่งที่แสดงออกมานั้นมันตรงกันข้ามกับความต้องการของหัวใจอย่างสิ้นเชิง ลียาสาวใช้แสนอาภัพ หล่อนแอบใฝ่สูงลุ่มหลงผู้ชายเกินเอื้อมอย่างเอโดเกล การ์รัสโซ่จนหมดหัวใจ แต่ก็รู้ดีว่าเขาชิงชังขี้หน้าหล่อนมากแค่ไหน แต่ยิ่งพยายามอยู่ห่างๆ ก็มีเหตุการณ์ต้องให้ได้เข้าใกล้เสียทุกที และสุดท้ายก็ไม่อาจจะหักห้ามใจเอาไว้ได้ หล่อนตกเป็นจำเลยรักของเขาโดยที่ผู้ชายโอหังแสนเลือดเย็นคนนั้นไม่ได้ต้องการแม้แต่นิดเดียว
ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายที่เหยียบโลกทั้งใบเอาไว้ใต้ฝ่าเท้าได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามืออย่างเขา เอโดเกล การ์รัสโซ่ จะต้องมายืนอ้าปากค้างตะลึงพรึงเพริดกับความงดงามของสตรีหน้าไหนได้แบบที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้
เรือนร่างอรชรในชุดราตรีสีทองอร่าม ขับผิวขาวนวลลออให้ผุดผ่องสวยสะพรั่ง ดวงหน้านวลเนียนงามประดุจนางสวรรค์ เส้นผมสีดำสนิทถูกปลดปล่อยให้สยายพลิ้วไหวอยู่เคียงบ่าขาวเปลือย ทรวดทรงองค์เอวอ้อนแอ้นชวนสนิทเสน่หา นัยน์ตากลมโตทอประกายหวานอมเศร้าเมื่อสบประสานมายังเขา
เอโดเกลสาบานกับตัวเองได้เลยว่าเขาไม่เคยรู้สึกกระหายหิวเรื่องบนเตียงรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาร้อนเป็นไฟ ตื่นตัวอย่างบ้าคลั่ง และรู้สึกอึดอัดทรมานเพียงแค่ได้พิศมองเพียงภายนอกไม่กี่อึดใจเช่นนี้
แต่ลียา... แม่สาวใช้เจ้าเล่ห์ทำได้ หล่อนทำให้เขาคลั่งได้เสมอ เพียงแค่ได้สบสายตา และหล่อนก็ขยันทำมันเสียทุกครั้งยามที่เขาโชคร้ายต้องมาเผชิญหน้ากับหล่อน ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน
ชายหนุ่มกัดฟัน ขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เขาบอกกับตัวเองว่าลียาไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาควรจะแตะต้อง หล่อนไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นนางบำเรอชั่วข้ามคืนของเขาด้วยซ้ำ แต่ทำไมนะ ทำไมร่างกาย สมอง จิตวิญญาณมันถึงร่ำร้องอยากจะจับแม่นี่มาฟัดมากมายแบบนี้
หล่อนใช้เวทมนตร์อะไรกับเขานะ หรือว่าหล่อนเป็นแม่มด ใช่... นั่นแหละถูกต้องที่สุด ลียาจะต้องเป็นนังแม่มดชั่วร้าย หล่อนร่ายเวทมนตร์เสน่หาใส่เขา และก็ใส่ผู้ชายทุกคนที่หล่อนต้องการจะครอบครอง เจ้าของความคิดกำมือหนาแน่น จากนั้นก็ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ละสายตาจากร่างอรชรสมส่วนของยายแม่มดร้ายอย่างลียาได้สำเร็จ
“ถึงกับตะลึงเลยหรือเอดี้”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขบขันของเดนิเรลพี่ชายฝาแฝดทำเอาเอโดเกลถึงกับหน้าแดงก่ำเพราะถูกจี้ใจดำเต็มๆ แต่คนอย่างเขาปากแข็งเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วล่ะ เขาหันไปมองร่างอรชรของลียาซ้ำอีกครั้ง จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“พี่แดนก็รู้... ผู้หญิงของผมสวยกว่าแม่คนใช้นี่เป็นร้อยๆ เท่า”
เดนิเรลไหวไหล่น้อยๆ ขณะตวัดแขนโอบรอบเอวของดานีนภรรยาสุดที่รัก “นั่นมันก็ความคิดของนายพี่ห้ามอะไรไม่ได้หรอก แต่ยังไงซะคืนนี้จะมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่จะวิ่งเข้าใส่ลียา คุณว่าจริงไหมดานีน” หันไปถามภรรยาเสียงนุ่มนวล และดานีนก็สนับสนุนทันที
“แน่นอนค่ะคุณแดน คืนนี้ลียาสวยมาก”
เอโดเกลตวัดสายตามองลียาอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันตอบในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่สุด
“ก็งั้นๆ แหละครับ”
“จริงหรือ เอดี้” เดนิเรลอมยิ้ม มองอย่างรู้ทัน แต่เจ้าน้องชายตัวแสบก็ยังยืนยันตามเดิม
“ครับ ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโกหกนี่ครับ”
เอโดเกลไหวไหล่น้อยๆ แสดงท่าทางไม่ใยดีอะไรกับแม่ผู้หญิงที่สวยงามปานนางฟ้าอย่างลียาออกมา เขาจะต้องไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ก็แค่สวย ก็แค่หุ่นดี ก็แค่น่าปรารถนา แค่นี้เอง เขาหาที่ไหนก็ได้ ชายหนุ่มพร่ำบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ ความหวงแหนที่มีต่อหญิงสาวที่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ข้างกายของดานีนก็ยิ่งล้นยิ่งทะลัก บ้าชะมัด ทำไมเขาจะต้องรู้สึกบ้าบอแบบนี้ด้วยนะ ลียาก็แค่คนใช้ สาวใช้ต่ำต้อย แค่นั้นเอง แค่นั้นเองเอโดเกล!
“งั้นก็ตามใจ เอาล่ะ พี่ไปก่อนนะ งานเลี้ยงใกล้เริ่มแล้ว”
“ขอให้สนุกนะครับ”
“ขอบใจมาก ว่าแต่นายไม่เปลี่ยนใจไปด้วยกันแน่นะ” เดนิเรลอดไม่ได้ที่จะถามน้องชายซ้ำอีกครั้ง แต่เอโดเกลส่ายหน้ายืนยันคำเดิม
“ครับ ผมไม่ยอมไปงานเลี้ยง น่าเบื่อ ยิ่งอยู่ใกล้ๆ กับผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดด้วยแล้ว ยิ่งเบื่อเข้าไปใหญ่”
ลียาสะอึกเพราะรู้ดีว่าเอโดเกลจงใจว่าตัวเอง แต่หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าซ่อนความขมขื่นเอาไว้ภายใน
“เกลียด? นายเกลียดใครกันเอดี้”
เอโดเกลไหวไหล่กว้างของตัวเองน้อยๆ “ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่แดนพาภรรยากับ... สาวใช้ส่วนตัวไปงานเลี้ยงเถอะครับ”
เดนิเรลพยักหน้ารับน้อยๆ รั้งร่างอรชรของดานีนให้เดินตามออกไป ลียากำลังจะเดินตามทั้งคู่ออกไปเช่นกัน แต่น้ำเสียงกระด้างของเอโดเกลก็หยุดเท้าของหล่อนเอาไว้เสียก่อน หล่อนหยุดเดิน ตัวสั่นเทาเมื่อเจ้าของน้ำเสียงกระด้างลุกขึ้นยืนและเดินมาหยุดที่ด้านหลังของหล่อน
“คิดว่าแต่งตัวแบบนี้แล้วจะอ่อยผู้ชายได้ทั้งงานหรือไง”
สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่เลิกดูถูกหล่อน ในสมองของเอโดเกลหล่อนคือตัวเชื้อโรคที่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเขี่ยมันทิ้ง น้ำตาที่พยายามซ่อนเอาไว้อดที่จะไหลซึมออกมาไม่ได้ หล่อนกัดปากแน่น และก็ไม่ยอมที่จะหันไปเผชิญหน้ากับผู้ชายจอมร้ายกาจอย่างเขา
“เงียบ... ที่เงียบนี่ก็เพราะสิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริงใช่ไหมล่ะ”
เขาเยาะหยันต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นอริ ซึ่งหล่อนก็ยังคงทนยืนนิ่งให้เขาทิ่มแทงด้วยคำพูดร้ายกาจอย่างไร้ทางต่อสู้
“คงคิดจะจับผู้ชายรวยๆ ในงานนี้ให้ได้สักคน เพื่อที่จะถีบตัวเองให้พ้นจากคำว่า ‘สาวใช้’ ใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงอย่างเธอมันก็ดีแต่ใช้เนื้อตัวแลกกับเงินทอง หึ! แพศยา สารเลวที่สุด”
น้ำตาที่เพียงแค่ซึมขณะนี้มันไหลทะลักออกมาอาบแก้มทันที มือบางรีบยกขึ้นเช็ด และบังคับตัวเองให้พูดออกไป
“ถ้า... คุณเอดี้... มีธุระกับดิฉันแค่นี้... ดิฉันขอตัวค่ะ”
“ทำไม?!”
เขากระชากร่างอรชรให้หันกลับมาเผชิญหน้า มองดวงหน้างดงามด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ
“จะรีบไปหาผัวในงานเร็วๆ ใช่ไหม”
หญิงสาวน้ำตาไหลพราก มองเขาอย่างผิดหวัง “ถ้าใช่... คุณเอดี้ก็ไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายกับดิฉันนะคะ เพราะมันเรื่องส่วนตัว โอ๊ย...!” ลียาร้องอุทานด้วยความเจ็บร้าวที่ต้นแขนเปลือยทั้งสองข้าง เมื่อถูกมือหนาที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าคีมเหล็กขยุ้มเต็มแรง
“ดิฉันเจ็บนะคะ ปล่อยเถอะค่ะ”
แทนที่ชายหนุ่มจะเห็นใจ ตรงกันข้ามกลับยิ่งเพิ่มแรงกดให้มากยิ่งขึ้น จากนั้นก็รั้งร่างอรชรที่หอมกรุ่นยิ่งกว่าดอกไม้ป่าทั้งสวนเข้ามาใกล้ และนั่นก็ทำให้บางส่วนของร่างกายตื่นผงาดขึ้นอย่างน่าตกใจ
“เจ็บสิดี จะได้หัดรู้จักร่านให้น้อยลงบ้าง อย่าลืมสิว่าเธอเป็นญาติของคุณรดา หัดรักษาชื่อเสียงของพี่สะใภ้ใหญ่ของฉันเอาไว้บ้าง ไม่ใช่อยากเมื่อไหร่ก็อ้า” ประกายบางอย่างในดวงตากระด้างสีนิลเนื้อดีทำให้หญิงสาวร้อนวาบไปทั้งตัว
“ทุเรศสิ้นดี!”
แล้วร่างอรชรก็ถูกผลักออกห่างเต็มแรง หญิงสาวเซถอยหลังไปไกลจนเกือบล้ม น้ำตายังคงอาบแก้มเช่นเคย
“ดิฉัน... ขอตัวค่ะ”
หล่อนกัดปากที่สั่นระริกพูดออกไป แต่เอโดเกลยังไม่เลิกโจมตี เขาย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนอีกครั้ง ใบหน้าหล่อลากดินตอนนี้กระด้างจนน่ากลัว
“แล้วถ้าฉันรู้ว่าเธอให้ท่าผู้ชายคนไหนในงานเลี้ยงล่ะก็...” ชายหนุ่มกระชากร่างอรชรเข้ามาหา มองด้วยสายตากระด้างน่ากลัว
“ฉันฆ่าเธอแน่!”
ร่างอรชรถูกผลักออกห่างอีกครั้ง ก่อนที่คนตัวโตจะก้าวยาวๆ เดินหนีไปพร้อมๆ กับพายุโทสะ
หญิงสาวทรุดฮวบลงกองกับพื้น น้ำตาท่วมท้นดวงหน้างาม ทำไมนะ ทำไมเอโดเกลจะต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมเขาจะต้องคอยเข่นฆ่าหล่อนด้วยคำพูดทุกครั้งที่เจอหน้าด้วย ในสายตาของเขาหล่อนต่ำต้อย เลวร้าย เป็นผู้หญิงน่ารังเกียจนักหรือไง
คำตอบคือ ใช่เพราะในสายตาของผู้ชายหล่อลากดินคนนี้ หล่อนเป็นยิ่งกว่ากิ้งกือใต้ดินแสนสกปรกเสียอีก เขาทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยง และแน่นอนว่าเขารอคอยวันที่หล่อนจะย่างเท้าเดินออกไปจากอาณาจักรของตัวเอง
น้ำตาไม่รู้มาจากไหนนักทะลักทลายไหลออกมาอาบแก้ม ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับความเจ็บปวดที่เกิดจากน้ำมือของผู้ชายที่ตัวเองทั้งรักทั้งบูชา แต่เขาสิ... ไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ คำน้อยก็ไม่เคยพูดให้ดีใจ มีแต่ทับถมด้วยวาจาร้ายกาจทุกครั้งที่เจอหน้า
หญิงสาวสะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ดานีนเดินกลับเข้ามาตามหล่อนอีกครั้งนั่นแหละ
“คุณดา...”
“อย่าร้องไห้เลยลียา...”
ดานีนดึงร่างสั่นเทาของลียาขึ้นมาจากพื้นและกอดปลอบประโลม ลียาก็เหมือนเพื่อนของหล่อน เพราะตอนที่หล่อนเข้ามาในการ์รัสโซ่ พาราไดส์ครั้งแรกก็ได้ลียานี่แหละเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือตลอด ดังนั้นหล่อนเองก็จะไม่ทิ้งลียาเช่นกัน
“สักวัน... ผู้ชายปากแข็งจะต้องยอมขอโทษเธอ”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"