เธอคือภรรยาจำยอมที่มีใจ ส่วนเขาก็คือสามีจำเป็นที่ไร้ใจ แต่เพราะรัก ‘ลดา’ จึงยอมที่จะแต่งงานกับ ’พ่อเลี้ยงโอบ’ แม้ว่าเขาจะหมางเมินใส่เธอสักแค่ไหนก็ตาม พ่อเลี้ยงโอบให้สัญญากับ ‘ปีใหม่’ คนรักที่คบหาอยู่ว่าจะไม่แตะต้องภรรยาในนามอย่างลดาเป็นอันขาด แต่ทว่าเขากลับผิดสัญญา… ความเร่าร้อนในคืนนั้น….ยังคงทำให้เขาคิดถึง ความวาบหวามในคืนนั้น….มันกระตุ้นให้เขาบุกเข้าหาผู้หญิงที่หมายจะให้เธอเป็นแค่ภรรยาในนาม ความเสน่หาทำให้เขาลุ่มหลงเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น เช่นเดียวกับลดาที่เธอนั้นจมดิ่งอยู่ในห้วงเสน่หาที่สามีผู้เร่าร้อนมอบให้ แต่เหมือนว่าความรักครั้งนี้มันจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด….
เสียงเครื่องบินลำใหญ่ ที่เวลานี้กำลังลงจอดยังสนามบินจังหวัดดังระงมไปทั่วบริเวณ กระทั่งจอดได้สนิทผู้โดยสารทั้งหมดจึงทยอยลงจากเครื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือลดาหญิงสาวกำพร้าที่เกิดและเติบโตที่นี่ ก่อนที่เธอจะสอบได้ทุนไปศึกษายังต่างประเทศจนจบระดับปริญญาตรี พอเรียนจบก็ขอทำงานใช้ทุนต่อที่นั่น
แต่ทำงานได้แค่สองปีกว่า ลดากลับได้รับข่าวร้ายว่าผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ผู้เป็นพ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตไปกำลังป่วยหนักและไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ทันทีที่รู้ข่าวร้ายนี้ ลดาก็รีบบินกลับมาเมืองไทยทันที
“ลดา” เสียงคุ้นหูที่ทักขึ้นในอาคารผู้โดยสารขาเข้า ทำให้ลดาหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเป็นปรียา เธอเอ่ยเรียกพร้อมกับตรงเข้าไปสวมกอด
“อุ้ม”
“คิดถึงลดาจัง เดินทางข้ามโลกมาแบบนี้เหนื่อยไหม” เมื่อคลายอ้อมกอดออกปรียาก็เอ่ยถามขึ้น จะว่าไปเธอกับลดาก็เหมือนพี่น้อง เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด เพิ่งมาอยู่ห่างกันจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่ลดาไปเรียนต่อที่ อื่น ซึ่งก็ตั้งเก้าปีเข้าไปแล้วนะ แต่เธอก็ยอมรับจริงๆ ว่าลดานั้นเก่ง ที่สามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้แบบนี้
แม่ของเธออุปการะเลี้ยงดูลดาในฐานะลูกสาวอีกคน เพราะครอบครัวของลดาเป็นคนงานในไร่ แต่ต้องมาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งหมด ปล่อยให้ลดาที่ตอนนั้นอายุเพียงเจ็ดขวบอยู่ตามลำพัง แม่เธอสงสารปนเอ็นดูลดามาก เลยตัดสินใจรับมาอยู่ด้วย
ลดาในวัยเด็กนั้นน่ารัก ช่างพูดช่างคุย คอยช่วยงานในส่วนที่ทำได้ ไม่ได้เอาแต่ใจเกเรเหมือนใครบางคน แต่ดีหน่อยที่พอโตมาแล้วคนที่ว่านิสัยก็เปลี่ยน ส่วนลดาเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกันจากที่ช่างพูดช่างคุยก็ดูจะพูดน้อยลง อาจเพราะต้นเหตุมาจากเรื่องนั้นตอนนั้นก็เป็นได้
“ไม่เหนื่อยเลย”
“หิวไหม กินอะไรก่อนหรือเปล่า” คำถามเป็นห่วงเป็นใยดังมาจากปรียา นั่นทำให้ลดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน ปรียาก็ยังคงเป็นห่วงเป็นใยเธออยู่เสมอ
“ไม่หิว อุ้มล่ะ มารอรับลดานานหรือยัง หิวไหม”
“ไม่หิวเลย” ปรียาส่ายหน้าให้ เพราะระยะหลังๆ มานี้เธอแทบไม่อยากกินอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้อยากไดเอท หรอกแค่ไม่รู้สึกอยากจะกินอะไรก็เท่านั้นเอง
“แล้วนี่คุณป้าเป็นยังไงบ้าง”
“ทรงกับทรุด” น้ำเสียงและสีหน้าของปรียานั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้ลดาได้เห็น
“งั้นเรารีบกลับไร่กันดีกว่า มาลดาขับรถให้”
“ไม่ได้ นั่งเครื่องบินมาตั้งนานขืนมาขับรถอีกเดี๋ยวก็ได้ไหลลงเหว อุ้มขับให้ลดานั่งน่ะดีแล้ว กลับไร่กัน”
“จ้ะ” ลดาพยักหน้ารับ ปรียาเข้ามาช่วยเพื่อนถือข้าวถือของแล้วพากันเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าสนามบิน คนมารับอาสาเป็นคนขับรถให้ ระหว่างทางที่รถเคลื่อนตัวไปนั้น ลดานั่งหน้าเครียดแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้
“อุ้มรู้เรื่องอาการป่วยของคุณป้ามานานแล้วหรือยัง”
“ปีกว่าแล้ว”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกัน”
“ก็แม่ขอไว้น่ะสิ นี่คันปากอยากจะบอกลดาใจจะขาด กระทั่ง…อาการของแม่ทรุดจนแทบจะไม่รู้สึกตัว อุ้มเลยตัดสินใจบอกลดา” น้ำเสียงของปรียาค่อยๆ เบาลง
“ขอบใจมากนะอุ้ม ขอบใจที่ไม่ลืมลดา”
“ลืมได้ยังไง แม่อุ้มรักและเอ็นดูลดาเหมือนลูกคนหนึ่ง ถ้าลดาไม่ได้กลับมาดูใจแม่อุ้มก่อนที่ท่านจะ…ตาย อุ้มคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
“อุ้ม!” ฟังแล้วลดาก็น้ำตาคลอ นั่นเพราะเธอเองก็รักและเคารพโสภีมากเหมือนแม่แท้ๆ ของเธอเช่นกัน ความรัก ความโอบอุ้ม ความเมตตาที่โสภีมอบให้มานั้น ทำให้เด็กกำพร้าอย่างเธอเติบโตมาอย่างเข้มแข็ง แม้จะรู้สึกว่าตัวเองขาดความรักจากแม่และพ่อไปบ้าง แต่โสภีก็ค่อยๆ เติมความรู้สึกขาดนั้นให้เธอจนเต็ม
ตลอดเวลาที่เรียนอยู่นั้น ความที่อยู่ห่างไกลกันแต่โสภีก็หมั่นโทรศัพท์ไปถามไถ่เสมอๆ ว่าเธอสุขสบายดีไหม ขาดเหลืออะไรบ้างหรือเปล่า นั่นทำให้ลดายิ่งรักโสภี วันที่เธอรับปริญญาโสภีกับปรียาก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมงานด้วย
“ไม่ใช่ว่าอุ้มจะไม่เสียใจเรื่องนี้นะ อุ้มเสียใจมาก ตั้งแต่รู้เรื่องก็ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาจะร้อง แต่เกิดแก่เจ็บตายคือสัจธรรมของโลกใบนี้” แม้ปากจะบอกว่าเธอนั้นร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ปรียาก็น้ำตาเอ่อ รู้สึกตื้อๆ ในคอจุกในอกไปหมด แต่น้ำตามันไม่ไหลออกมาข้างนอกก็เท่านั้นเอง
ความรู้สึกเสียพ่อไปเมื่อตอนที่เธอยังเด็กเทียบไม่ได้กับตอนนี้เลย คงเพราะตอนนั้นเธอเด็กเกินจะรับรู้อะไร เวลานี้ต่อให้เธอเข้มแข็งมากแค่ไหน สุดท้ายก็กลายเป็นคนอ่อนแออยู่ดี ลดาคว้ามือของเพื่อนรักมากุมแล้วบีบเบาๆ ให้ปรียารับรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้อีกคน
ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าถนน ที่มีป้ายไม้ขนาดใหญ่บอกผู้ที่ขับรถผ่านไปผ่านมาว่า ‘ไร่โอบอุ้ม’ หัวใจของลดาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ นั่นเพราะจู่ๆ ใบหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามาในหัว ผู้ชายที่เธอพยายามสลัดภาพเขาให้ออกไปจากความคิดมาหลายปี แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ
เมื่อรถจอดสนิทปรียาก็พาลดาขึ้นไปยังห้องพักของผู้เป็นแม่ ลดากราบเท้าโสภีที่เวลานี้นอนอยู่บนเตียง ใบหน้ารวมไปถึงร่างกายที่เคยเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลซูบผอมเสียจนลดาใจหาย
“ลดา” น้ำเสียงแหบแห้งปนความเหนื่อยอ่อนของโสภีดังขึ้น พร้อมกับพยายามชูแขนที่มีแค่หนังห่อหุ้มเพื่อรับอ้อมกอดจากลดา นั่นทำให้ลดาปรี่เข้าไปสวมกอดทันที
“ลดากลับมาแล้วค่ะคุณป้า”
“คิดถึงจังเลยลูก”
“ลดาก็คิดถึงคุณป้าค่ะ” ลดารีบปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม พร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ พอคลายอ้อมกอดออกเธอก็ส่งยิ้มให้โสภีที่ยิ้มตอบเธอมาเช่นกัน
“ลดาของป้าโตขึ้นมาก สวยสมวัย เหมาะกับ…”
“แม่คะ” ปรียาเอ่ยแทรกขึ้น นั่นเพราะยังไม่อยากให้ผู้เป็นแม่เอ่ยอะไรในตอนนี้นัก เพราะลดาเพิ่งบินกลับมาขืนฟังเรื่องนั้นอาจช็อกเอาได้ แต่โสภีกลับมองว่าตนมีเวลาไม่มากแล้ว ขืนไม่พูดตอนนี้ก็กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้ตื่นมาพูดอีก
“แม่ขอคุยกับลดาเองนะอุ้ม”
“ค่ะ…งั้นอุ้มออกไปรอข้างนอกนะคะ” โสภีพยักหน้าให้ลูกสาว ปรียาจึงจำต้องออกไปรอฟังข่าวที่นอกห้องแทน แม้จะรู้ว่าผู้เป็นแม่จะคุยอะไรกับลดา แต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้ นั่นเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ลดายังคิดแบบนั้นกับพี่ชายเธออยู่หรือเปล่า ถ้ายังคิดอยู่ก็ดีไป แต่ถ้าไม่นี่ก็เรื่องใหญ่เหมือนกัน
“ตะกี้พาใครมาด้วยน่ะอุ้ม”
“อ้อ…ลดาค่ะพี่โอบ” ปรียาเอ่ยตอบพี่ชาย ที่เวลานี้รับหน้าที่ดูแลไร่โกโก้ของครอบครัวอย่างเต็มตัวแล้ว ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนได้ใจลูกน้องไปเสียหมด เดินไปไหนมาไหนคนเหล่านั้นจึงเอ่ยเรียกพี่ชายเธอว่าพ่อเลี้ยงโอบอย่างเต็มปาก
“ลดาเหรอ” พ่อเลี้ยงโอบเอ่ยทวนชื่อที่ได้ยิน นั่นเพราะเขาไม่เคยเอ่ยถึงเธอเลยตั้งแต่ลดาสอบชิงทุนได้แล้วตัดสินใจบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศโดยไม่ถามเขาสักคำว่าอนุญาตไหม
มิหนำซ้ำพอเรียนจบแทนที่จะกลับมาทำงานที่เมืองไทยยังเลือกทำงานที่นั่นอีก ปีกกล้าขาแข็งขนาดนั้นแล้วจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกทำไมกัน
“ค่ะ” ปรียาเอ่ยรับเพียงสั้นๆ พร้อมกับสังเกตสีหน้าและท่าทางของพี่ชายตัวเองไปด้วยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ รายนี้อคติกับลดามาตั้งแต่เด็กๆ คิดว่าลดามาเพื่อหวังสุขสบาย ร้ายแรงไปถึงคิดว่าลดามาเพื่อแย่งความรักจากคนในครอบครัวไป เพราะคิดแบบนั้นตั้งแต่เล็กจนโตทำให้โอบไม่เคยญาติดีกับลดาเลย
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน