เธอคือนางแบบสุดร้อนแรงที่ได้รับฉายาว่า “เจ้าหญิงน้ำแข็ง” เขาคือ “เจ้าชายเถื่อน” ชีคหนุ่มผู้เร่าร้อนที่ละลายน้ำแข็งในใจเธอ. ชุดอาบายะห์สีแดงแม้ว่าจะเลอะเทอะมอมแมมแต่ก็ยังเห็นความสวยงามจากลวดลายที่ปักอยู่บนเนื้อผ้า รอยช้ำตามร่างกายซ้ำยังมีริ้วเหมือนโดนแส้ฟาด ไหนจะรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุที่เธอได้รับเมื่อสามปีก่อนอีก อะไรกัน? เขาเป็นคนทำให้เธอเป็นเช่นนี้ใช่ไหม เลิกโทษคนอื่นแล้วก้มมองตัวเองว่าได้ทำอะไรลงไป เขาไม่ใช่รึ?ที่ปรารถนาจะเห็นเธอทุกข์ทรมาน แต่เมื่อเห็นเธออยู่ในสภาพนี้แล้วหัวใจเขายิ่งร้าวระบม ชีควาคิม อับดุลเราะฮ์มานได้แต่สะท้านในสิ่งที่ตนเองทำ เขาไม่เคยคิดเลยว่าโทสะเพียงชั่ววูบจะทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ ชีควาคิมพรมจูบทั่วใบหน้าของหญิงสาว กลิ่นกายเธอเหมือนดอกไม้บริสุทธิ์ชวนหลงใหล ความปรารถนาที่จะครอบครองเธอทำให้เขาทำทุกวิถีทางคว้าตัว “สาริศา กวินนาถ” มาแนบชิดแม้ว่าจะต้องใช้กลลวงก็ตาม!
ประเทศเทซาเนีย
หญิงสาวลดกล้องถ่ายรูปลงแล้วมองเวิ้งทะเลทรายตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง ใบหน้าหวานยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้นดีใจ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ทุบกระปุกเงินเก็บมาเที่ยวประเทศเทซาเนีย ประเทศที่โอบล้อมไปด้วยทะเลทราย มันช่างแสนวิเศษและสวยงามกว่าที่เธอเซิร์สหาข้อมูลก่อนเดินทางเสียอีก
‘สวยเหลือเกิน’ หญิงสาวพึมพำเหมือนละเมอ แล้วเดินมารวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ การมาเยี่ยมชมทะเลทรายครั้งนี้ เธอจำเป็นต้องมาพร้อมไกด์นำทางทั้งที่อยากท่องเที่ยวด้วยตัวเอง แต่ในพื้นที่ที่ดูสวยงามอย่างนี้อาจมีอันตรายซ่อนอยู่ก็เป็นได้
สาริศา กวินนาถ ให้รางวัลตัวเองที่เรียนจบปริญญาตรีและเป็นการฉลองวันเกิดปีที่ยี่สิบสองของเธอด้วยเดินทางมาท่องเที่ยวต่างประเทศ เธอเลือกเทซาเนียเพราะเห็นข่าวการเปิดประเทศในหน้าจอโทรทัศน์ เธอเคยเรียนในโรงเรียนประจำก่อนที่จะมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษด้านการดนตรี การที่ต้องเรียนด้วยทำงานไปด้วยเป็นเรื่องที่เหนื่อยแสนสาหัส แต่เมื่อความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั้น ใบปริญญาที่ฝันใฝ่จึงคว้ามาได้ในกำมือ
‘เทซาเนีย’ ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าสองร้อยปี ทว่าเป็นประเทศใหม่ในแผนที่โลกเพราะ ‘ชีคอาเหม็ด อับดุลเราะฮ์มาน’ ทรงมองเห็นการณ์ไกล เปิดประเทศที่ถูกโอบกอดด้วยทะเลทรายในฐานะประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวแปลกตา และทรัพยากรล้ำค่าที่งดงามนั้นก็คือเหมืองเพชรรวมทั้งบ่อน้ำมันอีกด้วย โรงแรมระดับห้าดาวอย่าง ‘Blue Star’ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่หมายถึงความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก แต่ในขณะเดียวกันวิถีชีวิตแบบธรรมชาติของชาวเทซาเนียดั้งเดิมก็ยังน่าสนใจอีกด้วย
สาริศาพลิกอ่านแผ่นพับซึ่งเป็นแผนที่และการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเทซาเนีย หญิงสาวขยับแว่นกันแดดเล็กน้อยก่อนจะย้ายสายตาจากแผ่นพับในมือมองไปยังเมืองเบื้องหน้า หลังจากกลับจากทะเลทรายแล้ว เธอก็มาโบกมือลาไกด์ของเธอมานั่งจิบน้ำส้มคั้นที่ร้านอาหารน่ารักๆ บนถนนเส้นหลักใจกลางเมืองบิเบวา-เมืองหลวงของเทซาเนีย ช่างเป็นเมืองแสนสงบในแบบที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝัน แม้ว่าสาริศาจะอยู่เทซาเนียมาสัปดาห์หนึ่งแล้วแต่เธอแทบไม่ได้ออกไปไหนไกลนัก สามวันแรกเธอก็มีอาการแพ้อากาศจนออกไปนอกที่พักไม่ไหว กว่าร่างกายจะฟื้นก็วันที่สี่เข้าไปแล้ว ถึงจะวางแผนท่องเที่ยวไว้ถึงสามสัปดาห์แต่ก็อดเสียดายเวลาที่หมดไปไม้ได้
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้ใช้วันหยุดในการเดินชมเมืองเก่าแก่แห่งนี้ ตึกรามบ้านช่องยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิม เพียงแต่ถูกปรับปรุงให้ดูแข็งแรงขึ้น เรื่องนี้คงต้องเอ่ยชมผู้ปกครองเมืองที่ยังอนุรักษ์เมืองให้คงความงามเช่นเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่จะเป็นเมืองเก่าไปเสียทีเดียวเพราะไม่ไกลนักก็มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งไม่ต่างจากเมืองใหญ่อื่นๆหรือในกรุงเทพฯ บ้านเกิดที่เธอจากมาหลายปี
‘บ้านเกิด’
สาริศาพึมพำกับตัวเอง เธอไม่ผูกพันกับบ้านเกิดของเธอเลย อาจครอบครัวที่ไม่อบอุ่นเหมือนคนอื่นทำให้เธอไม่มีความทรงจำดีๆ อะไรหลงเลยอยู่ นอกจากแม่ที่เจ็บป่วยแม้จะอยากดูแลใกล้ๆ แต่เพราะ ‘พ่อเลี้ยง’ ที่ถูกผีพนันเข้าสิงทำให้เธอต้องอยู่ห่างๆ แต่ก็ยังดีที่มี ‘กวิน’ หลานชายที่แม่ของเธอรับมาอุปการะคอยดูแลทำให้เธอมาร่ำเรียนต่อต่างประเทศได้อย่างไม่กังวลมากนัก นอกจากเพื่อนรักที่เรียนโรงเรียนประจำด้วยกันแล้ว ก็ดูว่าเธอไม่มีใครให้ต้องคิดถึงอีกแล้ว หญิงสาวยิ้มเศร้าให้กับตัวเองเธอพับแผ่นพับใส่กระเป๋าแล้วเรียกพนักงานคิดเงินค่าเครื่องดื่ม
‘เริ่มแรกไปพิพิธภัณฑ์ก่อนละกันนะ’
สาริศาลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายคล้องไหล่ซ้ายแล้วก้าวออกมาจากร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน จากจุดที่เธออยู่สามารถเดินไปที่หมายในเวลาประมาณสิบนาที เธออยากเดินละเลียดอารมณ์ไปเรื่อยๆ มากกว่าจะเรียกรถแท็กซี่ซึ่งก็มีให้บริการ สาริศาแหงนหน้ามองตึกเก่าริมถนนซึ่งมีลักษณะคล้ายตึกเก่าสไตล์อังกฤษ
หญิงสาวเดินมาหยุดที่หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เธออ่านคู่มือทบทวนสิ่งที่ต้องทำอีกครั้งก่อนเดินเข้าไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วเพื่อขอซื้อบัตรเข้าชม ภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งหูแต่ก็ไม่ยากเกินจะเข้าใจ อาจเพราะคุ้นชินกับการอยู่เมืองนอก พูดภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทยทำให้สาริศาไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เธอจดจำภาษาเทซาเนียได้เพียงแค่คำง่ายๆ อย่างคำว่า ‘สวัสดี’ ‘ขอบคุณ’ ‘ขอโทษ’ แต่ถ้าได้ยินคนเทซาเนียพูดเต็มๆ ประโยค เธอก็จะแยกคำไม่ออกเลยทีเดียว
แผนพับถูกอ่านอีกครั้ง ความจริงสาริศาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทซาเนียมาบ้างแล้ว บ้านเมืองที่แสนสงบสุขรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมาแล้ว การปกครองโดยมีกษัตริย์เป็นประมุขคล้ายกับประเทศไทย ชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่ในการปกครองของ ชีคอาเหม็ด อับดุลเราะฮ์มาน แต่พระองค์ทรงมีพระชมน์มายุมากถึงหกสิบพรรษาแล้ว แว่วว่าจะมีการแต่งตั้งชีคองค์ใหม่ แต่ชีคอาเหม็ดก็มีพระโอสรหลายองค์ แต่ละองค์ก็มีข่าวลือว่าจะได้ขึ้นเป็นชีคไม่น้อยไปกว่ากัน
‘เรื่องการเมืองประเทศไหนก็ยุ่งเหยิงทั้งนั้น’
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"