เพียงเพราะอยากให้คนที่ให้กำเนิดเห็นว่าเขาไม่ใช่คนไม่เอาไหนอย่างที่คิด ภาพฟ้า จึงตัดสินใจเก็บเสื้อยัดใส่กระเป๋าไปอยู่ที่ ไร่ทิศเหนือ เป็นไร่อ้อยที่ใหญ่ที่ของอำเภอเล็กๆ มีเจ้าของไร่ที่หน้าตาหล่อเหลาจนเขาอิจฉา แต่เสียอย่างเดียวคือ ความปากหมา!!! ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องอาศัยอยู่ที่นี่ เขาอยากจะซัดหน้าเขาไปสักที ถึงปากของ ทิศเหนือ จะร้าย แต่ความใจดีก็มีอยู่เต็มเปี่ยม ทิศเหนือเป็นคนที่สอนเขาทุกอย่าง ค่อยให้กำลังใจเขาในวันที่ท้อแท้ เขาคือพี่ชายคนหนึ่งที่เขาอยากเก็บทิศเหนือเอาไว้กับตัวเอง เพราะเขาคือ ทิศเหนือของภาพฟ้า
‘ลูกไม่รักดี แกมันก็แค่ตัวซวย แกเกิดมาทำไม ทำไมแกไม่ตายตามแม่แกไป’
‘ฉันเห็นหน้าแกแล้วอยากจะฆ่าแกไปซะ ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว ไป!’
‘หึ ฉันคิดไว้ไม่มีผิดคนอย่างแกไม่เคยทำอะไรดี ๆ กับเขาเป็น แกจะไปทำชั่วทำเลวที่ไหนก็ไป ฉันไม่มีลูกอย่างแกออกจากบ้านฉันไป’ เสียงก่นด่านี้ดังในหัวเขามานาน ตั้งแต่เขาเสียแม่ไปเขาก็ถูกด่าแบบนี้มาตลอด เขาเหมือนไม่ใช่ลูกพ่อจริง ๆ เขาเด็กที่เก็บมาเลี้ยง
วันนี้ก็เช่นกัน เขากลับมาจากข้างนอก หลังจากที่ไปดื่มกับเพื่อนๆตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้พ่อไม่ได้ไปทำงานแต่นั่งรอเขาที่โซฟารับแขก ใบหน้าอีกฝ่ายดูไม่ดีนัก เหมือนคนไม่ได้นอน แต่เขาจะสนใจทำไม
“ยังรู้เหรอว่าต้องกลับบ้าน” เสียงของชนะดังมาจากห้องโถง ชายวัยกลางคนในชุดลำลองเอ่ยถามลูกชายที่เดินเข้ามาในบ้าน สภาพดูไม่ได้สักนิด
“พ่อมีอะไรดีกว่า”
“อ๋อ นี่แกยังรู้ว่าฉันเป็นพ่อแกอยู่นี่ ฉันนึกว่าแกเป็นเด็กเหลือขอที่เก็บมาเลี้ยงซะอีก! วัน ๆ หาแต่เรื่อง” ชนะมองสภาพลูกชายที่มีแต่กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ติดตัว จนเขาต้องเบือนหน้าหนี
“ผมเป็นลูกพ่อนั่นแหละถูกแล้ว เป็นลูกชังที่พ่อไม่สนใจไง” ภาพฟ้าทำหน้าเย้ยหยันอีกฝ่าย
“มีลูกอย่างแกน่ะ เหรอฟ้า..." เสียงพ่อเว้นระยะก่อนจะมองเขาด้วยหางตา พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันไม่มียังดีกว่า” ชนะเอ่ยออกมาด้วยความโมโห เขารู้ว่าตัวเองไม่มีเวลาเลี้ยงลูก และตอนนี้พวกเขาสองคนก็มาถึงจุดที่เดือดกันทั้งคู่ ชนะจึงเอ่ยความในใจออกมา
ภาพฟ้ามองหาพ่ออย่างตกตะลึง พ่อไม่เคยพูดจาแบบนี้กับเขา ถึงแม้เราจะเถียงกัน ทะเลาะกันขนาดไหนก็ตาม แต่วันนี้คงถึงจุดเดือดของอีกฝ่าย พวกเขาจ้องหน้ากันไม่วางตา และเป็นภาพฟ้าที่ทนไม่ไหวเบือนหน้าหนีไปเสียก่อน
“เคยคิดว่าผมเป็นลูกบ้างหรือเปล่า” ภาพฟ้ามองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย คำถามที่เอ่ยออกมาแทบไม่ได้ยิน ชนะมองลูกชายอย่างตะลึง แต่ก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา
ภาพฟ้ามองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาเรียบนิ่ง ในแววตาไม่ปรากฏถึงความเจ็บปวดแต่อย่างไร มีแค่เจ้าตัวที่รู้ดีว่าตัวเองเจ็บเจียนตาย เขาแทบพยุงกายสูงไว้ไม่อยู่ ภาพฟ้าคิดว่าตัวเองต้องไปจากตรงนี้ ร่างกายสูงโปร่งของภาพฟ้าหมุนตัวเตรียมขึ้นห้องไปนอนพัก เขาไม่อยากทะเลาะกับพ่ออีกแล้ว เขาเหนื่อยมามากพอแล้ว แต่เหมือนชนะยังคุยกับลูกชายไม่จบ เขาเอ่ยปากถึงเรื่องที่ตัวเองต้องมานั่งรออีกฝ่าย
“ต่อไปนี้แกจะต้องไปอยู่บ้านเพื่อนฉันที่ต่างจังหวัด”
“....”
“ไปหางานทำที่โน่นซะ เพื่อนฉันปลูกอ้อยกับทำการเกษตร” ชนะมองแผ่นหลังยืดตรงของภาพฟ้า เขาต้องจัดการกับลูกชายหัวดื้อคนนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปคงลำบาก ภาพฟ้าคอยแต่ผลาญเงิน ทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายไปวัน ๆ เพื่อประท้วงเขา
ภาพฟ้ายืนเอามือลูบหน้าตัวเองแรง ๆ ให้สร่างเมา เขาคิดว่าตัวเองได้ยินผิด ทำไร่ทำการเกษตรบ้าบออะไร ใครมันจะไปทำงานตากแดดแบบนั้นกันวะ อีกอย่างทั้งชีวิตนี้เขาทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง
“ผมไม่ไป”
“ฉันไม่ได้บอกจะให้แกเลือก แต่ฉันหมายความว่าแกต้องไป!”
“แล้วก็จำใส่หัวไว้ด้วยนะฟ้า ถ้ายังไม่เลิกทำตัวล้างผลาญมรดกที่แม่แกทิ้งไว้ให้ สักวันมันจะไม่เหลืออะไรเลย ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันบอก ก็อย่าหวังจะได้กลับมาเหยียบที่นี่อีก” ชนะยื่นคำขาดให้ลูกชาย เขาหมดความอดทนแล้วจริง ๆ เขากลัวว่าตัวเองจะตายก่อนลูกไม่รักดีคนนี้จริง ๆ
“ไม่ได้นะพ่อ! พ่อก็รู้ว่าผมทำไม่ได้ไง”
“แกอยากให้ฉันสนใจไม่ใช่เหรอ แกก็ไปทำตามที่ฉันบอกสิ ทำให้ฉันเห็นว่าแกมันมีอะไรดี” ชนะกอดอกมองลูกชายด้วยสายตาท้าทายแกมดูถูกอยู่ในที
"ได้ ผมจะทำให้พ่อเห็นว่าผมทำได้มากกว่านี้อีก" ภาพฟ้าตอบตกลง เขาเกลียดการดูถูก เกลียดการพูดจาของพ่อที่สุด หรือเขาจะหนีออกไปจากบ้านนี้ให้มันพ้น ๆ ไป
"ดี ฉันจะได้สบายใจสักที ไม่มีแก ฉันจะอายุยืนกว่านี้แน่นอน" ชนะพูดจบก็หัวเราะเดินกลับไปนั่งที่โซฟารับแขกเหมือนเดิม ไม่สนใจลูกชายอีก
ภาพฟ้าทำอะไรไม่ได้อีก หมุนกายเดินขึ้นไปชั้นบนไม่เหลียวหันมามองด้านหลังอีก เพราะเขากลัวว่าจะตัดใจจากไปไม่ได้ ที่เขาต้องไปก็เพราะเขาไม่อยากให้ครอบครัวพังลง และเขาก็อยากให้พ่อเห็นว่าเขาทำได้มากกว่านี้ เขาจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าลูกคนนี้ทำได้ ไม่ต้องอาศัยเงินพ่ออย่างเดียวแน่นอน
หลังวันนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกจากบ้านที่ร้อนรุ่มดั่งไฟสุ่ม ไปยังไร่ที่เขาไม่รู้จัก เจอคนที่ไม่รู้จัก แต่เขาก็ยังรู้สึกดีกว่าเมื่อได้อยู่ที่นี่
ไร่ทิศเหนือ...
มีเจ้าของไร่ปากหมายิ่งกว่าอะไร แต่ก็… ใจดีกับเขากว่าใคร ๆ
เวลาผ่านไปเกือบปีที่เขามาอยู่ที่ไร่ คนเป็นพ่อไม่เคยย่างกรายเข้ามาเหยียบที่แห่งนี้ ทำราวกับชีวิตนี้ไม่เคยมีลูกคนนี้อยู่ในชีวิตแล้ว
ร่างบางยืนกอดอกมุมปากยิ้มอย่างเย้ยหยันให้ตัวเอง ทำแทบตายสุดท้าย ไม่เคยได้อะไรกลับมา แม้แต่คำพูดเอ่ยปากชมเล็กน้อยก็ไม่มี
ภาพฟ้ายืนอยู่บนสะพานแห่งหนึ่ง ดวงตาสีดำขลับมืดมิดมองไปยังแม่น้ำสายหนึ่งอย่างไร้จุดหมาย สายลมพัดแรงปะทะร่างกายสูงโปร่ง ทำให้ผมยาวที่รวบไม่เรียบร้อยปลิวตามลม แต่ก็ไม่อาจทำให้คนที่ยืนคิดอะไรเงียบ ๆ หงุดหงิดอะไร
“ถ้าโดดลงไปจะตายไหมน้า” ภาพฟ้าพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน
“จะตายไหมกูไม่รู้ แต่ถ้าอยากรู้ก็ลองโดดลงไปสิ” ทว่ากลับมีเสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา ภาพฟ้าหมุนตัวหันกลับไปมองก็เห็นว่าคนพูดเป็นใคร
“อ้าว ไม่โดดเหรอ แหม่ กูอุตส่าห์คิดว่าจะได้เก็บศพคน”
‘เก็บศพพี่มึงอะดิ’ ภาพฟ้าต่อว่าอีกฝ่ายในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา เขาจ้องมองคน ปากหมา แต่เขารู้ว่าอีกคนนั้นไม่ได้ตั้งใจปากหมาหรอก แค่อยากให้เขาสบายใจขึ้นแค่นั้น
“มองหน้าแบบนี้ เดี๋ยวกูจูบปากแตกเลย”
‘กวนตีน’ ภาพฟ้าด่าอีกฝ่ายในใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมายืนมองแม่น้ำเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเดิม ไม่เหงา ไม่อ้างว้าง ไม่โดดเดี่ยว ตั้งแต่ที่มีผู้ชายปากหมาแต่ใจดีคนนี้ และไม่คาดฝันว่าจะมีคนคนนี้อยู่เคียงข้างในอนาคตข้างหน้า
“ฉันรู้มาว่า คุณไม่ชอบดารา แต่สิ่งที่คุณทำกับฉันในตอนนี้คืออะไร” “ผมไม่ชอบดาราก็จริง แต่สิ่งที่ผมชอบคือคุณนั่นจริงกว่า และยิ่งชอบมากที่สุดคือ รสจูบของคุณ”
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!