เธอแอบชอบเขา ไม่คิดว่าเขาเองก็จะแอบชอบเธอเหมือนกัน
ซีรีส์ระทวย
เล่ม 1 ระทวย
“อ่ะ อ๊า... น้าปราบขา หนูเกดจะเสร็จแล้ว”
ปราบชัยมองร่างอวบอัดที่กำลังนอนถ่างขาอยู่บนเตียงช่วยตัวเองให้ถึงจุดสุดยอดด้วยสายตาวาบหวาม
เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องเข้าไป ในขณะที่เด็กสาววัยสิบแปดกำลังเขี่ยติ่งแดงฉ่ำกลางกายไปมา เธอถึงกับผวา หยิบผ้าห่มมาคลุมร่าง
ชายหนุ่มกดล็อกประตูห้องทันที การะเกดอ้าปากค้างเมื่อเห็นน้าชายมองเธอตาไม่กะพริบ
ปราบชัยเป็นน้องชายของมารดาเลี้ยง จึงมีศักดิ์เป็นน้าของเธอ บิดามีภรรยาใหม่ หล่อนเป็นคนน่ารักและแสนดี เธอเลยไม่มีปัญหากับมารดาเลี้ยง
แต่บิดากับมารดาเลี้ยงชอบทำอะไรให้เห็น สวีตหวานกันจนเธอเห็นบ่อยๆ ด้วยอารมณ์ทางเพศที่พลุกพล่านเธอเลยต้องเก็บมาช่วยตัวเองบ่อยๆ จนกระทั่งปราบชัยย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเพื่อมาช่วยงานบิดา เธอก็แอบชอบเขา ฝันถึงเขาบ่อยๆ เวลาช่วยตัวเอง
“หนูเกดครางชื่อน้า”
ปราบชัยเป็นหนุ่มวัยสามสิบห้าปีที่หล่อเหลาคมเข้ม เขาดูไม่แก่สักนิด ใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุเยอะมากอาจเพราะเขาค่อนข้างดูแลตัวเองดี
“หนูเกด...”
เธออึกอัก ใช้ผ้าห่มปิดป้องเรือนร่างขาวอวบอัด
“ให้น้าช่วยไหม หนูเกดจะได้สบายตัว เมื่อกี้น้าไม่ได้ตั้งใจจะมาขัดจังหวะ ทำให้หนูเกดไม่เสร็จ”
“หนูๆ เอ่อ.. คือว่าหนู”
การะเกดเขินอายหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตาคนที่ขยับกายแทรกขึ้นมาบนเตียง
“ช่วยตัวเองบ่อยเหรอครับ”
ปราบชัยดึงผ้าห่มที่คลุมกายเด็กสาวออก เธอผวายะเยือก หน้าแดงก่ำ
ชายหนุ่มมองหลานสาวนอกไส้ด้วยดวงตาหวามลึก เขาเห็นเธอครั้งแรกแล้วอยากได้ ไม่เคยคิดอยากได้เด็กสาวคนไหนเท่านี้มาก่อน
การะเกดอวบอัดนมใหญ่ ก้นใหญ่ เอวคอด น่ากระแทก ผิวของเธอขาวจัด ปากแดงอย่างลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี เธอเป็นคนสุขภาพดีด้วย
เขาเห็นเธอสวมชุดว่ายน้ำออกกำลังกายในบ้านออกบ่อย แล้วต้องหนีไปช่วยตัวเองเพราะอยากได้เด็กใจแทบขาด
พี่สาวห้ามปรามเอาไว้เมื่อเห็นสายตาเขา เพราะไม่อยากให้ผิดใจกับสามี แต่เขาอยากได้เธอจริงๆ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน มันก็เป็นโอกาสที่เขาจะสนองให้เธอหายอยาก ในเมื่อเด็กมันก็มองเขาแบบยั่วๆ ทอดสายตาให้ออกบ่อย
เด็กสาวเขินอายไม่กล้าตอบ เขาเลยจับเธอกดไปกับเตียงนอนกว้าง เธอมีท่าทีขัดขืนเพียงเล็กน้อยก่อนจะยอม
ชายหนุ่มจับขาของเด็กสาวถ่างออก เห็นความเปียกชุ่มตรงหว่างหว่างขาจากการช่วยตัวเองของเธอ
เขาก้มลงสูดดมกลิ่นหอมของน้ำรัก ก่อนจะตวัดลิ้นช่วยเลียให้เบาๆ
“เดี๋ยวน้าช่วยให้หนูเกดเสร็จนะครับ”
เด็กสาวไม่ตอบแต่เขาก็รู้ว่าเธอยอมเขา ตั้งแต่ให้จับแยกขาออกแล้วล่ะ
ปราบชัยแตะลิ้นลงไปลามเลียกลีบกายสาวอีกครั้ง เธอดิ้นพล่านเมื่อโดนลิ้นร้อนระอุเป็นงานของเขา มือบางจิกเขาในกลุ่มผมดกหนารั้งให้เขากดใบหน้าลงมาแนบชิด
ชายหนุ่มตวัดลิ้นเลียหนักๆ ห่อลิ้นสอดแทรกแล้วใช้นิ้วแกร่งขยับเข้าไปในถ้ำสวาส เธอดิ้นพล่านสั่นสะท้าน หยัดกายสาวให้เขาอย่างร่านร้อน
“แค่นิ้วกับปากหนูเกดคงไม่พอกระมัง”
ปราบชัยผละออกห่าง เธอผวาตาม ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ มองคุณน้าสุดหล่อที่กำลังเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกาย เธอมองลำกายใหญ่โตของเขาที่พองตัวอยู่ในอุ้งมือ เขารูดรัดไปมาก่อนจะขยับมาที่หว่างขาของเด็กสาว
“ให้น้าเอาสดนะ”
เธอพยักหน้ากลืนน้ำลายติดกันหลายครั้ง รอคอยด้วยความปั่นป่วนหัวใจ ปราบชัยคุกเข่านั่งบนส้นเท้าตัวเอง ก่อนจะลากส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับร่องสวาท
“อื้อ...”
การะเกดร้องคราง เธอขมิบตอดรัดเมื่อเขาค่อยๆ กดกายใหญ่โตเข้ามาหา
“น้าปราบ!”
การะเกดสะท้านเธอเรียกเขาเสียงสั่น คุณน้าหนุ่มค่อยๆ ขยับสะโพกอย่างเชื่องช้าไม่รีบร้อน มองเด็กสาวที่ซูดปากรับด้วยความเสียวด้วยสายตาล้ำลึก
“อ๊า...”
การะเกดเด้งสะโพกรับเมื่อเขากดลำกายใหญ่โตเข้ามาในร่องสวาทจนเกือบสุด เธอผวาเฮือก กอดเขาด้วยความเสียวซ่าน
ปราบชัยแช่กายนิ่ง เขาค้ำมือไปกับเตียงนอนกว้างข้างกายเด็กสาว อ้าปากค้างด้วยความเสียวที่ท่อนลำใหญ่โตโดนเด็กสาวบีบรัดทุกทิศทาง
ใบหน้าหล่อเหลาเหยเก ลมหายใจฟืดฟาดเส้นเลือดปูดโปนเพราะความเสียวที่ได้รับจากกายสาวที่ตอดขมิบถี่ๆ เหมือนเร่งเร้าให้เขาขยับเสียที
เธอขยับกระตุ้นเพราะเพราะความอึดอัดเสียวซ่านที่ได้รับจู่โจมอย่างหนัก
“ช่วยตัวเองแล้วทำไมต้องครางชื่อน้าล่ะ”
เขาเอ่ยถาม เธอเผยอปากหอบสะท้าน เขาเลยตรงเข้าไปบดจูบเสียดูดดื่มเริ่มกระแทกกายเข้าออกในร่องสวาทที่ตอดรัดทุกจังหวะรัก
“หรือว่าอยากโดนน้ากระแทก”
เขายังซอยกายไม่หยุดหย่อน คำถามที่ไร้คำตอบ แต่ปฏิกิริยาทางกายนั้นล้ำลึกมิดเม้นเธอเด้งสะโพกรับการกดกายของเขาทุกจังหวะไม่ล่าถอย
ปราบชัยครางเสียงหนัก ยิ่งกระแทกหนักหน่วงขึ้นจนได้ยินเสียงโหนกเนื้อดังสนั่นลั่นห้อง เธอหยัดสะโพกรับอย่างร่านร้อน ปากร้องครางเสียวซ่าน
“หนูเกด อ๊า...”
ชายหนุ่มยึดสะโพกผายเอาไว้แล้วกระแทกหนักหน่วงขึ้นจนร่างอวบสั่นคลอน
กายชายผลุบเข้าหายในช่องทางรักจนมิดเม้น เสียงน้ำรักฉ่ำแฉะไหลซึมเปรอะไปทั่วเตียงนอนกว้าง ยิ่งเสียดสีร่างกายเข้าหากัน หนุ่มสาวยิ่งโยกคลอนรุนแรงขึ้น
“หนู... หนูเกดจะถึงแล้วค่ะคุณน้า”
เธอร้องครางเสียวซี๊ดเสียว หยัดกายรับท่อนเนื้อที่อัดกระแทกเข้ามาถี่ยิบ ปราบชัยอ้าปากค้าง ครางเสียงหนัก กดกายในร่องสวาทมิดด้าม
“อ๊า...”
สองเสียงครางพร้อมกัน กระตุกร่างสั่นระริก ปราบชัยปลดปล่อยน้ำรักท่วมร่างอวบที่ยกสะโพกขึ้นมาเบียดอัดเขาแนบแน่น
สองร่างทิ้งกายลงนอนกอดกันกลม ลมหายใจร้อนผ่าวหอบสะท้านประสานกันระงม
ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นจากอกอวบ เขาบดจูบเด็กสาวอย่างดูดดื่มเธอเผยอปากรอคอย กอดรัดเขาแนบแน่นรัดรึง
ปราบชัยดึงกายออกจากร่างอวบอัดหลุดออกมาดัง พล่อก น้ำรักไหลท่วมร่องรัก เขาหยิบทิชชูมาเช็ดให้เบาๆ เธอร้องซี๊ด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
ชายหนุ่มขยับไปนอนเคียงข้าง เธอเลื่อนมือมากอบกุมท่อนกายของเขารูดเบาๆ
“เดี๋ยวมันตื่นอีกนะครับ”
“ดูเหมือนมันจะตื่นแล้วนะคะ”
การะเกดพูดเสียงเบา เด็กสาวนั้นภายนอกดูเป็นคนเรียบร้อย เหมือนลูกผู้ดีมีเงินทั่วไป ถ้าเขาไม่ได้เห็นกับตาว่าเธอช่วยตัวเองครางชื่อเขา เขาเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องเธอ เพราะบิดาของเธอค่อนข้างหวงอยู่มาก
“น้าทำให้เจ็บรึเปล่า” เขาเอ่ยถาม คลอเคลียเธออยู่ไม่ห่าง
“ไม่ค่ะ มันสะใจดี เสียวกว่าช่วยตัวเองอีก”
เธอกระซิบบอกเขา ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะเลื่อนลงไปเบื้องล่าง
“อ๊า...”
ปราบชัยครางเมื่อโดนเธอดูดท่อนเนื้อจนแก้มตอบ เธอไล้เลียไปทั่ว จนแก่นกายของเขาตื่นตัวอย่างรุนแรง
แล้วเด็กสาวร่างอวบหน้าหวานหยดก็ขยับมาคร่อมทับ ปราบชัยเห็นวแก่นกายของเขาค่อยๆ ผลุบหายเข้าไปในร่องสวาทของเธอ เมื่อเธอกดกายลงมาหา
“อ๊า...”
ทั้งสองครางพร้อมกัน ยามเมื่อร่างกายหลอมรวมเป็นหนึ่ง
เธอกดมือกับหน้าท้องของเขา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพก ใบหน้าสวยแหงนขึ้นไปด้านบนด้วยท่าทียั่วยวนชวนเสียว อกอวบอิ่มกระเด้งกระดอนขึ้นลงอย่างรัญจวนใจ
“มาให้น้าดูดนมหน่อยครับ”
เธอยิ้ม ไม่พูดอะไร แต่นาบร่างลงไปหา จับนมอวบป้อนให้เขาจนถึงปาก
“ถ้าน้าจะเข้ามานอนดูดนมก่อนนอนทุกคืนหนูเกดจะอนุญาตไหมครับ”
“แค่ดูดนมเองเหรอคะ”
“หนูเกดอยากให้น้าทำอะไรอีกล่ะ”
“อยากให้ทำแบบนี้ค่ะ”
หลังประโยคของเธอ สาวน้อยเริ่มขย่มบนตอเนื้อจนได้ยินเสียงครางหนักๆ ของคนใต้
ปราบชัยบีบสะโพกผายอวบใหญ่ของหลานสาวนอกไส้แน่น เขากระแทกขึ้นไปหาหนักหน่วง พร้อมกับที่เธอกดกายลงมาจนมิดเม้น รับรู้ได้ถึงแก่นกายที่เข้าไปแทรกลึกอยู่ในตัวเธอ
ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”
โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน
เธอแอบรักเขา จึงยอมเขาทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่เธอตั้่งท้อง เธอต้องเลือกระหว่างการทนอยู่กับคนที่ไม่รัก หรือจากไปพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"