“ป้ากวา ป้ากวาคะ” ฉันจอดจักยานของตัวเองพร้อมคว้าปิ่นโตหน้ารถมาไว้ในมือจากนั้นก็เดินขึ้นเรือนทรงไทยมาถึงระเบียงที่ถูกออกแบบในยื่นเยื้องออกไปเพื่อรับกับวิวพื้นไร่ชากว่าหลายร้อยไร่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับเลย “ป้ากวาคะอยู่มั้ยแม่ให้น้อยเอาแกงฟักมาให้ค่ะ”
ฉันจึงเดินเข้าไปอีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นครัวที่ถูกแบ่งออกจากกันอย่างชัดเจนตรงที่ฉันยืนเป็นครัวแบบฝรั่งว่าในขณะที่วางปิ่นโตเสียงอะไรไม่รู้ดังมาจากห้องอีกฝั่งดังตึ่ง
“ปะ ป้ากวาคะ น้อย...” คนที่ยืนปะจันหน้าไม่ใช่ป้ากวาแต่เป็นผู้ชายตัวสูงโปร่งมีรอยสักเด่นออกมาจากเสื้อเชิ้ตดำท่าทางดูง่วงมากถึงมากสูด “พี่เป็นใคร เข้ามาบ้านคนอื่นได้ยังไงกัน ขโมยเหรอ!”
“…” เขาไม่ตอบแต่กับกอดอกยืนยิ้มเหมือนคนบ้าวินาทีนั้นฉันคว้าไม้กวาดมากะเป็นอาวุธ
“นี่บ้านป้ากวานะ ขโมยอะไรป้ากวาเอาตายเลย”
“…” เขาเปลี่ยนนัยน์ตาเป็นเรียบเฉยแต่จ้องฉันไม่วางสายตา
“ตกลงเป็นใคร พี่เป็นใคร”
“โตขึ้นเยอะเลย”
“ต้องเป็นคนบ้าแน่ๆ”
“เป็นลูกกวางของเธอไงยัยเด๋อ”