เพราะหลงใหลในเรื่องเล่าในหมู่เงือกสาวว่าการรักกับมนุษย์ที่อยู่เบื้องบนผืนน้ำเป็นสิ่งที่ดีที่สุดราวกับของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ ทำให้ ‘อควา’ เงือกสาววัยกำดัดมีความฝันอยากจะมีชีวิตเฉกเช่นมนุษย์อย่างที่เงือกรุ่นพี่ทำกัน ครั้นได้ยินว่าที่ใต้ทะเลลึกลงไปมีถ้ำของพ่อมดทะเลอยู่ นางก็ไม่รอช้าที่จะพาตนเองไปร้องขอ ‘ขา’ แทน ‘หาง’ ที่มีอยู่โดยพลัน หากแต่การได้มาซึ่งขามันต้องแลกด้วยสิ่งสำคัญอย่างที่นางคาดไม่ถึงเมื่อพ่อมดทะเลอย่าง ‘ครูซ’ บอกกับนางว่าสิ่งที่เขาอยากได้ก็คือ ‘พรหมจรรย์’ ของนาง หาใช่เสียงอย่างที่เงือกสาวตนอื่นๆ แลกเปลี่ยน จะว่าไร้เดียงสาก็ใช่ แต่ค่อนไปทางโง่งมมากกว่า อควาอยากเป็นภรรยามนุษย์มากเสียจนยอมทำสัญญาแลกเปลี่ยนนั้น ก่อนที่จะตกเป็นของครูซด้วย...ความเต็มใจ ไม่ผิดแน่...มันคือความเต็มใจ ขณะที่เขาก็ใช้ทุกมนตร์คาถาล่อหลอกให้นางจมดิ่งสู่ห้วงแห่งเสน่หา โดยที่อควาไม่รู้ตัวเลยว่าความตั้งใจของนางถูกสั่นคลอนด้วยฝีมือของพ่อมดทะเลแสนโดดเดี่ยวผู้นั้น ‘ข้าอยากมีขา เพราะข้าอยากมีความรักกับมนุษย์’ นางตอกย้ำความตั้งใจของตัวเองให้ครูซได้ครุ่นคิด อยากมีขาเพราะอยากมีความรักกับมนุษย์อย่างนั้นหรือ? เขาไม่เข้าใจหรอก ไม่มีวันเข้าใจความปรารถนาบ้าๆ ของนางด้วย นอกเสียจากความปรารถนาของตัวเองที่หมายจะยึดนางเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ความฝันของเขาก็คือนางแต่ผู้เดียว...
มีตำนานหนึ่งถูกเล่าขับขาน เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนางเงือกสาวกับมนุษย์หนุ่มที่ครองคู่กันอย่างมีความสุข เหตุนั้นเกิดมาจากที่นางเงือกตนนั้นไปเที่ยวเล่นบนผืนน้ำ และบังเอิญได้ช่วยมนุษย์หนุ่มผู้นั้นจากเหตุการณ์เรือแตก
เพราะความงามของมนุษย์หนุ่มที่หล่อเหลาเกินกว่าเงือกชายตนใดจะทัดเทียม ทำให้นางเงือกตนนั้นตกหลุมรักเขาไปหมดทั้งหัวใจ พลันก็นึกอยากเปลี่ยนหางปลาที่เต็มไปด้วยเกล็ดนั้นเป็นขา เฝ้าฝันที่จะมีชีวิตเยี่ยงมนุษย์และเดินทอดน่องบนชายหาดกับชายอันเป็นที่รัก
ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของนางทำให้นางต้องรวบรวมความกล้าแล้วว่ายด่ำดิ่งสู่ท้องทะเลอันมืดมิดซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้บาดาลเพื่อพบกับใครบางคนที่นางรู้ดีว่าจะช่วยให้นางสมหวังดั่งตั้งใจได้
ใครคนนั้นก็คือ...พ่อมดทะเล
ว่ากันว่าพ่อมดทะเลผู้นั้นเก่งกาจเรื่องปรุงยาสารพัด มีความรู้ทางอำนาจมนตรามากมาย หากทว่ากลับอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเป็นที่รังเกียจของเหล่าฝูงเงือกที่คิดว่าตนนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามและสูงส่งกว่า กระนั้นเงือกตนนั้นก็หาได้สนใจไม่ เป้าหมายของนางยิ่งใหญ่กว่าความหวาดกลัว
ครั้นไปถึงยังถ้ำที่อยู่ของพ่อมดทะเลตนนั้น นางก็ไม่รอช้าที่จะบอกความปรารถนาของตนออกไป พ่อมดทะเลยอมตกลงช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไข ซึ่งนั่นก็คือหากนางอยากได้ขา ก็ต้องแลกกับสิ่งที่นางคิดว่ามีค่าที่สุดของตัวเอง และมัน...ก็คือเสียง
เงือกตนนั้นมีเสียงที่ไพเราะสวยงามจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเทพธิดาแห่งเสียงเพลง แน่ล่ะว่านางเป็นเงือกที่มีหน้าที่ขับร้องในพระราชวังเงือกให้เหล่าราชนิกูลเงือกได้สดับรับฟังกัน สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของนางแล้ว
‘ท่านเอาอย่างอื่นไปไม่ได้หรือ? หากข้าไร้เสียง ข้าจะพูดคุยกับชายที่ข้ารักได้เช่นไร’
‘ข้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุดของเจ้า หากเจ้าไม่ตกลง ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องช่วยเหลือ’
ที่ใครต่อใครว่าพ่อมดทะเลใจดำและเห็นแก่ตัวนั้นคงเป็นเรื่องจริง แม้นางจะต่อรองให้เขารับเอาอย่างอื่นไป แต่เขาก็ยืนยันว่าจะเอาเสียงของนางให้จงได้
แล้วเงือกสาวตนนั้นมีทางเลือกอื่นหรือ?
ความรักบังตาทำให้เกิดความโง่งม นางยอมแลกเสียงอันไพเราะของตนกับขามนุษย์จนได้ แต่นั่นก็หาใช่การสิ้นสุดเมื่อพ่อมดทะเลยื่นเงื่อนไขหลังจากนั้นมาว่า...
‘หากเจ้าไปขาไปแล้วเจ้าไม่ได้แต่งงานกับมนุษย์คนใดภายในเจ็ดวัน เจ้าจะต้องตายและกลายเป็นฟองคลื่น ไม่สามารถกลับสู่ทะเลได้อีก’
ช่างโหดร้ายนัก!
ถึงอย่างนั้นเงือกตนนั้นก็ยินยอมที่จะเสี่ยง เมื่อได้รับยาที่ปรุงมาแล้ว นางก็ขึ้นไปเหนือผิวน้ำ ดื่มยาและแปรเปลี่ยนหางกลายเป็นขาตามที่ใจหมาย
ทว่า...น่าเสียดายนักที่นางหาได้พบเจอชายคนที่นางช่วยเหลือเอาไว้ แต่กลับพบกับชาวประมงอ้วนล่ำ หน้าตาไม่ชวนให้หลงใหลที่บังเอิญมาพบนางเข้า
เหมือนกับว่าความฝันของนางไม่สมประสงค์ ถึงอย่างนั้นนางก็จำต้องแต่งงานกับชาวประมงคนนั้นโดยไม่เต็มใจเพื่อที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ หากทว่า...เมื่อแต่งงานไปแล้ว นางกลับพบว่าการได้แต่งงานกับชาวประมงคนนั้นหาใช่เรื่องไม่ดีแต่อย่างใด มันดีมาก! ราวกับสวรรค์ประทานพรมาให้ เพราะชาวประมงคนนั้นมอบความรักมากมายให้นางอย่างไม่รู้จบแม้ว่านางจะเป็นหญิงใบ้ จนทำให้เงือกตนนั้นตกหลุมรักสามีตัวเองทีละน้อยๆ จนมีลูกน้อยให้เขาหลายคน และค่อยๆ กลายเป็นภรรยาแสนดีให้เขาในครอบครัวเล็กๆ อันสงบสุข
นี่เป็นสิ่งที่นางคิดไม่ผิดเลยที่แลกเสียงกับขาของมนุษย์...
เรื่องราวของนางถูกถ่ายทอดสู่เงือกสาวรุ่นสู่รุ่น ทำให้เหล่านางเงือกนั้นเฝ้าเพ้อฝันและพูดถึงความรักที่ได้จากมนุษย์เพศชายบนบกไม่เลิกรา
อย่างตอนนี้ก็เช่นกันที่ ‘อควา’ ฟังเรื่องเล่าจากเงือกสาวรุ่นพี่อย่างตั้งใจ เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องความรักระหว่างเงือกกับมนุษย์อย่างเดิมๆ ที่นางเคยได้รับฟังมา แต่ถึงจะฟังมากี่หนต่อกี่หน นางก็ชอบฟังอยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องความรักของชายชาวประมงคนนั้นที่มีต่อภรรยาอย่างหาที่สุดไม่ได้
อา...มันช่างชวนให้เคลิ้มฝันเสียจริง ทำเอาอควาตาเยิ้มและเฝ้าฝันที่จะมีความรักอย่างนั้นเข้าสักวันด้วยความจริงจังเลยทีเดียวล่ะ
“และนางก็มีลูกมากมายให้เขา ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขบนริมหาด...เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้”
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"