เพราะเคยรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งหนึ่งเมื่ออายุสิบสามขวบ ‘เจ้าขา’ ก็จำหน้าตาของคนช่วยชีวิตได้แม่น ครั้นต้องหวนกลับมาพบเจอกันอีกในช่วงวัยใกล้เบญจเพส ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในความทรงจำก็หลั่งไหลวนเวียนในกายจนมิอาจที่จะลืมเลือนชายวัยกลางคนตรงหน้าไปได้ ขณะที่เขาซึ่งถูกเรียกว่า ‘คุณลุง’ พยายามที่จะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ชายคนเดียวกับที่เคยช่วยชีวิตของเจ้าขาเอาไว้ ไม่ใช่คนเดียวกันอะไรล่ะ เป็นคนเดียวกันชัดๆ เจ้าขาจำได้! อะไรไม่ว่า รูปร่างหน้าตายังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อยถึงจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วก็ตาม หากแต่ต้องช่วยชีวิตของหญิงสาวไว้อีกเป็นครั้งที่สอง คุณลุงจึงหมายที่จะเอาชีวิตของเจ้าขาเมื่อเธอรู้ความลับของเขาว่า ‘ไม่เจ็บและไม่ตาย’ ทว่า...เจ้าขารักชีวิตมากกว่าสิ่งอื่นใด การแลกเปลี่ยนชีวิตกับพรหมจรรย์จึงถือกำเนิดขึ้น ทุกอย่างควรจะจบลงแค่นั้น แต่ทว่าหญิงสาวกลับพบว่าหลังจากร่วมรักกับเขาอย่างร้อนแรงแล้ว คุณลุงกลับมีกำลังวังชาและคืนสู่วัยหนุ่ม ทิ้งความเป็นลุงไว้เบื้องหลังอย่างปาฏิหาริย์! รู้ความลับของเขาทั้งหมดอย่างนี้แล้ว มีหรือที่คุณลุงรูปงามคนนี้จะปล่อยเธอไปโดยง่าย วาสนานำพา หรือชะตาชักนำ ก็ยากจะหยั่งรู้ รู้แต่เพลิงราคะที่ลุกโชนขึ้นในคืนวันนั้นกลายเป็นบ่วงบาศพันธนาการให้ทั้งสองมิอาจแยกกันได้อีกแล้ว...
หลายปีมากแล้วที่หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปีอย่าง ‘เจ้าขา’ เห็นสิ่งที่ไม่ใช่คน ใช่ กำลังหมายถึงภูตผีปีศาจและดวงวิญญาณทั้งหลายนั่นล่ะ แต่การที่เธอมองเห็นดวงวิญญาณทั้งหลายได้นั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอมีอายุเข้าใกล้สู่เบญจเพสหรืออะไรหรอกนะ ทว่าเป็นเพราะเธอเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเกือบถึงแก่ชีวิตมาแล้วหนหนึ่ง
มีความเชื่ออยู่องค์ความเชื่อหนึ่งว่าใครก็ตามที่เคยเฉียดเข้าใกล้ความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเฉกเช่นมนุษย์เท่าไป ก็จะได้รับญาณพิเศษมา ซึ่งญาณนั้นจะทำให้มองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น และเจ้าขาเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่สามารถมองเห็น ‘สิ่งในโลกคู่ขนาน’ ที่ปรากฏเป็นอีกภพหนึ่งขึ้นมาได้
นั่นก็เพราะเธอรอดชีวิตนั่นล่ะ อันที่จริงแล้ว เจ้าขาไม่น่ารอดชีวิตมาเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากรถเก๋งที่เธอนั่งไปประสานงาเข้ากับรถสิบล้อที่ข้ามเกาะกลางมาพุ่งชนเข้าอย่างจัง เหตุการณ์ครั้งนั้นพรากเอาชีวิตของบุคคลที่เธอรักไปถึงสองคนด้วยนั้น นั่นก็คือพ่อและแม่ ส่วนเธอกลับรอดชีวิตมาแทบจะไร้รอยขีดข่วน ซึ่งสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับคนที่พบเห็นเป็นอย่างมากว่าเธอรอดมาโดยมีเพียงแผลถลอกและฟกช้ำดำเขียวเพียงเล็กน้อยได้อย่างไร
มีแต่เจ้าขาเท่านั้นที่รู้...
ในตอนที่เกิดเหตุนั้น เจ้าขาร้องเบิกตาโตด้วยความตกใจตามเสียงกรีดร้องของมารดา ก่อนที่จะรู้สึกราวกับว่ามี ‘ใครบางคน’ โผล่พรวดมาจากทิศทางไหนที่เธอก็ไม่อาจรู้ได้ เข้ามาโอบกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน ก่อนที่รถจะประสานงาเข้ากับรถสิบล้อเข้าเต็มแรง
เธอรอดชีวิตมาได้เพราะผู้ชายคนหนึ่งมาช่วยชีวิตเอาไว้...
เจ้าขาจำรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนั้นได้เป็นอย่างดี เขาเป็นชายวัยกลางคน ผมสีขาวดอกเลา มีหนวดเคราเฟิ้มคล้ายกับซานต้าคลอสที่เคยเห็นในภาพยนต์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อขึ้นมา เผยรอยสักที่เธอจำติดตาตั้งแต่แรกเห็นว่ามันเป็นลายอะไร แต่น่าแปลกที่เขากลับไม่ได้ดูแก่อย่างที่ควรจะเป็น ดูมีสไตล์มากกว่า คล้ายกับพวกนายแบบสูงวัยที่เคยเห็นทางอินเทอร์เน็ตอะไรประมาณนั้น
ซึ่งการจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ชายคนนี้ได้เป็นอย่างดีนั้นก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่เจ้าขาที่พยายามหาคำตอบเหมือนกันว่าในเสี้ยววินาทีที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เธอสามารถจำรายละเอียดของผู้ชายคนนี้ได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร
ความคิดนี้จะไม่หวนกลับมาเลยถ้าหากว่ากลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเธอไม่ชวนเธอมาร่วมขบวนบุญที่ต้องตระเวนไปทำบุญเก้าวัดรอบกรุงเทพมหานครในวันนี้
เจ้าขายืนมองชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมสีดอกเลาและมีหนวดเคราเฟิ้มดุจซานต้าคลอสยืนสูบบุหรี่อยู่บริเวณหน้าทางเข้าวัดลำดับที่เก้าซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่เธอมาทำบุญ หญิงสาวชะงักฝีเท้าด้วยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เด่นสะดุดตาในแวบแรกที่เห็น เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ท่าทางเหมือนกับพวกนายแบบตามนิตยสารไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่ว่าอายุของเขาดูจะเกินเกณฑ์มาตรฐานของนายแบบมากไปสักหน่อย กระนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจเท่ากับการได้เห็นใบหน้าของเขาเต็มสองตายามเขาผินหน้ามามอง
ความทรงจำในอดีตผุดพรายขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าขาอ้าปากค้าง ใจเต้นระรัวเร็วเมื่อตระหนักได้ว่าชายที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้านั้น มีลักษณะท่าทางและหน้าตาเหมือนกับคนที่เคยช่วยชีวิตเธอเมื่อสิบห้าปีก่อนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ขาถึงได้ก้าวเข้าไปหาเขาเสียอย่างนั้น ครั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้า ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว เธอก็เปล่งเสียงออกมาทันทีที่สายตาของเขาเหลียวมามองเธอ
“เอ่อ...คุณ...”
“...”
“ใช่คุณลุงหรือเปล่าคะ?”
เพราะไม่รู้ชื่อ เจ้าขาถึงได้ถามออกไปอย่างนั้นด้วยเธอเรียกผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอว่า ‘คุณลุง’ มาตลอด ขณะที่สายตาฉงนจากเจ้าของดวงตาคมจ้องมองมายังเธอจนหญิงสาวประหม่า
จู่ๆ ก็ไปถามว่าใช่คุณลุงหรือเปล่า ใครๆ ก็ต้องมองด้วยสายตาอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ
เจ้าขาสูดหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะถามออกไปใหม่
“เราเคยเจอกันหรือเปล่าคะ”
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!