ตั้งแต่คู่ชีวิตจากไปจนเข้าไปเกษียณ ‘ติยคุณ’ ไม่เคยเห็นบิดาเคยพูดเรื่องอยากจะมีแม่ใหม่ให้เขาเลยสักครั้ง แต่ไฉนจู่ๆ ถึงได้แต่งงานเอาในอายุหกสิบกว่า ซ้ำภรรยาใหม่ของพ่อยังเป็นแม่ม่ายลูกติดอีก ติยคุณจะไม่สนใจสักนิดถ้าความสุขของพ่อไม่ได้กระทบถึงสมบัติพัสถานที่ควรจะตกเป็นของเขาอย่างไร่ชาทางภาคเหนือ ‘ลานนาทยา’ ชื่อไร่ชาแห่งใหม่ที่ใช้ชื่อลูกเลี้ยงอย่าง ‘ลานนา’ มาตั้ง ทำให้ติยคุณหัวเสียมากเมื่อได้รู้ถึงที่มา เขาถึงกับต้องบินกลับจากอังกฤษเพื่อมาทำลายความสัมพันธ์ของ ‘ครอบครัวใหม่’ ที่เขาไม่ต้องการโดยเร็ว โดยเฉพาะ ‘น้องสาว’ ที่เขาไม่ต้องการซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโปรดของพ่อเสียเหลือเกิน “เธอกับแม่ก็แค่พวกงูพิษที่หวังจะมาชุบมือเปิบ เอาสมบัติจากพ่อฉัน อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้!” “นาไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะคะพี่ติ” “ใครพี่เธอ” “...” “ฉันถามว่าใครพี่เธอ!?” “ขออภัยค่ะคุณติ” แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ติยคุณโมโหได้อย่างไร เห็นหน้าซื่อตาใสอย่างนี้ มารยาสาไถขนาดไหน ทำไมคนอย่างเขาจะดูไม่ออกกัน เขาจะทำให้สองแม่ลูกคู่นี้เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านเขาไม่ทันเลย คอยดูเถอะ!
ชีวิตประจำวันของติยคุณยามอยู่ที่ลอนดอนค่อนข้างน่าเบื่อพอสมควร เลิกจากงานในฐานะอาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัย เขาก็มักจะพบปะลูกศิษย์เพื่อคุยงานวิชาการ หรือไม่ก็ไปเจอเพื่อนสมัยเรียนเพื่อสังสรรค์ตามประสาหนุ่มโสดวัยสามสิบกลางๆ อยู่บ้าง น่าเบื่อยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขาต้องอยู่คนเดียวในวันหยุดแล้วไม่มีอะไรทำ ซึ่งวันนี้ก็น่าจะเป็นอีกวันที่เขาต้องจมจ่อมกับความเบื่อหน่าย ถ้าหากว่าไม่มีสายเรียกเข้าจากประเทศไทยที่เขาไม่ได้รับสายมานานโทรเข้ามาล่ะก็ เขาคงจะเบื่อไปอีกเป็นอาทิตย์แน่
แต่...ความตื่นเต้นจากสายของป้าอิ่ม แม่บ้านที่อยู่กับครอบครัวเขามานานนั้นก็ตื่นเต้นเกินไปจนเรียวคิ้วเข้มของอาจารย์หนุ่มขมวดมุ่น สิ่งที่เขาได้ยินช่างไม่จรรโลงใจเอาเสียเลย ยิ่งถามย้ำว่าตนไม่ได้หูฝาด ใบหน้าเขายิ่งยับย่นจนเขาแทบไม่อยากมองตัวเองใจกระจกเวลานี้
“ตกลง...คุณพ่อแต่งงานใหม่จริงๆ เหรอ”
[จริงค่ะคุณติ]
“ป้าส้มแน่ใจนะ”
[ถ้าป้าไม่แน่ใจ ป้าไม่โทรมารบกวนคุณติอย่างนี้หรอกค่ะ คุณทัศน์ไปอยู่ที่เชียงรายไม่กลับมาหลายเดือนแล้ว ตอนแรกป้าก็คิดว่าไปพักผ่อนเฉยๆ เพิ่งมารู้เอาวันนี้ว่าจดทะเบียนสมรสไปเมื่ออาทิตย์ก่อน]
“...”
[คุณติได้ยินป้าไหมคะ]
“ได้ยินครับ...ชัดเจนดี”
[แล้ว...แบบนี้คุณติจะเอายังไงต่อคะ]
“ผมยังนึกไม่ออก”
นึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ ในหัวเขาอึงอลไปด้วยคำถามว่า ‘ทำไม’ นับครั้งไม่ถ้วน ครั้นคิดถึงใบหน้านิ่งเฉยของบิดาอย่างทัศดนัยที่มีให้เขาตลอดมาตั้งแต่ที่มารดาของเขาเสียชีวิต เสียงนั้นก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องสูดหายใจเข้าปอดลึกหลายต่อหลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนภาพความทรงจำเมื่อครั้งอดีตจะย้อนหวนกลับมาราวกับสายน้ำไหล
ตอนเขาอายุสิบหก มารดาผู้แสนใจดีเสียชีวิตหลังจากต่อสู้กับมะเร็งมานานนับปี การสูญเสียในครั้งนั้นทำเอาทั้งเขาและทัศดนัยแตกสลาย โดยเฉพาะกับทัศดนัยที่รักภรรยาสุดหัวใจ พอสิ้นภรรยาไป จากที่ไม่สนิทกับลูกชายคนเดียวอยู่แล้ว เขายิ่งเหินห่างมากขึ้นไปใหญ่ ความเสียใจถูกระบายออกด้วยการทำงานไม่หลับไม่นอน ด้วยคิดว่าการมีอะไรทำตลอดเวลาจะช่วยให้ลืมช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดลงไปได้ โดยไม่ได้คิดถึงจิตใจของติยคุณเลยว่าสำหรับเด็กหนุ่มที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นนั้น เมื่อไม่มีที่ให้พึ่งพิง มันเคว้งคว้างขนาดไหน มีเพียงป้าส้มเท่านั้นที่คอยดูแลไม่ห่างด้วยกลัวว่าติยคุณจะคิดสั้นทำอะไรโง่ๆ ลงไป
รอยร้าวระหว่างสองพ่อลูกเริ่มแยกจากกันมากขึ้นเมื่อทัศดนัยตัดสินใจส่งให้ลูกชายไปเรียนต่อที่อังกฤษ ติยคุณไม่เคยอยากจากบ้านหลังที่แม่เคยอาศัยอยู่ไปเลย เขายังคงอยากซึมซับกลิ่นอายของแม่ตราบนานเท่านาน แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งพ่อได้ เพราะทัศดนัยอ้างว่าติยคุณเก็บตัวจมปลักอยู่กับความเศร้าเสียใจมากเกินไป จนลืมสิ้นไปหมดว่าการเข้าสังคมเป็นอย่างไร การส่งเขาไปเรียนเมืองนอก เป็นการตัดสินใจที่ถี่ถ้วนดีแล้ว ไม่อย่างนั้นพฤติกรรมของเขาจะส่งผลต่อตัวเขาเองในอนาคตอย่างแน่นอน
ไม่มีใครคัดค้าน ล้วนแล้วมีแต่จะเห็นด้วย ติยคุณไม่เคยเข้าใจหรอก เพิ่งมาเข้าใจตอนเข้ามหาวิทยาลัยว่าพ่อหวังดีเพราะเขาหลุดพ้นจากทุกข์นั้นลงได้ เรียกง่ายๆ ว่าปล่อยวาง แม้ว่าเขากับพ่อยังไม่สนิทกันเหมือนเดิมก็ตาม ทว่าทัศดนัยทำหน้าที่พ่อได้ดีในด้านของการศึกษาและสนับสนุนให้เขาได้เติบโตในด้านต่างๆ ตามสิ่งที่เขาชอบ ไม่เคยบังคับฝืนใจอะไร ต่อให้ตอนนี้เขาไม่อยากกลับมาไทย ก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร ให้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างอิสระเต็มที่ รวมถึงไม่เคยคิดจะมีแม่ใหม่ให้เขาด้วย
สิ่งนั้นติยคุณถือว่าเป็นการแสดงซึ่งความรักที่พ่อมีต่อเขา แต่ตอนนี้...ทำไม...ทำไมกัน ทำไมจู่ๆ ชายที่อายุเลยวัยเกษียณแล้วถึงได้อยากมีความรักขึ้นมา ถึงขั้นไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้โดยไม่บอกเขาเลยสักคำ!
ติยคุณไม่อยากโวยวายหรอก เขาโตมากพอที่จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ที่ทัศดนัยใช้ชีวิตมาจนถึงตอนนี้ เท่ากับว่าก็อดทนมามาก เขาจะใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการเพื่อมีความสุขในบั้นปลายชีวิตก็ไม่แปลก ทว่า...ต้องไม่ใช่ใครก็ไม่รู้โดยไม่ผ่านการสอบประวัติโดยติยคุณอย่างนี้!
ยอมรับตามตรงเลยว่าติยคุณระแวงว่าแม่ใหม่ของเขาจะมาฮุบเอาสมบัติไป ใช่ว่าเขาระแวงว่าตนจะไม่ได้รับมรดกจากพ่อหรอกนะ สิ่งที่พ่อเขาสร้างมากับแม่มันเยอะจนเขารู้สึกว่าต่อให้ทัศดนัยเอาไปบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ เขาก็ยังได้รับสมบัติชนิดที่ว่ากินอยู่สบายไปตลอดชีวิตอยู่ดี เพียงแต่จู่ๆ มีคนมาชุบมือเปิบไปอย่างนี้ เขาไม่ยอมหรอก
ที่รู้ว่าสองแม่ลูกนั้นชุบมือเปิบเพราะพ่อเขานำเอาชื่อของลูกเลี้ยงมาตั้งเป็นชื่อไร่ชาแห่งใหม่จากคำบอกเล่าของป้าส้ม
ไร่ลานนาทยา...ชื่อก็เพราะดี แต่มันต้องไม่ใช่ไร่ชาของครอบครัวเขา!
คิดได้เท่านี้ ติยคุณพลันเผลอขบกรามแน่น ได้สติอีกทีเมื่อเสียงจากปลายสายดังขึ้น
[ถ้าอย่างนั้น ป้าไม่รบกวนแล้วค่ะคุณติ ป้าแค่โทรมาบอกข่าวค่ะ]
สิ้นเสียงก็ทำท่าจะวางสายไป หากแต่ติยคุณกลับตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้กะทันหัน
“ผมจะกลับไทยอาทิตย์หน้าครับ รบกวนป้าส้มเตรียมห้องให้ผมด้วย ผมจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่กี่วัน แล้วจะไปอยู่ที่บ้านที่เชียงราย”
[คุณติจะไปอยู่กับ...เอ่อ...]
น้ำเสียงตกใจไม่น้อย ไม่กล้าพูดต่อด้วย ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มเอ่ยเสริม
“ครับ ผมจะไปอยู่กับ ‘ครอบครัวใหม่’ ต้องไปต้อนรับให้สมเกียรติเสียหน่อย”
ไม่รู้ทำไม คนฟังถึงได้รู้สึกว่าน้ำเสียงของติยคุณฟังดูเหี้ยมเกรียมเสียบเหลือเกิน กระนั้นก็ไม่ขัดอะไร ไม่ใช่เรื่องของหล่อน ได้แต่ตอบรับตามคำสั่งเท่านั้น
[ได้ค่ะ ยังไงคุณติแจ้งวันกลับให้ป้าอีกทีนะคะ]
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ แล้วก็อีกเรื่อง ป้าส้มอย่าบอกใครนะครับว่าผมจะกลับ โดยเฉพาะพ่อกับแม่เลี้ยงคนใหม่ของผม ผมจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย”
งานนี้รับรองเลยว่าเขาจะจัดความเซอร์ไพรส์ให้อย่างงามเลย
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"