อัลแบร์โต้ รอสซี่ มหาเศรษฐีหนุ่มบราซิลสุดเซ็กซี่ ตัดสินพิพากษา เพลงพิณ ศุภกิจจานนท์ ด้วยทัณฑ์สวาท เมื่อสาวน้อยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าสาวของเขาจากไปตลอดกาล “เพลง... เพลงอยากรู้ว่าคุณอัลจะพาเพลงไปไหน” อัลแบร์โต้หยุดเดิน หันมาแสยะยิ้มร้ายกาจให้ “นรกไง! นรกที่จะทำให้เธอตายทั้งเป็น เหมือนกับที่ฉันกำลังตกอยู่ในขณะนี้ เธอต้องเจ็บยิ่งกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า!” ใบหน้างามของเพลงพิณซีดเผือดจนไร้สีเลือดมากขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า “คุณอัลจะฆ่าเพลงหรือคะ...” “ไม่หรอกเพลงพิณ ตายน่ะมันทรมานน้อยไป ผู้หญิงสารเลวที่วางแผนฆ่าเพื่อนรักได้อย่างเธอมันต้องทรมานแสนสาหัส ฉันจะทำให้เธออยากตายมากกว่าอยากอยู่ คอยดูก็แล้วกัน...” เพลงพิณส่ายหน้าทั้งน้ำตา เสียงสะอื้นหลุดออกมาเป็นระยะด้วยความเสียใจ “ถึงคุณอัลจะฆ่าเพลงให้ตาย เพลงก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะว่าเพลงไม่ได้เจตนา มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หากเพลงรู้ว่าจะเกิดขึ้นเพลงไม่มีวันให้วิคกี้ขึ้นมานั่งด้วยหรอกค่ะ” “โกหก! ผู้หญิงอย่างเธอปลิ้นปล้อนเก่งจะตาย” “โอ๊ย! เพลงเจ็บ” ร้องออกมาเมื่อถูกคนตัวโตกระชากเข้ามาปะทะกับร่างกายกำยำแข็งแกร่งอย่างไม่ปรานี นิ้วแกร่งที่แข็งปานคีมเหล็กบีบคางมนเต็มแรง “น้องเธอเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหมดแล้ว ความเลวของเธอไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้วล่ะ เพลงพิณ” “เพลงไม่รู้ว่าเพียงบอกอะไรกับคุณ แต่เพลงยืนยันด้วยเกียรติของตัวเองว่าเพลงไม่เคยคิด ไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อวิคกี้ เพลงรักและจริงใจกับวิคกี้เสมอ...” “ผู้หญิงแพศยาแบบเธอมีเกียรติด้วยอย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงของอัลแบร์โต้เต็มไปด้วยความเยาะหยัน ขณะที่เขาจับร่างของหล่อนแบกขึ้นบ่าและก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปที่รถ “หุบปากซะ แล้วก้มหน้าก้มตาชดใช้ความผิดของตัวเองดีกว่า เพราะในเมื่อกฎหมายทำอะไรคนชั่วแบบเธอไม่ได้ ฉันนี่แหละก็จะกฎหมายทำลายผู้หญิงแพศยาอย่างเธอเอง”
บทที่ 1
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
14 กุมภาพันธ์ 2010
โบสถ์เก่าแก่นับร้อยๆ ปีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยถูกเลือกให้เป็นสถานที่สำหรับจัดพิธีวิวาห์ของมหาเศรษฐีหนุ่มหล่อสายเลือดบราซิลเลี่ยนนามว่า อัลแบร์โต้ รอสซี่ กับวิคตอเรีย ซิลวา สาวลูกครึ่งไทย-บราซิล เนื่องจากฝ่ายเจ้าสาวอาศัยอยู่ที่เมืองไทยกับมารดา
อัลแบร์โต้ รอสซี่ มหาเศรษฐีหนุ่มพันล้านชาวบราซิล เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกยืนตระหง่านอยู่หน้าแท่นพิธีในชุดสูทสีขาวสะอาด รอยยิ้มละไมระบายชัดเต็มใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่ได้รับตกทอดมาจากคุณย่าที่เป็นชาวฝรั่งเศสยิ่งทำให้อัลแบร์โต้เป็นที่น่าปรารถนาของสตรีทั่วโลก
ชายหนุ่มใช้ชีวิตเพลย์บอยมาตลอดวัย 34 ปีจนได้พบกับวิคตอเรีย ซิลวา ผู้หญิงสวยปานเทพธิดา อัลแบร์โต้ไม่ได้รักหล่อน เขาแค่ถูกใจเท่านั้น แต่ในเมื่อเจ้าหล่อนตั้งท้องเขาจึงต้องรับผิดชอบในความสะเพร่าของตนเองด้วยการจัดงานแต่งงานขึ้นมาอย่างเร่งด่วน แม้ไม่เคยคิดว่าจะต้องหยุดชีวิตโสดไว้กับสตรีคนไหน แต่เมื่อเขากำลังจะมีลูกซึ่งเป็นสายเลือดของตัวเอง อัลแบร์โต้จึงให้คำสัตย์กับวิคตอเรียว่าเขาจะเลี้ยงดูเธอและลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
“คุณอัลครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ”
ภวังค์ของอัลแบร์โต้ชะงักลงในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ หันกลับมามองคนสนิทที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในโบสถ์ด้วยสายตาไม่พอใจนัก
คนสนิทหน้าเจื่อนกับสายตาอำมหิตของเจ้านายแต่เขาก็จำต้องพูดมันออกไป เพราะเรื่องนี้สำคัญจริงๆ และมันก็ยิ่งสำคัญมากสำหรับอัลแบร์โต้ รอสซี่ เจ้าบ่าวของงานนี้
“ผม... ผมมีเรื่องด่วน มัน...”
“รีบพูดมา ก่อนที่ฉันจะให้คนมาโยนนายออกไป” อัลแบร์โต้คำรามเล็ดลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา
“คือว่า... คือคุณวิคกี้... เธอ...”
คราวนี้คำพูดอ้ำอึ้งของลูกน้องกลับทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายถึงกับหน้าเครียดเลยทีเดียว ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาต้องรีบเค้นเสียงถามออกไป
“ทำไม? วิคกี้เป็นอะไร ไหนบอกมาสิว่าวิคกี้เป็นอะไร!”
“เอ่อ... คุณวิคกี้ เธอ... เธอเสียแล้วครับ รถเจ้าสาวที่คุณเพลงพิณเพื่อนของคุณวิคกี้ขับมาแหกโค้งตกข้างทางครับ”
“นี่นายว่าอะไรนะ?”
อัลแบร์โต้จำได้ว่าตัวเองร้องถามออกไปอย่างนั้น ถามออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับคนบ้า แต่คำตอบซ้ำๆ ที่เขาได้รับกลับมาก็คือ...
วิคตอเรีย... วิคกี้ และลูกของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ม่ายยยย...!
มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง ทุกอย่างมันคือเรื่องโกหก ไอ้ลูกน้องบ้าพวกนี้ต้องกำลังกุเรื่องหลอกลวงเขาแน่ อัลแบร์โต้เกือบจะทรุดลงกองกับพื้นหากไม่ได้มือของคนสนิทเข้ามาประคองเอาไว้
ตอนนี้ราวกับเขากำลังฝันไป กำลังตกอยู่ในภวังค์ร้าย ภวังค์ที่เขาไม่ต้องการจะพบเจอ แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง วิคตอเรียกับลูกได้จากเขาไปแล้วจริงๆ
“คุณอัลครับ... ใจเย็นๆ ไว้นะครับ”
“พาฉันไปหาวิคกี้ เร็วเข้า! ฉันจะไปหาวิคกี้”
และงานแต่งงานก็ต้องถูกเปลี่ยนเป็นงานศพที่แสนโศกเศร้าภายในเวลาแค่ชั่วข้ามคืนท่ามกลางความเสียใจของคนใกล้ชิด โดยอัลแบร์โต้ก็คือหนึ่งในนั้น เขาเจ็บปวดปานจะขาดใจที่ต้องเสียทั้งคนรักและลูกไปในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนเขาตั้งตัวไม่ติด
ร่างไร้วิญญาณของคนรักที่ถูกอัดก๊อปปี้อยู่ภายในรถทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจทั้งดวงถูกปลิดออกจากขั้ว วิคตอเรียจากไปทั้งๆ ที่สวมชุดเจ้าสาว จากไปทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขากับหล่อน
กรามแกร่งของอัลแบร์โต้ขบเข้าหากันแน่น ความสูญเสียทำให้เขาเลือกที่จะชิงชังหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุ เพื่อนสนิทของวิคตอเรีย... เพลงพิณ ศุภกิจจานนท์ ผู้หญิงที่เขาไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ
“คนที่ตายน่าจะเป็นเธอมากกว่านะ เพลงพิณ!”
22 กุมภาพันธ์ 2010
เพลงพิณรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาท่ามกลางกลิ่นฉุนของยา ความเจ็บปวดที่ได้รับจากอุบัติเหตุทำให้หญิงสาวเจ็บร้าวไปทั่วทั้งร่าง ดวงตากลมโตที่ตอนนี้หม่นหมองเศร้าสร้อยค่อยๆ ปรือขึ้นช้าๆ จึงได้รู้ว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน
ความทรงจำค่อยๆ ไหลบ่าเข้ามาท่วมท้น ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนราวกับมันพึ่งผ่านมาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ใบหน้างามที่ไร้สีเลือดซีดเผือดด้วยความตกใจ
ใช่สิ... หล่อนกำลังขับรถเพื่อพาวิคตอเรียเพื่อนรักไปเข้าพิธีวิวาห์ที่โบสถ์แห่งหนึ่ง แต่ระหว่างทางที่เป็นโค้งหักศอกรถก็เกิดเบรกไม่อยู่ แม้ว่าหล่อนจะพยายามบังคับรถมากแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็พุ่งออกไปนอกเส้นทางและทุกอย่างก็ดับวูบลงในทันที
หล่อนไม่ตาย... แล้ววิคตอเรียล่ะ วิคตอเรียเป็นอย่างไรบ้าง!
“คุณพยาบาลคะ คุณพยาบาล...”
“อ้าว ฟื้นแล้วเหรอคะ ดีใจจังค่ะ”
นางพยาบาลในชุดสีขาวที่พึ่งเดินเข้ามาฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจราวกับว่ารอคอยให้หล่อนที่หลับใหลไปนานฟื้นขึ้นมาอย่างนั้นแหละ
“เอ่อ ดิฉันอยากทราบว่าวิคกี้... คือคนที่นั่งรถมากับฉันด้วย เธอเป็นยังไงบ้างคะ เธอปลอดภัยหรือเปล่า”
คำถามของคนไข้สาวทำให้นางพยาบาลอดสะท้อนใจไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่ปิดปัง
“เธอเสียแล้วละค่ะ พร้อมกับลูกในท้อง”
“อะไรนะคะ วิคกี้... ไม่นะ! ไม่จริงหรอก วิคกี้ต้องไม่เป็นอะไร” เพลงพิณร้องไห้ออกมา ใบหน้างามที่ไร้สีเลือดส่ายไปมาอย่างขวัญเสีย
“ไม่จริง... วิคกี้... วิคกี้ เพลงขอโทษ เพลงผิดเอง เพลงผิดเอง”
หญิงสาวคร่ำครวญออกมาปานจะขาดใจ จนนางพยาบาลอดที่จะปลอบใจไม่ได้
“มันเป็นอุบัติเหตุค่ะ ไม่มีใครโทษคุณหรอก ทำใจดีๆ ไว้นะคะ เดี๋ยวตอนเย็นๆ คุณพ่อของคุณก็คงจะมาเยี่ยมเหมือนทุกวัน”
คำว่าทุกวันทำให้เพลงพิณต้องเงยหน้าขึ้นมองนางพยาบาลด้วยความแปลกใจ
“ทุกวัน นี่หมายความว่า...”
“ใช่ค่ะ คุณสลบไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ค่ะ”
ทุกอย่างดูเลื่อนลอยขึ้นมาในทันที ภาพรอยยิ้ม เสียงหัวเราะของวิคตอเรียยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท วิคตอเรียกำลังจะมีความสุขกับคนรัก แต่หล่อน... แต่หล่อนก็เป็นต้นเหตุให้ทุกอย่างมันพังทลายลงแบบนี้ หากวันนั้นวิคตอเรียไม่มากับหล่อนตามคำแนะนำของเพียงเพ็ญน้องสาวของตนเองเรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น วิคตอเรียก็คงจะได้แต่งงานกับอัลแบร์โต้ผู้ชายตาดุคนนั้นแล้ว
หล่อนคือต้นเหตุ น่าจะเป็นหล่อน... น่าจะเป็นหล่อนนะที่เป็นคนตาย
มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งก่อนจะหันมาพูดกับนางพยาบาลอีกครั้ง
“คุณพยาบาลช่วยบอกคุณหมอให้ด้วยนะคะว่าดิฉันจะขอออกจากโรงพยาบาลวันนี้”
“ไม่ได้นะคะ คุณพึ่งฟื้น และอีกอย่างร่างกายก็ยังไม่หายดี คุณหมอไม่อนุญาตแน่ๆ ค่ะ”
นางพยาบาลรีบปฏิเสธทันที
“แต่ว่าดิฉันจำเป็นต้องออกไปจริงๆ ดิฉันอยากไปร่วมงานศพของเพื่อน ดิฉัน...”
“ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ งานศพของเพื่อนคุณถูกจัดไปเรียบร้อยแล้วและวันนี้ก็คือวันเผา”
เพลงพิณมองตามร่างของนางพยาบาลในชุดสีขาวสะอาดที่เดินออกจากห้องพักไปทั้งน้ำตา กลีบปากอิ่มสีซีดเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้สุดกำลัง ความเสียใจ ความละอายใจ ความรู้สึกผิดถล่มยับอยู่ภายในอก
“วิคกี้ เพลงขอโทษ... เพลงขอโทษ...”
หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลทะลักออกมาไม่ยอมหยุด หัวใจร้าวรานราวกับถูกสาดด้วยน้ำกรด เจ็บจนพูดไม่ออก ทำได้แค่เพียงหลับตาและจมอยู่กับความผิดของตัวเองเช่นนั้น
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน