โปรย : หนึ่งหญิง ในฐานะมารดาเลี้ยง สองชาย ในฐานะลูกเลี้ยง กับความเกลียดชังที่ถูกชำระสะสาง ในรูปของเพลิงรักเพลิงสวาทอันเร่าร้อน ความซาบซ่านผลาญพร่าให้ยิ่งถลำ แค้นนี้ ช่างหฤหรรษ์นัก ตัวอย่าง : แท่งหยกมหึมาชำแรกแทรกลึกเข้าสู่รูน้อยที่ซุกซ่อนอยู่ด้านล่างกลีบพูอวบอูมอันเบียดชิด มีน้ำคาวใคร่ฉ่ำแฉะเนืองนองปกคลุม มันเคลื่อนตัวเข้าสู่ด้านในช้า ๆ ให้นางได้สัมผัสถึงความใหญ่ยาวเข้มแข็งดังหินผา ความปูดโปนนูนต่ำของเส้นเลือดเส้นเอ็นที่ครูดไปกับโพรงอุ่นนุ่ม ต่อเมื่อเข้าไปได้สุดลิ่มลำแล้วเขาก็หมุนวนสะโพกช้า ๆ ให้มันคว้านวนเสียดสีกับความรัดรึงแน่นหนึบนั้น นางสะท้านกายเยือกด้วยความซ่านเสียว อยากจะครวญครางระบายออกเหลือเกินแต่ติดว่ามีสิ่งหนึ่งที่อุดปากของนางอยู่ และมันทั้งใหญ่ทั้งยาวไม่แพ้กัน ! หมายเหตุ : เรื่องนี้มีบทรักของหนึ่งหญิงสองชาย
ณ คฤหาสน์สกุลหง อันเป็นตระกูลเศรษฐีมั่งคั่งอันดับต้น ๆ ของเมืองโหงโจว
ยามอาทิตย์อัสดง เส้นแสงแห่งทิวาอ่อนลงตามการเคลื่อนคล้อยลาลับจากแผ่นฟ้า ท่ามกลางสวนสวยอันดารดาษรายล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ ปรากฏสองร่างสูงใหญ่แกร่งกำยำสมชายชาตรี ใบหน้างดงามละม้ายคล้ายกัน ที่นั่งอยู่ศาลากลางสวน แต่ละคนมีไหสุราอยู่ในมือและยกมันกระดกดื่มคราแล้วคราเล่า
หนึ่งนั้นคือ หงหลิวจาง ผู้พี่ วัยยี่สิบสาม อีกหนึ่งคือ หงเหรินโจว ผู้น้อง วัยยี่สิบเอ็ด ผู้เป็นบุตรชายของท่านเศรษฐีหงตงไถ่ผู้มั่งคั่ง ด้วยมีกิจการโรงเตี๊ยมหงเหออันเลื่องชื่อที่มีสาขาตามหัวเมืองใหญ่หลายแห่ง
ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของทั้งคู่ มีเพียงสายตาคมกล้าที่อยู่ภายใต้คิ้วคมเข้มดกหนาราวพู่กันวาดที่มันฉายประกายเจ็บปวดผสานเคืองโกรธ
“ ว่ายน้ำแข่งกันไหมอาโจว ” อยู่ ๆ เสียงทุ้มของผู้เป็นพี่ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ แต่ชายร่างท้วมร่างเตี้ยที่นั่งอยู่บนพื้นเบิกตากว้างแล้วเอ่ยคัดค้านทันที
“ ไม่ได้นะขอรับคุณชาย คุณชายทั้งคู่ร่ำสุราไปหนักเหลือเกิน หากลงไปว่ายน้ำก็เสี่ยงจะเกิดอันตรายได้ อีกอย่างน้ำก็เย็นเหลือเกิน คุณชาย ! ” เขาร้องเรียกเสียงหลง เพราะยังไม่ทันเอ่ยจบร่างสูงใหญ่ทั้งคู่ก็วิ่งแล้วกระโดดลงไปในธารน้ำใสเสียแล้ว
“ โธ่เอ๊ย ดื้อ ดื้อเสียจริง เป็นเช่นนี้แต่เด็กจนโตหาได้ฟังอะไรไม่ ! ” อาเจียง ผู้เป็นบ่าวรับใช้ที่คอยดูแลทั้งคู่มาตั้งแต่วัยเด็กบ่นและส่ายศีรษะอย่างระอา
แต่สองพี่น้องดำผุดดำว่ายได้ไม่กี่อึดใจ อาเจียงก็แลเห็นผู้เป็นประมุขของบ้านเดินเคียงข้างมากับสตรีรูปงาม ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินคนใหม่แห่งตระกูลหง
“ นายท่านและท่านฮูหยินมา คุณชายทั้งสองขึ้นมาก่อนเถอะขอรับ ขึ้นมาคำนับทักทายท่านพ่อและ ท่านแม่เสียก่อน ”
“ หุบปากอาเจียง ข้าทั้งคู่มีแม่เพียงคนเดียว กับแค่หญิงอุ่นเตียงต่ำ ๆ ของท่านพ่อ อย่าได้เผยอขึ้นมาเทียบชั้นท่านแม่ข้า ! ” หลิวจางผู้พี่ ผู้โผงผางใจร้อน เก่งกล้าท้าชนตวาดออกมาดัง ๆ ตรงข้ามกับเหรินโจวผู้น้อง ผู้มีบุคลิกเคร่งขรึม แต่เป็นประเภทพูดน้อยต่อยหนัก
น้องชายรีบว่ายน้ำโผเข้ามาหาผู้เป็นพี่และแตะบ่าเบา ๆ
“ พี่ใหญ่ ใจเย็นก่อนเถอะ อย่าพึ่งโผงผางไป ดูลาดเลาเสียก่อนว่าหญิงแพศยานั่นจะมาไม้ไหน จะได้หาวิธีจัดการได้เข้าเป้าทีเดียว ”
“ มันก็จริงของเจ้า พี่จะพยายามเย็นให้ได้ ” ผู้เป็นพี่ชายว่า ก่อนที่คนทั้งคู่จะสาวเท้ามาถึงยังศาลาพักริมน้ำนั้น
“ ลูกชายทั้งคู่ของพ่อ มาก่อนหนึ่งวันไฉนไม่บอกพ่อ วันนี้พ่อออกไปดูกิจการเลยไม่ได้เตรียมต้อนรับ ”
ท่านเศรษฐีเอ่ยทักทายบุตรชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เขาก็คมสันละม้ายคล้ายบุตรชายทั้งคู่ รูปร่างสูงโปร่ง แต่วัยห้าสิบเศษนั้นได้พรากความอ่อนเยาว์หนุ่มแน่นไปหมดแล้ว
ด้านข้างของท่านนั้นเป็นร่างอวบอัดของสตรีนางหนึ่งอันมีนามว่า เหนียงฮุ่ยฟาง ที่ยืนอยู่ด้วยใบหน้าและแววตาตระหนกตื่นกลัว ก้มมองร่างสูงใหญ่ล่ำสันของชายฉกรรจ์ทั้งคู่เดินขึ้นมาจากธารน้ำ
ชายคู่นั้นที่ได้ชื่อว่าเป็น ลูกเลี้ยง...
ทั้งคู่สูงใหญ่เหลือเกิน คะเนด้วยสายตาก็รู้ได้ว่าสูงกว่าผู้เป็นบิดามากนัก หากนางยืนใกล้ก็คงจะอยู่เพียงระดับแผงอก
แผงอกที่เปลือยเปล่าในขณะนี้จนแลเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดชัดเจน เพราะทั้งคู่ได้ปลดสายคาดออกหลวม ๆ และปลดอาภรณ์ด้านบนลงให้ห้อยอยู่ที่บริเวณบั้นเอวสอบเพราะมันเปียกน้ำ นอกจากแผงอกที่หนั่นแน่นแล้วหน้าท้องแบนราบก็ขึ้นมาเป็นลอนกล้ามหกลูกชัดเจน เบื้องล่างนั้นอาภรณ์ที่เปียกปอนก็รัดรึงเข้าไปจนแนบเนื้อ ทำให้มองเห็นบางสิ่งบางอย่างเป็นรูปลำนูนออกมาเด่นชัด
หญิงสาวใบหน้าร้อนวูบ ลำคอแห้งผาก รีบหลุบสายตาต่ำลงมองพื้นทันที
“ คารวะท่านพ่อ ” ทั้งคู่เอ่ยทักทายและคำนับบิดาพร้อมกัน
“ ลูกชายที่รักของพ่อ รู้จักกับภรรยาคนใหม่ แม่เลี้ยงของเจ้าเสียสิ นางชื่อเหนียงฮุ่ยฟาง ฟางเอ๋อร์ มานี่สิ ไปหลบหลังพี่อยู่ทำไม มารู้จักกับลูก ๆ เสียก่อน ” น้ำเสียงของท่านเศรษฐีนั้นฟังดูอ่อนโยนเมื่อเจรจากับฮูหยิน ทว่าน้ำเสียงเช่นนั้นทำให้บุตรชายทั้งคู่พะอืดพะอมเหลือเกิน
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"