“ยะ อย่านะ ฉันจะไปหาพ่อ” “ผมนี่ไง พ่อของคุณ” เขากระซิบเสียงแผ่วเมื่อค่อยๆเลิกเสื้อของเธอขึ้นสูงจนอยู่เหนือบราเซียตัวจิ๋วสีดำสนิท “พ่อของลูกคุณนะ ...”
“ยะ อย่านะ ฉันจะไปหาพ่อ” “ผมนี่ไง พ่อของคุณ” เขากระซิบเสียงแผ่วเมื่อค่อยๆเลิกเสื้อของเธอขึ้นสูงจนอยู่เหนือบราเซียตัวจิ๋วสีดำสนิท “พ่อของลูกคุณนะ ...”
แสงไฟกระพริบวับแวม เสียงดนตรีดังกระหึ่มเป็นจังหวะร็อค ทำให้เหล่านักท่องราตรีทั้งหลายอดใจไม่ไหวต้องขยับตัวตามท่วงทำนองเพลงที่เร้าใจ
แสงสี แอลกอฮอล์ ทุกอย่างปลุกเร้าให้ผู้คนเกิดความคึกคัก เต้นสะบัด ส่ายสะโพกโยกเอว บางคนก็จับกันเป็นคู่ๆทั้งกอดทั้งจูบกันโดยไม่อายสายตาใคร
ใครบางคนก็ว่ามันคือแหล่งบันเทิง แต่คนบางคนกลับมองว่ามันเป็นแหล่งอโคจรที่สาวใจแตกทั้งหลายชอบมาเที่ยวกัน
ศิวานั่งเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ สายตาเหลือบแลไปทั่วงานทั้งๆที่ข้างกายของเขามีผู้หญิงอวบอึ๋มนั่งเบียดอยู่ใกล้ๆ
“ซีคะ ไม่สนใจ…” หญิงสาวยังท้วงไม่ทันจบ ริมฝีปากก็ถูกบดขยี้ด้วยปากร้อนๆของชายหนุ่มเข้าเสียก่อน จุมพิตที่ดูดดื่มแทบจะทำให้เธอลืมความน้อยใจไปหมดสิ้น ยกแขนขึ้นรัดรอบคอแกร่ง สนองจูบของเขาอย่างเร่าร้อนด้วยความชำนาญ
ยังจูบไม่ทันจะเสร็จ เสียงกระแอมกระไอของใครบางคนก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“อะแฮ่มๆๆ” ทั้งอินอรและศิวาต่างพากันผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่คิ้วเข้มๆของชายหนุ่มจะขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อถามออกมาอย่างไม่พอใจ
“ขัดจังหวะทำไม”
“แหมมมมมมมมมม” หญิงสาวผู้ที่มาทีหลัง ยืนเท้าเอวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็สะบัดไปมาอย่างมีจริต “ขอโทษด้วยนะคะที่ขัดจังหวะ แต่ฉันแค่อยากจะถามคุณว่า…จะรับเครื่องดื่มอะไรดี พอคุณสั่งเสร็จ คุณก็เชิญจูจุ๊บกับแฟนของคุณต่อได้เลยค่ะ”
ศิวาถลึงตาใส่นาวิกาอย่างไม่พอใจ ตาคู่คมกวาดมองไปทั่วร่างบางเป็นเชิงดูถูก
ร่างระหงสวมเสื้อเกาะอก โชว์หน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบอิ่มที่แทบจะทะลักออกมานอกตัวเสื้อ ที่สะดือของเธอถูกเจาะเอาไว้แล้วใส่เพชรเม็ดเล็กๆเป็นประกายวิบวาม ช่วงล่างสวมกางเกงขาสั้นแค่คืบ เน้นสะโพกผายตึงและช่วงขาเรียวยาวสวยเหมือนขานางแบบ
ดวงตาคู่เข้มเลื่อนขึ้นมาพิศใบหน้าของเธอบ้างอย่างรวดเร็ว
ผมของเธอถูกตัดออกซอยสไลด์ยาวถึงกลางหลัง รับกับใบหน้าเรียวมน คิ้วโก่งราวเสี้ยวจันทร์ ตากลมโตดำขลับ จมูกโด่งรั้น ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อถูกทาด้วยลิปกลอสจนแวววาว เธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง ไม่ได้สวยผุดผาดบาดตาเหมือนผู้หญิงผิวขาว แต่เธอนั้นจัดอยู่ในประเภท…งามพิศ ยิ่งมองก็ยิ่งสวย ไม่เบื่อ
เมื่อรู้สึกตัวว่าจะมองเธอนานเกินไป เขาจึงกระพริบตาถี่ๆแล้วพูดออกมาว่า “ขอเหล้าที่ราคาแพงที่สุดในผับนี้”
“ค่ะ” นาวิการับคำ ก่อนจะเดินตัวปลิวผละออกไป โดยไม่รู้เลยว่ามีลูกตาคมๆของใครบางคนลอบมองช่วงเอวเล็กคอดกิ่วและสะโพกผายตึงของเธอจนลับสายตา
“มองตาค้างเชียวนะคะ” อินอรแขวะอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นผู้ชายที่เธอหมายตาเอาไว้เอาแต่มองนาวิกาชนิดที่ไม่ยอมสนใจเธอเลยสักนิด
“แล้วไง…” แทนที่ศิวาจะปฏิเสธ เขากลับหันมาย้อนถามเธอ เล่นเอาความโกรธของหญิงสาวพุ่งปรี๊ดขึ้นจนทะลุองศาเดือด
“พูดแบบนี้หมายความว่าไงกันคะซี นังนั่นสวยก็ไม่เห็นสวย ตัวก็ดำ”
ศิวายิ้มนิดๆที่มุมปาก ยามที่หันมากระซิบบอกที่ข้างๆหูอินอรอย่างไม่เกรงใจเลยว่า
“ผมไม่ได้ชอบคนสวย ผมชอบคน…เซ็กซี่”
“อ๊ายยย ทำไมพูดแบบนี้คะซี” ต่อให้อินอรจะกรี๊ดจนคอแทบแตกแต่เสียงเครื่องดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่ในขณะนี้ก็แทบจะกลบเสียงเธอไปได้จนหมด
ศิวาปรายตามองอินอรเล็กน้อยอย่างรำคาญ ก่อนจะถอนใจเฮือกแล้วเอนหลังขึ้นพิงพนักเก้าอี้ ความจริงแล้วเขาเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยในระดับพันล้าน ชีวิตของเขาคืองานและเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องความรักน่ะตัดออกไปได้เลย เขาไม่ชอบเที่ยว แต่คืนนี้เขารู้สึกเครียดจากงานที่สะสมมานาน จึงคิดอยากจะมาผ่อนคลายในสถานเริงรมย์บ้าง โดยไม่ลืมที่จะหนีบคู่นอนอย่างอิงอรมาด้วย
ใช่! เขาจัดอินอรให้อยู่ในประเภท‘คู่นอน’เท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มคบหากัน เขาเคยบอกเธอแล้วว่า…จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเธอก็ยอมตกลงแต่โดยดี
แต่พอนานวันเข้า อินอรก็ชักจะไม่เป็นอย่างที่เธอเคยรับปากกับเขาเอาไว้ เธอชอบทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของของเขาจนน่าอึดอัด ถ้าไม่ใช่เพราะว่ายังเสียดายเธออยู่ เขาคงสลัดรักเธอไปนานแล้วล่ะ
เพียงมองตาเธอ เขาก็รู้แล้วล่ะว่า…เธอต้องการเพียงเงินของเขาเท่านั้น ไม่ได้รักเขาที่หัวใจบริสุทธิ์ เมื่อเธอมองเห็นคุณค่าของเขาที่จำนวนเงินทองในธนาคาร เขาก็จะตีค่าเธอให้เป็นเพียงแค่คู่ขา ไม่ใช่คู่ชีวิต
“มาแล้วค่ะ” เสียงใสๆดังขึ้น ฉุดดึงให้เขาตื่นจากภวังค์ความคิด ชายหนุ่มกระพริบตาปริบๆเพื่อจูนสมองให้อยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน
นาวิกาวางแก้วเหล้าสองแก้วลงบนโต๊ะก่อนจะเตรียมเดินหันหลังกลับ แต่ได้ยินเสียงห้วนๆเรียกเอาไว้เสียก่อน เธอจึงชะงักเท้าลง ก่อนจะหันมามองอย่างสงสัย
“เดี๋ยว”
“มีอะไรคะ” นาวิกาถาม พลางมองผู้หญิงแต่งหน้าจัดจ้านที่นั่งคู่กับศิวาและกำลังลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเธออย่างสงสัย
“ฉันหมั่นไส้หล่อนน่ะสิ” อินอรเปิดฉากหาเรื่องก่อน ความหึงความหวงมันทำให้เธอมองไม่เห็นความถูกผิด ตอนนี้เธอรู้สึกแค่ว่า เธอเกลียดยัยคนตัวดำ หุ่นเอ็กซ์คนนี้ที่สุด
“จะตบฉันงั้นเหรอคะ” นาวิกาถาม
“ก็ใช่น่ะสิ” อินอรตะคอกใส่ ในขณะที่นาวิกาขยับยิ้มเยือกเย็นเมื่อพูดออกมาว่า
“ข้อหาอะไรคะ”
“เกลียดหล่อน” พูดจบ อินอรก็ยกฝ่ามือขึ้นสูง ทำท่าจะตบลงมา แต่ศิวาห้ามเอาไว้เสียงดัง
“เฮ้ย! อรจะทำแบบนี้ทำไม กลับไปเลยไป” ชายหนุ่มออกปากไล่ตรงๆพร้อมกับลุกขึ้นมายืนข้างๆอินอรเพื่อห้ามปราม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะฝ่ามือของอินอรถูกฟาดใส่แก้มใสของนาวิกาอย่างแรงจนเธอหน้าหัน
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด