เป้าหมายของเธอคือทำให้เขารัก และเสียดาย
เป้าหมายของเธอคือทำให้เขารัก และเสียดาย
บทนำ
“หมั้นกับหนูหมอนได้ไหม”
หญิงชราวัยหกสิบเจ็ดพูดกับหลานชายวัยยี่สิบสามปีที่นั่งจับมือด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ด้วยอายุที่มากขึ้นจึงอยากที่จะเห็นสิ่งที่ตัวเองหวังไว้สมดังที่ใจปรารถนาก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป
“เด็กนั่นเพิ่งอายุสิบห้านะครับ”
ชายหนุ่มหน้าหล่อพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เมื่อคิดถึงหน้าเด็กสาวที่แค่ชื่อก็สามารถทำให้พะอืดพะอมได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหน้าตาเพราะมันแย่ยิ่งกว่าชื่อเสียอีก
“ย่าถึงขอให้หมั้นไว้ก่อน ไว้หนูหมอนเรียนจบค่อยแต่งงานกัน”
“แค่ชื่อก็ไม่น่าหมั้นด้วยแล้ว ผู้หญิงอะไรชื่อหมอนทอง” ชายหนุ่มแย้งเสียงเข้ม เขาเคยเจอคนที่ย่าอยากให้หมั้นด้วยมาตั้งแต่เด็ก และแน่นอนว่าไม่ชอบเด็กสาวคนนั้น
หมอนทองเป็นผู้หญิงที่แสนจะอัปลักษณ์ หุ่นเหมือนตุ่มต่อขา แถมหน้าตายังเหลอหลาไม่น่ารักใส่แว่นหนาเตอะไม่ชวนมอง เวลาคุยด้วยถามอะไรก็ตอบไม่ฉะฉาน ตะกุกตะกัก ดูกี่ทีก็ขัดหูขัดตา ไม่รู้ว่าทำไมยายเด็กอัปลักษณ์นั่นถึงได้ถูกอกถูกใจคุณย่านัก
“ย่ากับยายของหนูหมอนเป็นเพื่อนรักกัน เราอยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกันและอยากจะรวมสวนทุเรียนของเราทั้งคู่ไว้ จริงๆ เรื่องนี้คุยกันมานานแล้ว หลานช่วยทำให้ความหวังของย่าเป็นจริงสักครั้งได้ไหม” หญิงชราพูดจบก็ไอออกมาติดๆ กันหลายครั้งจนคนฟังตกใจ
“แต่...”
“หมั้นกับหนูหมอนได้ไหมถือว่าเห็นแก่ย่า ตั้งแต่หลานเกิดมาย่ามีแต่จะให้กับให้เท่านั้น เรื่องนี้ย่าขอ ทำเพื่อย่าสักครั้ง แล้วย่าจะไม่ขออะไรอีกเลย” หญิงชราทำท่าอ่อนแรงเพื่อขอความเห็นใจ
“คุณย่า” ชายหนุ่มสบตาคนขอนิ่งอยู่พักใหญ่แล้วเอ่ยออกมาว่า
“ครับ”
เด็กสาววัยสิบห้าผิวขาวเหลืองสวมแว่นตาทรงกลมหนาเสียจนไม่น่ามอง รูปร่างอวบอ้วนกำลังเดินตรงเข้ามานั่งพับเพียบลงข้างๆ ทำให้ชายหนุ่มผู้แสนจะหล่อเหลาต้องเบือนหน้าหนีอย่างเสียมิได้ ซูเปอร์สตาร์อย่างเขาจะต้องมาหมั้นกับยายอัปลักษณ์คนนี้จริงๆ หรือ ปราชญ์ได้แต่คิดในใจ ใครจะไปคิดว่าคุณย่าจะเอาจริง แถมพอตกลงแล้วก็โทรศัพท์บอกเพื่อนรักทันที ผลก็คือเขาต้องหมั้นกับแม่คนนี้ในวันรุ่งขึ้น
ทันทีที่แหวนทองเกลี้ยงถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายที่แสนจะกลมป้อมเรียบร้อย หญิงชราทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กันด้วยความพอใจ ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่รอให้แม่สาวนามหมอนทองเรียนจบ ก็จะรีบจัดการให้เป็นทองแผ่นเดียวกันไปเสียเลย
หมอนทองนั่งมองแหวนหมั้นแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น เธอแอบชอบปราชญ์มาตั้งแต่จำความได้ เขาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างไว้ตัวไปเสียหน่อย แต่ก็เป็นชายในฝันอยู่ดี
ยิ่งตอนนี้กำลังก้าวเข้ามาเป็นพระเอกแถวหน้าของวงการโทรทัศน์ด้วยแล้วยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้น การที่ได้หมั้นหมายกันเช่นนี้สร้างความรื่นรมย์ให้เด็กสาวเสียเหลือเกิน
12 ปีต่อมา
“ธิดาทุเรียนชะนีปีนี้ได้แก่ หมายเลข 10 ครับ นางสาวหมอนทอง สุนทรนิเวศ สวนทุเรียนคุณนายก้านยาวเป็นผู้ส่งเข้าประกวด”
สิ้นเสียงของผู้ประกาศ หญิงสาวร่างระหงที่สวมชุดไทยจักรพรรดิสีชมพูทอง ใบหน้าสวยหวานราวกับนางในวรรณคดีก็ก้าวออกมาจากกลุ่มเพื่อนนางงามด้วยท่าทางที่สง่างามราวกับนางพญา
“ดูสิครับเธอสวยงามดังคำชมที่ว่า
พักตร์น้องละอองนวลเปล่งปลั่ง ดังดวงจันทร์วันเพ็ญประไพศรี
อรชรอ้อนแอ้นทั้งอินทรีย์ ดังกินรีลงสรงคงคาลัย
งามจริงพริ้งพร้องทั้งสารพางค์ ไม่ขัดขวางเสียทรงที่ตรงไหน
พิศพลางปฏิพัทธ์กำหนัดใน จะใคร่ไปโอบอุ้มองค์มา...
สวยเหมือนนางบุษบาแปลงมาเลยทีเดียว”
ผู้ประกาศบนเวทีเอ่ยชมความสวยงามของหญิงสาวที่ได้รับตำแหน่งด้วยความชื่นชม หญิงสาวที่ได้รับตำแหน่งในวันนี้สวยงามจับใจจริงๆ
หลังจากรับสายสะพายพร้อมกับถ้วยรางวัลแล้ว หญิงสาวเจ้าของตำแหน่งเทพีทุเรียนชะนีก็เดินโชว์ตัวบนเวทีอีกครั้ง ส่วนด้านล่างเวทีนั้น หญิงชราวัยแปดสิบ เจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจันทบุรีกับพรรคพวกต่างร้องไชโยกันด้วยความดีใจ ที่หลานสาวของตัวเองได้ตำแหน่งนางงาม
ทันทีที่ลงมาจากเวทีนางงามเจ้าของตำแหน่งถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอถูกคุณยายจอมเผด็จการขอร้องแกมบังคับให้เข้าประกวดเพื่อกู้หน้าเพราะส่งนางงามเข้าประกวดมากี่ปีก็ไม่เคยได้สักตำแหน่ง
แถมถูกสวนทุเรียนคู่แข่งดูถูกว่า ถึงจะเป็นสวนใหญ่แต่ไม่มีทางได้ตำแหน่งนางงามแน่ เมื่อถูกท้าทายคุณนายก้านยาวยอมไม่ได้ ดังนั้นจึงบังคับหลานสาวให้เข้าประกวดเพื่อลบคำสบประมาท ทั้งขู่และบังคับอยู่นานกว่าหมอนทองจะยอม
“ดีมาก ไอ้หมอนของยาย” นางก้านยาวโผเข้ามากอดหลานสาวแล้วหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความพอใจปลื้มที่หลานสาวได้ตำแหน่ง
“ยาย รีบพาหนูกลับบ้านเถอะ” หมอนทองเร่งด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ทำไม”
“ชุดบ้านี่ทำหนูคันไปทั้งตัวเลย” หญิงสาวพูดตรงๆ ชุดไทยชุดนี้สร้างความรำคาญให้มากถึงมากที่สุด อยากจะเกาก็ทำไม่ได้
“ทนเอาหน่อยสิ วันนี้เอ็งสวยที่สุดเลย ยายปลื้ม” คุณนายก้านยาวยังคงชมหลานสาวต่อ วันนี้หมอนทองสวยจริงๆ สวยชนิดที่ว่าใครมองผ่านคนคนนั้นต้องตาบอด
“เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว รู้ไหมพรุ่งนี้ยายให้คนเตรียมรถให้เลยนะ”
“รถอะไรยาย” หมอนทองถามด้วยความแปลกใจ
“เอาน่า พรุ่งนี้จะรู้เอง” หมอนทองมองผู้เป็นยายด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจนัก ลองได้พูดแบบนี้ต้องมีอะไรที่มันไม่ธรรมดาแน่
หมอนทองเหล่ตามองยายเล็กน้อยก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มโบกมือให้กับคนที่มายืนอยู่ข้างทาง เพื่อรอดูขบวนรถที่คุณนายก้านยาวผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวนทุเรียนเมืองจันทบุรี จัดแห่โชว์หลานสาวที่เพิ่งได้ตำแหน่งนางงามเทพีทุเรียนชะนีเมื่อคืนนี้
เธอถูกปลุกตั้งแต่เช้ามืดและจับแต่งหน้าแต่งตัวแบบจัดเต็มยิ่งกว่าบนเวทีประกวดนางงาม พร้อมทั้งขอร้องแกมบังคับให้ขึ้นรถแห่รอบหมู่บ้าน
“ยาย แบบนี้ไม่เอาแล้วนะ หนูยิ้มจนเหงือกแห้งแล้ว” หญิงสาวบ่นเมื่อการโชว์ตัวจบลง
“จะบ่นอะไรวะไอ้หมอน หลานยายสวย ยายก็อยากโชว์ก็เท่านั้น” คุณนายก้านยาวย้อน จากนั้นก็หันมายิ้มให้กับชาวบ้านที่เข้ามาเอ่ยชมความสวยของหมอนทองต่อ
“ยายนะยาย ถ้ารู้ว่าประกวดแล้วจะเป็นแบบนี้หนูไม่ประกวดหรอก” หมอนทองบ่นกระปอดกระแปดเบาๆ
“อย่าบ่นได้ไหม ยายเลี้ยงเอ็งมาตั้งแต่เด็กจนโต ยายเคยบ่นหรือเปล่า” คุณนายก้านยาวย้อนเข้าบ้าง
หมอนทองเป็นหลานที่นางเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและรักมากที่สุด เพราะลูกสาวและลูกเขยจากไปด้วยอุบัติเหตุตอนหลานคนนี้อายุเพียงแค่ขวบเศษๆ เท่านั้น
“โธ่ ยายจ๋า หนูก็พูดไปอย่างนั้นแหละน่า อย่างอนสิ” หมอนทองกอดเอวยายประจบ
“ไม่ได้งอนแต่น้อยใจ ยายผิดเหรอที่มีหลานสาวสวยแล้วอยากโชว์”
“ไม่ผิด หนูบ่นก็เพราะชุดไทยที่ยายหามาให้ทำให้หนูคัน” หญิงสาวโยนความผิดให้ชุดไทยแทน
“โถ เรื่องนี้เอง เดี๋ยวยายจะไปจัดการคนที่หาชุดนี้มาให้เอ็งใส่ มิน่านั่งอยู่บนรถยุกยิกอย่างกับลิงกังที่แท้ก็คัน” คุณนายก้านยาวเข้าใจแล้ว
“ใช่จ้ะ” หมอนทองพยักหน้ารับ
“ตอนนี้หายแล้วใช่ไหมลูก”
“หายแล้วจ้ะยาย เห็นไหม คาลาไมน์เต็มแขนไปหมด”
“ดีแล้ว ตอนนี้เอ็งเรียนจบมาหลายปี ได้ตำแหน่งนางงาม ตอนนี้อายุก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว ตอนนี้ได้เวลาที่เอ็งควรจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีนะ” สีหน้าคุณนายก้านยาวเปล่งประกายความหวังออกมาอย่างเด่นชัด
“ทำไมยายพูดแบบนี้” หมอนทองเริ่มรู้แล้วว่ายายต้องการอะไรจากนี้อีก
“ยายอยากมีเหลนและเอ็งก็หมั้นมาสิบสองปีแล้ว นี่ถ้าเพื่อนยายไม่ด่วนตายไปเสียก่อนคงได้แต่งงานกันไปนานแล้ว สัญญากันไว้ว่าจะอยู่ให้ถึงหนึ่งร้อยเอ็ดปี แต่แม่นั่นดันตายตอนอายุแปดสิบเอ็ด”
“คู่หมั้นหนูตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ สี่เดือนก่อนไปถ่ายละครที่ฮ่องกง กลับมาก็ไปรับเล่นเป็นพระเอกอีก และเขาไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลยนะตั้งแต่วันหมั้น” หมอนทองแอบถอนหายใจเบาๆ
จริงอยู่ที่แอบชอบผู้ชายคนนั้นมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว แต่เมื่อโตขึ้นหมอนทองก็รู้ว่าเขาคนนั้นไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด
“เขาเป็นดาราใหญ่นะโว้ยก็ต้องไปหลายที่ เอ็งจะให้มาอยู่ดูแลสวนได้อย่างไร และถ้าเขาไม่มาที่นี่ เอ็งก็ไปหาสิ” คุณนายก้านยาวมองว่าทุกอย่างไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้การแต่งงานล้มเลิก
“เอ็งดูข่าวนี่สิ ไอ้ว่าที่หลานเขยนี่ตายยากจริงๆ พูดปุ๊บเจอข่าวปั๊บ”
หมอนทองนั่งมองหน้าจอทันที ภาพข่าวทำให้อมยิ้มเพราะผู้ชายที่อยู่ในจอโทรทัศน์คือชายในฝันของตน แต่อมยิ้มได้ไม่นานก็ต้องหุบยิ้มเพราะคู่หมั้นหนุ่มดันให้สัมภาษณ์คู่กับพิชญา อมรกุล นักแสดงสาวที่กำลังมีข่าวว่าทั้งคู่กำลังสานสัมพันธ์กันอยู่
“ช่วงนี้มีภาพหลุดของคุณสองคนบ่อยๆ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรคะ”
“ก็อย่างที่เห็นค่ะ” นักแสดงสาวเป็นฝ่ายตอบเสียเอง
“แสดงว่าคุณไปกินข้าวด้วยกัน ไปซื้อของด้วยกัน ไปรับไปส่งกันอย่างนั้นหรือคะ” นักข่าวถามต่อ
“เราทำงานร่วมกันครับ บ้านก็ไปทางเดียวกัน มันจึงไม่แปลก” คราวนี้ฝ่ายชายตอบ ทำเอาคนดูอย่างหมอนทองเบ้ปาก
“แล้วข่าวที่ว่าคุณสองคนกำลังคบหากันจริงหรือเปล่าคะ”
“เราเป็นเพื่อนร่วมงานค่ะ แต่ถ้าอยากจะคิดไกลกว่านั้นน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย” คำตอบของนักแสดงสาวเรียกเสียงฮือฮาของนักข่าวได้ ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะมีงานที่จะต้องไปทำ
“พวกดาราลองพูดแบบนี้คบกันทั้งนั้น” นางสมใจคนรับใช้วัยหกสิบของคุณนายก้านยาวพูดออกมาบ้างหลังจากฟังข่าวจบ
หมอนทองนั่งเม้มปากแน่นเสียความรู้สึกเป็นที่สุด ที่ผ่านมาเขามีข่าวกับผู้หญิงหลายครั้งแต่ไม่มีการให้สัมภาษณ์ที่ทำให้คิดมากแบบนี้เลย
“ว่าไงไอ้หมอน เอ็งจะเอาอย่างไร” คุณนายก้านยาวหันมาถามเมื่อเห็นหมอนทองนั่งนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีอาจจะเป็นแค่ข่าวคู่จิ้นเพื่อเรียกเรตติ้งก็ได้” หมอนทองพูดอย่างคนสวยมองโลกในแง่ดี
“ยายว่าได้เวลาที่ต้องคุยกันเสียที หมั้นไว้นานแล้วได้เวลาที่จะต้องตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว” คราวนี้ท่าทางคุณนายก้านยาวจะเอาจริง
“ยายจะให้หนูไปหาเขาเหรอ” หลานสาวเดาใจยายออก
“ใช่ ยายว่าไปพูดกันเสียทีก็ดี” หญิงชราตัดสินใจเด็ดขาดเป็นไงเป็นกันดีกว่าค้างเติ่งแบบนี้
“แล้วยายไม่ไปพูดเองเหรอ”
“เอ็งไปนั่นแหละ ตกลงกันให้เรียบร้อย เขาว่าไงรายงานยายด้วย” คุณนายก้านยาวสั่งงานแล้วลุกขึ้นเดินหายไป
คนฟังตกที่นั่งลำบากแล้ว แม้ปราชญ์จะเป็นผู้ชายที่อยู่ในใจมาตลอด แถมเป็นคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดการให้ แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้สนใจตนแม้แต่น้อย ซ้ำหมอนทองยังต้องเป็นคนไปทวงสัญญาด้วยตนเองอีก
งานนี้ทั้งอึดอัดทั้งกังวลเป็นที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำ เพราะนั่นคือศักดิ์ศรีและอนาคตของนางสาวหมอนทองคนนี้
เพราะถูกความรักทำร้ายตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นทำให้เตชน์ ชลธีพงศ์ ชายหนุ่มวัย 45 ผู้หล่อเหลาไม่คิดที่จะจริงจังกับใคร เขาใช้ชีวิตแบบชายเสเพลจนกลายเป็นที่เลื่องลือในวงสังคมว่าถ้าไม่อยากอกหักอย่ารักเตชน์ ศศิปิลันธ์ ปัทมพิสุทธิ์ หญิงสาววัย 24 ที่อ่อนหวานแต่ทว่าไม่อ่อนแอ เธอเติบโตมาโดยมีสายตาแห่งความเกลียดชังของเขาจ้องดูอยู่ตลอดเวลา ความอ่อนหวาน สดใสและอ่อนโยนของเธอจะสามารถหลอมละลายหัวใจน้ำแข็งของเขาได้หรือไม่ ความรักจะสามารถทลายกำแพงแค้นได้หรือเปล่า
“จูบผมหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงคือการขอร้องและอ้อนวอน พุดแก้วยิ้มขยับตัวเข้าไปหาและค่อยๆ บรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ นิโคลัสใช้มือโอบรอบตัวเธอและกอดไว้แน่น ขณะที่ริมฝีปากนั้นรับจุมพิตอย่างพออกพอใจที่สุด “พอแล้ว” พุดแก้วพูดออกมาหลังจากที่ถอนริมฝีปากของตัวเองออกจากเขาและดันตัวออกห่างช้าๆ ในขณะที่คนตัวใหญ่มองอย่างเสียดาย “ทำไมล่ะ” “เพราะคุณจะไม่หยุดแค่นั้น” หญิงสาวพูดออกมาอย่างรู้ทัน “และขาคุณหัก” หญิงสาวขยับตัวออกห่างจากรัศมีของวงแขนเขา “แต่อย่างอื่นมันไม่ได้หักนี่นา ร่างกายบางส่วนของผมยังแข็งแรงดี”
“ตบนี้สำหรับสิ่งที่คุณทำกับคำพูดจาบจ้วงเมื่อครู่ ถ้าคุณทำอีก ฉันก็จะตบคุณอีก ไม่มีการละเว้น” นภัสคาดโทษด้วยน้ำเสียงจริงจัง อนิรุทธ์ยกมือลูบแก้มของตัวเองเบาๆ ริมฝีปากมีรอยยิ้มแฝงอยู่แววตายังคงเจ้าเล่ห์ซุกซนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จะบอกว่ามันไม่สลดเลยสักนิดก็ได้ “ก็ดีนะ คิดว่าคุ้มอยู่เหมือนกันหนึ่งตบแลกกับหนึ่งกอด หนึ่งจูบ หนึ่งหอม คุ้มดี” เขาทำท่าจะเข้าหาอีกต่อ แต่นภัสใช้ความเร็วหลบได้ทัน “คุณเห็นฉันเป็นอะไร คิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ” “เห็นคุณเป็นโฉมงาม เป็นแม่โจรเสียงหวานหน้าสวยน่ะสิ คนสวยของผม”
รักแรกพบ พรหมลิขิต แรงอธิษฐาน ปาฏิหาริย์ สองคน สองช่วงเวลา สองหัวใจที่รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว
ในคืนแต่งงาน ฟู่ฮันจุนบีบคอของเธอ “เจียงอี้หาน ยินดีกับเธอด้วยนะ ตั้งแต่วันนี้ไปชีวิตของเธอจะตกนรก! ” เขาเชื่อว่าเธอเป็นคนทำให้พี่ชายของเขาตาย แต่งงานกับเธอแต่ไม่แตะต้องเธอ ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต! แต่น่าเสียดายที่เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เจียงอี้หานถูกบีบบังคับให้ใช้ร่างกายของเธอช่วยชีวิตฟู่ฮันจุน และตั้งท้องลูกของเขา เจียงอี้หานปกปิดท้องของเธอ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังภายใต้สายตาของฟู่ฮันจุน ฟู่ฮันจุนเกลียดเธอ ตั้งใจทำให้เธออับอายทรมาน แต่กลับไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ—— “คุณฟู่ คุณนายตบตีกับคนอื่นแล้วครับ! ” เขาแอบไปจัดการคนพวกนั้นจนสิ้นซาก “คุณฟู่ คุณนายบอกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลฟู่เป็นของเธอครับ! ” เขาแอบโอนหุ้นทั้งหมดให้เป็นชื่อของเธอ เจียงอี้หานไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ คิดแค่จะหนีให้พ้นอย่างเดียว ฟู่ฮันจุนใช้กำลังกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน “คุณนายฟู่ คุณจะพาลูกของเราไปไหนหรือ? ”
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
[นักธุรกิจหนุ่มระดับต้นแสนร้ายกาจ VS นักปรุงน้ำหอมสาวพิการเลอโฉม บริสุทธิ์ทั้งคู่] บุคคลลึกลับส่งคลิปวิดีโอสามีนอกใจมาให้ ทำลายชีวิตที่ดูสงบของยูหยุนหนิง ทำให้เธอเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะหลอกเรา เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจะหลอกเรา แต่นายแบบไหล่กว้างเอวคอดขายาวไม่มีทางหลอกเรา เพียงแต่ชายหนุ่มรูปหล่อขายตัวเพื่อเลี้ยงสุนัขคนนี้ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของคุณ ทำไมถึงเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มระดับต้นของตระกูลเสี่ยวเลย? * ตอนที่เธอเปล่งประกายเจิดจรัส เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูล กล้าแค่ขโมยจูบแรกของเธอในความมืด เมื่อเธอตกจากที่สูง เขาทิ้งทุกอย่างกลับประเทศ แต่กลับเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของคนอื่นทั้งน้ำตา ตอนเธอถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด เขามีอำนาจอยู่ในมือ เขาคือคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ช่วยชีวิตตอนที่เธอเสี่ยงอันตราย เป็นกำลังใจที่มั่นคงที่สุดของเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง จริงใจเป็นอย่างมาก “ได้โปรดแต่งงานกับผม” * “อยากรู้ไหมว่า ตอนที่เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของผู้ชายสารเลวคนนั้น ผมกำลังคิดอะไรอยู่? ” “คิดอะไรอยู่เหรอคะ? ” “อย่าให้ผมมีโอกาสนะ” “แล้วถ้าไม่มีโอกาสละคะ? ” “ถ้าอย่างนั้นก็สร้างโอกาสขึ้นมา” เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครรักยูหยุนหนิงได้มากกว่าเสี่ยวฉืออีกแล้ว
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY