บอกเล่าเรื่องราว ‘คาวกลิ่นราตรี’ เธอที่หลงระเริงอยู่ในกลิ่นคาวของราตรีกาล เรียนรู้ที่จะสร้างความสุขให้กับตัวเอง เรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่ต้องการของผู้ชายทุกคน แต่ในที่สุด เธอกลับหลงวนอยู่ในกลิ่นคาวของน้ำกามจนไม่สามารถพาตัวเองออกมาได้ ‘ขาดอะไรก็ขาดได้ แต่ขออย่าให้ขาด ‘เซ็กซ์’ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะลงแดงตาย!!’ ‘โลดแล่นไปในห้วงแห่งกลิ่นหอมรัญจวน’
“อา... โอว... อา... อู้...”
ริมฝีปากบอบบางอ้าค้างอย่างหุบไม่ลงก่อนจะห่อปากเข้าหากันเพราะแรงกระแทกกระทั้นจากทั้งสองช่องทางพร้อมๆ กัน กระทบเข้ากับอวัยวะภายในจนร่างกายของหล่อนปั่นป่วนไปหมด
ความอัดอั้นมากมายรุนแรงจนหล่อนต้องกรีดร้อง ความซ่านเสียว ความเจ็บปวด ความตึงแน่น ผสมผสานปนเปจนหล่อนแยกไม่ออก แต่เหนือกว่าสิ่งใดนั้นคือ ‘มัน’ หล่อนกำลังได้รับความมันตอบสนองความอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของตนเอง
ชาวต่างชาติผิวดำมันวาวกระแทกตัวตนขนาดมหึมาเข้าสู่โพรงถ้ำกว้างและลึกของหล่อนไม่หยุดยั้ง และทุกแรงกระแทกก็ทำให้อีกช่องทางต้องกดลึกกับความแข็งแกร่งอีกท่อนที่เสียบคาอยู่ด้านล่าง
เสียงกรีดร้องสอดประสานกับเสียงหอบหายใจพร้อมคำสบถเป็นภาษาต่างชาติชนิดที่ ‘หยาบ’ แต่ยิ่งเร่งเร้าความดิบเถื่อนของหล่อนให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
“โอว... โอว... เยส... เยส... โอว...”
หล่อนยังคงกรีดร้องกับความใหญ่โตที่สอดใส่เข้ามา สิ่งที่สายตาเห็นจากเงาสะท้อนของกระจกบานโตสูงจากพื้นจดเพดานห้อง ไม่ต่างจากน้ำมันที่ราดรดบนกองไฟแห่งความมักมาก อยาก และปรารถนา
เมื่อร่างสีดำมะเมื่อมขนาบกับร่างขาวนวลเนียนไม่ต่างจากขนมปังช็อกโกแลตสอดไส้ด้วยครีมนม
แรงกระตุ้นเร่งเร้าทำให้หล่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ความเสียวสุดยอดจู่โจมจนเส้นขนทุกเส้นบนร่างลุกชัน ดวงตาลอยคว้าง ภาพที่เห็นเป็นสีเบลอไปหมด
ร่างกายรับรู้เพียงความอุ่นวาบที่แล่นปะทะภายในโพรงถ้ำจนร้อนฉ่าราวกับไฟในร่างของหล่อนกำลังจะลุก
“เป็นไงล่ะรัตตี้ คืนนี้ได้เท่าไร”
‘รัตติกาล หรือ รัตตี้’ สาววัย 24 ปี หันตามเสียงเรียก ดวงตาสวยกรีดอายไลเนอร์จนคมกวาดมองคนเรียก ชนิดที่ว่าหากไม่รู้จักกันมาก่อนได้มีตบกันซักฉาดเป็นแน่ แต่เพราะรู้ดีว่า ‘สาลี่’ เพื่อนร่วมอาชีพของหล่อนนั้นเป็นคนเช่นไร หล่อนจึงไม่ใส่ใจคำพูด ได้ยิ้มๆ เท่านั้น
‘สาลี่’ สาวอายุ 30 ปีที่หล่อนไม่คิดจะเรียกพี่นำหน้า เพราะสาลี่ชอบให้เรียกชื่อเฉยๆ จะได้ไม่ดูแก่ว่าบรรดาสาวกลางคืนที่ใช้สถานที่ทำงานร่วมกัน
นิสัยของสาลี่เป็นชนิด ‘ปากว่า-ตาจิก’ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรแอบแฝงในคำพูดนั้น นอกจากความหมั่นไส้เล็กๆ ที่ค่ำคืนนี้หล่อนดูจะมีรายได้มากกว่าสาลี่เป็นแน่
“ก็ไม่เท่าไร เบาะๆ ก็แค่สักสองหมื่น” รัตติกาลพูดริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างไม่ยี่หระกับอะไรทั้งสิ้น
“โห! ตั้งสองหมื่น นี่แกไม่เหน็ดไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”
“ก็ไม่รู้สินะ” ยิ้มพร้อมเดินจากไป แต่ก่อนที่รัตติกาลจะก้าวเดินคำพูดของสาลี่ก็ทำให้หล่อนต้องฉุกคิด
ศีรษะส่ายไปมาหัวเราะในลำคอเบาๆ คล้ายสิ่งที่สาลี่พูดนั้นช่างไร้สาระสำหรับหล่อนเสียเหลือเกิน แต่ใครเล่าจะรู้ดีเท่าตัวหล่อนเอง... เสียงหัวเราะนั่นคือสิ่งแสดงออกเพื่อเยาะเย้ยโชคชะตาของหล่อนต่างหาก
‘ร่างกายถ้าใช้ไม่บันยะบันยัง ระวังมันจะซ่อมไม่ไหว’
คำพูดของสาลี่ยังก้องอยู่ในสมอง แม้ว่าร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเพราะกิจกามที่กินเวลากว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ เพราะสิ่งที่สาลี่พูดนั้นใช่ว่า ‘ไม่จริง’ ร่างกายของหล่อนกำลังฟ้องว่าหล่อนใช้งานมากจนเกินพอดี
‘แต่แล้วอะไรล่ะที่พอดี’ เสียงหนึ่งในตัวเองร้องถาม คำถามที่หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีคืนไหนเลยที่หล่อน ‘ไม่ได้’ ไม่นับช่วงเวลาที่มีเมนส์ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่แม้เลือดจะแดงสาดแต่หล่อนก็ซ่านไม่เลิก ต้องดอดให้ใครมากระทุ้งจนหายคันเสียก็บ่อย
ใครล่ะอยากจะมี ‘ผัว’ เกิน 1 แต่สำหรับหล่อน ต่อให้นับนิ้วมือรวมนิ้วเท้าทั้งสองข้างก็ยังไม่พอ
หล่อนเลยไม่บัญญัติคำว่า ‘ผัว’ ให้กับผู้ชายที่ผ่านมาผ่านไป รู้แต่ว่าไอ้ที่จะกลับมาให้หล่อนกินซ้ำนั้นก็น้อยนักที่จะจดจำ สิ่งที่หล่อนจดจำก็คือ ใครที่ทำให้หล่อน ‘ถึงสวรรค์’ ได้มากที่สุด หรือใครที่ ‘จ่ายหนัก’ จนหล่อนจำไม่มีวันลืม
แต่ที่ผ่านมานั้นหล่อนแทบจะไม่จำพวกกระเป๋าหนักสักเท่าไร เพราะสิ่งที่หล่อนต้องการในทุกค่ำคืนก็คือความแข็งแกร่งของเพศชายที่จะมาช่วย ‘ปลดเปลื้อง’ ห้วงทุกข์แห่งความโหยหา
รัตติกาลนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมด้านนอกห้องพัก ซึ่งจะเห็นดวงไฟจากเรือสินค้าได้อย่างประปราย แต่มากที่สุดคงไม่พ้นเป็นดวงไฟนับหมื่นจากคอนโดฯ ริมแม่น้ำ
ด้านนอกระเบียงถูกตกแต่งไว้เป็นสวนหย่อมน้อยๆ ต้นไม้สีเขียวปลูกอยู่ในกระถางเป็นแนวรั้วเตี้ยๆ มีดอกกุหลาบ ทานตะวัน กล้วยไม้ ทิวลิป หลายหลากสารพัดดอกที่หล่อนชอบ ชอบแบบไหนก็แค่ซื้อมาเปลี่ยน เพราะทั้งหมดนั้นเป็น ‘ของปลอม’ เพราะหล่อนชอบของสวย แต่หากต้องให้มานั่งดูแลเอาใจใส่หล่อนคงทำไม่ได้ ของปลอมที่จัดหามาก็ย่อมดีกว่าของจริงที่ต้องรอคอยการเจริญเติบโต ต้องใส่ปุ๋ยให้น้ำ ต้องดูแลรักษา ก็คงไม่ต่างจากหล่อน
เพราะผู้หญิงอย่างหล่อนไม่ต่างอะไรจากดอกไม้ประดิษฐ์นี้ หล่อนไม่เคยมีอะไรที่เป็นของจริง ทุกอย่างในชีวิตล้วนปลอมทั้งหมด ความจอมปลอมที่หล่อนเคยชิน
เมื่อเริ่มสาวหล่อนกลายเป็น ‘ของเล่น’ ของผู้ชายทุกวัย ไม่ว่าจะหนุ่มหรือแก่ ลูกใคร ผัวใคร ใครก็ได้ที่มีไอ้สิ่งที่เรียกว่า ‘ตัวเดียวอันเดียว’ ที่พร้อมจะสอดใส่ หล่อนก็พร้อมที่จะอ้าให้ทุกวันทุกคืน เพื่ออะไรน่ะเหรอ เพื่อของที่หล่อนอยากได้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
และ ‘เพื่อสนองความอยากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด’ หล่อนจึงเปรียบตัวเองเป็นดั่งดอกไม้จอมปลอมเหล่านี้ เหมาะกันแล้ว
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"