เธอผิดนักเหรอที่เกิดมาเป็นผู้หญิงหัวโบราณ หวงเนื้อหวงตัวไม่ยอมให้ใครแตะต้อง แม้แต่คนรักของเธอเองก็ตาม ถ้ามันผิดมากนักต่อไปนี้เธอก็จะแรด จะอ่อยให้ดู เธอจะไม่เก็บซิงไว้ชิงโชคอีกแล้ว... อ่อยให้สุดแล้วไปหยุดที่ใครดี...
เธอผิดนักเหรอที่เกิดมาเป็นผู้หญิงหัวโบราณ หวงเนื้อหวงตัวไม่ยอมให้ใครแตะต้อง แม้แต่คนรักของเธอเองก็ตาม ถ้ามันผิดมากนักต่อไปนี้เธอก็จะแรด จะอ่อยให้ดู เธอจะไม่เก็บซิงไว้ชิงโชคอีกแล้ว... อ่อยให้สุดแล้วไปหยุดที่ใครดี...
ถ้าหากเรารักใครสักคน เราก็จะสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อเขา...
ก๊อกๆๆ
พระพายหญิงสาวท่าทางเรียบร้อยใส่แว่นหนาเตอะ เธอกำลังเคาะประตูของห้องพักห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องของภูมิแฟนหนุ่มคนแรกและคนเดียวของเธอ ทั้งสองคบหากันมานานหลายปีตั้งแต่มัธยมจนถึงปัจจุบัน แต่ถึงแม้จะคบกันมาหลายปีแล้วทั้งสองก็ไม่เคยมีอะไรกันเกินเลย เพราะหญิงสาวเป็นผู้หญิงที่หัวโบราณมากๆ สิ่งที่เธอสามารถให้แฟนหนุ่มของเธอได้ก็มีเพียงแค่การจับมือเท่านั้น
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นวันเกิดของแฟนเธอ พระพายเลยตั้งใจทำเค้กมาอวยพรให้เขาเป็นคนแรก
ก๊อกๆๆ
พระพายยกมือขึ้นเคาะประตูอีกครั้ง เมื่อแฟนหนุ่มของเธอยังไม่เดินออกมาเปิดประตูให้
“หรือว่าจะนอนแล้ว” พระพายพูดพึมพำออกมา เวลาดึกดื่นขนาดนี้แฟนของเธอคงจะนอนหลับไปแล้วแน่ๆ พระพายจึงถือกล่องเค้กด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือหนึ่งเธอก็ล้วงมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจออกมาไขประตูห้อง
เธอเปิดประตูเข้าไปช้าๆ แล้วปิดเอาไว้ตามเดิม ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อเอาเค้กออกมาปักเทียนแล้วจึงจะเอาไปเซอร์ไพรส์แฟนของเธอในห้องนอน
เมื่อเธอปักเทียนและจุดไฟเรียบร้อยหมดแล้ว เธอก็ยืนมองเค้กตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เธอยกมันขึ้นมา แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนที่ประตูเปิดอ้าเอาไว้ ภายในห้องนอนนั้นมืดสนิท
“เซอร์ไพรส์...” พระพายพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะต้องหุบลงช้าๆ เมื่อแสงเทียนที่เธอจุดมันสามารถทำให้เธอมองเห็นว่าบนเตียงนั้น มีแฟนของเธอกับผู้หญิงคนหนึ่งนอนกอดกันด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าทั้งคู่
พระพายตั้งสติสักพักเพราะคิดว่าตัวเองคงตาฝาด เธอเอื้อมมือไปกดสวิตซ์ไฟเพื่อให้ตัวเองได้เห็นอะไรชัดเจนขึ้น
แสงไฟสว่างจ้าขึ้นภายในห้อง ภาพทุกอย่างฉายชัดอยู่ตรงหน้าพระพายอย่างชัดเจน
แผละ!
เค้กปอนนั้นที่เธอถืออยู่ล่วงหล่นลงสู่พื้นทันที ความรู้สึกทุกอย่างมันตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่อก ขณะที่ดวงตาของเธอก็เริ่มคลอด้วยหยาดน้ำตา
“ใครวะ!” ภูมิ แฟนหนุ่มของเธองัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อแสงไฟมันส่องเข้าตาของเขา เขาพึ่งจะหลับได้เพียงไม่นาน เพราะกิจกรรมบนเตียงที่พึ่งทำจบไป
“พระพาย!” ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ เขารู้สึกตื่นขึ้นเต็มตา เมื่อเห็นว่าแฟนสาวของตัวเองกำลังยืนอยู่ที่ปลายเตียง และมองมาที่เขากับผู้หญิงข้างกายด้วยสายตาเจ็บปวด
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย...ฮึก” พระพายพูดออกมาเสียงสั่น พลางสะอื้นออกมาเล็กน้อย ขณะที่ผู้หญิงข้างกายของภูมิก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน หญิงสาวคนนั้นมองพระพายด้วยหางตา ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปซบหน้าที่อกแกร่งของภูมิอย่างออดอ้อน
“อยากจะรู้เหรอ” ภูมิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ วันนี้คงจะเป็นวันที่เขาจะสามารถตัดทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระพายให้หมดสิ้น
“เธอคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนทนกับเธอได้นานบ้างล่ะ ผู้หญิงจืดชืดแบบเธอน่ะไม่มีใครเขาคิดจะเอาหรอก” ภูมิพูดออกมานิ่งๆ เขาเป็นผู้ชายเขามีความต้องการ แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่สามารถมอบมันให้เขาได้ เขาจึงต้องไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แบบนี้
ตอนแรกเขาก็รักเธอ แต่พอนานไปมันก็เริ่มเบื่อ เลิกแล้วไปหาอะไรที่มันตื่นเต้นไม่ดีกว่าเหรอ
“แต่เราคบกันมานานแล้วนะภูมิ...ฮึก...เราสองคนรักกันไม่ใช่เหรอ” พระพายถามออกมา เธอยังคงหวังว่าเขาจะไม่ตอบอะไรที่มันทำให้เธอเจ็บปวดออกมาอีก
ภูมิเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูข้างเตียงมาพันช่วงล่างของตัวเองเอาไว้ เขาลุกลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาพระพายช้าๆ พระพายยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อจะโอบกอดเขา แต่เขาก็ผลักมือของเธอออกอย่างไม่ใยดี
“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ไม่ใช่!” ภูมิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง คำพูดของเขาแต่ละคำมันเหมือนมีดคมๆ ที่กรีดลึกลงมาบนหัวใจของเธอ
“ออกไปจากห้องนี้ได้แล้วไป” เขาผลักตัวของเธอพร้อมกับพูดไล่ออกมา พระพายผละถอยหลังไปเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
“ไม่ พายจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าเรายังคุยกันไม่จบ” พระพายพูดออกมา น้ำเสียงของเธอมันยังคงเต็มไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว ออกไปซะ!” ภูมิพูดออกมาเสียงเข้มพลางผลักตัวพระพายให้ออกไป แต่เธอก็ยังคงฝืนตัวเองเอาไว้ด้วยขาเล็กๆ สองข้างนั้น
“ภูมิเดี๋ยวจูลี่จัดการให้เอง” จูลี่ คือชื่อของหญิงสาวคนนั้น เธอเดินเข้ามาหาพระพายหลังจากที่ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเอาไว้แล้ว
พรึ่บ!
“โอ๊ย” พระพายร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อถูกเล็บเรียวยาวสีแดงเพลิงของจูลี่จิกเข้ามาที่เส้นผม
“ถ้าออกไปดีๆ ไม่ได้ก็คงต้องใช้กำลัง” จูลี่กระชากศีรษะของพระพายเล็กน้อย เพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ
ยามใดที่ได้กลิ่นหอมของเธอ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ทั้งชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยมีใครแสดงท่าทีรังเกียจฉันได้มากเท่าเขาอีกแล้ว… “คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าคะคุณแซ้งค์” “ใครจะกล้ามีปัญหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างคุณเอวาได้ล่ะครับ” “ก็คุณไงคะ” .......................................................................................... ฉันต้องรู้สึกยังไงที่จู่ ๆ ก็มีคนบางคนชอบแสดงท่าทีเหมือนรังเกียจ ทุกครั้งที่พยายามเข้าใกล้ เขาก็จะถอยห่าง มองจากดาวอังคารยังรู้ ว่า ‘คุณแซ้งค์’ กำลังไม่ชอบขี้หน้าฉันอย่างแรง แต่บอกไว้ก่อน เราไม่เคยมีเรื่องกัน แล้วทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “บอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่ชอบฉันนัก” “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ผมแค่ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ” “แล้วมันทำไม?” “ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง” หลังจากได้รับคำตอบ ฉันก็ไม่เคยเข้าใจในความหมายนั้น กระทั่งคืนหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเราไปตลอดกาล...
ยามใดที่ร่างกายสัมผัสถูกเกสรดอกไม้ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... เพราะความเมามายเป็นเหตุ จึงทำให้ฉันต้องอยู่บนเตียงกับเขาตลอดทั้งค่ำคืนนั้น คิดว่าจะจบ ทว่าเราสองคนกลับหวนมาเจอกันอีกครั้งในวันหนึ่ง “คุณท้องกับผมเหรอ?” “คุณคิดว่าเครื่องตัวเองฟิตสตาร์ทติดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” .......................................................................................... ชีวิตของฉันซวยมากเลยค่ะคุณกิตติคะ ด้วยความที่เพื่อนงอนกับแฟนก็เลยอยู่ช่วยปลอบใจ พร้อมคอยปรามไม่ให้เพื่อนดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายไร้สติ แต่จู่ๆ ก็มีนังตัวดีที่ไหนไม่รู้ส่งคลิปคนรักของฉันซึ่งกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นมาให้ดู ไป ๆ มา ๆ จึงกลับกลายเป็นว่าเพื่อนต้องปลอบใจฉันแทน อาการเจ็บช้ำหัวใจที่จู่โจมเข้ามากะทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้ฉันกระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ แบบไม่หยุดยั้ง ยังค่ะ...เรื่องยังไม่จบที่ตรงนั้น แฟนเพื่อนตามมารับเพื่อนกลับบ้าน แต่ก็ยังมีน้ำใจพาฉันขึ้นไปห้องพัก ทว่า...ห้องนั้นดันไม่ใช่ห้องของฉันนี่สิ "คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องของผมได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้!" ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเอ่ยปากไล่ฉันดูแปลกตา คล้ายกับกำลังระงับอารมณ์บางอย่าง กระนั้นระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ทำให้ฉันไม่อยากสนใจอะไรนอกเสียจากล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง "อะไร? จะแปลงร่างเหรอ? ไปเล่นที่อื่นไปหนู พี่จะนอน" ความเมาเป็นเหตุสังเกตได้ ตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงได้รู้ ว่าตนเองถูก 'คนแปลกหน้า' พรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว...
ยามใดที่ดวงอาทิตย์ตกดิน นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ค่ำคืนนั้นเขาช่างเร่าร้อน ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราล้วนไม่ใช่เพราะความรัก... "ขึ้นชื่อว่าคนดูแลชั่วคราว เธอก็จะได้อยู่แค่ในสถานะนั้น อย่าใฝ่สูง" .......................................................................................... ฉันได้รับหน้าที่ให้ดูแล 'ผู้ชายคนหนึ่ง' ทว่าของแถมที่พ่วงติดมาด้วยนั้นคือเรื่องราวน่า 'ประหลาด' ซึ่งเป็นเหตุทำให้ชีวิตของฉันต้องพลิกผันไปตลอดกาล "คุณซานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" การเห็นเจ้านายแสดงท่าทีราวกับทุกข์ทรมานอยู่ตรงหน้า จึงไม่นิ่งนอนใจที่จะเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมขยับก้าวเข้าไปเพื่อช่วยพยุง "ออกไป!" ทว่าร่างสูงตรงหน้ากลับตะคอกใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หนำซ้ำยังสะบัดตัวฉันออกจนเซถลาเกือบล้มลงกระแทกพื้น "ออกไปจากห้องฉัน...เดี๋ยวนี้!!" หากย้อนเวลากลับไปได้ คืนนั้นฉันจะเชื่อฟัง และยอมเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี...
ผมไม่เคยคิดว่าการที่ไว้หนวดไว้เครา และทำตัวเซอร์ๆ จะทำให้ใครบางคนต้องร้องไห้เพียงเพราะแค่เห็นหน้า "ฮือ...แม่จ๋าหนูกลัวโจร" เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ในวันนั้น คือคนที่ผมต้องสยบจวบจนถึงทุกวันนี้... ........................................................................ ฉันไม่รู้ว่าเริ่มชอบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าพอได้ชอบฉันก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของตัวเองได้อีกเลย... วินาทีแรกที่เจอกัน 'เขา' ทำให้ฉันรู้สึกกลัว แต่พอนานวันเข้า เขากลับเป็นคนที่สอนให้ฉันรู้จักคำว่า 'ความรัก' "ถ้าโตขึ้นแล้วมีผู้ชายมาชอบหนู แด๊ดดี้จะทำยังไงคะ?" "ฆ่ามัน" ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ พอโตมาถึงได้รู้ ว่าฉันจะต้องเป็นของแด๊ดคนเดียวตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม...
"มาโรงพยาบาลวันนี้ป่วยเป็นอะไรอีกล่ะคะ" "พอดีกินข้าวไม่ค่อยได้น่ะครับ" "หืม? มีอาการอาเจียนด้วยหรือเปล่าคะ หรือว่ายังไง" "เปล่าครับ แค่ไม่มีตังค์" "..." "ถ้าคุณพยาบาลไม่รังเกียจ ผมขอฝากท้องไว้สักมื้อนะครับ" "คุณท้องเหรอคะ?" ........................................................................ "ถ้านายทำร้ายฉัน ฉันจะโทรไปฟ้องพี่" ฉันรู้ว่าคำขู่ของตัวเองมันอาจจะไม่ได้ผล เพราะเขาเป็นผู้ชายที่หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าปูนซีเมนต์ หมายถึงทนมือทนตีนน่ะนะ "ฟ้องมากๆ ระวังโดนตบด้วยปากและกระชากด้วยลิ้นนะ" นอกจากจะเป็นผู้ชายที่กวนตีนแล้ว ความหื่นของเขาก็มีมากเช่นกัน หมดเรี่ยวแรงไปเท่าไหร่แล้วกับผู้ชายพันธ์นี้...โปรดอยู่ให้ห่างแล้วชีวิตจะปลอดภัย
เคยได้ยินคำว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หรือเปล่า? และฉันก็ไม่ชอบให้ใครมาหากินในที่ของฉัน แต่ 'มัน' เสือกทำ "ไม่ใช่เด็กถิ่นเช็คอินได้เปล่า" ด้วยความที่โชคชะตามันโหดร้าย จึงทำให้เราสองคน 'ได้' กัน ........................................................................ สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือความเจ้าชู้ แต่แล้ววันหนึ่งฉันกลับกลายทำตัวเป็นแบบนั้นซะเอง เหตุการณ์ที่พบเจอมันบีบบังคับให้ฉันต้องร้าย ต้องแรง และ...อยู่ให้เป็น "นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นของเด็ก กลับบ้านไปดูดนมนอนไป๊!" วาจาที่พ่นออกมาจากริมฝีปากหนาเป็นอะไรที่ฉันรังเกียจพอๆ กับการเห็นหน้า 'คนพูด' "ก่อนไป ขอเตะปากทีดิ" เท้าของฉันมันกำลังกระตุก เมื่อหูได้ยินอะไรที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เขาว่ากันว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เห็นทีว่ามันจะจริง...
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY