/0/6485/coverbig.jpg?v=c64ed6f405bb58c176137f45faaebdac)
'ไซม่อน'ชายที่น่าสงสารมากที่สุด ตายมาแล้วยังต้องมาอยู่ในร่างของตัวประกอบที่มีหน้าที่ต้องตาย แถมยังต้องใช้ชีวิตให้เหมือนเด็กอายุ 10 ขวบ เพื่อเป็นก้างชิ้นใหญ่ และใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยในฐานะเด็ก
"แค่ก! แค่ก! แค่ก!"
ชายหนุ่มรูปร่างผอมจนแทบจะเห็นแต่กระดูก ใบหน้าโทรมซีดเผือดคล้ายจะเป็นไข้ เขาไอ้ออกมาหลายต่อหลายครั้ง จนลำคอรู้สึกแสบไปหมด
มือไม้ที่ไร้เรี่ยวแรงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออก
"แค่ก แค่ก!! แม่ครับ..."ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยพูดจนจบ เสียงปลายสายก็เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยถ้อยคำที่ดูหยาบคาย
"ไอ้ลูกทรพี!! วันนี้แกยังไม่ได้โอนเงินมาให้ฉันเลยนะ นี่แกคิดจะลืมบุญคุณ คนที่เลี้ยงดูแกมาตลอด 20 กว่าปีรึไง...."
"เห้ออ..."
เสียงถอนหายใจดังออกมาอย่างอ่อนล้า เขาไม่สนใจฟังสิ่งที่ปลายสายพูดต่อ ร่างกายอ่อนแรงและโรยราเต็มที
เพียงเวลาไม่นานร่างกายที่หนาวสั่นก็เริ่มหมดเรี่ยวแรง เปลือกตาแทบจะปิดลง ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้กินลูกชิ้นปิ้งที่เขาแวะซื้อก่อนกลับห้อง
เขาคว้าไม้ลูกชิ้นออกจากถุงแล้วกินมันลงท้องสายตาเริ่มเปลี่ยนไป พอนึกถึงคำพูดของแม่ที่เอาแต่ด่าเอาแต่ท้วงบุญคุณเขาอยู่นั่นแหละ
ทั้งๆที่เขาไม่สบายขนาดนี้แท้ๆ ไอ้ออกไปก็เสียงดัง คิดจะถามอาการกันบ้างมั้ย นัยน์ตาของเขาแดงระเรื่อนึกเสียใจที่ตัวเองคาดหวังจากพวกเขามากเกินไป
"ต่อจากนี้อย่าหวังว่าจะได้เงินสักบาทจากลูกคนนี้อีกเลย"เอ่ยอย่างมาดมั่นแล้วกัดลูกชิ้นเข้าปากทั้งลูก
"แค่ก!! อึก แค่ก!!"
ใครจะไปคิดว่าลูกชิ้นที่เขากินกลับติดคอ ตอนนี้เขาทั้งทรมานเพราะขาดออกซิเจน ทั้งเจ็บใจที่ตัวเองทำไมถึงโง่นอนกินลูกชิ้นแบบนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่กินลูกชิ้นตลอดชีวิต
ในห้วงแห่งความมืดมิดร่างของเขาลอยละล่องอยู่กลางอากาศ
"อื้ออ ผมคือใคร นี่ภาพอะไร?"
ภาพบางอย่างที่ไม่คุ้นเคยหลั่งไหลเข้ามาหลอมรวมเข้ากับความทรงจำของเขาราวกับว่าเขาคือคนในเรื่องราวแปลกใหม่นั้นจริงๆ
ความสงสัยฉายเข้ามาว่าตัวเองคือใครกันแน่ เป็นชายหนุ่มผู้น่าสงสารยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข หวังอยากให้พ่อกับแม่รักเขาสักนิด แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครสนใจเขาจนวินาทีสุดท้าย หรือเขาจะเป็นผู้ชายอีกคน มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจนกระทั่งอายุ 10 ขวบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำระหว่างไปเที่ยวกับพ่อและแม่ หัวสมองกระแทกอย่างแรงกว่าจะถูกเจอตัว เขาก็ติดเชื้อในสมอง จนทำให้เขากลายเป็นคนปัญญาอ่อน
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นไอคิวของเขาก็ถูกหยุดลงที่อายุ 10 ขวบ พ่อและแม่เสียชีวิตทั้งคู่ เพราะมีคู่หมั้นที่ถูกหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่เด็ก ส่งผลทำให้เขาต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น
"แค่น้องคนเดียว แกยังดูแลไม่ได้ แล้วแกจะไปทำอะไรได้!!"
"เพียะ!!"เสียงดังจากการถูกตบหน้า
เปลือกตาของชายบนเตียง ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ยามที่ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังขึ้น ภาพตรงหน้าทำให้นัยน์ตาของชายหนุ่มบนเตียงนอนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เพราะคนแปลกหน้าแสนไม่คุ้นเคยมันทำให้เขารู้สึกระแวง แต่เมื่อทบทวนความทรงจำใหม่กลับรู้จักเป็นอย่างดี
'จะเจ็บมั้ยนะ ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย'
'แต่เดี๋ยวนะ ทำไมถึง ผมไม่ได้ตายไปแล้วหรอ ระ...หรือว่าผมจะเกิดใหม่แล้วจริงๆ'
เมื่อเขาได้สติ จากอาการมึนงงเพราะความทรงจำที่เริ่มทับซ้อนกัน พอลองนึกดูดีๆ เขาก็พบว่าเขาได้ตายไปแล้ว แถมการตายยัง....
'คงไม่ถูกหัวเราะในงานศพหรอกใช่มั้ย'อยากจะมุดดินหนีเหลือเกินคนอะไรตายเพราะลูกชิ้น
'ไม่!! ไม่!! ช่างเถอะ เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นแล้วตอนนี้ผมมาอยู่ในร่างใครเนี่ย!'
สายตาของเขากวาดมองไปทั่วทั้งบริเวณ กลิ่นของโรงพยาบาลจากยาทำให้เขารับรู้ว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาลสักแห่ง ก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของชายที่ถูกตบ ร่างของชายคนนั้นสูงใหญ่ทั้งใบหน้ายังหล่อเหลาราวกับเทพบุตร
ในยามนี้นัยน์ตาของชายคนนั้นดูหม่นหมองลง ทั้งแก้มข้างซ้ายยังเป็นรอยแดงเถือก คนที่ตบก็คงเป็นชายอีกคนที่ดูมีอายุแต่ใบหน้ากลับยังดูดี ดูออกเลยว่าตอนหนุ่มๆคงหล่อเหลาไม่ต่างจากชายที่ถูกตบ
'แต่ทำไมผม ถึงรู้สึกคุ้นๆหน้าผู้ชายคนนี้จัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย'
"ตื่นแล้วหรอลูก เป็นอะไรรึเปล่า เจ็บมากมั้ย!"
เมื่อก้องเกียรติเห็นลูกชายเพื่อนสนิทที่เขารักเหมือนลูกแท้ๆลืมตาตื่น เขารีบเดินปรี่เข้ามา มือหนาลูบหัวเล็กของไซม่อน เด็กชายที่น่าสงสาร น้ำตาของเขาก็คลอเบ้าเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
"ภพพ่อบอกแล้วใช่มั้ย ให้ดูแลน้องดีๆ แล้วสิ่งที่แกทำ ดูสิ นี่แกดูน้องภาษาอะไร น้องถึงมีสภาพแบบนี้"
ก้องเกียรติโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาชี้นิ้วไปหาลูกชายของเขา ก่อนจะเตรียมตรงเข้าไปตบหน้าของไตรภพอีกครั้งหนึ่ง
เขารู้ว่าไตรภพไม่ชอบไซม่อน รู้ว่าเมื่อก่อนไตรภพก็ไม่ได้ดูแลไซม่อนอย่างดีแต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ เขาทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งได้ อย่างไงไตรภพก็ไม่ได้รักไซม่อนที่ยอมแต่งงานเพราะเขาบังคับให้แต่ง
อย่างน้อยดูแลไซม่อนให้ดีหน่อยเขาไม่พูดอะไรก็ได้ แต่ครั้งนี้มันเกินไปแล้วจริงๆ ปล่อยให้ไซม่อนออกมาจากบ้านคนเดียวได้อย่างไง
ตอนที่เขารู้เรื่องเขาโกรธจนควันออกหู อุตส่าห์สัญญากับเพื่อนสนิทเอาไว้แล้วว่าจะดูแลไซม่อนอย่างดี เขารักไซม่อนเหมือนลูกแท้ๆ
พอเห็นไซม่อนเกือบตายจะไม่ให้เขาโกรธลูกชายตัวเองได้อย่างไง แถมเจ้าลูกตัวดียังปิดข่าวไม่ให้เขารู้ นี่ถ้าหากไม่ใช่ว่าคนของเขาที่เขาแอบส่งเข้าไปอยู่ใกล้ตัวลูกชาย
เพื่อรายงานพฤติกรรมของไตรภพโทรมาบอก ปานนี้เขาก็คงยังไม่รู้ว่าไซม่อนต้องพบเจอกับเรื่องอะไรบ้าง
จนถึงวันที่ไซม่อนจากเขาไป เขาถึงจะรู้ใช่มั้ย ว่าลูกชายใจดำของเขาจงใจไม่ดูแลไซม่อนจนกระทั่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
'ดะ...เดี๋ยวนะ นี่มัน...ไม่ใช่พระเอกในนิยายเรื่อง โอบกอดหัวใจท่านประธานจอมหยิ่ง หรอกหรอ แล้วผมยังเป็นตัวประกอบที่ต้องตายอีกเนี่ยนะ!!!'
วอททท!! กูพึ่งตายยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตใหม่เลยนะครับ ไอ้พระเจ้ากะจะฆ่ากันอีกแล้วหรอ แค่ลูกชิ้นติดคอตายมันไม่พอใช่มั้ยครับ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"