พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
สวัสดีครับ พี่ๆ ทุกท่าน ผม ‘หนึ่ง’ ครับ ยังจำกันได้ไหมเอ่ย ‘เซ็กซ์ไรเดอร์’ สุดหล่อที่เคยมาเล่าประสบการณ์วิ่งวินสุดเสียว เพื่อส่งน้ำขุ่นข้นหวานมันให้กับสาวๆ ทั่วราชอาณาจักรยังไงล่ะครับ
มาครั้งนี้ผมจะไม่ทำให้พี่ๆ ผิดหวังหรอกครับ เพราะขนาด ซอยเล็ก ซอยตัน ซอยถี่ๆ หรือว่า ซอยห่างๆ หรือจะส่งถึงสถานที่ บ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม หรือแม้กระทั่งสวนสาธารณะ ที่ไหนความอยากเรียกร้อง ที่นั่นผมก็ส่งผู้โดยสารของผมจนถึงสวรรค์ได้ทุกคน
ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาขับรถยนต์แล้วน่ะครับ และประสิทธิภาพการขับเคลื่อนก็แรงขึ้น! อึดขึ้น! กว่ามอเตอร์ไซค์หลายเท่าตัวนัก นี่ผมไม่ได้โม้นะครับ ไม่เชื่อพี่ก็ลองมาฟังเรื่องเล่าเขย่าต่อมเสียวของผมกันดีกว่า แล้วผมจะให้สิทธิ์พี่ๆ กดไลค์ ว่าที่ผมพูดมาน่ะมันจริงหรือเปล่า
จะว่าไปเรื่องเล่าของผมในวันนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเลยนะครับ ก็ผมน่ะเลิกอาชีพนั้นมาได้ 2 ปีแล้วนี่ครับ ตั้งแต่เรียนจบผมก็กลับมาบ้านที่ร้อยเอ็ด หวังจะได้ทำงานตามวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ชุมชน ตามแนวคิดสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองน่ะครับ
ฟังแล้วดูดีใช่มั้ยล่ะ นั่นก็เหตุผลหนึ่ง ส่วนอีกเหตุผลที่ผมต้องจรลีกลับมาบ้านอย่างเร็วรี่ ก็ไม่พ้นเรื่องสาวๆ ตบตีกันแย่งชิงผมน่ะสิครับ โธ่! ทั้งใหญ่ ยาว อึด ทน อย่างผม จัดคิวไม่ว่างเว้นเลยครับ อย่าเพิ่งอาเจียนเอาอาหารเย็นออกมานะครับ มาฟังผมเล่าให้จบดีกว่า คืนนี้จะได้มีอะไรสนุกๆ ทำกัน คริคริ... คนหล่อแอบหัวเราะ
งานที่ผมใฝ่ฝันอยากจะมาทำก็คืองานพัฒนาชุมชนนั่นแหละครับ แน่นอนว่าพ่อแม่ผมดีใจที่สุดที่ผมกลับมาอยู่บ้าน มีงานการทำเป็นหลักแหล่ง แม้จะอยู่ในส่วนของลูกจ้างชั่วคราวก็ตาม แต่เมื่อโอกาสมาถึงผมก็จะสอบบรรจุให้ได้
งานในแต่ละวันของผมก็คือ การเข้าไปสำรวจความลำบากของชาวบ้านแต่ละครัวเรือน ว่ามีสิ่งใดขาดตกบกพร่องที่ต้องการให้ทางหน่วยงานที่ผมสังกัดเข้าไปช่วยเหลือบ้าง ซึ่งบางหมู่บ้านกว่าที่ผมจะไปถึง ทั้งฝุ่นลูกรัง ทั้งไอร้อนจากแสงแดดยามเที่ยงวัน หรือบางครั้งก็เจอฝนตกไม่บอกไม่กล่าว นั่นก็ทำเอาผมหมดสภาพไปไม่เป็นเลยครับ
ผมเลยตัดใจขายมอเตอร์ไซค์คันเก่งและเปลี่ยนเป็นกระบะคันเก่า คงพอนึกภาพออกนะครับว่ามอเตอร์ไซค์แลกกระบะ สภาพจะแค่ไหน แต่ผมต้องการงานลุยครับ ก็ต้องยอม
เงินเดือนน้อยนิดนี่ครับ ผมจึงต้องเลือกที่เหมาะสมและใช้ประโยชน์ได้จริง จะให้ผมไปเป็นหนี้แล้วผ่อนจนน้ำเชื้อหมดสาย ผมก็ไม่เอาหรอก ที่สำคัญงานของผมน่ะต้องเข้าไปตามหัวไร่ปลายนา รถหรูมาอยู่ทุ่งนาก็กลายเป็นรถฮ่างเหมือนกันแหละครับ
ดังนั้น เอาที่พอเหมาะนั่นแหละดีแล้ว เวลาขับตกหลุมตกบ่อจะได้ไม่เสียดาย อีกอย่างจะหาช่างดีจากไหนล่ะครับ แถวบ้านผมก็ใช้บริการอู่ซ่อมเครื่องไถนานี่แหละ และประโยชน์ดีเยี่ยมของเจ้ากระบะคันเก่านี้ก็คือ ผมได้พาพ่อแม่เข้าไปหาซื้ออุปกรณ์ทำการเกษตรในเมืองได้สะดวกด้วยสิครับ ไม่ต้องขี่สามล้อฮ่าง ต๊อกๆ แต๊กๆ ไปกันอีกแล้ว วันหยุดเมื่อไหร่ขอเพียงพ่อแม่บอกมา ลูกสุดหล่อจะพาไปเอง
พูดมาเสียยืดยาว พี่ๆ คงสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับ ว่าไอ้ที่ผมพร่ำมาซะมากมายนี่มันเกี่ยวอะไรกับ ‘รุ่นน้อง – รุ่นพี่’ กันล่ะ เกี่ยวสิครับ เกี่ยวมากด้วย ก็ไอ้งานหัวไร่ปลายนาของผมนี่แหละที่ทำให้รุ่นน้องประสบการณ์โชกโชนอย่างผม ได้โคจรไปพบกับรุ่นพี่สุดสวยที่เคยปรามาสผมเอาไว้
‘หนึ่ง... อย่าหาว่าพี่ว่าเลยนะ หนึ่งไปตั้งใจเรียน หาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ได้ซะก่อนเถอะ แล้วค่อยคิดมาจีบพี่ อีกอย่าง พี่ไม่ชอบเด็ก เข้าใจตรงนั้นนะ’ นั่นแหละครับวลีเด็ดของ ‘พี่ชมพู่’
พี่ชมพู่เป็นคนแรกที่สอนผมให้รู้จักคำว่า ‘รัก’ และสอนผมให้รู้จักคำว่า ‘เจ็บ’ ‘อกหัก’ และ ‘เจียมตัว’ นี่แหละครับอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้ผมตัดสินใจเตลิดไปกรุงเทพฯ ในทันทีที่จบมัธยม ก็แค่ห่างกัน 2 ปี ซึ่งผมไม่คิดว่าพี่ชมพู่จะแก่กว่าอะไรทำนองนั้นเลย แต่ก็ไม่คิดว่าพี่เขาจะมองว่าผมเด็ก
คำพูดนั้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่สายตาที่มองผมมันคือ ‘ไม่เจียมบอดี้’ เหมือนผมเป็นหมามองปลากระป๋องบนเครื่องบิน หรือไม่ก็เป็นเด็กน้อยที่แหงนมองว่าวที่หลุดลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่ 6 ปีที่ผ่านไป สถานะของผมกับพี่ชมพู่ไม่ใช่รุ่นพี่-รุ่นน้องอีกต่อไปแล้ว
วันนี้ผมเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนซึ่งมีหน้าที่มาสำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ส่วนพี่ชมพู่น่ะเหรอ เธอเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งก็คือพ่อของเธอเอง ผมกับเธอจึงต้องประสานงานกันอย่างช่วยไม่ได้ และแม้ผมจะทำทุกอย่างตามหน้าที่ แต่สิ่งที่พี่ชมพู่ทำกับผมไว้ ‘ผมไม่ลืม’ หรอกนะ
พี่ชมพู่ในวัย 26 ปี ดูอวบขึ้น อึ๋มขึ้น มากกว่าตอนเป็นนักศึกษาปี 2 มากมายนัก อาจเพราะเธอมีลูกมาแล้ว 1 คนก็ได้ ใช่ครับ พวกพี่อ่านไม่ผิดหรอก พี่ชมพู่เธอมีสามีแล้วครับ แต่สามีเธอทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้นที่จะกลับมาเยี่ยมบ้าน
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"