เสือกับสิงห์คิดว่าอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไหม....??? เขาว่ากันว่า...เสือกับสิงห์อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ฉันเป็นพวกไม่เชื่อทฤษฏีหรือคำพังเพยเปรียบเปรยใด ๆ เป็นพวกชอบพิสูจน์ด้วยตัวเอง ท้าทายดีชะมัด เอาล่ะมารอดูกันเถอะ ว่าฉันกับเขา...เราจะอยู่กันรอดไหม !!
เสือกับสิงห์คิดว่าอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไหม....??? เขาว่ากันว่า...เสือกับสิงห์อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ฉันเป็นพวกไม่เชื่อทฤษฏีหรือคำพังเพยเปรียบเปรยใด ๆ เป็นพวกชอบพิสูจน์ด้วยตัวเอง ท้าทายดีชะมัด เอาล่ะมารอดูกันเถอะ ว่าฉันกับเขา...เราจะอยู่กันรอดไหม !!
เสือกับสิงห์คิดว่าอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไหม....???
เขาว่ากันว่า...เสือกับสิงห์อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
ฉันเป็นพวกไม่เชื่อทฤษฏีหรือคำพังเพยเปรียบเปรยใด ๆ
เป็นพวกชอบพิสูจน์ด้วยตัวเอง
ท้าทายดีชะมัด เอาล่ะมารอดูกันเถอะ
ว่าฉันกับเขา...เราจะอยู่กันรอดไหม!!
บีสเตอร์คลับ, เฮฟเว่นพาร์ค
ดนตรีบีทหนัก ๆ ที่เปิดโดยดีเจชื่อดังแห่งยุค สร้างอะดรีนาลีนไหลพล่านไปทั่วกาย ฉันโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะอย่างยั่วยวน และรู้สึกพอใจมากที่ได้เห็นสายตาหนุ่ม ๆ พวกนั้นมองเหมือนอยากจะขย้ำฉันในคืนนี้ กระโปรงหนังสีดำขลับที่สั้นอยู่แล้วถูกถลกขึ้นอีกเผยให้เห็นรอยสักเล็ก ๆ รูปกลุ่มนกบิน สวยใช่ไหมล่ะ....ฝีมือเพื่อนฉันเอง ‘น้ำหอม’ เป็นคนสักให้
แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รอยสัก เพราะหนุ่ม ๆ พวกนั้นจ้องต้นขาฉันต่างหาก!
“น้อย ๆ หน่อยอีเนตร เดี๋ยวก็ได้ผู้ชายทั้งคลับเป็นผัวหรอก”
นั่นคือชื่อของฉันเอง ‘เนตรพาฬ’ แปลว่าดวงตาของเสือ แววตาเฉี่ยวคมสุดเซ็กซี่ที่สยบใครมานักต่อนัก อย่าเผลอมาสบตาเชียว บอกเลยว่ารอดยาก ทุกคนที่นี่ต่างรู้ประวัติฉันดี แม้จะโลว์โพรไฟล์ แต่ไฮเพอร์ฟอร์แมนค่ะ! ก็แค่นักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลป์ปีสองแผนกจิตรกรรม การวาดภาพเป็นสิ่งที่รักพอ ๆ กับการเต้นรำและดื่มเหล้า
และสาวเที่ยวบินสูงอย่างฉันรักอิสระเป็นที่สุด ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้
“นิด ๆ หน่อย ๆ เอง ไม่เห็นจะเสียหาย” ฉันไหวไหล่ตอบกลับไป ก็จริงนี่นา...มากกว่านี้ก็เคยทำมาแล้วกะอีแค่โชว์ขาอ่อนเอง เบบี๋มากสำหรับเนตรพาฬ
เพื่อนสาวคนสนิทเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้ในความมั่นของฉัน เธอคือ ‘สายรุ้ง’ สาวใต้หัวใจแบ๊ว ยัยนี่ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่ามีบ้านเกิดอยู่ทางใต้ เพราะทั้งหน้าตาและผิวพรรณเหมือนอิมพอร์ตมาจากเกาหลี เราเรียนอยู่คนละที่แต่ใจเดียวกัน คุยถูกคอเลยเป็นเพื่อนเที่ยวมาจนถึงบัดนี้
“นิดหน่อยอะไรกันเนตร ถกขึ้นอีกนิดก็เห็นกางเกงในแล้วนะ” น้ำเสียงห่วงใยแกมตำหนินี้ เป็นของแม่ชีประจำกลุ่ม นางชื่อ ‘เอริ’ หญิงสาวผู้แต่งตัวมิดชิดแม้กระทั่งตอนเที่ยวก็ยังใส่เสื้อผ้าเหมือนไปวัด ใครจะเชื่อว่าเธอมีนิสัยชอบเที่ยวกลางคืนและยังมีรสนิยมแปลกประหลาดอีกด้วย
ซึ่งทั้งสายรุ้งและเอริเป็นเพื่อนสนิทที่ฉันรักมากกก
“อย่าบ่นไปเลยน่า เห็นแล้วไงเอาไปไมได้สักหน่อย” ฉันบอกขณะโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างยั่วยวน เพื่อเรียกความสนใจจากสายตาใครบางคน
“ย่ะ! เอาไปไม่ได้ แต่โดนทำอย่างอื่นได้ หันไปดูสิ..หนุ่มโต๊ะนู้นน่ะ จ้องเธอไม่กระพริบเลย ดู ๆๆๆ สายตาหื่นกระหายอะไรอย่างนี้” เอริทั้งบ่นทั้งสะกิดให้ฉันหันไปมองโต๊ะด้านหลัง
ซึ่งก็จริงอย่างที่เธอว่า สายตาของแต่ละคนบ่งบอกว่าคืนนี้อยากร่วมเตียงกับฉัน หึ....ยังหรอก ฉันยังไม่ค่อยพอใจนัก ยี่ห้อเนตรพาฬทำ แค่นี้ยังน้อยไป มันต้องแรงกว่านี้.....แรดกว่านี้!
ฉันหันไปส่งจูบให้พวกเขาอย่างยั่วยวน ประจวบกับเป็นช่วงที่ดีเจพูดออกไมค์พอดี ‘อกหักเรื่องเล็ก แต่อกเล็กมันช้ำใจ เอ้า! ขอมือสาวอกใหญ่ไซส์บึ้มหน่อยเร้ววววว’ แค่ยกมือเหมือนคนอื่นน่ะคนอย่างเนตรไม่ทำหรอก มันต้องเป็นอะไรที่น่าจดจำกว่านั้นเยอะ ทุกสายตาต้องรวมอยู่ที่ฉัน...จุดเดียวเท่านั้น
เจ้าของรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีแดงแปร๊ดก้าวขึ้นบนแท่นเสาอย่างมั่นคง ท่าโพสสุดยั่วยวนเรียกเสียงโห่ร้องจากคนทั้งคลับ ฉันไม่ใช่หน้าตาดีอะไร ก็แค่ระดับท้องนาบ้านไร่ แต่ถ้าพูดถึงหุ่นล่ะเป็นนางแบบเพลย์บอยได้สบาย ๆ ฉันเลยกลายเป็นดาวเด่นของที่นี่ยังไงล่ะ
วิถีของเนตรคือ รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน ชอบสังสรรค์และยั่วผู้ชาย เกิดมามีชีวิตเดียวก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ...ว่าไหม? มีร่างกายที่ดีเก็บไว้ทำไมให้เสียของ ฉะนั้นฉันเลยวาดลวดลายควงเสาอย่างช่ำชอง ทุกท่วงท่าเรียกเสียงเชียร์ได้ดังกระหึ่ม และเหมือนทุกครั้งที่มีชายหนุ่มผู้กล้าหาญขึ้นมาพัวพันแทนต้นเสาทื่อ ซึ่งฉันก็ชอบนะ...นุ่มกว่ากันเยอะเลย
ปลายเล็บแหลมยาวที่ถูกต่อมาอย่างสวยงามเกี่ยวเข้าที่คอเสื้อเชิ้ตของชายคนแปลกหน้า ฉันเขยิบเข้าไปใกล้จนร่างกายเราเสียดสีกันไปมา บีทดนตรีเล่นจังหวะช้าลงเล็กน้อย ซึ่งก็เหมาะเจาะมากกับการใช้ท่าเต้นยั่วยวนแบบที่ถนัด สองมือแกร่งเลื้อยไปมาตามส่วนโค้งเว้าของเอว รู้สึกได้ถึงความตื่นตัวเมื่อใช้สะโพกบดเบียดลงบนส่วนนั้นของฝ่ายชาย ฉันคงปลุกปั่นอารมณ์เขามากไปหน่อย จนทนไม่ไหวไล่มือขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอก ซึ่งฉันหยุดการเคลื่อนไหวนั้นไว้ได้ทัน
“โอ๊ะโอ่ ใจเย็นสิคะ?” ฉันพลิกตัวกลับมาแล้วกระซิบชิดริมหู แต่สายตากำลังจับจ้องไปที่ใครบางคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านในสุด ซึ่งใครคนนั้นกำลังมองมาเช่นกัน
“แบบนี้เป็นไง...ดีกว่าไหม?” ฉันยกขาข้างหนึ่งขึ้นเกี่ยวกับสะโพกของผู้ชายตรงหน้า สองมือโอบรัดรอบคอไว้แน่นเลยทำให้หน้าอกขนาดใหญ่ที่แหวกออกจนให้ร่องแนบชิดกับแผงอกแกร่งไปด้วย
คนอย่างเนตรไม่ชอบเดินตามเกม แต่ชอบคุมเกมมากกว่า ฉันไม่ชอบให้ใครแตะตัวเกินจำเป็น แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะเป็นฝ่ายเสนอเข้าหาก่อน ความใกล้ชิดติดพันเริ่มเกินลิมิตขึ้นทุกที แต่ฉันจำเป็นต้องทำเพื่อเหตุผลบางอย่าง ยิ่งโดนสายตาปริศนาจากมุมมืดจ้องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเพิ่มความแนบชิดมากขึ้นเท่านั้น
ชายหนุ่มข้างกายช่างเป็นใจเหลือเกิน รู้งานจนฉันแทบไม่ต้องควบคุมอะไร เขาเป็นคู่เต้นที่ดีทีเดียว รู้ในความต้องการทั้งของฉันและของตัวเอง ท้ายทอยของเขาถูกรั้งลงจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นร้อนบริเวณใบหู เสียงครางกระหึ่มดังขึ้นในลำคอเมื่อโดนกระตุ้นด้วยการบดเบียด และอีกนิดเดียวเท่านั้นริมฝีปากหนาก็จะประทับลงบนซอกคอ ถ้าไม่โดนมือของใครบางคนฉุดฉันลงมาเสียก่อน!
“กลับได้แล้ว” ฉันกระตุกยิ้มอย่างพอใจ เมื่อได้ยินเสียงที่รอคอยมานาน
ในที่สุดเจ้าของสายตาคู่นั้นก็ทนไม่ไหวต้องเดินมาลากฉันลงจากแท่น บอกแล้วไงว่าฉันชอบคุมเกม!
”เนตรยังไม่อยากกลับ” ฉันสะบัดมือออกแล้วทำท่าจะก้าวขึ้นไปบนแท่นอีกครั้ง ท่ามกลางความงุนงงของชายหนุ่มคู่เต้น แต่ก้าวขึ้นไปแค่ขาเดียวก็โดนดึงกลับลงมาใหม่
“กลับเดี๋ยวนี้” เขากดเสียงต่ำวางอำนาจแบบที่ฉันเกลียด! มีเหรอที่จะยอมทำตาม น่าจะรู้นะว่ายิ่งห้ามก็ยิ่งอยาก....ไม่ชอบให้ทำก็ยิ่งอยากทำ
“ไม่ ชัดมะ” ฉันเชิดหน้ามองเขาอย่างท้าทายพร้อมกับสะบัดมือออกจากการเกาะกุมไปด้วย แต่คราวนี้ผู้ชายตรงหน้ากำข้อมือเอาไว้แน่นจนเริ่มเจ็บ
“ชัดเต็มสองหูเลยครับ” เขาว่าพลางดึงร่างฉันเข้าไปแนบชิดจนไร้พื้นที่ให้อากาศแทรกผ่าน ฉันไม่ชอบถูกควบคุมเลยยื้อยุดขัดขืนร่างกายเพื่อให้เป็นอิสระ แต่ก็สู้แรงไม่ไหว ผู้ชายบนแท่นเริ่มทำตัวไม่ถูกจะลงก็ไม่ได้เพราะยืนขวางอยู่ ครั้นจะเต้นคนเดียวกับเสาก็ดูแปลก ๆ เลยเก้ ๆ กัง ๆ จนคนข้างตัวดึงฉันออกห่างจากแท่น
“ขอโทษด้วยครับ เธอเมามากไปหน่อย” หึ...ก็พูดไป ยังไม่ได้ดื่มสักแก้วจะเอาที่ไหนมาเมา แม้น้ำเสียงจะบอกถึงความสุภาพ แต่สายตาที่มองไปยังผู้ชายคนนั้นน่ะ แทบจะกินเลือดกินเนื้อ
“จะปล่อยได้รึยัง พี่สิงห์!” นั่นแหละชื่อของเขา ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ทุกส่วนบนใบหน้างดงามไร้ที่ติ มีรูปร่างสูงโปร่งตามแบบฉบับที่สาว ๆ ชอบ ผิวขาวเรืองแสงที่เรียกสายตาจากผู้พบเห็น ทำให้ผู้ชายคนนี้ดูโดดเด่นอยู่เสมอ น่าเสียดายที่นิสัยเขาไม่ได้สวยงามเหมือนหน้าตา
‘กาฬสิงห์’ เป็นผู้ชายในแบบที่ผู้หญิงใฝ่ฝันถึง เขาสมบูรณ์แบบในทุก ๆ เรื่อง ในวงการกันดีว่าเขาน่ะเป็น ‘ตัวพ่อ’ จอมเพลย์บอย ไม่มีคืนสักคืนที่จะกลับบ้านตัวเปล่า สิงห์ร้ายอย่างเขาเพียงแค่กระดิกนิ้วหน่อยเดียว สาว ๆ ก็พร้อมยอมพลีกายอย่างไม่ต้องคิดเยอะ
“ถ้าจะ ’แรด’ ก็ให้มันมีขอบเขตบ้างนะครับน้องเนตร” เฮ้อ! แรดงั้นเหรอ...! ถือเป็นคำชมได้ไหม? พี่สิงห์ก็เป็นแบบนี้เสมอ พูดจาดีกับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นฉัน!
“เนตรแรดแล้วทำไมเหรอคะ พี่สิงห์เดือดร้อน?” เริ่มพอใจนิด ๆ เมื่อเห็นเขามีอาการบางอย่าง เพื่อให้แน่ชัดฉันเลยเปลี่ยนจากท่าทีขัดขืนเป็นโอนอ่อนตาม มือข้างที่เคยต่อต้านถูกนำมาวางไว้แนบอกแกร่ง ฉันไล้ข้อนิ้วแหวกไปตามรอยแยกของกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิท ส่วนแขนอีกข้างยกขึ้นพาดไว้ที่ท้ายทอย คนถูกระทำเพียงแค่จ้องมองนิ่ง ๆ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
ในชาติก่อนจางหลินซินเคยเป็นนักฆ่าผู้เก่งกาจ แต่ถูกครอบครัวทรยศและถูกยิงอย่างโหดเหี้ยม เฉินจือหานล้างแค้นแทนเธอและไปสวรรค์พร้อมกัน ในชาตินี้เธอได่เกิดใหม่และต้องการล้างบางพวกที่มันทำกับเธออย่างสาสม!!!
เมื่ออยู่ๆ 'นิตย์รดี โขคฉลุย' ต้องมาตกงานกะทันหัน เสียงานออกแบบภายในดีกรีปริญญาโทไปในพริบตา ต้องระเห็ดกลับมาอยู่บ้านเกิดที่พังงา สถานการณ์บังคับให้ต้องทำงานที่เลือกไม่ได้ หญิงสาวมาสมัครงานที่บ่อทรายของ 'นายหัวศิธา' ในตำแหน่งคนจดคิวรถ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดช่วงพายุถนนขาดกลับไม่ได้ เลยต้องค้างที่่บ่อทราย โชคยังดีเพราะมีห้องว่างแต่เธอดันเข้าห้องผิด!
เมื่อท่านประธานสุดเหลี่ยมมาเจอกับเด็กที่เหลี่ยมกว่า! ชีิวิตของท่านประธานน่านฟ้าถึงคราวปั่นป่วนเมื่อใช้เล่ห์เหลี่ยมในคลับหรู จนได้เด็ก N มานั่งแบบฟรีๆ แต่ดันโดนเด็กเหลี่ยมกลับท่านประธานถึงกับไปไม่เป็น!
เพราะหน้าตาเขาถูกใจอย่างจัง คุณหนูโรสจึงทำสารพัดวิธีเพื่ออ่อยมาเฟียหนุ่มให้ยอมตกเป็นของเธอ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาทั้งไล่ ทั้งด่าทำปากแจ๋วใส รสรินทร์จึงต้องงัดกลเม็ดความเด็ดที่มี พิชิตตัวพิชิตใจทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง “เหนือเพชร” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสุดยั่วยวน ทำใจกล้าส่ายสะโพกลงบนตัวตนที่รับรู้ได้ว่ากำลังพองขยาย เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา มีอะไรเหมือนคนปกติแต่ทำไมเล่นตัวจัง “ต้องการอะไร” เขานอนนิ่งจ้องมาด้วยแววตาที่เย็นชาจัด “ก็ต้องการนายไง” ถามมาได้ก็บอกอยู่ทุกวันว่าอยากได้ๆ ยอมๆ มาก็จบ ฟินๆ กันทั้งสองฝ่าย เธอก็ปากดีไปงั้นแหละประสบการณ์เป็นศูนย์ แต่เต็มใจมากถ้าครั้งแรกของเธอเป็นของเหนือเพชร “เห็นเป็นที่ระบาย?” เขาไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ รู้จักกันก็เปล่าคุยกันนับคำได้ เขาทั้งไล่ทั้งด่าแต่เธอก็ยังไม่หยุดตื้อ เขาไม่มีความคิดที่จะคบหาใครในตอนนี้ และไม่อยากมีสัมพันธ์กับโรสเพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันอยากได้ตัวนาย แล้วก็ตรงนี้...ของนายด้วย” โรสจิ้มนิ้วลงไปที่กลางอกของเขา เธออยากได้หัวใจมากกว่าร่างกายเสียอีก แต่เขาไม่อ่อนให้เธอเลย “ฝัน?” เหนือเพชรจับตรึงสะโพกของเธอไว้ เพราะลีลาการส่ายที่เย้ายวนของคนสวย เริ่มปลุกให้แก่นกายของเขาตื่นเต็มลำ ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างอันตราย “ไม่ฝันหรอกคอยดูเถอะ นายก็ไม่ได้รังเกียจฉันนี่นา”
ริชาร์ด คาลเวิร์ตเจ้าของเรือสำราญสุดหรูกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถูกสาวน้อยลูบคมด้วยการใช้ลูกได้ตุกติกในการเล่นคาสิโน แต่ยังไม่ทันที่ปานฟ้า เฮนเดอร์สัน ยังไม่ได้ทันหอบเงินไปใช้ เธอก็โดนจับได้เสียก่อน ปานฟ้ามีเหตุให้ต้องตัดสินใจเข้ามาเสี่ยงโชคในเกมคาสิโน เพราะต้องการเงินก้อนใหญ่ไปใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ ปานฟ้าไม่อยากโดนจับเธอขอแลกกับการทำงานบนเรือเพราะเธอเชี่ยวชาญด้านงานช่างเป็นอย่างดี ริชาร์ดเห็นว่าจะส่งเธอกลับตอนนี้ก็ไม่ทันเพราะเรือออกจากฝั่งมาไกลมาก จึงให้เธอทำงานและจับตาอยู่อย่างใกล้ชิด แต่สงสัยจะใกล้ชิดเกินเหตุ จากจับตากลายเป็นจับใจหลงไม่ไหว อยากได้นางโจรมาเป็นเมีย!
เมื่อกี้มีใครได้จูบคุณหรือเปล่าคะ” ดวงตาคู่หวานจ้องมองอย่างจับผิด ไม่มี” เดร็ครีบตอบ แต่เมื่อเห็นความหวงในแววตานั้นเขารู้สึกถูกใจ ถ้าเป็นคนอื่นอาจผลักลงจากเตียงไปแล้ว แต่เป็นคามิล่าที่แสดงความหวงแหน และเขาก็ชอบมัน “อืม แต่ชักแน่ใจแล้ว บางทีอาจจะมี…” พูดยังไม่ทันจบคามิล่าก็ก้มลงประกบริมฝีปาก เธอจูบไม่เป็นแต่พยายามขบริมฝีปากหนา แล้วแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขา เดร็คจูบตอบทันทีความเงอะงะไม่เป็นภาษา กระตุ้นอารมณ์ร้อนภายในร่างกาย จูบของคามิล่าเต็มไปด้วยความหวงแหน แสดงความเป็นเจ้าของผ่านจูบดูดดื่ม“มาลองคิดดูดีๆ ไม่น่ามี” เดร็คถอนริมฝีปากออกแล้วกดจูบที่ข้างแก้มสวย เธอน่ารักน่าเอ็นดู มีเสน่ห์แบบที่ไม่ต้องทำอะไร เขาก็หลงหัวปักหัวปำไปหมดแล้ว
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
จี้ฮันโจวเป็นคนมีฝีมือร้ายกาจและเด็ดขาด แต่กลับเอ็นดูรักใคร่เสิ่นชือมาก เสิ่นชือ ซึ่งเกือบจะเสียชีวิตเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดจากพ่อและแม่เลี้ยงของเธอ และเธอได้ช่วยชีวิตหัวจี้ฮันโจว นายน้อยของตระกูลใหญ่ที่สุดใน เมืองเซิ่นจิน ส่งผลให้ทั้งสองบรรลุความร่วมมือ และสุดท้ายตกหลุมรักกัน คนนอก: "ไหนบอกว่าคุณชายจี้จะไม่ชอบผู้หญิง ไหนบอกว่าไร้ความปรารถนา และไม่แยแสกับผู้หญิงล่ะ!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY