เมื่อการจากไปชอง “ธิชา” น้องสาวสุดที่รัก เพราะท้องและโดนทิ้ง ด้วยฝีมือของกันต์ รังสีภิรมย์ ผู้ชายเฮงซวย แมงดาปีกทอง ในคราบของไฮโซชั้นสูง ทำให้พายุ อาฆาตแค้นและจ้องทำลายล้างคนที่เป็นสาเหตุทำให้น้องสาวของเขาต้องตาย ถึงคราวซวยของ “อุรวรา” เมื่อเธอคือเจ้าสาวของ กันต์ รังสีภิรมย์ ที่เขาเลือกที่จะแต่งงานด้วย เธอจึงกลายเป็นเหยื่อของความแค้น ความโหดร้าย และการทำทารุณ จึงโหมกระหน่ำลงมาที่เธอ
ตอนที่ 1
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ธิชา เปิดประตูให้พี่หน่อยสิ พี่เอาข้าวมาให้น่ะ”
เสียงห้าวทุ้มของพ่อเลี้ยงพายุ ฤทธิ์ธิเดช แห่งไร่ฤทธิ์ธิเดช เรียกน้องสาวคนเล็กที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ชายหนุ่มมีร่างกายที่แข็งแกร่งสูงใหญ่และกำยำ เป็นที่คลั่งไคล้ของเหล่าคนงานสาวๆ ภายในไร่ฤทธิ์ธิเดชเป็นอย่างมาก ความที่มีใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรทำให้ชื่อเสียงของพ่อเลี้ยงพายุเป็นที่หมายปองของสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วทั้งจังหวัดเชียงรายเป็นยิ่งนัก
ดวงตาสีนิลกาฬยังคงจับจ้องมองอยู่ที่ประตูห้องนอนของผู้เป็นน้องสาว ด้วยเพราะน้องน้อยไม่ยอมที่จะออกไปไหนเลยตั้งแต่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ หญิงสาวเอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในห้อง จนน้องชายอีกคนของเขาต้องไปขอให้พี่ชายคนโตมาช่วยกันเรียกให้น้องสาวคนเล็กของบ้านยอมเปิดประตูออกมาเสียที
“เห็นไหมพี่พายุ ผมบอกแล้วว่าธิชาน่ะมันไม่ยอมออกมาจากห้องเลย พี่เองก็เคาะเรียกอยู่ตั้งนานแล้วมันก็ยังไม่ยอมเปิดประตูห้องออกมาหาพวกเราเลยดูสิ”
อัคคี ฤทธิ์ธิเดช น้องชายคนรองของไร่ฤทธิ์ธิเดชพูดบอกออกมาด้วยความขัดใจ ใบหน้าหล่อเหลายู้เข้าหากันอย่างหงุดหงิด ด้วยน้องน้อยไม่ยอมเปิดประตูให้กับคนเป็นพี่สักที ร่างกายสูงใหญ่กำยำไม่แพ้คนเป็นพี่ชายเดินวนไปเวียนมาที่หน้าประตูห้องอย่างใช้ความคิด ดวงตาสีสนิมเหล็กมองสบตากับคนเป็นพี่ก่อนจะพยักหน้าให้กันว่าพวกเค้าคงจะต้องพังประตูห้องเข้าไปหาน้องนุชคนสุดท้องเป็นแน่
“เดี๋ยวเราถีบประตูห้องพร้อมๆ กันเลยนะอัคคี”
พายุพูดบอกน้องชายออกไปด้วยด้วยน้ำเสียงขึงขัง
“ได้เลยพี่ชาย ผมพร้อมอยู่แล้ว เดี๋ยวเรานับหนึ่งถึงสามแล้วถีบประตูพังเข้าไปเลย”
อัคคีบอกคนเป็นพี่ แต่ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสองจะเริ่มนับ ร่างของหญิงวัยกลางคนก็เดินตรงรี่เข้ามาหาผู้เป็นนายทั้งสองแล้วพูดร้องขึ้น
“หยุดค่ะ! หยุด! อย่าเพิ่งพังประตูค่ะพ่อเลี้ยง คุณอัคคี!”
ป้าสายใจ แม่บ้านที่คอยดูแลผู้เป็นนายทั้งสามของไร่ฤทธิ์ธิเดชแห่งนี้นั่นเอง
“อย่าพังประตูห้องเลยค่ะ พ่อเลี้ยง คุณอัคคี นี่ค่ะกุญแจของบ้าน ป้าเอามาให้แล้ว”
ป้าสายใจพูดบอกน้ำเสียงเหนื่อยหอบ ก่อนจะยื่นพวงกุญแจของห้องทั้งหมดภายในบ้านหลังนี้ให้กับพ่อเลี้ยงพายุเจ้านายของตน
พายุรับพวงกุญแจพวงใหญ่จากป้าสายใจมาถือไว้ในมือ ดวงตาสีนิลกาฬจับจ้องอยู่ที่พวงกุญแจอยู่พักนึง ก่อนจะส่งให้กับอัคคีแล้วพูดขึ้นว่า
“นายดูสิว่ากุญแจห้องของธิชามันดอกไหน พี่ขี้เกียจหาว่ะ มันเยอะหลายดอกเหลือเกิน”
“อ้าวพี่พายุ ทำไมโยนมาให้ผมล่ะ แล้ววันนี้ผมจะหาเจอไหมล่ะเนี่ย”
อัคคีบ่นกระปอดกระแปด ใบหน้าหล่อเหลางอง้ำขึ้นมาทันที แต่ก็ยื่นมือเรียวแกร่งออกไปรับพวงกุญแจจากคนเป็นพี่
ป้าสายใจถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นางเองก็ลืมไปว่าเจ้านายหนุ่มทั้งสองของนางนั้นไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องใช้กุญแจของบ้านไขเข้าห้องไหนๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว และหากจะให้เอาลูกกุญแจไขเข้าไปที่ห้องของคุณหนูคนเล็กเห็นทีกว่าจะไขเข้าไปได้ดีไม่ดีประตูห้องอาจจะพังไปก่อนแล้วก็เป็นได้
“มาค่ะ เดี๋ยวป้าไขให้เอง”
พูดจบป้าสายใจก็ยื่นมือเข้าไปขอกุญแจจากมือของอัคคีทันที ชายหนุ่มยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับส่งให้กับป้าสายใจแต่โดยดีเช่นกัน
“ดีเลยป้า เพราะถ้าหากว่าให้ผมกับพี่พายุไขละก็สงสัยวันนี้คงไม่ต้องเข้าไปหาธิชาเป็นแน่”
แต่ยังไม่ทันที่ป้าสายใจจะลงมือไขกุญแจห้องของน้องน้อย ประตูห้องก็ค่อยๆ เปิดออกมาเผยให้เห็นร่างบอบบางของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้อง ชลธิชา ฤทธิ์ธิเดช หรือ ธิชา น้องน้อยสุดรักสุดหวงของพี่ชายทั้งสองเป็นยิ่งนัก ใบหน้าสวยหวานยามนี้มีแต่คราบน้ำตาเกรอะกรัง ก่อนที่ร่างบอบบางจะโผเข้าไปหาอกกว้างของพี่คนโต แล้วหญิงสาวก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้อย่างเดียวเท่านั้น
“พี่พายุ...ฮือๆ...”
หญิงสาวพูดได้เพียงเท่านั้น แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เจ้าหล่อนเอาแต่ร้องไห้ จนคนเป็นพี่ทั้งสองไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรดี ก่อนที่อัคคีจะพูดขึ้น
“ธิชา อย่าร้องไห้เลยนะ เป็นอะไรไป ใครทำให้น้องน้อยของพี่เสียใจถึงขนาดนี้กัน บอกพี่เถอะ เดี๋ยวพวกพี่จะไปจัดการให้”
ชลธิชาเงยหน้าออกจากอกกว้างของพายุ แล้วเงยมองหน้าพี่ชายคนโต ก่อนจะหันกลับมามองอัคคีพี่ชายคนรองของเธอแล้วก็โผเข้าไปหาอ้อมอกเจ้าของคำพูดที่บอกว่าจะไปจัดการคนที่ทำให้เธอต้องมาร้องไห้เสียน้ำตาอย่างนี้
อัคคีรับร่างบอบบางของน้องสาวเอาไว้ ก่อนที่จะโอบกอดและปลอบโยนให้น้องน้อยได้คลายความทุกข์โศก ชายหนุ่มทำท่าจะพูดอะไรออกมาอีกแต่ก็ต้องหุบปากลงทันทีเมื่อดวงตาสีนิลกาฬของพี่ชายคนโตมองจ้องเขม็งพร้อมกับส่ายหัวไปมาเบาๆ เป็นเชิงบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้ไม่สมควรที่จะต้องพูดอะไรทั้งสิ้นนอกจากปล่อยให้น้องน้อยของพวกเขาได้ร้องไห้ระบายความอัดอั้นออกมาให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยถามเอาความจริง
ป้าสายใจเองเมื่อเห็นว่าคุณหนูของนางเป็นผู้เปิดประตูห้องออกมาเองก็รีบค้อมกายลงแล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยเพราะรู้หน้าที่ดีว่ายามนี้ไม่สมควรที่จะมีบุคคลภายนอกอยู่ร่วมในเหตุการณ์นี้
เวลาผ่านไปได้พักใหญ่ สามคนพี่น้องยังคงยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของน้องนุชคนสุดท้อง พี่น้องทั้งสามไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย พวกเขายังคงยืนอยู่ที่จุดเดิม จนกระทั่งเสียงร้องไห้ของชลธิชาเริ่มเงียบลง ตอนนี้หลงเหลือเพียงเสียงสะอื้นไห้ออกมาเป็นระยะๆ เท่านั้น ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะค่อยๆ เงยขึ้นมองคนเป็นพี่ทั้งสอง แล้วพนมมือไหว้เพื่อเป็นการขอโทษที่ทำให้พี่ชายทั้งสองต้องเป็นห่วงเธอ
“ธิชาต้องขอโทษพี่พายุกับพี่อัคคีด้วยนะคะที่ทำให้พวกพี่ต้องเป็นห่วงน่ะค่ะ”
“พี่ว่าเราไปคุยกันในห้องดีกว่านะ พี่ไม่อยากยืนคุยตรงนี้ ไปธิชาเข้าห้อง”
พ่อเลี้ยงพายุพูดสั่งน้องน้อยออกมา ก่อนที่จะเป็นคนเดินนำหน้าก้าวเข้าไปภายในห้องของน้องสาวเป็นคนแรก ทำให้เจ้าของห้องร้องห้ามเอาไว้ไม่ทัน จึงจำต้องยอมเดินตามกลับเข้าไปภายใน ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปที่เตียงนอนหนานุ่มแล้วดึงผ้าห่มคลุมถุงยาเอาไว้เพราะไม่อยากจะให้พี่ชายทั้งสองได้เห็นมัน
แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว อัคคีที่เดินตามหลังเข้ามาเป็นคนสุดท้ายกลับหันกลับมามองทันพอดีกับที่น้องน้อยของเขาเอาผ้าห่มคลุมทับถุงอะไรบางอย่าง ริมฝีปากของชายหนุ่มจึงพูดถามออกไปทันที
“นั่นถุงอะไรน่ะธิชา แล้วเราจะเอาผ้าห่มไปคลุมมันไว้ทำไมล่ะ”
อัคคีถามออกมาพร้อมกับเดินไปเปิดผ้าห่มออก แต่หญิงสาวร้องห้ามพร้อมกับพาร่างบอบบางหันกลับมาเผชิญหน้ากับพี่ชายคนรองแล้วกางมือออกเหมือนกับจะขวางกั้นไม่ให้พี่ชายได้เข้าไปใกล้เตียงนอนของเธอ
“อย่านะพี่อัคคี! อย่ามายุ่งกับเตียงของธิชานะ!”
ชลธิชาร้องบอกคนเป็นพี่ออกมาเสียงดัง แต่หญิงสาวคงลืมไปว่าเจ้าหล่อนนั้นมีพี่ชายอยู่ด้วยกันสองคน เมื่อคนหนึ่งถูกน้องน้อยขวางเอาไว้ อีกคนหนึ่งจึงทำหน้าที่นั้นแทน
พายุที่เดินเข้ามาก่อนเป็นคนแรก แต่เพราะความที่ห้องนอนของน้องน้อยไม่ยอมเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์ให้เข้ามาในห้อง แถมยังมีม่านบดบังแสงสว่างอีกจึงทำให้เขาต้องเปิดหน้าต่างออกก่อนแล้วจึงได้หันมาตามเสียงพูดของน้องทั้งสอง
ดวงตาสีนิลกาฬของพ่อเลี้ยงพายุมองจ้องมาที่เตียงนอนของน้องน้อยทันทีที่หญิงสาวพูดจบ มือเรียวใหญ่ของคนเป็นพี่ตวัดเปิดผ้าห่มที่น้องสาวเพิ่งจะใช้มันคลุมปิดถุงยาเอาไว้ ก่อนที่จะคว้าถุงยานั้นขึ้นมาอ่านว่าแพทย์จ่ายยาอะไรมาให้น้องสาวของตน ชลธิชาถึงกับตกใจใบหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นคนเป็นพี่ตวัดผ้าคลุมเตียงออกเช่นนั้น
“ว้าย! พี่พายุอย่า!”
ร่างบอบบางทำท่าจะเข้าไปคว้าถุงยาของตนเองคืน แต่หญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักกับสายตาดุดันของพี่ชายคนโตที่มองมายังตน ใบหน้าสวยหวานที่ซีดเซียวอยู่แล้วกลับซีดหนักลงไปอีก ร่างบอบบางสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความกลัว ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอนแล้วก้มหน้าร้องไห้ออกมาแล้วพูดขึ้นว่า
“ธิชา...ขอโทษ”
พายุยืนตัวแข็งอยู่ตรงหน้าน้องน้อย พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดอะไรไม่ออก เมื่อน้องน้อยพูดประโยคนี้ออกมา ก่อนที่อัคคีจะเดินเข้ามาหาพี่ชายแล้วยื่นมือไปหยิบถุงยาของน้องสาวออกมาดูว่ามันคือยาอะไร ทำไมพี่ชายกับน้องสาวของเขาถึงมีอาการเช่นนี้ แต่ขออย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้เลย
ดวงตาสีสนิมของอัคคีลุกวาบขึ้นทันทีที่ได้เห็นซองยาที่เขียนว่า ‘ยาบำรุงครรภ์’ นี่น้องสาวของเขาท้องหรือเนี่ย อัคคีนิ่งเงียบไปหลายนาทีก่อนที่จะเค้นเสียงถามออกมาว่า
“นี่หมายความว่ายังไงธิชา พวกพี่ส่งเธอให้ไปเรียนหนังสือนะ แล้วเรียนยังไงมันถึงได้ท้องป่องออกมาอย่างนี้”
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"