เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
มุมมองของสการ์เล็ต:
ฉันหันไปดูเวลาแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา ฉันอยู่ที่สนามบินมาชั่วโมงกว่าแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าดูนาฬิกามากี่รอบ แต่ชาร์ลส มัวร์ คนที่ฉันเรียกว่าสามีกลับยังไม่มารับฉันสักที ตอนนี้เขาคงอยู่กับแฟนเขาล่ะมั้ง ฉันยิ้มเฝื่อน ๆ แล้วลุกขึ้นลากกระเป๋าสัมภาระเดินออกจากสนามบิน
สามปีก่อน ฉันแต่งงานกับชาร์ลส หลังจากแต่งงาน ฉันก็ได้รับหนังสือตอบรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในฝันของฉัน ที่ต่างประเทศ สามปีมานี้ ฉันไม่เคยได้เจอชาร์ลสเลยสักครั้ง เหตุผลง่าย ๆ เขาคงอยากอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก ฉันไม่สามารถไปเป็นก้างขวางคอเขาได้
ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว ฉันกลับมาครั้งนี้ จะได้ยุติการแต่งงานแต่เพียงในนามนี้ของฉันลงสักที ฉันไม่จำเป็นต้องรักเขาข้างเดียวอยางนี้ต่อไปอีกแล้ว
ฉันส่งข้อความไปหาเขาตอนอยู่บนรถแท๊กซี่: เรามีเรื่องต้องคุยกัน
พอกลับถึงบ้าน ฉันก็นั่งลงบนโซฟา มองเรือนหอที่ว่างเปล่า และเงียบเหงาหลังนี้ รูปแต่งงานของเราถูกแขวนอบู่บนผนัง มันดูขัดหูขัดตาสิ้นดี
ฉันเผลอเหลือบไปมองโทรศัพท์ แล้วก็เห็นว่าเขายังไม่ตอบข้อความฉันมาเลย คืนนี้ไม่น่าจะกลับมาแล้วล่ะมั้ง
เวลาผ่านไป เสียงเครื่องยนต์ดับลงที่นอกบ้าน ฉันยืนขึ้นพร้อมใจที่เต้นระส่ำ นี่ฉันยังคาดหวังอะไรกับผู้ชายไร้หัวใจคนนี้อยู่อีกเหรอ ไม่มีทาง ฉันถูมือไม้ที่สั่นเทาเข้าด้วยกัน และย้ำเตือนตัวเองว่าฉันกลับมาเพื่อขอหย่าเท่านั้น
ทันใดนั้น ลูกบิดประตูใหญ่ก็ถูกหมุนออก ก่อนที่ประตูจะถูกผลักเข้ามา ไฟที่โถงทางเดินสว่างขึ้น สะท้อนเงาร่างสูง ๆ ชาร์ลสเดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทสีดำ ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใบหน้านั้นหล่อเหลาคมคายราวรูปปั้น เขายังคงเหมือนเดิม ใบหน้านิ่ง ๆ ที่เย็นชาของเขา ยังคงเหมือนเมื่อสามปีที่แล้วไม่มีผิด
หัวใจฉันเต้นระส่ำจนหายใจไม่ออก ชาร์ลสยังคงหล่อเหลาปานเทพบุตรเหมือนเดิม ราวกับว่าเขาไม่ใช่มนุษย์เดินดิน เสน่ห์ของเขาชวนให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล
กาลเวลาทำให้เขาเปลี่ยนไป เขาดูเป็นสุขุมขึ้น ร่างของเขาดูแข็งแรงบึกบึน ทำเอาพวงแก้มฉันร้อนผ่าว
เขาเดินมานั่งที่โซฟาด้วยท่าทีห่างเหิน
สายตาคมกริบของเขาพุ่งมาที่ฉัน ฉันพยายนามจะไม่ก้มหน้าลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว ฉันมองเห็นเงาของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตาของเขา
“กลับมาแล้วเหรอ” น้ำเสียงเขายังคงเย็นชาเช่นเคย
“อืม” ฉันตอบเขาขณะยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา
“ทนายเพิ่งส่งอีเมลให้คุณ” ชาร์ลสพูดพลางคลายเนคไทออ เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างกำยำของเขา คล้ายกับจะแหวกกระดุมเสื้อเชิ้ตออกมาเสียให้ได้
“โอเค เดี๋ยวฉันเปิดดู” ฉันกลืนน้ำลายอย่างประหม่า ก่อนจะพยายามทำให้เสียงตัวเองให้เป็นธรรมชาติที่สุด
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดอ่านอีเมล ฉันเห็นหัวข้ออี้มลเขียนว่าหนังสือข้อตกลงการหย่า แม้จะเป็นเรื่องที่คิดเอาไว้แล้ว แต่ฉันอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ ฉันรู้สึกเจ็บแปลที่หัวใจ แต่ก็ต้องขอบคุณความเจ็บปวดนี้ ที่ทำให้ฉันตื่นจากมนต์เสน่ห์ของชาร์ลาล์
“ตกลง” ฉันปิดอีเมลลง แล้วเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา ฉันมองคนตรงหน้า ที่กำลังจะไม่ใช่คนของฉันอีกต่อไปแล้ว เมื่อก่อนฉันเคยหลอกตัวเองว่าชาร์ลสเป็นของฉัน และฉันเป็นคุณนายมัวร์ แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะผลักผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตของฉัน
“ไม่อ่านหน่อยเหรอ?”
“ไม่ต้องหรอก คนอย่างคุณมัวร์คงจะไม่เอาเปรียบ ภรรยาเก่าหรอกจริงไหม?” ฉันออกมายิ้มบาง ๆ ภรรยาเก่างั้นเหรอ? คงเป็นแต่ในนามเท่านั้น
“บ้านที่อยู่แถวถนนการ์ดเนอร์นี้ผมจะยกให้คุณ และคอนโดใจกลางเมืองอีกชุด...”
“เมื่อไร?” ฉันตัดบทขึ้น
“หืม?” เขาขมวดคิ้วหันศีรษะ และมองมาที่ฉัน
“จะไปเซ็นใบหย่าเมื่อไร?” ฉันถามเบา ๆ
“แล้วผมจะนัดเวลากับทนายอีกที” ชาร์ลสก้มลง ก่อนจะตอบออกมา
“เอาไว้บอกฉันด้วยก็แล้วกัน”
หลังจากเงียบไปสักพัก ชาร์ลสก็ก้มลงมองฉัน
“ริต้าสุขภาพไม่ค่อยดี ผมอยากจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเธอ ชาร์ลสอธิบาย
ฉันรู้สึกเจ็บ จนเผลอกำโทรศัพท์แน่น ทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเธองั้นเหรอ? เขาพูดเสียอย่างกับตัวเองยิ่งใหญ่ซะเต็มปะดา และฉันคงเป็นคนที่ต้องเสียสละสินะ! เอาเถอะ ฉันมันก็แค่คุณนายมัวร์แต่เพียงในนามอยู่แล้วหนิ ก็แค่ฐานะปลอม ๆ
“เข้าใจแล้ว” แม้ในใจฉันจะตะโกนบอกว่าไม่เต็มใจอยู่เป็นพันเป็นหมื่นครั้ง แต่สุดท้ายฉันก็ยังพยักหน้าบอกเขาว่าเข้าใจ
“ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บอกให้ทนายเพิ่มลงไปในข้อตกลงได้เลยนะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แบบนี้ดีแล้ว” ฉันเม้มริมฝีบางแล้วแสร้งยิ้มบาง ๆ
“พรุ่งนี้ไปเจอริต้าสักหน่อยนะ” ชาร์ลสว่าพลางลุกเดินมาข้างหน้าฉัน
น้ำเสียงเขาเหมือนกับกำลังสั่งฉันอยู่ เขาไม่ได้ขอร้องออกมาตรง ๆ แต่กลับพูดเพื่อให้ฉันต้องทำแทน เขาเห็นฉันตัวอะไรกัน ทำไมฉันต้องไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วย นี่เขาต้องการซ้ำเติมฉันเหรอไง?
“ฉันต้องทำอะไร?” ฉันหุบยิ้ม แล้วหันไปมองเขา
“อย่าทำให้เธอโทษตัวเอง อย่าทำให้เธอต้องรู้สึกผิด บอกเธอว่าคุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ทำให้เธอวางใจ เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉัน และสบตาฉัน
“ได้”
ฉันอยากจะปฏิเสธ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ฉันไม่เคยขัดสิ่งที่เขาต้องการเลย ราวกับมันกลายเป็นความเคยชินของฉันไปแล้ว
“พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณ”
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอก บอกที่อยู่ฉันมาก็พอ”
ชาร์ลสหันมามองฉันแวบนึง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เมื่อเห็นเขาเดินจากไป น้ำตาฉันก็เอ่อทะลักออกมา สามปีที่ผ่านมา เราแต่งงานกันโดยไม่มีใครรู้ นอกจากคนในครอบครัว และเพื่อนสนิทแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราแต่งงานกันเลย หลายเดือนก่อน สื่อเผยแพร่ข่าวการแต่งงานระหว่างเขากับริต้าออกมา ในข่าวยังมีรูปพวกเขาลองชุดแต่งงานกันด้วย ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน!
ครั้งหนึ่ง เมื่อไรก็ตามที่ชาร์ลสปรากฏตัวขึ้น สายตาฉันจะตามติดเขาเป็นเงา ในตอนแรกฉันคิดอย่างโง่งมว่าขอเพียงฉันแต่งงานกับเขา ต่อให้เขาไม่ได้ชอบฉันนัก แต่ขอแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย เขาจะค่อย ๆ รักฉันเอง ต่อให้มันจะแค่นิดเดียวก็ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันรักเขา ขอแค่ฉันรักเขาก็พอแล้ว
ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่า เวลาที่เรารักใครสักคน เราก็มักจะต้องการความรักของเขาทั้งหมด ความรักเล็กน้อยนั้นมันไม่เพียงพอเลยสักนิด
สามปีที่ผ่านมา ไม่รู้กี่วันกี่คืนที่ฉันเฝ้ารอเขา แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ได้อะไรจากเขาเลย หัวใจของฉันค่อย ๆ ด้านชา ด้านชาจนถึงขีดสุด
ฉันเข้าใจแล้วว่าสการ์เล็ตต์ที่โง่เง่านั้นตายไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้หัวใจของฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
ฉันกลับห้อง แล้วหยิบชุดนอนออกมาจากกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันมองไปรอบ ๆ ห้อง ถึงได้เห็นว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม สามปีที่ผ่านมา เขากับแฟนเขาคงไปอยู่ที่อื่นกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ฉันเดินไปสูดอากาศตรงระเบียง แล้วก็พบว่ารถของชาร์ลสยังจอดอยู่ในสนาม ทำไมเขาถึงยังไม่ไปอีก เขาควรจะรีบกลับไปหาริต้าสุดที่รักของเขาไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่ฉันมองรถของเขาอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จากเทียน่าเพื่อนรักของฉันเอง ฉันรับโทรศัพท์
“ไฮ ที!”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะเพื่อนรัก!”
“ขอบใจจ้า”
“โทษทีนะที่ไม่ได้ไปรับเธอที่สนามบิน ฉันมาทำงานนอกสถานที่น่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เธอทำธุระของเธอไปเถอะ”
“กลับมาคราวนี้ยังจะกลับไปอีกไหม?”
“ยังไม่กลับน่ะ”
“งั้นมาทำงานที่สถานีเราสิ! เธอจบสาขาการสื่อสารมาหนิ เสียงเธอก็เพราะ สวยก็สวย เหมาะสมที่สุด!”
“เอาสิ”
“เจอชาร์ลสหรือยัง” เสียงของเทียน่าพลันเบาลง ราวกับกระซิบ
“อืม” ฉันมองไปยังรถที่จอดอยู่นอกบ้านอีกครั้ง
“เขาบอกเธอเรื่องนังผู้หญิงแพศยานั่นหรือยัง?”
“อืม”
“หน้าไม่อาย! นี่เขายังมีหน้ามาพูดเรื่องนี้กับเธออีก”
“ไม่เป็นไรน่า พรุ่งนี้ฉันจะไปหาริต้า”
“เธอจะไปหานังผู้หญิงแพศยานั่นเหรอ? ยัยนั่นต้องยุให้ชาร์ลสหย่ากับเธอแล้วไปแต่งงานกับมันแน่! เมื่อสามปีที่แล้วตระกูลมัวร์ไม่ยอมรับริต้า ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีวันยอมรับเหมือนเดิมนั่นแหละ!” เสียงขู่คำรามของเทียน่าดังผ่านมาในสาย
“มันจบไปแล้วน่า” ฉันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก
“จบไปแล้วงั้นเหรอ? นี่สการ์เธอยังรักเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
ฉันไม่ตอบ ใช่ฉันรักเขา รักมาหลายปีแล้วด้วย
“สการ์เล็ตต์” เสียงเทียน่าดังขึ้นอีกครั้ง เรียกสติฉันให้กลับมา
“ฉันเหนื่อยแล้ว ไว้เจอกันนะ”
ฉันวางสายแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รถยังคงจอดอยู่ที่เดิม ทำไมฉันต้องสนใจด้วย?
นั่งเครื่องมาตั้งนาน ฉันชักจะล้าจริง ๆ แล้ว พอกลับมาถึงห้อง เธอก็เอนกายลงบนเตียง ไม่นานความง่วงงุนก็เข้าครอบงำ ทันใดนั้นเอง ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูทั้งที่ยังงัวเงีย แล้วยื่นหน้าออกไปดู ถึงได้เห็นว่าชาร์ลสยืนอยู่หน้าประตู
เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"