เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
ร่างสูงใหญ่ทรุดกายลงนั่งบนโซฟา มือผสานกันด้านหน้า ทอดสายตามองบิดาซึ่งยืนอยู่ ชายชราหันมาแล้วทิ้งกายลงตรงข้าม มองบุตรชายเพียงคนเดียวด้วยความภูมิใจ อารอนนับวันยิ่งหล่อเหลา ดวงตาคมกริบ คิ้วเข้ม ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ผมดำสนิทเพราะได้เชื้อทางแม่ซึ่งเป็นสาวญี่ปุ่น อารอนเก่งทุกด้าน ทำงานแทนเขาได้ทั้งหมด ลูกชายไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย ทว่ามีเรื่องเดียวที่เป็นห่วง อายุอานามเข้าเลขสามเกือบปลาย ยังไม่ยอมแต่งงานเมียภรรยาสักที.
“อารอน... พ่อมีเรื่องอยากปรึกษากับลูก”
“ครับ”
“พ่อเคยขอลูกสาวของเพื่อนไว้เป็นเจ้าสาวให้แก”
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย
“ผมไม่พร้อม!” เขาปฏิเสธทันที
“ทุกอย่างที่พ่อมี พ่อยกให้ลูกหมด”
คนฟังชะงัก สีหน้าครุ่นคิด
“ทั้งหมดเลยเหรอครับ” เขาย้อนถามเสียงเครียด
“ใช่” ชายชราเว้นคำพูด “ถ้าลูกยอมแต่งงานกับหนูเจน”
ดวงตาคมหรี่ลง “ก็ได้ครับ”
เฟอร์นาร์ดกระตุกยิ้มมุมปาก
“พ่อจะนัดให้ลูกไปเจอกับว่าที่เจ้าสาว ลูกจะได้รู้ว่าหนูเจนน่ะสวยขนาดไหน”
สีหน้าคนฟังนิ่งเฉย ไม่ยินดียินร้าย คนอย่างเขาไม่ต้องการผู้ใดมายืนเคียงข้าง แค่เป็นคู่นอนเพื่อระบายความใคร่ก็เพียงพอแล้ว
“แล้วแต่พ่อครับ อยากให้ผมทำอะไรก็บอกมา”
“แล้วพ่อจะโทรหา”
“ครับ” พูดจบเขาลุกยืน วันนี้มีประชุมต่อ คงไม่มีเวลาคุยบิดาแล้ว “ผมไปก่อนนะครับพ่อ ผมมีงานต้องทำ”
ร่างสูงใหญ่สาวเท้าออกมาด้านนอก แล้วเปิดประตูนั่งเบาะหลัง ให้คนขับเคลื่อนออกไปยังจุดหมายทันที ลูกชายลับสายตาเฟอร์นาร์ดต่อสายถึงเพื่อนเก่า เวลาผ่านมาหลายปี ตอนนี้บุตรสาวเพื่อนกลายเป็นสาวสวยสะพรั่งแล้ว
“ครับ” ปลายสายรับ เฟอร์นาร์ดยิ้มกว้าง
“เรียบร้อยวิทย์ไม่มีปัญหาอะไร ทางแกล่ะ”
“พรุ่งนี้นั่นแหละถึงจะได้คุย ว่าแต่ทำไมแกรีบนักเล่า” หัถวิทย์ย้อนถาม ด้วยความสับสน อยู่ดีๆ ไม่กี่วันก่อนเพื่อนโทรหาทวงสัญญาเก่ากันไว้เมื่อห้าปีก่อน
“เจ้าอารอนมันไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหน ฉันอดเป็นห่วงมันไม่ได้ กลัวมันจะไม่มีหลานให้เลี้ยงน่ะสิ”
“ลูกสาวฉันอาจจะยากสักหน่อย รายนั้นรั้นยิ่งกว่าอะไร”
“เอาเป็นว่า ถ้าหนูเจนยอมตกลงส่งข่าวมาบอกหน่อยก็แล้วกัน” เฟอร์นาร์ดบอกเสียงเครียด เขาคาดหวังกับบุตรสาวเพื่อนไว้พอสมควรเลยทีเดียว
“ได้ แต่ฉันไม่รับปากนะว่ายัยเจนจะตกลงหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร ฉันแค่หวังว่าหนูเจนจะตกลง ยังไงฉันก็อยากได้ลูกสาวแกเป็นสะใภ้”
หัถวิทย์หัวเราะลั่นเมื่อเพื่อนออกปากขนาดนั้น
“โอเค ฉันจะพยายามก็แล้วกัน” เขาวางสายจากเพื่อน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
อะไรไม่สำคัญเท่า บุตรสาวดันมีคนรักอยู่แล้ว แต่ไอ้หมอนั่นไม่ถูกใจเขาเอาเสียเลย ยัยเจนก็เหมือนปิดหูปิดตาไม่รับรู้ ไม่รู้จะทำยังไงดี
กระเป๋าสะพายถูกวางไว้บนโต๊ะกระจก เจ้าของร่างสมส่วน ผิวกายขาว วงหน้าสวยคม ผมยาวเคลียแผ่นหลัง ดวงตากลมโต ผสานสายตากับผู้ให้กำเนิดแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพื่อระบายความอึดอัดภายใน สำหรับเธอแล้ว นับครั้งไม่ถ้วนที่พ่อพยายามเรียกมาพูดคุยเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซึ่งมันชวนให้หงุดหงิด
“ถ้าพ่อจะคุยกับเจนเรื่องดูตัวกับลูกเพื่อนพ่อ ที่พ่อเคยบอก เจนปฏิเสธค่ะ!” หญิงสาวยังคงยืนยันหนักแน่น
“ทำเพื่อพ่อไม่ได้เหรอ พ่อไม่อยากเสียคำพูด”
“แต่พ่อไปรับปากพวกเขาเองนะคะ เจนไม่เกี่ยว!”
“เจน... ไปสักครั้งได้ไหมลูก ถ้าลูกไม่ชอบเขาพ่อไม่ว่าเลย”
หญิงสาวระบายลมหายใจ
“ต้องให้เจนพูดอีกกี่ครั้งคะพ่อ ว่าเจนมีแฟนแล้ว จะให้เจนทรยศเดชไปดูตัวกับลูกชายเพื่อนพ่อได้ยังไง อีกอย่างหมอนั่นก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วย”
“อาทิตย์หน้าอารอนจะมาเปิดบริษัทที่เมืองไทย แล้วเข้ามาเช็นสัญญากับบริษัทเรา”
“แล้วยังไงคะ มาไทยต้องมีเมียเป็นคนไทยเหรอ เจนไม่เอาด้วยหรอกค่ะพ่อ ถึงเห็นหน้าเจนก็รับประกันว่าไม่มีวันชอบลูกเพื่อนพ่อแน่ เพราะเจนมีเดชอยู่แล้ว เดชเขาเป็นคนดี เจนไม่อยากเสียเขาไป”
คนเป็นพ่อสุดทัดทาน เรื่องความรักมันคงบังคับกันไม่ได้ เขาผ่อนลมหายใจ ดูท่าคงต้องปฏิเสธเพื่อนไป
“ก็ได้ พ่อไม่บังคับเราแล้ว” หัถวิทย์จำต้องปล่อยเรื่องนี้ไป
“ถ้าอย่างนั้นเจนไปก่อนนะคะ มีนัดทานข้าวเย็นกับเดช”
ร่างบางลุกยืน เดินออกนอกห้องโถง แล้วเปิดประตูรถเคลื่อนมันออกจากรั้วบ้าน ตรงไปยังร้านอาหารที่นัดหมายกับแฟนหนุ่มเอาไว้
รถจอดลงหญิงสาวเปิดประตูแล้วก้าวลง ชายรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสีเดียวกัน ผิวขาว ใบหน้าเรียว ดวงตาเรียวคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งริมฝีปากหนา โบกมือให้กับแฟนสาวแล้วยกยิ้ม
“รอนานไหมคะเดช”
“ไม่เลยครับ”
เธอควงแขนเขาทันที ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่อิจฉาหนุ่มรูปงาม สองคนดูเหมาะสมกัน มาถึงโต๊ะอาหารที่จองไว้ เขาเลื่อนเก้าอี้ให้แฟนนั่ง ตนเองมาหย่อนกายอยู่ฝั่งตรงข้าม
พนักงานนำเมนูมาวางไว้ หญิงสาวเปิดอ่านแล้วสั่งของชอบตนเอง แล้วรอให้คนตรงข้ามสั่งมาสมทบ เดชาธรสบตาคนรักแล้วยิ้มบางๆ เจนนรีเป็นคนสวย ทรงเสน่ห์มีครบทุกอย่างที่ผู้ชายต้องการ เธอเย้ายวนชวนหลงใหล เพียงแต่ นิสัยเข้าถึงยากและต้องการคนเอาใจมากๆ จนถึงตอนนี้บางครั้งเขาเองก็ท้อไม่น้อย ที่ต้องคอยระมัดระวังคำพูด และที่สำคัญคือต้องระวังท่าทาง
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
ไม่รู้ว่าเป็นคราวซวยหรือสวรรค์กลั่นแกล้งกันแน่ เมื่อไฮโซสาวสร้างข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวันอย่างเมริยา สิทธิศักดิ์โสภณ ต้องตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับหนุ่มรูปกายภายนอกดูสุภาพบุรุษ ท่าทางสุขุมนุ่มลึก อย่างด็อกเตอร์ กันตธร วัชรเดชานนท์ เพียงเพราะสองคนถูกแอบถ่ายขณะเข้าโรงแรมด้วยกัน ทว่าเมริยาไม่เคยคิดเลยว่า ภาพลักษณ์ของชายคนนี้แท้จริงเป็นแค่ภาพลวงตากันตธรเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าภาพลักษณ์ของเธอแท้จริงคือสิ่งหลอกลวง เมื่อเขาไม่ใช่อย่างที่เธอคิด และเธอไม่ใช่อย่างที่เขาคิด การอยู่ร่วมบ้านจึงกลายเป็นเรื่องวุ่นปั่นป่วน ********************************* “ชุดคุณเลือกเอาเองก็แล้วกัน เผื่ออยากใส่แบบวาบหวิวโชว์เยอะๆ แบบที่คุณชอบไง” ชายหนุ่มประชดแล้วยักไหล่ คนถูกเยาะเย้ยสุดทน อารมณ์เริ่มขุ่นมัวอีกครั้ง เมริยากัดริมฝีปากแล้วจ้องมองว่าที่เจ้าบ่าว “ใช่! อย่างฉันมันต้องแหวกมันต้องเว้าเอาให้เห็นถึงข้างในนั้นล่ะถึงจะเป็นสไตล์ของฉัน!” คนสวยย้อนจ้องหน้าเขาไม่วางตา “เชิญตามสบาย อยากจะแหวกขนาดไหนก็เชิญผมไม่ว่าอะไรหรอก” เมริยาจ้องมองแผ่นหลังเขาที่หายเข้าไปในห้องลองเสื้อ มือบางกำแน่นด้วยความเดือดดาล โอ้ย! เธอโมโหจนแทบจะกระอักออกมาอยู่แล้ว ไอ้หมอนี่ต้องตายด้วยมือเธอสักวัน *********************************** เมริยาเห็นสันกรามอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขากำลังทรมาน ค่อยๆ ใช้แขนชันกายขึ้นโน้มใบหน้าใกล้ใบหูกระซิบแผ่ว “หลับแล้วเหรอคะ คุณสามี...”คนฟังขนลุกซู่ รีบลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ “เฮ้ย! คุณทำอะไร!”เขาร้องลั่น คนตัวเล็กลุกนั่งแสร้งยิ้มหวานยั่วยวน กันตธรอ้าปากค้างเห็นชุดที่สาวเจ้าใส่เล่นเอาใจสั่น สติแทบคงไว้ไม่อยู่ สะบัดไล่ความคิดด้านมืดออก จะตกหลุมพรางของเธอไม่ได้ “ถะ...ถอยออกไปเลยนะ ผมขอเตือนวันนี้คุณไม่ได้แอ้มผมหรอก”ชายหนุ่มบอกเสียงสั่น “แน่ใจเหรอคะที่รักขา...”หญิงสาวแสร้งลากเสียงหวานก่อนเขยิบกายเข้ามาใกล้ “ออกไปเลยคุณ ผมไม่มีวันทำอะไรคุณหรอก อย่ามาหื่นขอร้อง”กันตธรกระถดกายหนี *********************************************
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ