“จะให้ฉันรับผิดชอบยังไงบอกมา” ผมเอ่ยถามร่างเล็กที่เอาแต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนเตียง ในขณะที่สายตาตัวเองเหลือบไปมองชุดนักเรียนม.ปลายที่กระจายอยู่ที่พื้น เออ! ม.ปลาย! เห็นคุกอยู่รำไรแล้วไอ้คินทร์!
“ฮึก..ฮือ..” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังระงมไปทั่วทั้งห้อง
ร่างเล็กของเด็กสาววัยสิบแปดนอนขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาโดยที่ร่างกายของเธอไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ห่มกายไว้โดยสิ้นเชิง หยดน้ำใสๆ ไหลลงจนเปียกหมอนแล้วเปียกหมอนเล่า แต่ทว่าก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจอันบอบช้ำของเธอดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามกลับฉุดรั้งเธอให้ดำดิ่งลงในความเจ็บปวดมากกว่าเดิมซะอีก
แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความเจ็บปวดทางจิตใจเท่านั้น ไม่นับรวมความเจ็บปวดทางร่างกายอย่างแสนสาหัสที่เธอได้รับเมื่อคืนนี้เลย ท้องน้อยของเด็กที่เพิ่งแตกวัยสาวระบมไปหมด
“อื้อ...” เสียงครางทุ้มต่ำของผู้ชายที่นอนอยู่ด้านข้างดังเล็ดลอดออกมาก่อนจะคว้าร่างเล็กเข้าไปในอ้อมกอด
ฟอด~
เสียงสูดลมหายใจดังฟอดเกิดขึ้นที่ข้างแก้มของสาวเจ้า เธอย่นคอหนีแทบจะไม่ทัน
“ฮึก.. พะ..พี่คินทร์ ปล่อยน้ำก่อน น้ำเจ็บ” เสียงสั่นเครือบ่งบอกถึงความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี
“…” คนตัวโตแสนเอาแต่ใจลืมตาโพลงด้วยความตกใจ
เขารีบผละออกไปด้วยความเร็วแสงก่อนจะหยิบกางเกงยีนส์ที่ใช้สวมคู่กับเสื้อช็อปขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ พลางหันกลับมามองร่างของผู้หญิงที่นอนข้างกายเขามาตลอดทั้งคืน
“เฮ้ย!” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังออกจากลำคอแกร่ง “นี่เธอ! มายังไงเนี่ย”
คำถามนี้น่าจะต้องเป็นเด็กสาววัยสิบแปดปีมากกว่าที่ต้องเอ่ยถาม เพราะเธอก็นอนอยู่ที่ห้องดีๆ เขานั่นแหละที่ย่องเข้าห้องของเธอมาเอง ภายใต้ความมืดสลัวที่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น ทำให้ ‘แมวน้ำ’ ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อถูกคนตัวโตโหมทับด้วยแรงทั้งหมดที่มี ครั้นจะกรีดร้องให้คนด้านนอกช่วย เขาก็ดันใช้มือปิดปากเธอเอาไว้อีก
ปัง!
เสียงเปิดประตูดังพรวดขึ้นพร้อมกับบานประตูที่ถูกกระแทกด้วยความรุนแรง
“พี่คินทร์! แมวน้ำ!” เสียงเล็กแหลมที่ดังเข้ามาเป็นเสียงของน้องสาวแท้ๆ ของเขา
“คินทร์! หนูแมวน้ำ!” ส่วนนี่เป็นเสียงของประมุขประจำบ้านนั่นก็คือพ่อของเขานั่นเอง
เพียงเท่านั้นยังไม่พอ แม่ของเขาก็ยืนกอดอกพร้อมกับส่ายหน้าให้เขาด้วยความเอือมระอาอีกด้วย ส่วนเพื่อนรักของเขาอย่าง ‘เฟียต’ ก็ทำได้แค่ปรายตายืนมอง
“รีบแต่งตัวเลยนะคินทร์! หนูแมวน้ำด้วย! แล้วรีบลงไปพบพ่อกับแม่ข้างล่าง!” แม่ของเขาบอกทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
ปัง!
เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันดันเป็นเหมือนเสียงนรกที่เปิดรับเขาที่ยืนนิ่งราวกับวิญญาณได้ออกจากร่างไปเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงที่ยืนเปลือยท่อนบนอยู่ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงราวกับหมดแรงที่จะยืนหยัดพลางยกมือขึ้นกุมขมับ อาการปวดหัวเริ่มตรงเข้าเล่นงานเขาแล้ว
“โอ๊ย! นี่มันเชี่ยไรวะเนี่ย” เสียงสบถคล้ายกับไม่พอใจเอามากๆ ดังขึ้น
เป็นเวลานาร่วมนาทีที่แมวน้ำกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้หลังจากเหตุการณ์เมื่อกี้ จนตอนนี้เธอเริ่มกลั้นมันไม่อยู่แล้วถึงได้ปล่อยให้มันดังออกมา
“ฮึก..” ร่างของเธอสั่นสะท้านไปพร้อมกับการสะอื้น
“เงียบ!” เสียงสั่งเด็ดขาดจากคนตัวใหญ่ทำให้เธอสะดุ้งจนต้องใช้มือปิดปากตัวเองไว้แน่น ทั้งๆ ที่น้ำตายังคงไหลไม่ขาดสายเลยแม้เพียงเสี้ยววินาที “จะให้ฉันรับผิดชอบยังไงบอกมา”
“ฮึก.. มะ..ไม่รู้ น้ำไม่รู้” พูดได้เพียงเท่านั้นเธอก็มุดหัวลงไปใต้ผ้าห่ม ร้องไห้แถมปิดหูไม่รับรู้เสียงใดๆ ไปด้วย
“=_=”
“ตกลงจะเอายังไงกันต่อไปคินทร์ แมวน้ำ”
เหมือนการนั่งรอรับโทษลงทัณฑ์ สายตาดุดันที่แม่ใช้ส่งมาให้กับเสียงถามแกมเข้มงวดของพ่อทำให้คินทร์แทบอยากจะหยิบอะไรก็ได้ที่ใกล้มือที่สุดมาฆ่าตัวตายซะตอนนี้เลย
ส่วนร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าจะต้องทำอะไร จะไม่ช่วยแก้ต่างให้เขาหน่อยหรือไงว่าเขาไม่ได้ผิด มันคือความผิดพลาดในชีวิตที่เกิดขึ้น
“พ่อครับแม่ครับ มันเป็นความผิดพลาด ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ” เขาพยายามอธิบาย
แต่ดูเหมือนพ่อแม่และน้องสาว แถมยังมีเพื่อนสนิทอย่างเฟียตที่มองเขาอยู่ ไม่ได้มองว่าเป็นความผิดพลาดของเขาแต่อย่างใด หากแต่สายตาสี่คู่นั้นกลับมองเหมือนกับว่าเขา ‘มักง่าย’ ซะมากกว่า
“แม่จะให้คินทร์หมั้นกับหนูแมวน้ำ”
คล้ายกับเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางอกของคนเจ้าสำราญอย่างคินทร์ เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินแบบนั้น นี่มันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม บอกเขาสิว่าเขากำลังฝันไป
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย!” มือของเขาตบลงบนหน้าของตัวเองอย่างจัง
ไม่.. เขาไม่ได้ฝันไป.. นี่มันเรื่องจริง!
“ไม่เอานะแม่ คินทร์ไม่หมั้น!!! T^T”
คนตัวสูงยื่นนิ้วก้อยออกมาตรงหน้าฉัน "ดีกัน" ไม่รู้ว่าทำไมการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูใส่ใจกับคนรอบข้างแบบนี้ของ 'พี่ปลื้ม' ถึงทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก...
ฉันเผลอไปเหยียบเท้ารุ่นพี่ปีสี่ที่ขึ้นชื่อว่า ‘ขาโหดของคณะวิศวะ’ เข้าโดยบังเอิญ ก่อนที่พี่เขาจะหันมายิ้มพร้อมกับประโยคนิ่งๆแต่สิงไปด้วยไอสังหารว่า “เหยียบตีนพี่..อยากลองดีเหรอครับน้อง? :) ”
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ