วันทั้งวันชายหนุ่มหมกตัวอยู่แต่ในเหมืองแร่ทองคำซึ่งเป็นกิจการเดียวของตระกูล จะกลับเข้ามาที่บ้านก็เฉพาะตอนที่จะหลับนอนเท่านั้น
แต่ก็ใช่ว่าเขมทัตจะไม่เคยมีคนรัก ตรงกันข้าม เขาเคยแต่งงานมาหนึ่งครั้ง ซึ่งมันนานมากแล้ว ตั้งแต่อายุยี่สิบห้ากับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน ซึ่งเขาแอบรักหล่อนมาตลอด จนได้ร่วมชีวิตกัน
ทุกอย่างในชีวิตของเขาเหมือนจะราบรื่นและเต็มไปด้วยความสุข แต่วันหนึ่งเขาก็จับได้ว่า ในขณะที่เขาออกไปทำงานในเหมืองแร่ เมียรักกลับคบชู้สู่ชาย นั่นเพียงเพราะว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาให้
เขาไล่ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาออกไปจากบ้าน พร้อมกับเงินสิบล้าน แลกกับใบหย่า ซึ่งหล่อนก็ยินยอมแต่โดยดี
เขาเจ็บ เขาทรมาน และกว่าจะก้าวผ่านความทรงจำเลวร้ายนั้นมาได้มันยากเย็นเหลือเกิน ทำให้เขาไม่คิดที่จะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนอีก หากอยากมีเซ็กซ์เขาก็จะใช้เงินหว่าน จบค่ำคืนเร่าร้อนด้วยกัน ความสัมพันธ์ก็จบสิ้นตามไปด้วย
มันดีมาก...
ใช่... ชีวิตแบบนี้มันดี และเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้อย่างที่ต้องการ
สิบสี่ปีกว่าแล้วที่เขาใช้ชีวิตแบบนี้ วันไนท์สแตนด์กับผู้หญิงที่ลูกน้องคัดสรรมาให้
สนุก รสชาติไม่เคยซ้ำ และเขาก็มั่นใจว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปอีกนานเลยทีเดียว หรือไม่ก็จวบจนกว่าเขาจะสิ้นลมหายใจนั่นแหละ
“นายครับ... รถพร้อมแล้วครับ”
ใบหน้าหล่อจัดราวกับหินสลักไร้ชีวิตเอียงไปตามเสียงเรียก ก็พบว่าวิชัย ลูกน้องคนสนิทที่รู้ใจเขาเป็นอย่างดีในทุกๆ เรื่องกำลังยืนค้อมศีรษะอยู่
เขาผุดลุกขึ้นยืน ขยับเสื้อแจ็คเกตที่สวมใส่อยู่เล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปยังรถสี่ประตูยกล้อสูงที่จอดรถอยู่หน้าบ้านไม้สักสองชั้น
วิชัยรีบเดินตามหลังมา และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงไม่น้อย
“นายจะไม่ให้ผมขับรถให้จริงๆ เหรอครับ”
เขมทัตหันมายิ้มล้อเลียนให้กับคนสนิท “ฉันมีใบขับขี่มาตั้งแต่อายุสิบแปดแล้ว ดังนั้นแกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก วิชัย”
“แต่... หลังจากนายออกแรงตลอดทั้งค่ำคืน ผมเกรงว่านายจะเพลีย...”
วิชัยหมายถึงค่ำคืนที่กำลังจะเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้
“ถ้าฉันขับรถไม่ไหว ฉันจะโทรตามแกก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วง มีอะไรก็ไปทำเถอะ”
“เอ่อ... ครับนาย”
“แต่ก็ขอบใจนะที่เป็นห่วงฉัน”
เขมทัตกำลังจะก้าวขึ้นรถ และคนสนิทเรียกเอาไว้อีกครั้งด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วน
“มีอะไรอีกล่ะ”
“คือว่า...”
สีหน้าที่ผิดปกติไปของวิชัย ทำให้เขมทัตสงสัย จนต้องถามซ้ำ
“มีอะไรก็พูดมา เร็วเข้า”
“คือ... ผู้หญิงคนนี้... เอ่อ...”
วิชัยหมายถึงผู้หญิงที่จัดเตรียมไว้สังเวยเจ้านายของตนเองในค่ำคืนนี้
“ทำไมหรือ”
“เธอ... เธอค่อนข้างจะยังเด็กน่ะครับ”
เขมทัตหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นโบกกลางอากาศไปมาอย่างขบขัน
“ฉันเห็นผู้หญิงทุกคนที่แกหาให้ฉัน ก็เด็กๆ ทั้งนั้น ไม่เห็นมีคนไหนอายุเกินสามสิบสักคน”
“แต่... คนนี้เด็ก... ที่สุดครับ”
เขมทัตไม่ได้ใส่ใจคำพูดของคู่สนทนาแม้แต่นิดเดียว “แกคงอยากให้ฉันเบาๆ มือใช่ไหม”
“ก็... ประมาณนั้นครับ”
เขมทัตยิ้มอีกครั้ง แต่เป็นรอยยิ้มหยามหยัน เมื่อนึกถึงผู้หญิงขายตัวพวกนั้น
“ฉันไม่เคยหยาบคายกับผู้หญิงหรอก รับรองว่าไม่บอบช้ำ ฉันไปได้หรือยัง”
วิชัยอยากจะบอกอายุของผู้หญิงคนนี้กับเจ้านาย แต่ก็จำต้องเงียบเอาไว้ เพราะเกรงจะถูกโมโห
“ครับ นาย”
เขมทัตกระโดดขึ้นรถ และขับออกไป
วิชัยมองตามท้ายรถของเจ้านายไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจเลย
“ขออย่าให้เกิดปัญหาอะไรเลย สาธุ”
ไข่มุก รัตนะ เด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี หล่อนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
ชีวิตของไข่มุกลำบากมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก เพราะฐานะทางบ้านของหล่อนยากจนข้นแค้น หล่อนไม่เคยรู้จักกับความสบายเลยตั้งแต่เกิดมา
บิดามารดาของหล่อนออกไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัดกับผู้รับเหมา และก็ส่งเงินมาให้ย่าที่คอยดูแลหล่อนที่บ้านเช่า
จนกระทั่งหล่อนอายุได้แปดขวบ รถรับคนงานของนายจ้างซึ่งเป็นผู้รับเหมาก็ประสบอุบัติเหตุตกข้างทางเพราะมีรถยนต์อีกครั้งมาตัดหน้า พ่อกับแม่ของหล่อนรวมถึงคนงานอีกหลายคนที่นั่งอยู่ที่ท้ายกระบะด้านหลัง กระเด็นตกลงจากรถ
หลายคนโชคดีที่ไม่เสียชีวิต แต่พ่อกับแม่ของหล่อนโชคร้าย พวกท่านกระเด็นตกลงมาจากรถ ร่างฟาดเข้ากับต้นไม้ข้างทางตายคาที่
มันคือฝันร้ายที่สุดในชีวิตที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หน้าที่หาเงินเลี้ยงดูหล่อนก็ตกมาเป็นของย่า
ย่าผู้ที่ตอนนี้อายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว แถมตอนนี้ท่านก็ยังเป็นโรคหัวใจ ทำให้ต้องผ่าตัดด่วน
ใช่... หล่อนต้องใช้เงินด่วนมาก เพื่อนำมารักษาผู้มีพระคุณของตนเอง หล่อนปล่อยให้ย่าตายไม่ได้ ท่านคือเป็นดั่งลมหายใจของหล่อน
แต่ปัญหาก็คือ... หล่อนไม่มีเงิน แค่เงินจะไปเรียนในแต่ละวันก็แทบไม่มีแล้ว ดังนั้นทางเลือกเดียวที่จะสามารถหาเงินจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว นั่นก็คือการขายเรือนร่างให้กับผู้ชายร่ำรวยสักคน เพื่อแลกกับเศษเงินของเขา