จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
ณ สตูดิโอถ่ายภาพ
รถเมล์ตื่นแต่เช้าเพื่อมาถ่ายแบบเป็นครั้งแรก งานนี้เป็นงานชิ้นแรกของเธอก็เพราะว่าเมื่อวันก่อนตอนที่เธอเดินเที่ยวเล่นในห้างอยู่ดีๆ ก็มีแมวมองเข้าไปทักเธอ ก่อนที่เธอจะตกลงและลองมาถ่ายแบบเป็นครั้งแรก
"สวัสดีค่ะ พี่ๆ ทุกคน" รถเมล์ทักทายทุกคนในสตูดิโอ
"สวัสดีค่ะน้องเมย์ มาทางนี้เลยค่ะ มาแต่งหน้ารอนายแบบกันก่อนนะคะ"
"ค่ะ พี่อร"
ผ่านไปราวยี่สิบนาทีที่เธอนั่งให้ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าให้เธอจนเกือบจะเสร็จ นายแบบที่เธอถ่ายคู่กับเธอก็มาถึงที่สตูดิโอ
"สวัสดีครับ ขอโทษครับที่ผมมาสาย"
"ไม่เป็นไรค่ะน้องเอ็ม นั่งเลยค่ะจะได้แต่งหน้ากัน"
"ครับ"
"ชื่อกับเสียงคุ้นๆ แฮะ!" รถเมล์บ่นในใจ คงไม่ใช่หรอกมั้ง
ด้วยความสงสัยเธอจึงหันไปดู แล้วก็ต้องตกใจ
"รู้จักกันเหรอคะ" พี่อรถามเธอเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอที่เปลี่ยนไปเมื่อเห็นพี่เอ็ม
"ก็ไม่นี่ครับ" เขาตอบปฏิเสธ
นี่อย่าบอกนะว่าเขาจำเธอไม่ได้ หรือแกล้งจำไม่ได้กัน ก็ใช่สิเธอมันไม่สวยนี่ถึงไม่น่าจดจำไงล่ะ ทำไมฉันถึงต้องมาถ่ายแบบคู่กับเขาด้วยนะ ถ่ายกับคนอื่นไม่ได้หรือไงกัน นี่มันนรกชัดๆ เลย
บิ๊กเอ็ม....
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ผมต้องถ่ายแบบด้วยคือยัยรถเมล์จอมขี้แย ผมแทบจะจำไม่ได้เลยพอยัยนี่ได้แต่งตัวแต่งหน้าเข้าหน่อยก็ดูดีใช่เล่นเลย ใช้ได้เหมือนกันแฮะ ดูเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะเลย
"เสร็จแล้วค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
"นายแบบนางแบบพร้อมแล้วค่ะ เรามาเริ่มถ่ายกันเลย"
พี่อรบอกทีมงานการถ่ายแบบดำเดินไปเรื่อยๆ จนเกือบจะเสร็จ แต่เล่นเอารถเมล์อึดอัด
"น้องเมย์ครับ ขยับเข้าไปอีกนิดครับ ไม่ครับ อีกนิดหนึ่ง ใช่ครับ ดีมากครับ"
"จะนิดไปไหนคะ นี่ฉันจะสิงร่างเขาอยู่แล้วนะ เมื่อไหร่จะถ่ายเสร็จสักทีเนี่ย" รถเมล์ได้เพียงแค่บ่นอยู่ในใจเท่านั้น ตอนนี้อึดอัดมาก
"จะกอดแน่นไปมั้ยไอ้พี่เอ็มบ้า!" เธอก่นด่าเขาอยู่ในใจ อย่างอดไม่ได้ ก็หน้าอกของเธอมันชนเข้ากับแผ่นอกของเข้าเต็มๆ นะสิ ดูเหมือนเจ้าตัวจะชอบ ยิ้มหน้าบานเชียว
"น้องเอ็มครับ ก้มหน้าลงหน่อยครับ ครับ...อย่างนั้นล่ะครับ ดีมากเลยครับ"
มันจะใกล้เกินไปแล้ว รถเมล์เริ่มเขินและหน้าแดง หัวใจของเธอมันเต้นแรงขึ้นจนไม่เป็นจังหวะ
‘อากาศร้อนชะมัดเลย’
"โอเคครับ ภาพออกมาสวยมากเลย ขอบคุณนายแบบกับนางแบบ และทีมงานทุกคนมากครับ"
"สำหรับวันนี้เปลี่ยนชุดแล้วเก็บของเสร็จก็แยกย้ายกันได้เลยครับ"
"ครับ/ค่ะ"
"โอกาสหน้าหวังว่าผมจะได้ร่วมงานกับทุกคนอีกนะครับ"
"ครับ/ค่ะ"
ทุกคนแยกย้ายกันไปเก็บของเพื่อกลับบ้านกัน เธอเลยแยกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างเพื่อที่จะได้กลับไปพัก เธอรู้สึกปวดหัวยังไงชอบกล ไม่รู้ว่าทำไมสองสามวันมานี้เธอชอบเหนื่อยง่ายและเพลียมากด้วย เมื่อเช้าก็ตื่นนอนมาอ้วกด้วย
"เธอจะกลับยังไง"เขาถามฉัน
"ฉันเหรอคะ?" เธอชี้มาที่ตัวเอง ไหนบอกไม่รู้จักกันไง แล้วตอนนี้ไหงมาชวนเธอคุยด้วยได้
"ก็เธอนั่นแหละ ยัยรถเมล์จอมขี้แย"เขาพูดจากวนเธอ
"นี่นาย!" เขานี่มันกวนประสาทเธอที่สุดเลย
"แล้วสรุปว่าจะกลับยังไง" เขาถามเธอซ้ำอีกครั้ง
"นั่งรถเมล์กลับ" เธอตอบกลับไป
"คนอะไรชื่อรถเมล์แล้ว ยังจะกลับรถเมล์อีก" เขาพูดเบาๆ แต่รถเมล์กลับได้ยินมันชัดเจนเพราะอยู่ใกล้กัน
"นั้นมันก็เรื่องของฉันมั้ยไม่เห็นเกี่ยวกับนาย"
"เดี๋ยวฉันไปส่ง รีบไปแต่งตัวซะ" เขาสั่งเธอ
"ไม่ต้อง! ฉันกลับเองได้" เธอรีบปฏิเสธ
"ไม่มีใครเคยสอนเธอเหรอว่าห้ามเถียงหรือห้ามปฏิเสธผู้ใหญ่ ฉันจะรอเธออยู่ที่รถ ถ้าฉันไม่เจอเธอ เธอตายแน่!" บิ๊กเอ็มพูดเสร็จ ก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป
"คนเผด็จการ!!" เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงได้มาขู่เธอ
"ฮะ! ปวดหัวจัง"
อยู่รถเมล์ก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนได้ ก่อนเธอจะวูบไปในที่สุด
"เฮ้ย! ยัยขี้แย" บิ๊กเอ็มเข้าไปรับรถเมล์ได้ทัน ก่อนที่เธอจะล้มลงไปกับพื้น โชคดีที่เขาหันกลับมา
"นี่ยัยขี้แย ตื่นสิยัยขี้แย" บิ๊กเอ็มเขย่าตัวเธอแต่ดูเหมือนเธอจะสลบไปแล้ว
"มีใครอยู่มั้ยครับ ผมขอยาดมหน่อย" บิ๊กเอ็มรีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากทีมงานทันที
"เกิดอะไรขึ้นคะน้องเอ็ม" พี่อรถาม
"รถเมล์เป็นลมครับ พี่อรพอจะมียาดมมั้ยครับ ผมขอหน่อย"
"มีค่ะ นี่ค่ะยาดม"
"ขอบคุณครับ" ผมรับยาดมจากพี่อร เพื่อเอาไปให้ยัยขี้แย สักพักเธอก็เริ่มรู้สึกตัว
"อะ..เอ่อ นี่เมย์เป็นอะไรไปคะ" รถเมล์ฟื้นก่อนจะถามพี่อร
"เธอเป็นลมไปน่ะสิ" ผมตอบเธอไป
"เหรอ ขอบคุณ แต่ฉันจะกลับแล้ว ปล่อยได้แล้ว"
เมื่อเธอรู้ว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดเขา เธอจึงรีบประท้วงให้เขาปล่อยเธอทันที
"ฉันบอกเธอว่าจะไปส่งไง"
"พวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับพี่อร" บิ๊กเอ็มอุ้มรถเมล์ออกไป
พี่อรยืนงง ไหนบอกว่าไม่รู้จักกันไง ทำไมดูสนิทสนมกันจัง ยังกับแฟนแน่ะ
หลังจากที่เธอโดนเขาอุ้มขึ้นรถมา เธอก็นั่งเงียบมาตลอดทาง เขาก็เงียบเธอก็เงียบ แต่สักพักเธอรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเพราะมันอยากจะอ้วก
"อุ๊บ! นายจอดรถก่อน!"
เธอรู้สึกว่ากำลังจะอ้วก มันอั้นไว้ไม่อยู่แล้วก่อนจะรีบสั่งให้เขาจอดรถ ไม่งั้นมีหวังอ้วกใส่รถเขาแน่
"เฮ้ย! เป็นอะไรของเธอน่ะ"
"บอกให้จอดรถก่อนไง!!"
"เดี๋ยวๆ จอดแล้วๆ อย่าเพิ่งอ้วกในรถฉันนะ" เมื่อเขาเห็นเหมือนเธอกำลังจะอ้วกเลยตัดสินใจจอดรถให้ทันที เขาไม่อยากให้เธออ้วกในรถของเขาหรอกนะ
"อ้วกก...อะ อุ๊บบ แหวะ!!" รถเมล์ลงจากรถไปอ้วกทันที เมื่อเขาจอดรถ เธอรีบลงจากรถทันที ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุง
"นี่เธอ อ้วก..." บิ๊กเอ็มเห็นรถเมล์อ้วก ทำให้เขาอ้วกตามเธอไปด้วย มันเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
"ยัยขี้แย! เธออย่าอ้วกอีกนะ อุ๊บ! อ้วกแหวะ" เขาอ้วกมาอีกรอบ
"ก็มันห้ามไม่ได้นี่นา แล้วนายจะมาอ้วกตามทำไมเนี่ย"
"จะไปรู้มั้ย มันอ้วกของมันเอง นี่! เอาน้ำไปบ้วนปากซะ"
เขาหยิบน้ำจากรถมาสองขวดและยื่นให้เธอขวดหนึ่ง อีกหนึ่งขวดก็เป็นของเขาเพื่อใช้บ้วนปากกันอยู่ข้างรถ
"ขอบคุณ"
"เธอโอเคขึ้นยัง จะได้ไปกันต่อกัน"
"ฉันโอเคแล้ว ไปต่อได้เลย"
"งั้นก็ขึ้นไปรถได้แล้ว"
"อืม" เธอยอมขึ้นรถเขาไปอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเพราะว่าตรงนี้ไม่มีรถผ่านมาเลยเธอคงไม่ไปกับเขาหรอก เธอจะหารถและกลับของเธอเอง
บิ๊กเอ็มขับรถไปยังหอพักของเธอ โดยมีเธอเป็นคนบอกทางมาก่อนที่เธอจะสั่งให้เขาจอดรถเมื่อถึงหอพักของเธอแล้ว
"ถึงหอพักของฉันแล้ว นายจอดรถตรงนี้แหละ ไม่ต้องเข้าไปด้านในหรอก"
"เธอพักอยู่ที่นี่เหรอ"
เขามองไปยังหอพักสภาพเก่าๆ ของเธอ เป็นผู้หญิงแท้ๆ พักที่แบบนี้ได้ไงกัน ทางเข้าก็ลำบาก
"ก็ใช่นะสิ ฉันไม่ได้รวยพอที่จะอยู่คอนโดหรอกนะ"
"แล้วพ่อแม่เธอล่ะ"
"พวกท่านอยู่ต่างจังหวัดน่ะ"
"เธออยู่คนเดียวเหรอ"
"ก็ใช่น่ะสิ นายจะให้อยู่กับใครกัน"
เป็นอะไรของเขาเนี่ย อยู่ๆ ก็มาถามอะไรแบบนี้ ยังกับผู้ปกครองของเธอ
"เธอไปพักผ่อนเถอะ ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ กินยาซะด้วยนะ" เขาเตือนเธอ
"อืม นายไปได้แล้ว"
"โอเค แล้วเจอกันใหม่" เขาพูด แล้วขับรถออกไป
"เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ยยัยเมย์ ช่วงนี้แกเป็นอะไรวะ เดี๋ยวก็เป็นลม เดี๋ยวก็อ้วก"
"ประจำเดือนก็ยัง...ไม่มา"
ใช่! เธอลืมได้ไงกันว่าประจำเดือนของเธอมันยังไม่มา นี่ก็เกือบจะสองเดือนแล้วนะ หรือว่าเธอจะ…ไม่จริงนะ เป็นไปไม่ได้หรอกนะ ก็แต่คืนวันนั้นเองนะ...
เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี