กุมาริกาเธอรูปร่างอ้อนแอ้น เอวเล็กเอวบาง เธอพรางกายอยู่ใต้เสื้อโค้ทตัวใหญ่ กับแว่นสายตาหนาเตอะ สเตฟานจึงรับไว้ดูแลอย่างเสียไม่ได้เขาแทบจะไม่ไสนใจเธอเลย หนุ่มเจ้าเสน่ห์มีนางแบบชั้นนำเป็นคู่ควงอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเขาไม่ค่อยได้กลับไปนอนที่คฤหาสน์ดียองตูว์สักเท่าไหร่ แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น ความสัมพันธ์ทางกายที่ไม่ตั้งใจ ก่อกำเนิดชีวิตใหม่เพราะความผิดพลาด แต่กุมาริกาไม่ต้องการความรับผิดชอบ จากชายที่พรากพรหมจรรย์ของเธอไป เธอจึงจงใจปิดบังไว้ และหนีไปโดยไม่คิดจะบอกใคร สเตฟาน ดียองตูว์ หนึ่งในสิบมหาเศรษฐีของฝรั่งเศส เขามีอายุสามสิบห้าปี และกำลังตามหาสาวนิรนามอย่างคุ้มคลั่ง!! เขาไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเลย มันเหมือนควานหาใครสักคนท่ามกลางความมืด ทว่าเหมือนโชคชะตากำหนดไว้ เขาและเธอจึงย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้ง
บทที่1.สเตฟาน ดียองตูว์
เอี๊ยด
เสียงห้ามล้อรถยนต์สปอร์ตคันหรูบริเวณด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โตดังสนั่น ตัวคฤหาสน์รูปทรงเก่าแก่โบร่ำโบราณ เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และศิลปะเก่าๆ ความทรงจำในอดีตบ่งบอกถึงประวัติอันยาวนานนับทศวรรษของตัวคฤหาสน์เป็นอย่างดี
หนุ่มหล่อล่ำมาดเข้ม รูปร่างกำยำองอาจสมชายชาตรี ผมสีดำสนิทยาวคลอเคลียต้นคอ เส้นผมหยิกยักโศกน้อยๆ จมูกโด่งเป็นสันงองุ้มปลายหักนิดๆ มองดูเซ็คซี่อย่างวายร้าย ดวงตาสีเทาควันบุหรี่คมกล้าเปล่งประกายร้อนแรงโชติช่วง ริมฝีปากหนาหยักเฉียบคมรับกับปลายคางบุ๋มๆ ส่งให้โครงหน้าคมเข้มดูน่ามอง หุ่นกำยำล่ำสันทรมานใจสาวๆ ช่วงขาเพรียวยาวแข็งแรงทรงพลัง หน้าอกหนาหนั่นแน่นใต้เสื้อสูทพอดีตัวดันเสื้อแทบปริ เพราะชายหนุ่มเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้งกีฬาทุกรูปแบบ ส่งให้เขามีร่างกายแข็งแรงทรงพลัง
และหนุ่มหล่อล่ำคนนั้นก็คือ “สเตฟาน ดียองตูว์” เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชื่อก้องโลก แบรนด์ ‘ดอร์อีส’ 1ใน10มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามของฝรั่งเศส ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหลใน แหล่งแฟชั่นตระการตา มนต์เสน่ห์ลึกลับน่าค้นหากับกลิ่นไอโบราณของประติมากรรมแต่หนหลัง ไม่ว่าจะตึกรามบ้านช่องหรือวัฒนธรรมเก่าแก่โบร่ำโบราณ ล้วนแล้วแต่เป็นมนต์เสน่ห์ของฝรั่งเศส ที่สามารถเรียกสายตาประชากรโลกจนแวะเวียนมาเยี่ยมชมได้ไม่ขาดสาย
“คุณหนูคะรอบนี้หายหน้าหายตาไปนานจนปิป้าเกือบลืมเค้าหน้าคุณหนูเสียแล้วละค่ะ” หญิงสูงวัยหน้าเปื้อนรอยยิ้มและสายตาเอื้ออารีร้องทักทายสเตฟานที่ตีนบันไดวน เชื่อมระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างไว้ด้วยกัน ตัวบันไดโค้งวนสีขาวสะอาดและงดงามสมกับฝีมือช่างสมัยโบราณ เขาที่กำลังวิ่งก้าวกระโดดขึ้นไปบนบันไดอย่างรีบเร่งหยุดชะงักกึก
ชายหนุ่มหมุนกายกลับมามองหญิงสูงวัย ก่อนยิ้มกว้าง ส่งให้หน้าคร้ามคมดูหล่อเหลาน่ามองขึ้นนับเท่าตัว ปิป้าสาวใหญ่รูปร่างอวบท้วมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เมื่อเขาเดินย้อนกลับลงมากางแขนสวมกอดร่างอวบท้วมไว้ในอ้อมแขน พร้อมทั้งกดปลายจมูกโด่งบนพวงแก้มเหี่ยวย่นของผู้สูงวัย
“ปิป้าก็ผมก็ไปๆ มาๆ ระหว่างคฤหาสน์กับคอนโดอยู่บ่อยๆ เพียงแต่ปิป้าไม่ค่อยได้เจอกับผมแค่นั้นเอง ธุรกิจกำลังยุ่งวุ่นวาย งานสุมจนผมหัวหมุนไปหมด แทบจะไม่มีเวลากินเวลานอนเลยครับ”
“ค่า ธุรกิจคุณหนูยุ่งมาก ยุ่งจนมีเวลาควงสาวๆ ออกงานสังคมแทบทุกคืน แต่ไม่มีเวลากลับมาให้ปิป้าได้เจอหน้าบ้าง ปิป้าแก่แล้วจะไปสู้สาวๆ ข้างกายคุณหนูได้ยังไงกันล่ะคะ”
“ผมไปทำงานตามหน้าที่นะครับ ไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวสักนิดเดียวครับ ทุกอย่างถูกวางเพลนไว้ทั้งหมด จะไปฝืนก็ไม่ได้เมื่อมันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผม แต่วันนี้ผมก็กลับมาให้ปิป้าเจอหน้าแล้วนี่ไงครับ”
“ค่ะ ปิป้าเข้าใจว่างานของคุณหนูต้องออกไปพบปะผู้คน แต่ให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหมคะ คุณหนูใช้ชีวิตโลดโผนเกินไป จนปิป้าเป็นห่วงกลัวว่าจะพลาดพลั้งหลงกลผู้หญิงไม่ดี อายุก็มากขึ้นแทบทุกวัน สร้างเนื้อสร้างตัวเป็นปึกแผ่นนานแล้วนะคะ น่าจะถึงเวลามีครอบครัวเสียที”
“ครอบครัว?ผมมีแล้วไงครับ ปิป้าคือคนในครอบครัวของผม แล้วผมจะต้องไปมองหาใครอื่นอีกทำไม!”
“อย่ามาเฉไฉค่ะคุณหนู ปิป้าเป็นแค่แม่นมค่ะ เป็นลูกจ้าง ไม่ใช่ครอบครัวในความหมายที่ปิป้าหมายถึง สักวันหนึ่งคุณหนูจะต้องเจอคนๆ นั้น”
“ตอนนี้ยังไม่เจอนี่ครับรอให้ถึงวันนั้นก่อนดีไหมครับ” สเตฟานไหวไหล่อย่างลืมตัว เขาเสหมุนตัวหลบเมื่อยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่กับใครทั้งนั้น เพราะยังสนุกกับชีวิตโสดที่มีอิสระเสรี
“คุณหนูต้องมองหาสิคะ เที่ยวเตร่หัวหกก้นขวิดแบบนี้เมื่อไรจะเจอคนที่ต้องการเสียทีล่ะคะ” สาวใหญ่สะบัดค้อนให้สเตฟานอย่างหมั่นไส้ เมื่อพ่อปลาไหลดิ้นรนหาทางออกสุดกำลัง
“ฮ่าๆปิป้าคงนึกอยากจะตีผมอีกละซี มองผมแบบนั้นนะ แต่เสียใจครับพญาอินทรีแบบสเตฟาน ดียองตูว์ไม่ชอบถูกกักขังในกรงแคบๆ ไร้อิสรภาพ” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายอย่างหยิ่งผยอง ก่อนจะก้าวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อมีภารกิจใหญ่รออยู่เบื้องหน้า
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"