จะทำอย่างไรดี กับหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ซึ่งเพื่อน ๆ ชอบเรียกว่า “ จอมจุ้น” ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ดั๊น..ไปตกหลุมรักชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อนเอง ล้อมดาว ก้องกังวาลไกล เข้าจังเบ้อเริ่ม ในงานวันเกิดเพื่อนรัก เพียงแค่แวบเดียวที่ได้เจอหน้าเขาหล่อนก็เผลอพูดออกมาด้วยฤทธิ์กามเทพ หรือเพราะฤทธิ์น้ำส้มก็ไม่รู้ และไม่อาจเดาได้ ถึงได้โพล่งวาจาราวกับจะสาบานกับเบื้องบน “ อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายตัวจังเลยล้อม” และจะด้วยฤทธิ์คำขอส่ง ๆของเธอคงไปถึงหูท่านคิวปิด เลยให้เธอได้เข้าไปทำงานเป็นเบ้ในบริษัทของเขา จับพลัดจับผลู ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงเลขาของเจ้านายสุดหล่อ แต่..ความหวังอันเลือนรางของหล่อนจะเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ ก็เจ้านายเธอน่ะสิเจอหน้ากันทีไรเป็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ อย่างกับโกรธกันมาสักร้อยชาติ ทำอะไรก็มีแต่จะคอยส่งสายตาดุ ๆ มาให้อย่างอย่างนั้น แถมยังโดนว่าสารพัดทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปหมด เฮ้อ! ชักจะเริ่มท้อแล้วสิ จอมขวัญเพิ่งคิดได้ว่าคนระดับสูงแบบเขาคงไม่มีทางมามองพนักงานธรรมดา ๆ อย่างหล่อนหรอกช่วงหลัง ๆ จึงพยายามที่อยู่ห่าง ๆ จากเจ้านายจอมเฮี้ยบเสีย เพื่อเก็บหัวใจตัวเองไว้ให้รอดปลอดภัยจากคำว่าอกหัก! มัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลาเอาการแถมยังอิมพอร์ตมาจากเมืองนอก ด้วยมาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ก้าวเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวแทนบิดา ทำให้วงการธุรกิจด้านการโรงแรมและรีสอร์ท ต่างก็ตื่นตัวกับฝีไม้ลายมือ บวกกับความสุขุมรอบคอบ เอาจริงเอาจังกับงานอย่างเขา เป็นที่น่าจับตามองจากคู่แข่งเป็นอย่างมากการงานไปได้สวย แต่เรื่องหัวใจเขากลับไม่มีใครที่จะสามารถทำให้หัวใจอันแข็งแกร่งของเขาหวั่นไหวได้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ทำงานมา ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะให้ความสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเลย ไม่ใช่เพราะว่าเข็ดขยาดเรื่องความรักแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องการทุ่มเทให้กับงานมากที่สุดเท่าที่มีกำลังจะทำได้ กอปรกับภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกับใคร จนมาพบกับสาวน้อยหน้าตาสดใส ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้ให้ความสนสนใจอะไรหล่อนมากมายนักหรอก หากพอนานเข้า เขากลับเป็นคนหลงเจ้าหล่อนจนหัวปักหัวปำ แทบถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว แต่ไหงสาวเจ้ากลับมีท่าทีไม่สนในเขา อย่าหวังว่าจะหนีเขาพ้น คนอย่างนายมาร์คลองได้รักแล้วไม่มีวันไม่ปล่อยหล่อนไปง่าย ๆ แน่ "อย่ามายั่วให้รัก แล้วจากไปแบบนี้ ผมไม่ยอมแน่ "
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปนเซ็ง นิด ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล (แฮะ..เว่อร์ไปหน่อย) ที่ตอนนี้ต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดเมืองนอนออกมาเผชิญโลกภายนอก ตั้งแต่จบมัธยมต้นเข้ามาร่ำเรียนในเมืองหลวง... จนบัดนี้จบปริญญาตรีไปหมาด ๆ เป็นที่สมพระทัย เอ๊ย! สมใจคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหมือนพี่ชายก็ตามทีเถอะ
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า จะไม่ให้ถอนหายใจได้อย่างไรเล่า ในเมื่อวันนี้หล่อนจะได้สัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังน้อยเสียเมื่อไหร่ กับธุรกิจด้านโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง ได้ยินมาว่าบริษัทนี้ไม่ค่อยรับเด็กจบใหม่เสียด้วยสิ สามวันก่อนหล่อนได้ไปสมัครงานทิ้งไว้ ตามคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทที่สุดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพื่อนที่แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ล้อมดาว ลูกสาวคนเดียวของตระกูล ก้องกังวาลไกล ซึ่งแค่ได้ยินแค่นามสกุลใคร ๆ ก็รู้ว่า เป็นไฮโซระดับต้น ๆ ของเมืองไทย
โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านโรงแรมที่มีมากกว่าสองสาขา และที่กำลังจะขยายออกไปยังต่างจังหวัดอีกก็หลายแห่ง จะด้วยวาสนา หรือโชคชะตาที่นำพาล้อมดาวลูกสาวไฮโซเข้ามาเรียนที่เดียวกับหล่อนและได้รู้จักเพราะลำดับเลขที่ติดกัน เวลามีกิจกรรมก็ไปด้วยกันตั้งแต่เริ่มเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันจนเกิดความสนิทสนมกลมเกลียว กระทั่งคนที่บ้านทั้งบิดามารดา รวมทั้งบรรดาคนรับใช้ที่มีเกือบ สามสิบคน ของเพื่อนไฮโซ ต่างก็รู้ว่าหล่อนเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณหนูล้อมดาว สามารถเข้านอก ออกใน บ้านเพื่อนได้อย่างสบายใจ และมีบางครั้งหล่อนสามารถไปนอนค้างกับล้อมดาวได้โดยที่ทางบ้านเขาไม่รังเกียจคนโลโซอย่างหล่อน อาจจะเพราะครอบครัวของล้อมดาวเป็นคนไม่ถือตัว
หรือเพราะหล่อนใฝ่สูง อยากคบคนรวย (กันแน่นะ) แต่ก็เคยถามนะว่า 'เธอมาคบเราได้ไงนะล้อม' ก็ได้คำตอบว่า' ก็จอมเป็นคนร่าเริง แจ่มใส เข้ากับคนอื่นก็ง่าย เวลาอยู่ใกล้ ๆ จอมจุ้น แล้วสบายใจ'
จอมจุ้น!ใช่สินะ เพื่อน ๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ชอบเรียกหล่อนว่าจอมจุ้น รวมทั้งยายล้อมเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อน ง่ะ! นึกมาถึงตรงนี้ทีไรก็อดหมั่นไส้นิด ๆ ให้เพื่อนรักไม่ได้ อ้ายเราก็นึกว่า จะลงท้ายด้วย ' แล้วแถมยังน่ารักอีกต่างหาก' น่ะสิ.. เพื่อนสาวไฮโซแนะนำให้ไปสมัครที่บริษัทบิดาตัวเอง เป็นที่รู้กันว่ากิจการของครอบครัวเพื่อน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพื่อนมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้ว..ลองไปสมัครดู ย้ำ!ให้ลองไปสมัครดู ไม่ได้บอกว่าจะฝากให้ซะหน่อย แล้วหลังจากนั้นเพื่อนเลิฟ ก็บินไปเมืองนอก ไปเรียนต่ออย่างที่คนมีตังค์เขาทำกัน ส่วนหล่อนน่ะหรือก็ต้องหางานทำ ประสาคนโลโซตามระเบียบ
จอมขวัญไปสมัครงานตามที่เพื่อนรักบอกไว้ แต่ทว่าทางบริษัทของบิดาเพื่อน ให้หล่อนมาสมัครที่ เอ็ม ไอ พี นัยว่าเป็นเครือเดียวกัน และวันนี้ก็เป็นวันที่จะได้ไปสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ที่ถอนหายใจก็เพราะเหตุนี้แหละ คนที่นี่คงจำหล่อนได้ทั้งบริษัทแล้วกระมัง โดยเฉพาะแผนกบุคคล ก็วันนั้นกับวันนี้ของหล่อนไม่ได้แตกต่างกันเลยกับชุดกลางเก่ากลางใหม่ที่หล่อน ได้มาจากแม่สุดเลิฟ สมัยก่อนแม่ยังรับราชการในกระทรวงกระทรวงหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ท่านได้ย้ายตามพ่อไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอน ที่เมืองเหนือโน่น แต่ยังพอมีชุดทิ้งไว้ให้หล่อนสามารถใช้งานได้บ้าง จอมขวัญนึกขอบคุณแม่อยู่ในใจ ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะชุดของท่านก็ได้นะที่ทำให้หล่อนได้ถูกเรียกตัวไปสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ในวันนี้
หญิงสาวเดินไปส่องกระจกบานยาวที่วางพิงอยู่กับผนังห้องนอน พลางมองดูตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่า ได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้วจริง ๆ ก็พบเงาที่สะท้อนกลับมาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวสีขาวละเอียด ผมสีน้ำตาลอ่อน เหยียดตรงที่ตอนนี้ถูกรวบขึ้นสูงไว้กลางศีรษะกลมมน เพื่อสะดวกในการเดินทางและโดยส่วนตัว หล่อนไม่ชอบปล่อยผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะรู้สึกรำคาญเวลาที่ผมโดนลมพัดจนพันกันยุ่ง ดวงตากลมโตสุกใสที่ต้องใส่คอนแท็คเลนส์ เนื่องจากเป็นคนสายตาสั้น ประมาณ สองร้อยซึ่งส่วนใหญ่แล้วหล่อนชอบใส่แว่นมากกว่า แต่วันนี้ต้องพับเก็บเข้ากล่องไว้ก่อนเพราะถ้าขืนใส่แล้วคงดูแก่เกินไปเมื่อต้องใส่กับชุดนี้
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้สวยเลิศเลอชนิดที่ใครเห็นในแวบแรกต้องปิ๊ง แต่ก็แค่พอไปวัดไปวาได้ล่ะน่า พลางนึกในใจว่าถ้าได้งานนี้คงต้องมีการเพิ่มรายจ่ายอย่างใหญ่โตมโหฬาร และถึงขั้นต้องทุบกระปุกกันเลยทีเดียวแถมอาจจะต้องรบกวนแม่อีกครั้งก็เป็นได้ ก็ไหนจะเสื้อผ้า กระเป๋า แล้วก็รองเท้าอีกล่ะ และที่สำคัญอีกอย่าง เครื่องแต่งหน้า ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญด้วยสินะ อ๊ะ!ไม่สิ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยต่างหากล่ะ ทุกวันนี้คนหน้าตาดีเขามีงานมีการทำก่อนเกือบทั้งสิ้น ขี้เหร่ค่อยว่ากันทีหลัง หรือไม่ก็ ไปหาที่อื่นเถอะ ที่นี่คัดหน้าตาจ่ะน้องอะไรเทือกนี้
จอมขวัญมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง เพื่อเช็คความมั่นใจอีกรอบ ดวงหน้าเกลี้ยงเกลา นัยน์ตาและคิ้วที่รับกัน ถึงแม้คิ้วจะค่อนข้างใหญ่ไปหน่อย เพื่อน ๆ ยังเคยล้อว่า 'ยังกะชินจังในการ์ตูนญี่ปุ่นแน่ะ' หากหล่อนก็พอใจเพราะไม่ชอบที่จะไปทำให้มันเรียวโค้ง เหมือนคนอื่น ว่ากันง่าย ๆ ก็ คือสวยธรรมชาตินั่นล่ะดีที่สุดแล้ว และแม้กระทั่งสีสันบนใบหน้าก็สุดแสนจะธรรมดา ก่อนหน้านี้ก็อุตส่าห์ทาแป้งพับที่ผสมแป้งฝุ่นแบบเด็กแล้ว และลงท้ายด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อน พอให้มีสีสันบ้าง ก่อนจะหย่อนมันลงกระเป๋า พกติดตัวไว้เพื่อจำเป็น จอมขวัญยิ้มให้ตัวเองในกระจกเสียหนึ่งที แค่นี้ก็ โอเค! (แล้วมั้ง) ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายคู่ใจมาคล้องไหล่ พร้อมออกเดินทางแล้ว..
ในเมื่ออยากได้ไตของเขาเธอต้องเอาตัวเข้าแลกเท่านั้น! "ฉันไม่มีเงิน จะให้ทำอะไรก็ได้ช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ" "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็แค่..คุณมานอนกับผมแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอ เพราะผมไม่ชอบกินของอะไรซ้ำ ๆ"
แม่บอดี้การ์ดสาวจอมเปิ่นจำหน้าหล่อๆของเขาไม่ได้ เบ้าหน้าฟ้าประทานอย่างแดเนียลเฉินนักร้องชื่อดังก้องโลกถูกยัยเด็กนั่นเมินใส่!คอยดูเถอะเขาจะจับเธอให้มาหลงรักจนหัวปักปำเลยคอยดู
นาธานผู้ชายหล่อ ..รวย.. ล่ำ ..น่าปล้ำ..มาทำสามีแห่งชาติ แต่ไหงกลับคลั่งรักสาวไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างนางสาวธารใสเอามากๆ หากเจ้าหล่อนกลับชอบถีบหัวส่งเขาตลอดเวลาที่เข้าใกล้มันเพราะอะไรกันเล่า !!!
เขา:คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น พ่อค้าอัญมณีเพชรพลอยที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยบ่อย จนแทบจะนับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขาอีกที่หนึ่ง จุดประสงค์หลักที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาที่เมืองไทย ไม่ได้เพียงเพื่อนำสินค้ามาแสดงเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อตามหาแหวนเพชรอันล้ำค่าทางใจของท่านปู่ของเขา และแล้ว..โชคชะตาก็นำพาให้เขาได้พบของสิ่งนั้นจนได้..แต่น่าแปลกที่ของมีค่าราคาแพงขนาดนั้นกลับตกอยู่ในมือของผู้หญิงไทยตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง หล่อนเป็นใคร? และเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนั้น? ที่สำคัญหล่อนได้มันมายังไง? หรือว่า..หล่อนขโมยมันมา.. ไม่ได้การล่ะเขาจะต้องเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อพิสูจน์หาความจริงให้จงได้ เธอ:น้ำริน ฤทธิ์รณชัย พยาบาลสาวหน้าใส ที่โดนข้อหาว่าเป็นขโมยแหวนเพชรมูลค่าราคาหลายล้านบาท จากนายหน้าหล่อที่เจอกันบนเครื่องบิน แถมเขายังลักพาตัวหล่อนไปที่ญี่ปุ่นด้วย อะไรกันเนี่ย?! ฉันไม่ได้ขโมยของ ๆ คุณมานะ มีคนให้ฉันมาเอง!..
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป