นาธานผู้ชายหล่อ ..รวย.. ล่ำ ..น่าปล้ำ..มาทำสามีแห่งชาติ แต่ไหงกลับคลั่งรักสาวไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างนางสาวธารใสเอามากๆ หากเจ้าหล่อนกลับชอบถีบหัวส่งเขาตลอดเวลาที่เข้าใกล้มันเพราะอะไรกันเล่า !!!
นาธานผู้ชายหล่อ ..รวย.. ล่ำ ..น่าปล้ำ..มาทำสามีแห่งชาติ แต่ไหงกลับคลั่งรักสาวไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างนางสาวธารใสเอามากๆ หากเจ้าหล่อนกลับชอบถีบหัวส่งเขาตลอดเวลาที่เข้าใกล้มันเพราะอะไรกันเล่า !!!
ประวัติ
“ อีธาน เบอร์นเนอร์ (อังกฤษ: Ethan Burner) เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 1978 ที่เมืองแมนเชสเตอร์เป็นผู้ชนะการประกวดความสามารถพิเศษ จากรายการทางโทรทัศน์แข่งขันดนตรีเรียลลิตี้ เพื่อค้นหาผู้มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง จากกลุ่มนักร้องที่ถูกคัดเลือกด้วยการทดสอบความสามารถ อีธาน เบอร์นเนอร์ เกิดมาในครอบครัวเชื้อสายไอริชเขามีพี่น้อง 3 คน มีน้องสาวฝาแฝดหนึ่งคนชื่อเอมิลี่และน้องชายอีก 1 คน ชื่อ นาธาน
เมื่อเขาอายุสิบห้าปีได้รับข่าวร้ายว่าบิดาได้เสียชีวิตไปในสนามรบอย่างผู้กล้าในฐานะแพทย์ทหาร ชีวิตหลังการสูญเสียผู้นำครอบครัวไม่ได้ทำให้พวกเขาทั้งสี่คนลำบากเลย สวัสดิการที่ได้รับจากต้นสังกัดสามารถส่งให้บุตรและธิดาที่สืบสกุลเข้ารับราชการทหารได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่พวกเขากลับปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี ไม่ได้มีความสนใจที่จะรับมันไว้ เพราะการจากไปของบิดาที่เคารพรักมันช่างทิ่มแทงหัวใจ และเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้ พวกเขาอยากลบมันออกจากใจ เจ็บปวดทุกครั้งเมื่อนึกถึง มารดาผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวตัดสินใจพาครอบครอบครัวย้ายถิ่นฐานออกจากที่อยู่เดิม หลบลี้ความทุกข์ใจออกมาอยู่แถบชานเมืองห่างไกลจากชุมชน เพื่อหาความสงบสุขและบำบัดความเศร้าโศกเสียใจ อีธานในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เฝ้าปลอบโยนผู้เป็นมารดาที่อยู่ในอาการซึมเศร้าหลังการสูญเสียบิดาไป เขากลายเป็นผู้นำในช่วงวัยกำลังคึกคะนอง เขาใช้พรสวรรค์ที่มีสร้างตัวตนขึ้นมาด้วยมือเขาเองหลังจากนั้น
ก่อนหน้าที่จะเป็นผู้ชนะการประกวด เขาเคยมีวงดนตรีโดยมีเพื่อนสมาชิกอีกสองคน พวกเขาตระเวนเล่นตามผับและงานแต่งงาน เล่นเพลงคัฟเวอร์ของนักร้องดังวงต่าง ๆ ไปจนถึงเอ็มม่า บันตัน และกว่าที่พวกเขาจะได้ค่าเหนื่อยประมาณ 50 ปอนด์ พวกเขาต้องโชว์ยาว 45 นาที ถึง 2 โชว์ด้วยกัน ในระหว่างการแข่งขันรายการดังกล่าว อีธานได้รับการสั่งสอนและสะสมประสบการณ์จากนักปั้นศิลปินคนดัง ซึ่งต่อมาเขาคนนั้นก็ได้กลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวโดยปริยาย อีธานเอาชนะคู่แข่งได้ ในรอบตัดสิน ด้วยคะแนนโหวตจากทางบ้านที่มากถึง 10.8 ล้านโหวต ในขณะที่จากผลสำรวจมีคนดูรายการนี้ทางช่อง ITV2 เพียง 9.2 ล้านคน แสดงว่ามีคนดูที่โหวตมากกว่าหนึ่งครั้ง
ซิงเกิ้ลแรกของเขา ผลิตออกขายในอังกฤษและกลายเป็นเพลงอันดับ 1 ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส กับยอดขาย 313,000 ก๊อปปี้ ในวันแรกที่ออกวางขายกลายเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดอันดับ 3 รองจากเพลงดังของเอลตัน จอห์น และของวิล ยัง ถัดจากนั้นเขาได้ออกซิงเกิ้ลที่ 2 ขายในอังกฤษ และได้ไต่ขึ้นถึงอันดับ 2 ใน UK Singles Chart อัลบั้มที่ใช้ชื่อเขาเป็นชื่ออัลบั้ม ออกขายในหนึ่งสัปดาห์ถัดมา และขายได้มากถึง 95,000 ก๊อปปี้ในสองวันแรก ในสัปดาห์แรกขายได้ถึง 2 แสน ก๊อปปี้กลายเป็นอัลบั้มอันดับ 1 ของชาร์ทสัปดาห์นั้น และตกลงมาอยู่อันดับ 2 ในสัปดาห์ต่อมา อัลบั้มชุดนี้บันทึกเสียงที่เมืองสต็อคโฮล์ม โคเปนเฮเกน และ ลอนดอน โดยมีโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงหลายรายที่ร่วมงานในงานชุดนี้
นอกจากเขาจะมีความสามารถในการร้องเพลงแล้วยังเป็นอัจฉริยะ ในการแต่งเพลงอีกด้วย เพียงแค่เขาเห็น หรือสัมผัสกับสิ่งใดที่เขาสนใจมาก ๆ หนุ่มคนนี้สามารถเขียนโน๊ตและแปลเป็นเนื้อเพลงได้ในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งชม.ก็เสร็จสิ้น มีหลากหลายต้นสังกัด ที่ต้องการให้เขาแต่งเพลงและซื้อตัวโดยเสนอราคาให้ค่าจ้างสูงลิบ หากอีธานกลับปฏิเสธไป เพราะเขายังสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของต้นสังกัดเดิม เขารู้ดีว่าตัวเองมาจากไหน การเริ่มต้นทำงานสายนี้ได้มายากเพียงใด หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพวกเขา
ต่อมาอีธานได้เซ็นสัญญากับแบรนด์ กางเกงชั้นในชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นแบบให้เสื้อผ้าคอลเลคชั่น autumn/winter ในปีถัด ๆ มา ด้วยสัญญาที่มีมูลค่าสูงมากกว่า 5 แสนปอนด์ หรือ35 ล้านบาท ส่วนอัลบั้มของเขานั้นขายไปได้มากกว่า 3 ล้านก๊อปปี้ ผลงานต่าง ๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้อีธาน เบอร์นเนอร์ ร่ำรวยเข้าขั้นระดับมหาเศรษฐี ติดอันดับต้นของอังกฤษเลยก็ว่าได้ นักร้องหนุ่มสุดหล่อชาวอังกฤษมากความสามารถคนนี้ นอกจากจะมีเส้นเสียงที่ไพเราะ จนทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ แม่ม่าย แม่ยกทั้งหลาย ทั่วทั้งประเทศหลงรักได้แล้ว เขายังสามารถเขย่าใจชาวสีม่วง เก้งกวาง ค่าง บ่างชะนี ด้วยหุ่นที่ฟิตเปรี๊ยะอีกด้วย อีธานยอมเปลือยกายโชว์รูปร่างบางส่วน อวดซิกแพคแน่นหนั่น เผยหน้าท้องแบนเรียบ แลดูแข็งแกร่งจนเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวยทั้งหกมัด เพื่อถ่ายแบบให้กับนิตยสารแอตติจูด หากออกไปในแนวศิลป์เสียมากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเปลือยกายถ่ายแบบในคราวนั้น ไม่ได้หวังดึงดูดยอดขายให้แก่บริษัทแต่อย่างใด ทว่าทีมงานจัดทำนิตยสารฉบับพิเศษ เพื่อต้องการรณรงค์ปัญหาโรคเอดส์ให้แก่ชาวเกย์และไบเซ็กช่วลทั้งหลาย ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ณ ขณะนั้น ความร่ำรวยของเขาไม่ได้ทำให้อีธานรู้สึก ทะนงตน และหยุดอยู่เพียงเท่านั้น หนุ่มอัจฉริยะคนนี้ ยังเป็นคนใจบุญอีกด้วย เขาได้เปิดโรงเรียนสอนดนตรีให้ฟรีแก่นักแสวงหาความก้าวหน้า ที่ต้องการแสดงความสามารถ และให้การสนับสนุนเต็มที่ ถัดจากนั้น อีธานค้นพบว่า ตัวเขาเองมีความชื่นชอบในศิลปะและการวาดภาพเป็นการส่วนตัวอีกด้วย จากที่น้องชายของเขา นาธาน เบอร์นเนอร์ ซึ่งเรียนจบด้านสาขาศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังในอังกฤษ หลังจากเรียนจบน้องชายของเขาได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทออกแบบเล็กๆ สะสมประสบการณ์เรื่อยมา จนกระทั่งมีความอยากที่จะเปิด แกลอรี่ภาพวาดเป็นของตนเองบ้าง
และนั่น คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนุ่มนักร้องเสียงทรมานใจสาว ผู้มากความสามารถ ชื่นชอบการวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ จากการได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวแกลอรี่ของน้องชาย ไม่ยากเลยถ้าอัจฉริยะอย่างอีธานคิดจะทำอะไร เพียงแค่หยิบดินสอขึ้นมา แล้วขีดๆ เขียน ๆ ก็เป็นภาพที่สวยงามและสะกดสายตาแก่ผู้พบเห็น ได้ไม่ยากเลย ที่สำคัญเขาไม่ได้เข้าเรียนแม้แต่คลาสเดียว! ภาพวาดชิ้นแรกของอีธานคือภาพมารดา น้องสาวฝาแฝด และน้องชายรวมอยู่ในเฟรมเดียวกัน เพียงแค่มองและวาดไปตามลายเส้นที่เห็น มันกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ น้องชายของเขาเอาไปเก็บไว้ในหอสมุดภาพโดยไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใด แม้จะมีเศรษฐีจากหลากหลายถิ่นทั่วโลก ได้เข้ามาเยี่ยมชม และเสนอซื้อในราคา ที่สูงลิบลิ่วก็ตาม
นอกจากหนุ่มอัจฉริยะ ผู้มากความสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกัน ได้เปิดโรงเรียนสอนดนตรีฟรีแล้ว เขายัง เปิดค่ายเพลงเป็นของตนเอง และผันตัวมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเต็มตัว ชายหนุ่มยังได้แต่งเพลงให้นักร้องรุ่นหลัง ส่งให้มีชื่อเสียงโด่งดังกันไปหลายราย และธุรกิจที่เขาทำเพราะความชอบและความสามารถ ล่าสุด คือการร่วมธุรกิจกับน้องชายรวบซื้อและขายงานศิลปะภาพวาดและประติมากรรมทั่วทุกมุมโลก ที่ไหน หรือแห่งหนใดที่มีว่างานสวยงาม คุ้มค่าแก่การครอบครอง และถ้าหากถูกใจ เขาจะกว้านซื้อมาเป็นของตน แม้นจะแพงแสนแพงขนาดไหนก็ตาม"
แหล่งข้อมูล อ้างอิง: music.sanook.com
ในเมื่ออยากได้ไตของเขาเธอต้องเอาตัวเข้าแลกเท่านั้น! "ฉันไม่มีเงิน จะให้ทำอะไรก็ได้ช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ" "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็แค่..คุณมานอนกับผมแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอ เพราะผมไม่ชอบกินของอะไรซ้ำ ๆ"
แม่บอดี้การ์ดสาวจอมเปิ่นจำหน้าหล่อๆของเขาไม่ได้ เบ้าหน้าฟ้าประทานอย่างแดเนียลเฉินนักร้องชื่อดังก้องโลกถูกยัยเด็กนั่นเมินใส่!คอยดูเถอะเขาจะจับเธอให้มาหลงรักจนหัวปักปำเลยคอยดู
จะทำอย่างไรดี กับหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ซึ่งเพื่อน ๆ ชอบเรียกว่า “ จอมจุ้น” ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ดั๊น..ไปตกหลุมรักชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อนเอง ล้อมดาว ก้องกังวาลไกล เข้าจังเบ้อเริ่ม ในงานวันเกิดเพื่อนรัก เพียงแค่แวบเดียวที่ได้เจอหน้าเขาหล่อนก็เผลอพูดออกมาด้วยฤทธิ์กามเทพ หรือเพราะฤทธิ์น้ำส้มก็ไม่รู้ และไม่อาจเดาได้ ถึงได้โพล่งวาจาราวกับจะสาบานกับเบื้องบน “ อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายตัวจังเลยล้อม” และจะด้วยฤทธิ์คำขอส่ง ๆของเธอคงไปถึงหูท่านคิวปิด เลยให้เธอได้เข้าไปทำงานเป็นเบ้ในบริษัทของเขา จับพลัดจับผลู ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงเลขาของเจ้านายสุดหล่อ แต่..ความหวังอันเลือนรางของหล่อนจะเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ ก็เจ้านายเธอน่ะสิเจอหน้ากันทีไรเป็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ อย่างกับโกรธกันมาสักร้อยชาติ ทำอะไรก็มีแต่จะคอยส่งสายตาดุ ๆ มาให้อย่างอย่างนั้น แถมยังโดนว่าสารพัดทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปหมด เฮ้อ! ชักจะเริ่มท้อแล้วสิ จอมขวัญเพิ่งคิดได้ว่าคนระดับสูงแบบเขาคงไม่มีทางมามองพนักงานธรรมดา ๆ อย่างหล่อนหรอกช่วงหลัง ๆ จึงพยายามที่อยู่ห่าง ๆ จากเจ้านายจอมเฮี้ยบเสีย เพื่อเก็บหัวใจตัวเองไว้ให้รอดปลอดภัยจากคำว่าอกหัก! มัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลาเอาการแถมยังอิมพอร์ตมาจากเมืองนอก ด้วยมาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ก้าวเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวแทนบิดา ทำให้วงการธุรกิจด้านการโรงแรมและรีสอร์ท ต่างก็ตื่นตัวกับฝีไม้ลายมือ บวกกับความสุขุมรอบคอบ เอาจริงเอาจังกับงานอย่างเขา เป็นที่น่าจับตามองจากคู่แข่งเป็นอย่างมากการงานไปได้สวย แต่เรื่องหัวใจเขากลับไม่มีใครที่จะสามารถทำให้หัวใจอันแข็งแกร่งของเขาหวั่นไหวได้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ทำงานมา ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะให้ความสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเลย ไม่ใช่เพราะว่าเข็ดขยาดเรื่องความรักแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องการทุ่มเทให้กับงานมากที่สุดเท่าที่มีกำลังจะทำได้ กอปรกับภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกับใคร จนมาพบกับสาวน้อยหน้าตาสดใส ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้ให้ความสนสนใจอะไรหล่อนมากมายนักหรอก หากพอนานเข้า เขากลับเป็นคนหลงเจ้าหล่อนจนหัวปักหัวปำ แทบถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว แต่ไหงสาวเจ้ากลับมีท่าทีไม่สนในเขา อย่าหวังว่าจะหนีเขาพ้น คนอย่างนายมาร์คลองได้รักแล้วไม่มีวันไม่ปล่อยหล่อนไปง่าย ๆ แน่ "อย่ามายั่วให้รัก แล้วจากไปแบบนี้ ผมไม่ยอมแน่ "
เขา:คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น พ่อค้าอัญมณีเพชรพลอยที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยบ่อย จนแทบจะนับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขาอีกที่หนึ่ง จุดประสงค์หลักที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาที่เมืองไทย ไม่ได้เพียงเพื่อนำสินค้ามาแสดงเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อตามหาแหวนเพชรอันล้ำค่าทางใจของท่านปู่ของเขา และแล้ว..โชคชะตาก็นำพาให้เขาได้พบของสิ่งนั้นจนได้..แต่น่าแปลกที่ของมีค่าราคาแพงขนาดนั้นกลับตกอยู่ในมือของผู้หญิงไทยตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง หล่อนเป็นใคร? และเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนั้น? ที่สำคัญหล่อนได้มันมายังไง? หรือว่า..หล่อนขโมยมันมา.. ไม่ได้การล่ะเขาจะต้องเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อพิสูจน์หาความจริงให้จงได้ เธอ:น้ำริน ฤทธิ์รณชัย พยาบาลสาวหน้าใส ที่โดนข้อหาว่าเป็นขโมยแหวนเพชรมูลค่าราคาหลายล้านบาท จากนายหน้าหล่อที่เจอกันบนเครื่องบิน แถมเขายังลักพาตัวหล่อนไปที่ญี่ปุ่นด้วย อะไรกันเนี่ย?! ฉันไม่ได้ขโมยของ ๆ คุณมานะ มีคนให้ฉันมาเอง!..
นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด
+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง
ซุนเหยา เจ้าของร้านอาหารจีน ที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ เธอทำงานหนักจนหมกสติไป เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวแปดคนหาม สวมชุดแดงมงคล กำลังจะเข้าพิธีแต่งาน
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด