ในวันที่เธออุ้มท้องลูกของเขา เขากลับประกาศแต่งงานกับหญิงอื่นต่อหน้าผู้คนมากมายในงานเลี้ยงวันเกิดของเขา จากสถานะคนรักและกำลังจะแต่งงานกัน กลายเป็นนางบำเรอและดอกไม้ริมทางที่โดนเขี่ยทิ้งเหมือนหมาข้างถนน โมรินหอบหัวใจอันบอบช้ำและลูกน้อยในท้องหนีไปจากชีวิตของเขา ข่าวการแต่งงานอันชื่นมื่นระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น “เพื่อนสนิทของเธอ” ที่ทำกันได้ลงคอทำให้เธอเสียใจจนแทบไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว แต่สติก็ดึงให้เธอกลับมาคิดถึงชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิต ที่ไม่รับรู้อะไรด้วยเลย เธอไม่เคยคิดอยากจะข้องเกี่ยวกับผู้ชายใจร้ายแบบเขาอีก และไม่คิดที่จะให้เขามารับรู้ด้วยว่าเธอมีลูกน้อยกลอยใจน่ารักเพียงใด แต่ชะตาชีวิตกลับเล่นตลก เหวี่ยงเธอกับลูกน้อยกลับมาให้พบเจอกับเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายหัวใจของเธอให้เจ็บปวดเจียนตาย เขากำลังกลับมาพรากเอาหัวใจดวงน้อยไปจากอกของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอจะยอมให้เขาพรากสิ่งใดไปจากเธอได้อีกแล้ว
อุ้มรักเมียซาตาน
บทที่ 1
คนเก่าที่คุ้นเคย
“เชิญคุณโมริน เลิศประวิทย์เข้ามาได้เลยค่ะ” เสียงหวานใสของเลขาหน้าห้องท่านประธานหนุ่ม เจ้าของโชว์รูมรถหรูนำเข้าราคาแพงลิ่วเอ่ยขึ้น
โมรินยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานอันโอ่อ่าตรงหน้า เธอรับงานเป็นพริตตี้และงานอีเว้นต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและลูกสาวตัวน้อย
ปกติแล้วงานพริตตี้หรืองานอีเว้นที่ทำอยู่ จะมีคนติดต่อเธอมาเองผ่านพี่ ๆ ที่รู้จักกัน ไม่ต้องเรียกสัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของบริษัทเช่นนี้ แต่เคสนี้ค่อนข้างแปลก เพราะผู้บริหารต้องการที่จะคัดเลือกตัวพริตตี้ที่จะมาทำงานด้วยตัวเอง
โมรินเดินเข้าไปด้านในด้วยท่าทีมั่นใจ เธอยิ้มและยกมือไหว้ท่านประธานหนุ่มที่กำลังนั่งรอเธออยู่
หญิงสาวไหว้ค้าง หุบยิ้มสีหน้าแตกตื่นแทบจะทันที ร่างน้อยถึงกับเซ ถอยหนีแทบล้มเพราะตกตะลึงกับคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มองเธอด้วยสายตาคมกริบ
“สวัสดีครับ” คำเอ่ยทักทายของเขาทำให้โมรินกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงคอ ร่างกายของเธอเย็นเยียบราวยืนอยู่บนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ
ความเสียใจวูบขึ้นมาในอก แต่มันเป็นเพียงแค่แว็บเดียวก่อนจะจางหายไป เธอรีบสลัดความเสียใจนั้นทิ้งไป ดึงสติและกำลังใจกลับมาอีกครั้ง
โมรินเชิดหน้า คอแข็ง บอกตัวเองว่าเธอไม่ควรที่จะเสียใจกับผู้ชายคนนี้อีก ผู้ชายที่ทิ้งเธอไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น และผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพื่อนรักของเธอเมื่อหลายปีก่อน
เขาคือผู้ชายใจร้ายที่เธอไม่ควรเข้าใกล้
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคงเข้าห้องผิด” เธอหมุนตัวเตรียมหนีออกจากห้องทำงานของเขา ไม่คิดจะรับงานนี้โดยเด็ดขาด
เธอไม่คิดจะข้องเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อ พันไมล์ พิริยะพงศ์ไพศาลอีกแล้วในชีวิตนี้
“จะรีบไปไหน เรายังไม่ได้คุยกันเลย” เขายืนขึ้นเต็มความสูง ร่างสูงสมาร์ทอันหล่อเหลา รีบเดินมาคว้าแขนของคนที่กำลังจะเปิดประตูหนีออกไป
“นี่ปล่อยนะ!” โมรินสลัดแขนจนหลุดจากมือหนา สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าตื่นตกใจและรังเกียจ
พันไมล์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับสายตาเช่นนี้จากหญิงสาวที่เคยรักเขาสุดหัวใจ
“โมมาสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ จะรีบไปไหนล่ะ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าอยากให้เธอได้งานนี้จริงๆ จะด้วยความจริงใจหรือแผนการอะไร เธอก็ไม่สน วินาทีนี้เธออยากไปจากที่นี้เต็มกลืน
“ไม่ใช่ค่ะ” เธอตอบเสียงแข็ง ถอยหนีไปให้ห่างจากเขาอีกหลายก้าว สายตาเหลือบมองประตูห้องทำงานเป็นระยะ ความรู้สึกอึดอัดจุกขึ้นมาจนถึงคอหอย เธออยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน
การได้เจอกับอดีตคนรักอีกครั้งทำให้เธอถึงกับเซ หัวใจช้ำเลือดช้ำหนองที่เคยรักษาจนเกือบหายดี ท่วมท้นไปด้วยแผลเหวอะหวะอีกครั้ง
โมรินพยายามระงับความสั่นระริกของเรือนกายสาว หัวใจเต้นรัวเร็ว ปวดแปลบเจ็บชาไปหมดทั้งร่าง
พันไมล์ยังมีอานุภาพรุนแรงกับหัวใจของเธอ แม้หลายปีที่ไม่ได้เจอกัน เหมือนกับว่าเธอจะลืมเขาไปได้แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เธอไม่เคยลืมเขาไปจากใจได้เลย
เขาได้ทิ้งชีวิตน้อยๆ อีกชีวิตหนึ่งให้เธอต้องเลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก การได้เห็นหน้าลูกสาวตัวน้อยทำให้เธอยังคิดถึงพ่อลูกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“ถ้าโมมาสมัครเป็นพริตตี้ก็น่าจะไม่ผิดนะ เพราะพี่เป็นเจ้าของโชว์รูมรถ ที่จะจัดงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อสูทสีเข้มราคาแพง
โมรินคิดว่าเขาดูหยิ่งยโสอยู่เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน และหัวใจของเขาก็คงด้านชาสารเลวเหมือนเดิม
โมรินตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ลึกๆ ยืนตัวตรงเชิดหน้า และเรียกกำลังใจให้กลับมา แม้ว่าแข้งขาจะอ่อนแรงมากเพียงใด
เธอพลาดมากที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลของผู้ว่าจ้าง ด้วยความที่เธอต้องเร่งทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและลูกน้อย งานอะไรไม่ผิดกฎหมาย และเป็นงานที่ไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวเธอรับทำทั้งหมด
เธอโชคร้ายเรียนไม่จบ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ งานเดียวที่เหลืออยู่คือการใช้รูปร่างหน้าตาเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า หลังจากที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ระยะหนึ่ง
เธอเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับบุตรสาว โชคดีว่าบ้านเช่ามีพื้นที่ไว้ให้ปลูกต้นไม้บ้าง เธอจึงปลูกพืชผักสวนครัวเกือบทุกชนิดที่กินได้ เอาไว้ประกอบอาหารเพราะประหยัดและปลอดสารพิษ
โมรินอยากมีเงินเยอะๆ จะได้ส่งเสียให้ลูกน้อยได้เรียนสูงๆ เธอมีรถกลางเก่ากลางใหม่อยู่คันหนึ่ง ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าการผ่อนรถมือสองนั้นดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงเก็บเงินก้อนโดยการประหยัด กัดฟันซื้อจนมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เวลาต้องพาลูกไปไหนมาไหนหรือไปเที่ยวที่ไหนจะได้ไม่ต้องลำบาก
“โมเข้ามาแล้ว ไม่คิดจะสัมภาษณ์งานกับพี่ก่อนเหรอ” ประโยคของเขาทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด
“ไม่ค่ะ” เธอตอบปฏิเสธ ทำท่าจะเดินหนีออกจากห้องทำงานของเขา แต่เขายังยืนขวางอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน
“กรุณาถอยไปด้วยค่ะคุณพันไมล์” เธอเรียกเขาเต็มยศ สาดประโยคคำพูดที่บ่งบอกว่าเหินห่างกับเขาไม่ต่างกัน
“ไม่คิดว่าพริตตี้แบบโมจะไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้” เขาพูดยั่วเพื่อให้เธอรับงานนี้ แต่โมรินไม่หลงกล เขาจะปรามาสหรือด่าว่าอะไรเธอ ก็ช่างหัวเขา แต่สำหรับเธอแล้ว ขอแค่ให้ออกไปจากที่นี่ได้เป็นพอ ถึงเธอไม่ทำงานกับเขา เธอก็มีงานอื่นๆ ให้ทำอีกหลายงาน
“แล้วแต่คุณจะคิด แต่ฉันขอสละสิทธิ์ให้คนอื่นก็แล้วกัน เพราะคงมีหลายคนอยากมาสัมภาษณ์งานกับคุณ ถึงไม่มีฉัน คุณก็มีพริตตี้ในงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของคุณอยู่แล้ว” เธอทำท่าจะเดินหนี แต่เขาก็ยังขวางเอาไว้
“กรุณาหลีกทางให้ฉันด้วยค่ะ” เธอพูดอย่างเอาจริง นั่นทำให้พันไมล์ต้องหลีกทางให้หญิงสาวตรงหน้า
เธอเห็นว่าเขาหลีกทางให้ก็รีบจ้ำอ้าวออกไปจากห้องของเขาในทันที
โมรินรู้สึกใจหายใจคว่ำ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอกับเขาอีก
เธอหนีหายไปจากชีวิตของเขานานหลายปี ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ไปดูแลคุณยาย หลังจากที่คุณตาเสียชีวิตและปักหลักอยู่บ้านเกิดอยู่นาน กว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง
ชาวบ้านนินทากันว่าเธอท้องไม่มีพ่อ แต่ยายเข้าใจ ไม่เคยตำหนิหรือซักถามให้เธอเสียใจเลยสักคำเดียว เธอเองที่อดรนทนไม่ไหวต้องเล่าให้ท่านฟังทั้งน้ำตาว่าโดนผู้ชายหลอกจนตั้งท้อง แล้วเขาก็ทิ้งไปแต่งงานกับหญิงอื่น
เขาเหยียบย่ำความรักของเธอ เหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่าที่เขาจะทำร้ายเช่นไรก็ได้ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเจ็บปวดจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก รู้สึกว่าตนเองโง่งมและไร้เดียงสาเสียเหลือเกินที่หลงเชื่อความรักจอมปลอมลวงโลกของผู้ชายอย่างพันไมล์
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ใช่... ของฉันมันไม่แข็ง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้แกมาทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน! ฝันไปเถอะ! ไม่อยากถูกฟ้าผ่าโว้ยยยย!