เมื่อฮัวฟู่หรงถูกวางแผนฆาตกรรมให้จบชีวิตลงบนสะพานข้ามแม่น้ำเฉียนถัง สาเหตุเพราะได้รับบทฮูหยินฮัวของแม่ทัพอินลี่ซานผู้เลื่องลือแห่งต้าฉิน ที่นำมาทำละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งบทดังกล่าวตกมาเป็นของฮัวฟู่หรง ดาราสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงจีน และมีชื่อแซ่ที่ดันไปตรงกับตัวละคร ครั้นหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองมาอยู่ในอดีตยุคของขุนพลเทพแห่งต้าฉิน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ทัพทมิฬอินลี่ซานที่กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าค้นหาฮูหยินที่หายสาบสูญไป และเธอก็คือฮูหยินฮัวที่หายสาบสูญไปของแม่ทัพทมิฬ ที่สตรีทั่วหล้าต่างพากันริษยา หากแต่การกลับมาครั้งนี้ของฮัวฟู่หรง ดารา่สาวชื่อดังเธอไม่ได้ไร้เดียงสาดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่เธอร้ายและก็ถือสากับทุกๆ คนที่ทำให้คนรอบข้างที่เธอรักต้องเจ็บและตายจากอย่างไม่หวนคืน ร้ายรักให้ถึงที่สุด ร้ายลึกทะลุไปจนสุดขั้วหัวใจ แต่ถึงร้ายอย่างไรก็เป็นหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพทมิฬ เพราะแม่ทัพผู้กล้ารักมั่นต่อสตรีร้ายกาจนางนี้ยิ่งนัก
"หรงเอ๋อร์!”เสียงทุ้มใหญ่เรียกชื่อของสตรีนางหนึ่งดังกึกก้อง
อืมมม!!! เสียงขานรับต่ำๆ ดังขึ้นอยู่ในลำคอของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงเรียกปริศนากำลังเพรียกหาเธอ ดังมาจากที่ไกลแสนไกลจนไม่สามารถพานพบกันได้
"อย่าทิ้งข้าไปหรงเอ๋อร์! กลับมาหาข้า! กลับมา! อย่าทิ้งข้า!”เสียงเพรียกหานั้นร้องเรียกอย่างเจ็บปวดจนคนที่กำลังถูกเรียกสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้
แปะ! หยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาจากขอบตาโดยไม่รู้ตัวพร้อมภาพเลือนรางบางอย่างปรากฏขึ้นและค่อยๆ แจ่มชัดจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าไม่รู้ว่าภาพนั้นคือความจริงหรือความฝันกันแน่
ครืดดดด!!!! ร่างของสตรีสาวในชุดขาวนางหนึ่ง กำลังคืบคลานอยู่บนพื้นไม้ท่ามกลางกระแสลมแรงจนอาภรณ์ขาวปลิวสะบัดและแนบลู่ไปตามลำตัวจนเผยให้เห็นเลือนรางงามของนาง ผมสีดำเป็นนิลจนขึ้นเป็นมันวาวปลิวสยายไปตามสายลมกรรโชกแรง ไร้สิ้นเครื่องประดับผมใดๆ
เบื้องหน้าคือเมืองหลวงเสียนหยางแห่งแคว้นฉิน และสถานที่กำลังยืนอยู่ในเวลานี้คือหอคอยสูงที่ถูกสร้างขึ้นภายในจวนใหญ่ของขุนนางระดับสูงผู้หนึ่ง ใบหน้าขาวซีดราวกับว่านางกำลังป่วยอยู่ในเวลานั้น ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความตื่นกลัวราวกับว่ากำลังมีบางอย่างคุกคามชีวิตอยู่ในเวลานี้
อ๊อกกกก!!!! เสียงคล้ายมีบางอย่างกำลังจะออกมาจากลำคอพร้อมร่างของนางหยุดนิ่งลง
พรืดดดด!!!! โลหิตแดงฉานพุ่งออกมาจากปากจนกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด พร้อมกับหยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...ทะ...ท่าน...ท่านพี่...”เสียงของนางกำลังเรียกหาใครบางคนอยู่ในเวลานั้น
ร่างงามแสนสวยกำลังคืบคลานคล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่างจนสุดชีวิตเพื่อหวังให้มีลมหายใจอยู่รอดต่อไป ทว่าสถานที่ดังกล่าวช่างลับตาผู้คนเสียเหลือเกิน เมื่อนางกำลังอยู่ชั้นบนสุดของหอคอยซึ่งเทียบความสูงได้ประมาณตึกแปดชั้นเลยทีเดียว ดวงตาเฝ้ามองไปที่พระจันทร์กลมโตตรงหน้าซึ่งอยู่ไกลออกไปด้านนอก
“ชะ..ช่วย..ช่วย...ข้า..ด้วย!”เสียงเรียกหาความช่วยเหลือด้วยความหวัง และเต็มไปด้วยความกลัวเหลือประมาณ
ร่างของนางกำลังคืบคลานอยู่ตรงบริเวณด้านนอก ซึ่งเป็นลานกว้างสำหรับยืนชมทิวทัศน์เมืองหลวงเสียนหยางที่กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ในเวลานี้ ชั้นบนสุดของหอคอยมีเพียงลานกว้างและโต๊ะตัวยาวพร้อมตั่งจำนวนสองที่นั่งวางไว้เคียงคู่กัน ราวกับว่าใช้เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวก็ว่าได้
ทว่าในเวลานี้บนโต๊ะที่ตั้งกู่เจิ้งเอาไว้และชุดชงชา ไม่อยู่ในสภาพเดิมอีกต่อไปเมื่อสิ่งเหล่านั้นร่วงหล่นตกแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ไม่ไกลจากตั่งที่นั่งปรากฏบุรุษปริศนายืนสูงทะมึนกำลังมองร่างแม่นางในชุดขาวพยายามคืบคลานอยู่บนพื้นเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด
“คิดหรือว่าจะมีผู้ใดขึ้นมาช่วยเจ้าให้รอดตายไปจากเงื้อมมือของข้าบนหอคอยนี้!”บุรุษร่างใหญ่ผู้นั้นพูดพึมพำพลางแสยะยิ้มเหยียดพร้อมเอ่ยขึ้น
“เห็นทีจะต้องเร่งเวลาให้ตายเร็วขึ้นเสียแล้ว ช่างตายยากตายเย็นเสียเหลือเกิน”พูดพร้อมเดินตรงปรี่เข้าไปหาร่างของสตรีชุดขาวที่กำลังคืบคลานพยายามหนีเอาชีวิตรอดอยู่ในเวลานั้น
พรืดดดด!!! ร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวถูกหิ้วปีกยกขึ้นจากพื้นก่อนจะลากนางไปจนถึงริมระเบียงซึ่งสร้างด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบไปทั่วบริเวณเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ใดร่วงหล่นลงมาจากหอคอยนั้นได้
ฟุบ! ร่างของนางถูกยกขึ้นพาดไปกับราวระเบียงอย่างรวดเร็ว พร้อมชายแขนเสื้อสีดำขลิบสีหลืองทองที่นางมองเพียงครู่ก็ล่วงรู้โดยทันทีว่าเป็นอาภรณ์ของผู้ใด
“ทะ..ท่าน..ทะ”นางพูดออกมาได้เพียงแค่นั้น
ฟิ้ววววว!!!! ร่างงามของหญิงสาวในชุดขาวถูกจับเหวี่ยงลงมาจากชั้นบนสุดของหอคอยสูงลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร่างของนางกำลังร่วงหล่นตกลงพื้นเบื้องล่างอยู่ในเวลานั้น
สายลมที่พัดกรรโชกอย่างแรงกล้าราวกับว่ากำลังมีพายุได้พัดร่างจนพลิกกลับในท่าคว่ำมาอยู่ในท่านอนหงายพร้อมกับดวงตาของนางพลันเบิกกว้างด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น
เมื่อดวงตาเห็นร่างสูงทะมึนของบุรุษสวมอาภรณ์ที่นางตัดเย็บกับมือด้วยตัวเอง และอาภรณ์ดังกล่าวนั้นผู้ที่เป็นสามีของนางเป็นผู้สวมใส่ ซึ่งก็คือแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน แม้ว่าในเวลานี้จะเป็นยามวิกาลแต่เพราะเป็นคืนเดือนหงายและพระจันทร์เต็มดวงทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
จึงสามารถเห็นใบหน้าของคนที่โยนนางลงมาจากหอคอยได้อย่างชัดเจน ว่าผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าของสามีและจับนางโยนลงมาจากหอคอยนั่นแท้จริงแล้วเป็นผู้ใด
“ท่านสังหารข้าทำไม! สังหารข้าทำไม! ทำไม!”คำพูดสุดท้ายพรั่งพรูออกมา พร้อมร่างงามร่วงหล่นจากหอคอยลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
ตุบ! ร่างงามตกกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมเลือดแดงฉานไหลออกจากกายจนนองไปทั่วพื้นหินเบื้องล่าง ท่ามกลางสายตาของบุรุษร่างสูงทะมึนที่ยืนแสยะยิ้มเหยียดกับผลงานการฆ่าคนของตัวเอง
ในขณะเดียวกันบริเวณพื้นเบื้องล่างของหอคอยดังกล่าว ร่างของหญิงสาวที่เพิ่งถูกจับโยนลงมาจากชั้นบนสุดนั้นก็คือฮูหยินฮัวหรือฮัวฟู่หรงของอินลี่ซานแม่ทัพทมิฬแห่งต้าฉิน นอนหายใจรวยรินพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากขอบตา
ฮูหยินสาวที่เพิ่งเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินยังไม่ทันได้ร่วมหอกับสามีของนางเสียด้วยซ้ำ ก็ต้องนำกองทัพตามพระราชโองการออกไปทำศึกกับชนเผ่าซงหนูที่ยกทัพมาตีเมืองตามขอบชายแดนเอาไปเป็นของตัวเองอย่างไม่กลัวเกรงต้าฉินแม้แต่น้อย
ทำให้ฮูหยินผู้เป็นยอดดวงใจของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน ที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานต้องอยู่ภายในจวนใหญ่ของสกุลอิน แวดล้อมไปด้วยบ่าวไพร่บริวารคอยดูแล และเฝ้ารอคอยการกลับมาของสามีอย่างใจจดใจจ่อมาโดยตลอด จวบจนกระทั่งห้าเดือนผ่านไปสงครามระหว่างต้าฉินและเผ่าซงหนูก็สิ้นสุดลง ชัยชนะตกเป็นของต้าฉินพร้อมข่าวการกลับมาของอินลี่ซาน ขุนศึกคู่แผ่นดินของแคว้น
ทันทีที่อินลี่ซานได้รับชัยชนะจากการทำสงครามดังกล่าวและมุ่งหน้าเดินทางกลับเมืองหลวงด้วยความคิดถึงฮูหยินของเขาอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก พร้อมข่าวล่าสุดที่ส่งมาจากจวนแม่ทัพรายงานว่าฮูหยินผู้เป็นที่รักกำลังล้มป่วยด้วยไข้ลมหนาว มีอาการไม่ค่อยสู้ดีนักแม่ทัพหนุ่มควบม้าเร็วมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงตรงเข้าจวนเพื่อไปหาฮูหยินของตัวเองก่อนจะเข้าเฝ้าอ๋องฉินเสียอีก
และในเวลานี้บนพื้นหินเบื้องล่างตรงบริเวณหน้าหอคอยร่างของฮูหยินคนสวยกำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในเวลานั้น ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหลุดลอยออกจากร่าง
แปะ!!! ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไหลหลั่งรินออกมาไม่ขาดสาย มองตรงไปที่ประตูใหญ่ทางเข้าออกของหอคอยที่ปิดอยู่ตลอดเวลาในขณะนั้น
“ทะ...ท่าน...ท่าน...พะ....พี่!!!!”เสียงสุดท้ายดังลอดออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมลมหายใจเริ่มขาดห้วงก่อนจะสิ้นสุดลงและทันทีที่ลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยออกจากร่างของนาง
แวบ! แวบ! แวบ! บริเวณข้อมือของฮูหยินผู้อาภัพภายใต้ชายแขนเสื้อที่ปกคลุมเกิดประกายวูบวาบทอแสงเรืองรองออกมาเหลื่อมระยิบระยับขึ้นมาทันที พร้อมเสียงคล้ายกำลังมีคนเปิดประตูบานใหญ่ตรงทางเข้าออก เพื่อเข้ามาภายในบริเวณหอคอยซึ่งร่างของฮูหยินคนงามนอนแน่นิ่งอยู่ในเวลานี้
แอดดดด!!!! บานประตูทางเข้าออกของหอคอยถูกเปิดออกในเวลาเดียวกันพร้อมเสียงตะโกนกึกก้องดังออกมาจนสุดเสียง
หรงเอ๋อร์!!!!!
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!