ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท) “ก็แค่นางบำเรอถูกกฎหมาย อย่าสะเออะมาตีฝีปากกับฉัน” มโนยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตทีละเม็ดอยู่หน้ากระจกโดยไม่ยี่หระต่อสายตาของคนที่นั่งบนเตียงด้านหลังตน“อย่างน้อยฉันก็มาแบบถูกกฎหมายไม่ใช่เหรอคะสามีขา...”
ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท) “ก็แค่นางบำเรอถูกกฎหมาย อย่าสะเออะมาตีฝีปากกับฉัน” มโนยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตทีละเม็ดอยู่หน้ากระจกโดยไม่ยี่หระต่อสายตาของคนที่นั่งบนเตียงด้านหลังตน“อย่างน้อยฉันก็มาแบบถูกกฎหมายไม่ใช่เหรอคะสามีขา...”
** “****เอ้า! ชนแก้วเว้ย!"**หนึ่งกลุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกแก้วบรั่นดีตกหน้าขึ้นมารอให้เพื่อน ๆ ยกขึ้นมาชนกับแก้วของตน
“ชนเหี้ยสิวะ! กูเครียดอยู่นะเว้ยไอ้ฝัน”
น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมา แสดงให้รู้ว่าเจ้าของน้ำเสียงนั้นกำลังอารมณ์ไม่ดี มือใหญ่ยกแก้วบรั่นดีเข้ม ๆ กระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว โดยไม่สนใจจะชนแก้วกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม เมื่อหมดแก้วก็คว้าขวดบรั่นดีตรงหน้าขึ้นมายกขวดให้หนำใจ
"เฮ้ย! พอก่อนไอ้โน มึงจะเครียดทำไมวะ ก็แค่แต่งงานเองเว้ย! คิดว่าเป็นกำไรชีวิตสิวะ”
ลวงร้อยแย่งขวดบรั่นดีในมือเพื่อนรักมาเก็บไว้ ขืนปล่อยให้ดื่มแบบนี้มีหวังเมาเละเหมือนหมาก่อนที่จะคุยกันรู้เรื่องแน่ ๆ เลยวันนี้ คนรึอุตส่าห์เปิดห้องเลี้ยงสละโสดให้ แทนที่จะสนุก แต่นี่อะไร มานั่งหน้าตึงเครียดอยู่ได้
“มึงเข้าใจกูจริงไหมวะไอ้เพ้อ”
มโนมองเพื่อนข้างตนที่มีสีหน้ายิ้มระรื่นไม่เหมือนกับคำที่พูดออกมาจากปากเลย ท่าทางกับคำพูดช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน แล้วสายตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อน ๆ อีกสามคนและทุกคนก็เหมือนกำลังสนุกสนานบนความทุกข์ของเขา
มโนกับทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้อายุ 37 ปีแล้ว เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวเคล้านารีมาด้วยกันตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม แต่ตกมาปีนี้ปี 2560 เป็นปีที่เขาไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่า
นายมโน เหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้า
หรือ โน วัย 37 ปี ทายาทรุ่นที่ 47 ของบริษัทเส้นใหญ่โภชนาการ ซึ่งธุรกิจของเขานั้นเป็นบริษัทแม่และมีโรงงานลูกผลิตพวกอาหารแห้ง โดยเฉพาะมาม่าเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน
“ก็พวกกูเข้าใจมึงไงถึงได้เปิดห้องชุดหม้อรวมให้มึงส่งท้ายก่อนที่มึงจะมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนไงวะเพื่อน”
"ฮ่า ๆ ๆ" เสียงหัวเราะตามมาเป็นพรวน
“เออ! ไอ้เพ้อพูดถูหูกูดีว่ะวันนี้ เรียกเด็ก ๆ เข้ามาเลยไอ้ฝัน” รักษ์หัวเราะชอบใจพร้อมกับบอกสั่งเพื่อนรักให้โทร.เรียกเด็ก ๆ เข้ามาปลอบใจว่าที่เจ้าบ่าว
“สนุกดีกว่าไอ้โน มึงควรดีใจที่จะมีคนมาร่วมใช้นามสกุลลิเกของมึงนะเว้ย!" เพ้อภพเอ่ยบอก พร้อมกับลุกขึ้นเดินกลับไปนั่งที่เดิมของตน
“แล้วมันไปหนักหัวมึงรึไงไอ้เพ้อ นามสกุลนี้ทวดกูเป็นคนไปต่อเติมให้ดูหรูหราขึ้นมาเว้ย! สาวเห็นสาวเป็นมอง สาวเจอเป็นต้องถอดผ้าเข้าหา แต่ตอนนี้กูเครียดเว้ย! กูจะกลับแล้ว เชิญพวกมึงสนุกกับชุดรวมไปเถอะ ระวังเถอะ ระวังพวกมึงจะติดโรค” พูดให้เพื่อนทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่ต่างจากเพื่อนของตนเลย ตอนนี้มโนไม่มีอารมณ์จะเที่ยวจะสนุกกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เพราะเขาเครียดกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกสองวันข้างหน้านี้
“กูนึกว่าลิเก” ฝันดีเอ่ยลอย ๆ
“เอ้า! ไอ้ห่านี้ พวกกูอุตส่าห์จัดแจ่ม ๆ มาให้มึงเลยนะเว้ย” ลวงร้อยเห็นเพื่อนลุกขึ้นเตรียมท่าจะกลับ
“เอาไปต้มยำกินที่บ้านพวกมึงเถอะ กูเครียดเว้ย!" ว่าแล้วมโนก็เดินตรงไปยังประตูห้องกระชากเปิดออกทันที
ปัง!
เสียงประตูห้องที่มโนกระแทกปิดดังลั่นทำให้สี่หนุ่มที่เหลือมองหน้ากันแล้วหัวเราะเพื่อนรัก
“พวกมึงว่าเจ้าสาวไอ้โนจะเป็นผู้หญิงแบบไหนวะ” รักษ์เอ่ยถามเพื่อน
“แบบไหนกูไม่รู้ กูรู้แต่ว่าตอนนี้กูหิวนมว่ะ!" เพ้อภพเอ่ยพลางมองไปยังประตูที่ตอนนี้มีสาวอกตูมกำลังเรียงรายกันเข้ามาในห้อง
“นั่นสิวะ รอดูวันแต่งงานดีกว่า ตอนนี้ต้มยำน้ำข้นกันดีกว่าว่ะ” ฝันดีเอ่ยขึ้นบ้าง แล้วลูกเดินไปโอบกอดสาว ๆ มานั่งกับตน
เพื่อน ๆ ของเขากำลังสนุกกันอยู่
แต่มโนขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าเครียดขรึม พอมาถึงบ้านเขาก็รีบขึ้นไปบนห้องนอนทันที แต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่งบนเตียงก็มีเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น และก็ไม่ต้องเดายากเมื่อตอนนี้คนที่เคาะประตูได้เปิดผลักเข้ามาก่อนที่เจ้าของห้องจะอนุญาตแล้ว
“ไปไหนมาลูก จะแต่งงานอยู่แล้วนะทำไมต้องไปเที่ยวข้างนอก ไปลงอ่างมาใช่ไหมลูก” นางเพ็ญศรีเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาลูกชายคนเดียวของตนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“โธ่! แม่ ให้ลูกได้เที่ยวบ้างเถอะ ดีแค่ไหนแล้วที่โนไม่ไปผูกคอตาย”
“ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้โน ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย” นางสั่งเสียงแข็ง และเห็นว่าลูกชายชักช้าไม่ทำตาม มือเหี่ยวย่นก็ยกขึ้น
เผียะ!
“แม่ตบปากลูกเพียงเพราะลูกจะหนีตายเนี่ยนะ แม่เห็นยัยเจ้าสาวนั่นดีกว่าลูกได้ยังไง” มโนยกมือกุมปากตัวเองด้วยความน้อยใจผู้เป็นแม่
“มึงไม่เข้าใจกูหรอกไอ้ลวง มึงก็รู้ว่ากูยังไม่อยากมีพันธะตอนนี้ แต่แม่ง! พันธะเสือกวิ่งมาหากู” มโนพูดออกมาด้วยความน้อยใจโชคชะตา ใบหน้าคมเข้มประดับหนวดเคราเสริมเสน่ห์จ้องมองบรรดาเพื่อนรักด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
ลวงร้อย เพ้อภพ ฝันดี
และ
รักษ์
หันมาสบตากัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมเพียงกัน
“เรื่องนี้พวกกูช่วยมึงไม่ได้จริง ๆ ว่ะ” ทั้งสี่คนประสานเสียงกันพูดออกมา
มโนเอนหลังพิงพนักโชฟาด้วยความอ่อนแรง เมื่อคิดว่าอีกสองวันก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานสายฟ้าแลบในครั้งนี้ แม้แต่หน้าของเจ้าสาวก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าสวยหรือขี้เหร่ จะสวยหรือขี้เหร่เขาก็ไม่มีวันให้หล่อนได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานอย่างมีความสุขหรอก เขาจะโรยหนาม ตะปูและเรือใบให้หล่อนเดินไม่ได้แล้วล่าถอยออกไปจากชีวิตของเขาเอง
"เฮ้อ!"
เพ้อภพถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างมโน แล้วยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนแรง ๆ
“เอาเถอะน่า...ไหน ๆ ก็จะมีเมียก็ฉลองกันเถอะ จะเครียดทำไมกะอีแค่แต่งงานก่อนเพื่อน ๆ เองไอ้โน” เหมือนจะปลอบแต่ทำไมคนฟังถึงรู้สึกว่าเพื่อนรักกำลังเยาะเย้ยอยู่ในที
“มึงเข้าใจกูจริงไหมวะไอ้เพ้อ”
มโนมองเพื่อนข้างตนที่มีสีหน้ายิ้มระรื่นไม่เหมือนกับคำที่พูดออกมาจากปากเลย ท่าทางกับคำพูดช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน แล้วสายตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อน ๆ อีกสามคนและทุกคนก็เหมือนกำลังสนุกสนานบนความทุกข์ของเขา มโนกับทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้อายุ 37 ปีแล้ว เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวเคล้านารีมาด้วยกันตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม แต่ตกมาปีนี้ปี 2560 เป็นปีที่เขาไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่า
นายมโน เหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้า
หรือ โน วัย 37 ปี ทายาทรุ่นที่ 47 ของบริษัทเส้นใหญ่โภชนาการ ซึ่งธุรกิจของเขานั้นเป็นบริษัทแม่และมีโรงงานลูกผลิตพวกอาหารแห้ง โดยเฉพาะมาม่าเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวท่านประธานคลั่งรักค่ะ “ลูคัส” กับ “ปิ่นปัก” มาลุ้นไปกับความรักของท่านประธานขี้หวงกับเมียเด็กจอมเย็นชากันนะคะ
เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว
“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ
เรื่อง “มังกรกัณฐ์” นามปากกา “ยักษ์” ภาคต่อ “นาสูร” ด้วยนะคะ นิยายชุดนี้จะมี 3 เรื่องนะคะ นาสูร(อีบุ๊กพร้อมโหลด),มังกรกัณฐ์(อีบุ๊กพร้อมโหลด) และกลืนกิน(กำลังเขียน) วันนี้ฝากเรื่อง “มังกรกัณฐ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องของลุกชายพ่อนาสูรมาลุ้นไปกับความรักความหื่นและความเอาแต่ใจของหนุ่มลูกครึ่งยักษ์กันนะคะ
“ไอ้พร้อม ไอ้ห่า มึงมันหยาบเกินคน มึงไม่เป็นลูกผู้ชาย” “ก่อนจะว่าแบบนั้น มึงดูเอ็นกูยัง มึงดูเอ็นกูแข็งร้อนขนาดนี้ มึงยังปากดีว่ากูไม่เป็นลูกผู้ชายอีกเหรอ”
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
กฤษณะต้องมาปกป้องนักโทษคนหนึ่งที่พัวพันกับเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ให้รอดพ้นจากการถูกตามล่า หากแต่เธอคนนี้คือน้องสาวของฆาตกรที่ ฆ่/หั่nศwแฟนสาวของเขาอย่างโหดเหี้ยม แต่ยังไม่ทันได้แก้แค้นมันก็ชิ่งต/ยก่อน ความแค้นทั้งหมดจึงมาลงที่เธอเพียงคนเดียว นานวันเข้าความใกล้ชิดและผ่านอุปสรรคมาด้วยกันตลอดทางความรู้สึกนั้นก็แปรเปลี่ยนจากความแค้นเป็นความรัก "ปากนายนี่มันเลี้ยงสุนัขไว้ในนั้นกี่ตัวกันฮะ! ว่างๆก็แวะไปให้หมอฟันง้างปากลากมันออกมาปล่อยบ้างนะ” “พูดมากอยู่นิ่งๆแล้วก็มาทายาให้ฉันด้วยเพราะเธอคนเดียวฉันถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด