"อยากลองมีผัวแก่ดูไหมละ เผื่อจะติดใจขึ้นมา"
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"นายครับ"
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
"นายครับนาย"
เสียงเคาะประตูดังขึ้นรัวๆ ในตอนที่เหนือเมฆกำลังสอดใส่ตัวต้นเข้าไปในกายของไข่มุก ดารานางแบบชื่อดัง
"จิ๊!!! มีเหี้ยอะไร!!!" เหนือเมฆแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อลูกน้องที่อยู่ข้างนอกยังคงเคาะประตูระรัวราวกับเกิดเรื่องราวร้ายๆ ขึ้น
"เมฆขา มุกยังค้างอยู่เลย ใช้นิ้วก่อนก็ได้นะคะ" ไข่มุกร้องขออย่างลืมอายเธอไม่ใช่แฟนของเหนือเมฆแต่เธอเป็นแค่คู่ขาที่รู้ใจเขามากที่สุด
"ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย" น้ำเสียงราบเรียบของเหนือเมฆทำให้ไข่มุกไม่สบอารมย์มากนัก จำต้องยอมลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
"เข้ามา" เหนือเมฆหยัดกายลุกขึ้นสวมกางเกงยีนส์ตัวสวย ในขณะที่ไข่มุกเลี่ยงเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ เสียงฝีเท้าของลูกน้องเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนหยุดนิ่ง
"มีไรก็ว่ามา มึงคงรู้นะถ้าไม่สำคัญพอกูจะจัดการกับมึงยังไง" น้ำเสียงคาดโทษถูกปล่อยออกมา ภูผาลูกน้องคนสนิทของเหนือเมฆมองเจ้านายหนุ่มอย่างวิตกกังวน
"มาร์ตินมันระเบิดโกดังของเราครับนาย" ฉิบหายละ!!! ไอ้มาร์ติน ชื่อนี้ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังเขาคือมาเฟียผู้โหดเหี้ยมไม่ต่างจากน้องชายฝาแฝดมาร์แชล ที่เลือดเย็นไร้ความปรานี
"พวกมึงปล่อยให้มันระเบิดโกดังเราได้ไงวะ" เหนือเมฆรีบตรงดิ่งไปที่โกดังทันทีโดยมีไข่มุกตามไปด้วย
@โกดัง
"กว่าจะมาได้นะมึง กูคิดว่าต้องเผาที่อื่นไปด้วยมึงถึงจะยอมมา" มาร์ตินเอ่ยทักทายเหนือเมฆทั้งสองคนเป็นทั้งศัตรู และคู่ค้าทางธุรกิจ
"มึงมาทำไม" เหนือเมฆเอ่ยถามออกไปแม้จะรู้แก่ใจอยู่แล้ว ว่ามาร์ตินมาทำไม
"คำถามมึงดูโง่ดีนิ" ลูกน้องของเหนือเมฆต่างปรี่กันเข้าหามาร์ติน ปลายกระบอกปืนนับสิบที่จ่อมาที่ศรีษะของเขาด้วยท่าทางขึงขัง แต่มันไม่ได้สร้างความหวานกลัวให้มาร์ตินเลยแม้แต่น้อย
"ก็ลูกค้าเขาเลือกของกู กูจะไปขัดลูกค้าได้ยังไง" เหนือเมฆอธิบายให้มาร์ตินฟัง แต่นั่นไม่ใช่ความจริง และเขารู้ดีอยู่แล้ว ว่ามาร์ตินรู้แล้ว
"โอ้ยยยยยยย!!!"
เสียงหนึ่งในลูกน้องของเหนือเมฆดังขึ้น ทำให้ทุกคนต้องรีบหันกลับมาดูว่าเกิดอะไร แขนข้างซ้ายของเขามีรอยเปียกแฉะสีแดงซึมออกมา
"มึง!!"
เหนือเมฆมองหน้ามาร์ตินด้วยความโกรธเกรี้ยว มาแค่คนเดียวก็จะรับมือไม่ไหวแล้ว นี่มันพาแฝดมันมาด้วย ใครต่างก็รู้ไอ้แฝดนรกคู่นี้มันโหดร้ายขนาดไหน
"ไม่ตายหรอกน่า" มาร์แชลเดินเข้ามายืนข้างมาร์ติน ในมือถือปืนควงเล่นอย่างชำนาญโดยที่ไม่ได้เกรงกลัวปืนนับสิบที่เล็งมายังเขาทั้งคู่เลยสักนิด
"มึงก็รู้ว่ากูไวกว่าปืนพวกมึงขนาดไหน แต่มึงยังกล้าส่องกบาลพี่กูอยู่ หรือกูต้องทำให้มึงดูว่ากูไวกว่าพวกมึง"
เหนือเมฆยังไม่ทันได้พูดอะไร หนึ่งในลูกน้องของเขาก็ล้มลงด้วยปืนเก็บเสียงของมาร์แชล ที่ยิงเข้าตรงบริเวณหน้าขา
"กูประกอบเองเลยนะ มึงจะลองดูไหม" มาร์แชลส่องปลายกระบอกปืนไปทางเหนือเมฆเป็นการข่มขู่ก่อนที่เหนือเมฆจะยกมือขึ้นทำสัญญาณให้ลูกน้องลดปืนลง
"พอใจมึงยัง" เหนือเมฆเอ่ยถามขณะที่ตัวเองยืนนิ่งๆ ไม่ใช่แค่เขาที่ยื่นนิ่งๆ แต่ลูกน้องของเขารวมถึงไข่มุกก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
"มึงตัดราคากู ทั้งๆ ที่เคยคุยกันไว้แล้ว ว่าของลอตนี้ต้องเป็นของของกู" มาร์ตินเอ่ยขึ้นเดินตรงไปยังหน้าของเหนือเมฆ แววตาของเขาฉายแววดุดันดวงตาสีเทาหม่นของเขาดูหน้ากลัวไม่ต่างจากแววตาสีน้ำตาลหม่นของมาร์แชลเลยสักนิด
"กะ ... กูขอโทษ" มือหนาของมาร์ตินบีบรอบลำคอหนาของเหนือเมฆเอาไว้ ให้ตายเถอะเขาอยากจะฆ่ามันจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแด๊ดมอร์แกนสั่งไว้ว่าต้องเก็บคู่ค้าเอาไว้ เขาจะไม่มีวันยอมยืนให้มันทำกับเขาแบบนี้หรอก
"แค่ก! แค่ก! แค่ก!"
เมื่อปล่อยมือออกจากรอบลำคอหนาของเหนือเมฆ มาร์ตินเดินกลับมายืนข้างมาร์แชลอีกครั้ง ยื่นกระดาษไปตรงหน้าของเหนือเมฆ
"กูส่งเมลมาแล้ว ส่งข้อความมาแล้ว มึงไม่ตอบกลับ ไม่รู้มัวทำเหี้ยอะไรอยู่ กูเลยต้องมาสั่งของด้วยตัวเอง" ดวงตาสีเทาหม่นมองเลยไปยังไข่มุกที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาด้วยความหวาดกลัว
"เดี๋ยวกูจัดการให้" เหนือเมฆรีบรับกระดาษมาทันทีส่งให้ภูผาลูกน้องคนสนิทรับไว้ เขายังยืนจ้องมองสองแฝดกดดันด้วยความเงียบ แม้ความหน้าเกรงขามของเขาจะดูหน้ากลัว แต่สองแฝดนั่นกลับดูหน้ากลัวยิ่งกว่า
"พรุ่งนี้หกโมงเย็นของต้องถึงโกดังของกู" มาร์ตินเอยคำพูดก่อนที่จะหันหลังตั้งท่าเดินออกไป
"มึงให้เวลากูวันเดียวเนี่ยนะ" เหนือเมฆตะโกนขึ้นไล่หลัง ทำให้สองเท้าของมาร์ตินหยุดนิ่ง ส่วนมาร์แชลเดินไกลออกไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้อยู่ฟังคำสนทนาระหว่างมาร์ตินกับเหนือเมฆ
"กลับไปอ่านเมลบ้าง ไม่ใช่กระแทกแต่ร่อง" มาร์ตินปรายตามองไข่มุกอีกครั้งก่อนแสยะยิ้มร้าย เหนือเมฆคงยังไม่รู้ซินะว่าผู้หญิงที่เขานอนกกอยู่ เคยเป็นของมาร์ตินมาก่อน
"พี่เมฆ" เสียงหวานใสดังขึ้นจากทางด้านหลังของมาร์ติน ทำให้เหนือเมฆแทบกุมขมับ น้ำพั้นช์ยัยน้องสาวตัวแสบบอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าห้ามมาที่โกดัง
เสียงรองเท้าผ้าใบดังไล่มาเรื่อยๆ จนเข้าใกล้มาเฟียหนุ่มผู้หน้าเกรงขาม
"อ้าว มีแขกเหรอ"
"มาทำไมบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้มาที่นี่"
"ก็พี่เมฆบอกให้พั้นช์กลับมากินข้าวบ้านบ้างนิ พอพั้นช์กลับมาไม่เจอเลยมาหาที่นี่ แล้วนี่ใครหรอ"
น้ำพั้นช์เดินเข้าไปเกาะแขนของพี่ชายอย่างออดอ้อนทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของดวงตาสีเทาหม่น เธอชี้นิ้วมาที่มาร์ตินแล้วถามพี่ชายว่าเขาเป็นใคร น่าขำ น่าขำที่เธอไม่รู้จักเขา
"มาร์ติน"
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
"ไม่ใช่ นี่มันเกียร์ฉัน!" "Oh! ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษ ก็คุณลุงไม่ให้มองมิลก์ก็กำผิดกำถูกสิคะ แล้วข้ามมาทำไมตอนรถไม่นิ่งละคะ" "ใครมันจะไปคิด ว่าเธอจะคิดทำมิดีมิร้ายกับฉันเล่า" "มิลก์เหรอคะ ที่คิดทำมิดีมิร้ายกับคุณลุงน่ะ ไม่ใช่ใช่คุณลุงเหรอคะ มาสอนมิลก์ขับรถแท้ๆ ตรงนั้นยังจะตั้งอยู่อีก"
ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"