หนุ่มหล่อเจ้าของฟาร์มรักษ์ทะเลขอแต่งงานกับนักแสดงนางร้ายเจ้าของรางวัล...นักแสดงดีเด่นขวัญใจมหาชน...เพื่อปกป้องเธอจากภัยร้ายนักธุรกิจชื่อดังผู้คาม แต่เธอกลับต้องมาพบเจอความหื่นแบบน่ารักน่าหยิกและเจอภัยร้ายจากอดีตเมียเก็บที่บอกเลิกเพียงข้ามคืนในบ้านของเขา และทั้งสองผู้ปองร้ายทำให้เขาและเธอได้รู้ความจริงว่า...ใครคือฆาตกร...ฝาก Readers ที่รักทุกท่านมาเอาใจช่วยพระเอกหื่นน่ารักน่าหยิกของเราด้วยกัน ฝากติดตามอ่านนิยายรักสนุกๆทุกเรื่องของ...ศิรารัย...ด้วยนะคะ
ข่าวดังตีพิมพ์วางขายทั่วประเทศ ขายดิบขายดีจนร้านค้าน้อยใหญ่ต้องสั่งเพิ่มยอดอีกเกือบสองเท่าตัว โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์บันเทิงทั้งละครภาพยตร์หรือแฟชั่นที่ต้องสั่งพิมพ์เพิ่มอีกเกือบสามเท่าตัวเพราะร้านขายส่งและยี่ปั๊วโทรสั่งพิมพ์เพิ่มกันระรัวทำให้วงการสิ่งพิมพ์ที่กำลังซบเซามีเงินเดินสะพัดมากสุดในรอบปี
โดยเนื้อหาข่าวเขียนออกมาในด้านลบเกือบทั้งสิ้น ที่เป็นความจริงมีเพียงแต่ผู้เป็นข่าวกับเรื่องราวเกี่ยวพันกับเทียร่าโมเดลลิ่งไม่มีข้อมูลบิดเบือนส่วนที่เป็นกลางๆหรือเขียนในด้านบวกแทบจะไม่มีเลย เพราะต่างเข้าใจไปในทางเดียวกันว่าการเขียนข่าวแบบนี้จะทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดแบบหยุดไม่อยู่จากคำสั่งเร่งด่วนของฝ่ายการตลาดที่ต้องการทำให้หนังสือพิมพ์ของตนขายดิบขายดีโดยไม่สนใจว่าคนตกเป็นข่าวจะเป็นอย่างไร
...ดราม่า...นางร้ายคนดังร้ายนอกจอชี้หน้าด่าสื่อ
หากดคีย์เขียนเรื่องตอแหลราวกับนอนเฝ้าใต้เตียง
แต่เป็นเตียงเมียน้อยผัวตัวเอง เอามาสร้างเรื่องฉาวของคนอื่น
เจ้าแม่ข่าวเม้าท์เจ้าของคอลัมน์เม้าท์แซ่บบันเทิง
ที่คนทั้งวงการข่าวคาดว่าเป็นจำเลยคนสำคัญ
ถึงกับเต้นผางประกาศจะถีบกระเด็นพ้นวงการ
ข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์บันเทิงทุกฉบับต่างพร้อมใจกันพุ่งเป้ามาที่คัทลีนนางร้ายคนดังเจ้าของตำแหน่งนักแสดงดีเด่นดาวรุ่งขวัญใจมหาชนคนใหม่เพียงผู้เดียว โดยมีรายละเอียดของเนื้อข่าวคล้ายๆกัน
...นักแสดงนางแบบสาวเจ้าของรางวัลนักแสดงดีเด่นดาวรุ่งขวัญใจมหาชนโมโหจัดกระชากไมค์กระแทกปากนักข่าวคอลัมน์เม้าท์แซ่บบันเทิงที่คอยตามจี้ถามกับเรื่องสัมพันธ์ลับอื้อฉาวยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้รางวัลจากเจ้าของหนังสือพิมพ์ทีวีบันเทิงชื่อดังหลายครั้ง...
...แถมท้ายสวมบทนางร้ายนอกจอชี้หน้าด่ากราดสื่อมวลชนบันเทิงว่า...หากินกับการเขียนข่าวหลอกลวง...ไร้จิตสำนึกดี ไร้ศีลธรรม ไร้จรรยาบรรณ...ดีแต่นั่งมโนกดคีย์เขียนเรื่องโกหก เรื่องไร้สาระ เรื่องไม่สร้างสรรค์...ฯลฯ ...ทำให้วงการบันเทิงเสื่อมคุณค่าเสื่อมเกียรติและผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิงได้รับความเสียหาย...
หนังสือพิมพ์ฉบับสุดท้ายหล่นจากมือที่ไร้เรี่ยวแรงของคัทลีนตกลงแทบเท้าซีต้าหรือสิทธาเจ้าของโมเดลลิ่งเทียร่ากรุ๊ปที่คัทลีนอยู่ในสังกัดมานานเกือบสี่ปี ผู้นั่งกุมขมับกับเรื่องข้อพิพาทของคัทลีนกับนักข่าวบันเทิงที่ลามเป็นไฟไหม้ทุ่งในวันเดียว โดยไม่มีโอกาสแก้ข่าวใดๆ
“หมด หมดกัน นักข่าวคอลัมน์บันเทิงหนังสือพิมพ์รายวันที่เราขอนัดให้มาสัมภาษณ์บอกไม่ว่างสักราย แค่ถูกปฏิเสธจากนักข่าวยังไม่เท่าไร รู้ไหมว่าตอนนี้เจ้าของโฆษณาที่ติดต่อไว้รายเล็กรายใหญ่ขอยกเลิกงานกันหมด ที่ทำสัญญาแล้วก็แจ้งขอเลื่อนไม่มีกำหนด แถมผู้จัดละครมาขอเปลี่ยนตัวอีก ตอนนี้หล่อนแทบไม่เหลืองานเลยนะยะ”
คัทลีนสำนึกได้ตั้งแต่แรกที่ความโกรธคลายลงว่าต้องมีผลเสียหรือผลกระทบตามมามากมาย นอกจากจะเป็นผลเสียแก่ตัวเองแล้วยังต้องกระทบไปถึงบริษัทต้นสังกัดอีกด้วย และด้วยความสำนึกผิดคัทลีนเลื่อนตัวลงจากเก้าอี้ พนมมือก้มกราบบนตักของผู้ที่นับถือเสมือนญาติ
“ลีนขอโทษค่ะ ที่ทำให้บอสกับบริษัทเสียหาย”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ถูกนิ้วชี้เรียวยาวทาเล็บสีม่วงแดงที่สวมแหวนพลอยโกเมนเม็ดเป้งจิ้มลงกลางหน้าผากพร้อมปากที่ศัลยกรรมให้อิ่มสวยเป็นรูปกระจับขยับเปล่งเสียงกึ่งหวานกึ่งห้าวสาดคำต่อว่าต่อขาน
“ย่ะ...เสียหายทั้งชื่อ เสียหายทั้งรายได้เชียวละ เงินนับล้านต้องปลิวหายไปในพริบตาด้วยพายุลมปากจากแรงโกรธของหล่อนนั่นแหละ”
จริตจะก้านเกินอิสตรีในท่าค้อนควักท่าสะบัดหน้าพรืดที่เห็นประจำทำให้คัทลีนยิ้มออก โอบแขนรอบเข่าที่เจ้าตัวชอบนั่งไขว่ห้างแล้ววางหน้าซบอย่างประจบเอาใจ
“บอสอย่าโกรธเลยนะคะ ตอนนั้นมันเลือดขึ้นหน้า ปัญญายั้งคิดหดหายหมด ก็พวกเขาเล่นตามจิกถามจะให้ลีนยอมรับเรื่องไม่จริงที่พวกเขากุขึ้นลูกเดียว ลีนก็เลยสติแตก”
“แล้วหม้อข้าวหล่อนก็แตกด้วยย่ะ ตอนนี้บริษัทบอสไม่มีงานให้หล่อนเลยนะ”
“ไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทำงานมาสามสี่ปีลีนก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ที่ลงทุนกับอาทิพย์ทำฟาร์มสเตย์รับนักท่องเที่ยวอีกเดือนเดียวก็เปิดกิจการได้แล้ว หากไม่มีงานทางนี้ลีนคงต้องขอบอสกลับไปช่วยงานทางบ้าน ลีนเองก็เริ่มเบื่อแล้วค่ะ มีแต่เรื่องร้อนใจไม่หยุดเลย”
“เบื่อ...หล่อนพูดได้ไงยะ" ซีต้าจับใบหน้าสวยคมแปลกตาขึ้นจ้องสบก่อนจะผลักเบาๆด้วยความรู้สึกทั้งเอ็นดูทั้งหมั่นไส้ แล้วว่าต่อ
“ใครเขาก็อยากเข้ามากอบโกยเงินในวงการนี้กันทั้งนั้น ขนาดลงทุนศัลย์หน้าศัลย์นม บางคนศัลย์มันแทบทั้งตัวก็เพราะอยากทำอาชีพนี้ หล่อนรู้ไหมกว่าบอสจะหาที่มีรูปสมบัติเต็มเนื้อเต็มตัวอย่างหล่อนได้สักคนก็ยากเหลือแสน และกว่าจะสร้างจะดันให้ดังขนาดนี้ก็ยากลำบากยิ่งกว่า จะเบื่อจะท้อไม่ได้นะ เข้าใจไหม”
แม้ซีต้าหรือสิทธาจะไม่เคยใช้ถ้อยคำหวานหูมากนัก คัทลีนก็รู้แก่ใจว่าเป็นความหวังดีที่อีกฝ่ายมีให้มาตลอด และสำนึกอยู่เสมอว่าที่ตนเองได้มายืนอยู่จุดนี้เพราะความหวังดีของซีต้า แม้จะมีผลประโยชน์แฝงอยู่ก็คิดว่าเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ หากทว่าสิ่งแวดล้อมกลับทำให้คัทลีนอ่อนล้าเบื่อหน่ายมากขึ้นทุกวัน
“ถ้าช่วงนี้ลีนไม่มีงาน ขอกลับไปอยู่บ้านสักพักนะคะ”
“บ้านไหน?...ที่ต่างจังหวัดน่ะหรือ พ่อแม่ก็ไม่มี จะไปอยู่ทำไม" ซีต้ารู้ว่าคัทลีนอยู่กับญาติที่จังหวัดเดียวกับเขา แต่มองไม่เห็นทางว่าญาติที่เลี้ยงดูคัทลีนมาจะช่วยเหลืออะไรได้มากเพราะทุกวันนี้คัทลีนก็ใช้เงินที่หาจากน้ำพักน้ำแรงเลี้ยงตัวเองและส่งเสียญาติอยู่แล้ว
การปลอมตัวเป็นญาติผู้พี่ ทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจน รับงานกับเงื่อนไขพิเศษที่ไม่รู้มาก่อน ความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเร่งด่วน เธอจึงไม่ปฏิเสธและขอเพิ่ม จากความสาวบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ความเผอเรอทำให้เธอตั้งครรภ์ ที่มารู้ภายหลังการถูกจ้างออกจากงาน โดยหญิงสาวที่แต่งงานเป็นภรรยาเขา เธอตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่เขากลับตามมาจะพาเธอกลับไป เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนมีภรรยาแล้ว จึงขู่จะฟ้องร้องโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นอิสระ จากพันธะการแต่งงานครั้งนั้นแล้ว
เธอเดินทางกลับจากเยี่ยมน้องชายกระทันหันจากการถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมสัมมนาที่วิชาการพิเศษจากต่างประเทศมาให้ความรู้ แต่เข้านอนยังไม่ทันหลับดีก็มีวัตถุหนักอืึ้งล้มทับลงกลางตัว และจากที่นอนปิดไฟมืดเธอต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่ามีผู้บุกรุกและคว้าปืนขึ้นมาป้องกันตัว แต่กลายกลับว่า...บุรุษผู้นั้นเป็นแขกพิเศษของโรงแรม...และจากวันนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง **************************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผน พาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัว เพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... **************************
เขาจำยอมจดทะเบียนกับเด็กกะโปโลตามใจบิดาที่กำลังจะสิ้นลม และทิ้งร้างจากเธอไปนานนับปี แต่เมื่อกลับมาเจอเธออีกครั้ง เขาถึงรู้ว่า...เธอสวยและน่าพิศวาสนักหนา...แต่ที่คิดว่าจะได้เธอมาครอบครองเธอตามสิทธิ์สามีถูกต้องตามกฎหมายกลับมีเรื่องเข้าใจผิดคิดว่าเธอทำให้มารดาเขาตายก่อนเวลาอันควร ฯลฯ นิยายรักแนวโรมานซ์(18+)อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำให้เพื่อนมาอ่านด้วยกัน
เขาไม่สนใจว่าที่คู่หมั้นที่หนีตามหนุ่มต่างชาติไปก่อนวันหมั้นหมายเพียงวันเดียว แต่พอมาเจอสาวสวยเชื้อสายไทยที่มีหน้าตาละม้ายเหมือนว่าที่คู่หมั้น เขาพึงพอใจในตัวเธอและสืบประวัติจนรู้ว่า...เธอเป็นน้องสาวคู่แฝดของว่าที่คู่หมั้น...และลักพาตัวมาไว้ในพระตำหนักสวนกุหลาบของพระมารดาที่ไม่เคยมีหญิงสาวคนใดได้เยี่ยมกรายเข้ามาและครอบครองเธอด้วยความรักพิศวาส แต่เกิดปัญหาเมื่อบิดามารดาของเธอมาตามบุตรสาวและพี่สาวคู่แฝดมาอดีตว่าที่คู่หมั้นปรากฏตัวก่อนวันอภิเษกสมรส
นิยายแนวทะเลทรายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เชิญชวนให้อ่าน เพราะเป็นนิยายที่มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน นักเขียนได้พาผู้อ่านไปสัมผัสกับชีวิตนางเอกที่ต้องเผชิญภัยจากผู้ปองร้ายโดยมีพระสวามีคอยปกป้องด้วยความรักห่วงใยต่างจากนิยายแนวทะเลทรายอื่นๆที่ให้ความสุขใจกับผู้อ่านอีกรูปแบบหนึ่ง *****...มกุฎราชกุมารีพระธิดาสุลต่านองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรต้องเข้าพิธีอภิเษกโดยไม่รู้ตัวและเดินทางสู่พระราชวังของพระสวามีเพื่อลี้ภัยจากผู้ปองร้าย แต่กลับต้องมาเจอศึกรักจากความริษยาของเหล่านางห้ามในพระราชวังและแผนร้ายของพระญาติฝ่ายพระสวามีกับผู้ปองร้ายหมายชิงบัลลังก์ร่วมมือกันวางแผนปลิดชีวิต...ชีวิตรักของพระ-นางคู่นี้จะเป็นอย่างไรไปติดตามด้วยกัน ...**** **********************
นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง