ลูกเขยกับแม่ยายผู้หิวโหยในกามโลกีย์
ไอ้เปียกมันเป็นหนุ่มบ้านนอกคอกนาอายุ 25 ปี อาชีพของมันเองก็ไม่ได้แน่นอนอะไรเป็นอาชีพนับเหมางานพวกต่อเติมบ้านและซ่อมแซมโครงสร้างต่างทั้งภายในภายนอกบ้าน
เพราะว่ามันเรียนจบมาทางด้านออกแบบก่อสร้างอาคารแต่มันไม่อยากจะไปทำงานอะไรที่วุ่นวายเลยทำงานรับเหมาจ๊อปเล็กแต่ก็มีรายได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
จนสามารถหาเงินเก็บได้ก้อนหนึ่งเอามาสู่ขอแล้วตกแต่งกับส่วนแฟนสาวของมันที่คบกันมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งแฟนมันตอนนี้ก็เป็นเมียมันแล้วเธอพึ่งอายุ 20 ปี
มันแอบคบและได้เสียกันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแต่ระหว่างที่คบกันไอ้เปียกมันก็แอบไปมีความสัมพันธ์สวาทกับสาวรุ่นพี่บ้างรุ่นน้า
และล่าสุดนี้ก็พึ่งมีอะไรกับสาวใหญ่เมียเจ้าของบ้านที่จ้างให้มันไปต่อเติมห้องที่บ้านพักในไร่
โดยเจ้าของบ้านที่เป็นผัวเขาต้องไปทำงานในตัวจังหวัดและบางทีก็นอนค้างอยู่ในตัวจังหวัดไม่ค่อยได้กลับบ้าน
เวลามันเข้าไปทำงานเก็บตกที่เหลือเพียงคนเดียวพวกคนอื่นก็ไปทำงานใหม่รอส่วนมันก็ต้องมาดูแลความเรียบร้อยเก็บตกส่วนที่เมียเจ้าของบ้านอยากให้ทำเพิ่มเติมอีกหน่อย
วันนั้นมันเลยขับรถเข้ามาในไร่แล้วก็เจอเมียเจ้าของบ้านเธอนั่งรออยู่เพื่อจะบอกตรงส่วนที่จะให้ทำเพิ่มเติมอีกจากนั้น
มันก็แอบมองร่องอกอวบอั๋นขนาดใหญ่ที่ปลิ้นทะลักทลายล้นคอเสื้อกว้างคว้านลึกลงมาจนอวดโชว์ร่องอกให้มันเห็นจนลำบ้องแข็งโป๊กขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
เพราะว่าขนาดของมันก็กว่า7นิ้ว จะไม่ให้เห็นลำนูนตึงเป้ากางเกงได้อย่างไรกันเลย
จนในที่สุดเมียเจ้าของบ้านกับมันก็อดใจไม่ไหวโผผวากอดเฟ้นฟัดกันจนแน่นมันเองก็เป็นพวกชอบอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างนี้อยู่
แล้วจึงเอากันอย่างเมามันกว่าสองชั่วโมงอย่างถึงใจเมียเจ้าของบ้านเธอถึงกับน้ำแตกเป็นสิบๆแต่มันแค่สองทีเพราะมันเป็นพวกท่อนใหญ่โตมโหราฬเอาทนทานนานจนผู้หญิงแตกแล้วแตกอีกอย่างถึงพริกถึงขิงเธอเองถึงกับเอ่ยปากชม
จากนั้นแล้วพอมันเข้าไปเก็บงานต่ออีกวันก็ได้จัดหนักเกือบทั้งวันแทบจะไม่แรงทำงานที่เหลืออีกเพียงเล็กน้อยเลย
จนสุดท้ายก็ต้องมาทำในวันอื่นจนเสร็จแล้วเมียเจ้าของบ้านก็เอาเงินมาจ่ายค่าแรงแล้วนั่งขย่มท่อนเอ็นของมันอย่างตายอดตายอยากแล้วมันก็อุ้มแตงเดินกระแทกบ้างยกล้อเกวียนบ้างเอาขนเธอสาสมใจเป็นการล่ำลาเพราะว่าเสร็จงานเก็บตกพอดี
ถ้าเป็นความต้องการจริงๆของมันนั้นไอ้เปียกมันเป็นผู้ชายที่ชอบเอาผู้หญิงสูงวัยนั่นเองแต่มันก็ไม่ได้แสดงความต้องการที่เป็นตัวจริงของมันให้เมียมันได้รับรู้เลยแล้วไอ้เปียกเองมันเป็ผู้ชายที่เหมือนเอาอกเอาใจเมียเทคแคร์ดูแลทั้งเมียและแม่ยายของมันจนตายใจ
แต่ความเป็นจริงแล้วมันชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่าแต่ว่าบังเอิญมาจับพลัดจับผลูได้เสียกับเมียมันก็เลยสงสารไม่อยากทิ้งไปเอาคนอื่นเลยคบกันเรื่อยมาจนกระทั่งตกแต่งกับเป็นครอบครัวแล้วก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเมีนมัน
เพราะว่าเมียมันอยู่กับแม่ที่เป็นหม้ายผัวตายแค่สองคนมันจึงต้องเป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอยู่ด้วยเอง
ในขณะเดียวกันถึงมันกับเมียมันจะเอากันอย่างถึงพริกถึงขิงไม่เว้นแต่ล่ะคืนแต่มันก็รู้สึกกระสันอยากเอากับผู้หญิงที่อายุมากกว่ามาโดยตลอดเลยที
จากนั้นแล้วพอไอ้เปียกลูกเขยตัวดีมันได้ย้ายเข้ามาในบ้านเมียมันได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องมีเหตุให้มันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เนื่องจากว่าคนเซ็กซ์จัดอย่างไอ้เปียกมันมีอารมณ์ทางเพศสูงพุ่งพล่านรุนแรงขึ้นๆ
เพราะว่าประมาณสัปดาห์ก่อนพอดีแม่เมียมันแกก็มีศักดิ์เป็นยายมันซึ่งแม่ยายมันพึ่งอายุเพียง 45 ปี อกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ
แต่สัดส่วนเว้าโค้งทรวดทรงองค์เอวของแกมันสะบรึ้มฮึ่ม!!เต้าเป็นเต้ามีขนาดใหญ่มหึมาเกินตัวและน่าจะนมใหญ่อั้นขนาดใหญ่กระเพื่อมยวบยาบใหญ่กว่าเมีนมันด้วยซ้ำไปหุ่น
ไอ้เปียกลูกเขยตัวดีมันแอบมองร่องอกอวบอั๋นขนาดใหญ่ขาวเนียนที่ปลิ้นล้นเสื้อในของแม่ยายที่เรือนร่างแกเอ็กซ์เซ็กซี่อย่างน่าจับข่มขืนเหลือเกิน
อีกอย่างเพราะว่าแม่ยายของมันแกเป็นผิวขาวเหลืองส่วนสูงก็ราวๆ 165 เซ็นติเมตร
และน้ำหนักก็ต่าจะประมาณ 48 กิโลกรัม กว่าๆ แล้วรูปร่างสัดส่วนและหน้าตาแกจัดว่าดูดีคับผิวพรรณยังดูเต่งตึงเหมือนสาวๆ
เพราะว่าแกมักชอบตื่นขึ้นมาแต่เช้าแล้วออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะบ้างสวนหลังบ้านบ้างแกชอบกำลังกายหรือทำนู่นนี่ตลอดเวลา
แต่ผัวแกก็คือพ่อของเมียมันตายลงไปแกก็ครองโสดเป็นแม่หม้ายทรงเครื่องที่มีหนุ่มน้อยใหญ่แวะเวียนมาขอเป็นคนดูแลแต่แกก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษอีกเลย
แต่แกก็คุยกับทุกคนได้อย่างมีจริตจะก้านว่านเสน่ห์ตามแบบฉบับของแม่หม้ายวัยทองอย่างน่าจับข่มขืน
ในขณะเดียวกันหลายๆครั้งที่มันมีโอกาศได้อยู่ใกล้ๆกับแม่ยายวัยทองของมันไอ้เปียกมันจะมีความรู้สึกคึกคะนองตื่นตัวตลอดเวลา
โดยเฉพาะช่วยล่างของที่อยู่พิไอ้กลิ่นตัวที่ประพรมด้วยน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆที่มันสูดดมจากร่างกายของแม่ยายจอมยั่วยวนอารมณ์ทางเพศของมันแล้วอวัยวะเพศขนาดใหญ่ของมันเกิดการทำงานอย่างอัตโนมัติผองผงาดขึ้นตับเป้ากางเกงแทบจะแตกเลยทีเดียว
ตอนนั้นไอ้เปียกมันเหลือบตาไปเห็นคอเสื้อที่ปากกว้างเว้าลึกเกือบจะครึ่งเต้าที่ขาวอวบอั๋นดันนูนล้นหลามออกมายิ่งทำให้ไปคนหื่นกามอย่างไอ้เปียกมันยิ่งมีความกำหนัดสวาทอารมณ์ทางเพศพุ่งพล่านอยากจะหาที่ระบายอารมณ์อยู่เป็นประจำ
ในขณะเดียวกันสายตาวาววับเป็นประกายของมันก็ชำเลืองตามองเรือนร่างอันอวบอั๋นเต่งตึงของแม่ยามมันอยู่บ่อยๆดูเหมือนแกเองก็ชอบที่จะเดิบโฉบไปมาแถวๆที่มันนั่งอยู่ตามลำพังจนมันแอบกลืนน้ำลายอย่างเหนียวหนึบลงคอทุกครั้งเลยทีเดียว
ถ้าวันไหนอารมณ์ทางเพศมันพุ่งพล่านมากอย่างนี้มันจะต้องหาที่ระบายอารมณ์แต่ว่าล่วงนี้เมียสาวของมันเธอก็ไม่ค่อยกลับมานอนที่บ้านเพราะว่าเป็นช่วงเข้าเวรติดต่อกันในสถานการณ์โควิด-19
มันไอ้เปียกมันก็เลยพยายามไปหาที่ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศกับหญิงหม้ายสาวรุ่นพี่บ้างบางทีก็บ้านพักทีามันรับเหมาผู้หญิงที่ผัวแก่ปรนเปรอไม่อิ่มแล้วมาอ๋อยเหยื่อมันให้ยัดเยียดความเป็นผัวให้มันก็ช่วยสงเคราะห์อย่างดุเดือดเลือดพล่านทุกครั้งเสมอ
ไอ้เพื่อนหื่นมันล่อทั้งเมียและแม่ยายเพื่อนสนิทอย่างรุนแรงดุเดือดเลือดพล่าน
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น