ถ้าชีวิตจริงมันง่าย คงไม่มีใครเจ็บปวดเพราะอดีตหรอก "เรารักกันมาตั้งนาน แล้วมันไม่รักกันตอนไหนวะ" เธอพร่ำพรรณาคร่ำครวญถึงวันวานที่แสนสุขตอนนี้กลับกลายเป็นความขมขื่น อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของหญิงสาวดับมอด เธอกลายเป็นคนชั่วทั้งที่เธอทำมันไปเพราะความรัก แล้วทำไมถึงไม่ได้รักตอบกลับมา
บทที่1
สายใย
ห้าปีที่แล้ว
"วันนี้เลิกงานกี่โมง ตาเวย์"
"ก็เหมือนทุกวัน พ่อจะถามทำไม ผมรู้หน้าที่ผมดีหน่าา"
"เออดี อย่างน้อยก็ยังมีความรับผิดชอบ"
สหรัสต่อว่าลูกชายตัวดี ตั้งแต่เขาอายุครบสิบแปด ก็กลายเป็นเสมือนผีดิบ กลับบ้านเช้าทุกวัน แถมมีหน้ามาเถียงกันหน้าด้านๆ ว่าที่ตัวเองกลับเช้าเพราะแม่ไม่ยอมให้กลับดึก แสบจริงๆเจ้าลูกชายตัวดี สมกับเป็นลูกชายคนเดียวของคุณสหรัส เจ้าของบริษัทเจเจคิวอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นนำทั่วเอเชีย
ซึ่งการต่อว่าของเขา ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องราวปรกติสุขของบ้านหลังนี้ เพราะเจ้าลูกชายตัวดีกลับมีสีหน้าที่ไม่สะทกสะท้านอะไร เป็นความสบายใจอีกรูปแบบนึง แถมยังดูเหมือนว่าเป็นที่น่าเอ็นดูสำหรับบ้านหลังนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนในบ้านแม้แต่คนใช้รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและความน่ารักของเจ้านาย
"ยังไงอย่าลืมถามน้องด้วยนะ ว่าอยากกินอะไรหรืออยากได้อะไรก่อนเข้าบ้านรึเปล่า นี่ก็เรียนปีสองแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กไปได้ ชอบหาข้ออ้างแวะออกไปตอนกลางคืน ทั้งพี่ทั้งน้อง" วิชุดาผู้เป็นมารดาขอบ่นบ้าง ที่ลูกทั้งสองนั้น ชอบหาเรื่องมาอ้างออกจากบ้านดึกๆดื่นๆทุกวัน ลำพังเจ้าลูกชายก็ไม่ห่วงหรอก โตจนตัวใหญ่กล้ามเป็นมัดๆแบบนี้แต่ลูกสาวนี่ล่ะสิ
เวย์คินได้แค่ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารเช้าตรงหน้า ไม่ได้ตอบกลับมารดาแต่อย่างไร
"เรานี่ก็นะ ตาเวย์ ตามใจน้อง ชอบพาน้องออกไปเที่ยวดึกๆดื่นๆ ทำไม มีอะไรให้ทำกันนักหนา ฮึ"
คำถามประโยคสุดท้ายของผู้เป็นมารดา ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสำลัก รีบหยิบแก้วน้ำตรงหน้ามาดื่มก่อนที่ไข่ดาวที่ติดคออยู่จะทำให้ตัวเองหายใจไม่ออก เมื่อทุกอย่างกลับมาเข้าที่เข้าทาง เบล สาววัยสิบเก้า ก็เข้ามาหอมแก้มผู้เป็นมารดา เธอทำแบบนี้อยู่ทุกวัน พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ตัวเดิมที่เธอนั่งอยู่เป็นประจำออก ก่อนจะนั่งลงพร้อมกับหันไปมองหน้าเวย์คิน พี่ชายของเขาพร้อมเผยรอยยิ้มอยู่สักพัก และหันมาทางมารดา
"เบลล์ชอบนี่คะ เบลชอบที่พี่เวย์ตามใจ แม่อย่าดุพี่เวย์น๊าาา" เธออ้อนผู้เป็นมารดา พร้อมกับทำตาปริบๆ ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จ ผู้เป็นมารดาใจอ่อน ได้แต่ส่ายหัวให้กับความเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของสองพี่น้อง
พี่น้องรักกันมันก็ดี แต่ขอให้รักในแบบพี่น้องจริงๆก็พอ
เบลนั่งทานข้าวในขณะที่มือนั้นก็คอยจัดทรงกระโปรง เธออยู่มหาวิทยยาลัยปีสองแล้ว เธอจึงได้เปลี่ยนยูนิฟร์อมจากกระโปรงพลีทมาเป็นกระโปรงทรงเอ ซึ่งเธอก็ตั้งใจเลือกตัวที่สั้นเหนือเข่า เพื่อที่จะได้ใส่แล้วดูโตและดูสาวสมวัยเธอ แต่นั่นมันก็ทำให้เวลานั่งเธออาจจะยังไม่ชิน เพราะมันเลื่อนขึ้นมาจนเห็นขาอ่อนเธอ
"ทำไมไม่ใส่ตัวที่มันยาวๆ หรือไม่ทำไมไม่กลับไปใส่แบบเดิมล่ะ ฮะ" น้ำเสียงคมเข้ม แต่ก็มีความรำคาญซ่อนอยู่เวย์คินที่นั่งข้างๆต่อว่าพร้อมกับเรียกสาวใช้ข้างๆให้ไปหยิบผ้ามาสักผืน ไม่นานสาวใช้มาถึงก็ยื่นผ้าให้กับเขา แต่เขากลับบอกให้ยื่นให้เธอแทน
"พี่เวย์ไม่ชอบหรอคะ ที่เบลล์ใส่แบบนี้" เธอถามกลับอย่างน้อยใจ แต่ก็ต้องรีบปั้นหน้ายิ้ม ก่อนที่มารดาและบิดาของทั้งสองจะจับพิรุจได้
ทั้งสองเดินมายังรถสปร์อตสัญชาติยุโรปคันประจำที่เวย์คินใช้ ในสายตาคนภายนอกนั้นอาจจะมองว่าสองพี่น้องนี้รักกันดีเป็นที่น่าอิจฉาของสาวๆ เมื่อเห็นพี่ชายที่หล่อเหลาดั่งพระเจ้าปั้นมาเองกับมือคอยรับส่งน้องสาวที่มหาลัยอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ปีหนึ่งจนปัจจุบัน
"ข้าว ไปด้วยกันสิ"ขณะที่เวย์คินกำลังเปิดประตูข้างคนขับให้เบลล์อยู่นั้น ข้าว สาวอีกคนในบ้านรุ่นราวคราวเดียวกับเบลก็กำลังเดินออกจากรั้วบ้านเพื่อไปมหาลัยพอดี เธออยู่ในท่าทีรีบร้อน เพราะระหว่างทางนั้น เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่ง พร้อมพยายามยัดเสื้อนักศึกษาเข้ากระโปรง เมื่อได้ยินเสียง เบลล์ เธอจึงหยุดและตอบไปส่งๆอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวไปเองดีกว่า ขอบใจนะ" พูดจบเธอก็เดินจากไปโดยไม่สนใจจะหันมองมาที่คนถามและเจ้าของรถด้วยซ้ำ
เวย์คินไม่ได้สนใจอะไร เขาขับรถออกมาจากบ้านตัวเองตามปรกติ เพราะก่อนที่เขาจะไปทำงาน ยังต้องแวะส่งน้องสาวที่มหาลัยเสียก่อน เขาขับรถมาตามทางตามปรกติซึ่งเป็นเส้นทางบ้านเขาไปถึงถนนหลัก ในตอนนั้นสายตาก็มองเห็นร่างเล็กซึ่งมองจากข้างหลังก็พอดูออกว่าเป็น ข้าว กำลังเดินอยู่บนริมถนน ถ้าเดาไม่ผิด คงกำลังไปป้ายรถเมล์ เมื่อเบลล์เห็นแบบนั้นจึงได้ลดกระจกลง เพื่อเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง
"พี่เวย์ ขับช้าลงหน่อยค่ะ" เวย์คินนั้นไม่อยากโดนเธองอลอีก ได้แค่ทำตามคำขอ
"ไปด้วยกันเถอะข้าว ไหนๆเราก็เรียนที่เดียวกัน"
"ไม่เป็นไร เบลล์รีบไปเหอะเดี่ยวจะสายเอานะ"
"ข้าวก็ไปด้วยกันสิ ห่วงแต่เบลล์ ตัวเองก็จะสายแล้วเหมือนกันแหละ"
เมื่อเห็นหญิงสาวนอกรถไม่มีท่าทีที่จะอ่อนข้อลง เวย์คินจึงเหยียบคันเร่งโดยไม่สนใจแล้วว่า เบลล์ นั้นจะงอลหรือโกทธเขาหรือเปล่า เพราะเขารู้ดี ว่าข้าวนั้นเป็นใจแข็งและหยิ่งยิ่งกว่าอะไร
กล่อมคนแบบนี้ไปมีแต่เสียเวลา
"พี่เวย์ เหยียบคันเร่งแบบนั้น ข้าวก็โดนฝุ่นหรอก" เบลล์หันมาผูกคิ้วปมอย่างหงุดหงิด ที่พี่ชายเขาทำนิสัยแบบนี้
"พี่รีบ เดี่ยวเราแวะคอนโดก่อนไหม เบลล์มีเรียนกี่โมง ถ้าเรียนเช้า ก็แวะที่เดิม บนรถก็ดีนะ " นัยตาสีดำเข้มหันมามองหญิงสาว มือสากลูบไล้ขาอ่อนจากตอนแรกที่ออกจากบ้านแค่ลูบไล้ตรงขาอ่อน แต่ตอนนี้นั้นลูบขึ้นไปถึงชั้นในกระโปรง นิ้วยาวคลึงบดรอยแยกใต้กระโปรงอย่างคุ้นมือ
"พี่..เวย์" เบลเริ่มครางเสียงตะกุกตะกัก แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้เวย์คินทำตามใจบนเรือนร่างของเธอ เวย์คินเห็นแบบนั้นก็ได้ยิ้มออกมา เขารู้ทันจุดอ่อนของเธอ และใช้มันก่อนที่จะถูกเธองอล
ดักไว้ก่อน
"แวะที่เดิมแหละเนาะ ไกล้มหาลัยกว่า" ขายาวทำการเหยียบคันเร่งไปยังที่ประจำของเขาและเธอ เมื่อมาถึงก็ไม่รอช้า รีบหามุมจอดรถมุมลับตาคน พร้อมปลดสายคาดเบลล์ของเขาและเธอออก ร่างใหญ่ทำการค่อมร่างเล็กที่นอนรอเขาอยู่แล้ว พร้อมค่อยๆกดให้เบาะนั้นนอนลงไป
มือใหญ่ลูบผมสรวยพร้อมจ้องหน้าสวยตรงหน้า
"พี่เวย์ เมื่อคืนนี้ก็หลายรอบแล้วนะคะ ไม่เหนื่อยไม่เพลียบ้างหรอ"
"แล้วใครให้เราใส่กระโปรงสั้นแบบนี้ล่ะ"
"พี่เวย์ชอบหรอคะ" ใบหน้าสวยอมยิ้มที่ความพยายามเอาใจของเธอเหมือนได้ผล เธอเห็นคู่ควงของเขา ส่วนใหญ่มักจะแต่งตัวเซ็กซี่ เธอเลยอยากลองเปลี่ยนมาเอาใจเขาบ้าง และได้ผล เขาสนใจเธอ แม้ต่อหน้าคนอื่นนั้น เขาจะแกล้งเย็นชาไม่สนใจเธอเลยก็ตาม
หน้าสวยเป็นฝ่ายยื่นริมฝีปากเข้าประกบเจ้าของริมฝีปากหนาที่ค่อมเธออยู่ มือหนาโผประคองหนังศรีษะเล็กก่อนจะสอดลิ้นนุ่มเข้าไป แลกลิ้นกันพันละวัน เสื้อนักศึกษาที่รีดมาอย่างเรียบถูกเลิกขึ้นมาบนบ่า ชายหนุ่มละจากริมฝีปากหวานเลื่อนลงมาสนในหน้าอกกลมโตที่ถูกปิดบังด้วยบรา เขาปลดตะขอบราออกอย่างชำนาญมือ
......................................................
ตอนแรกก็นัวมาเลยค่าาา
สวัสดีค่า คริลัวมาแล้ววว ฝากนิยายใหม่ของไรท์ด้วยนะคะ
อย่าลืมกดติดตามเพื่อแจ้งเตือนตอนใหม่ กดหัวใจและคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้กันเยอะๆนะ
""
แพน เด็กสาวที่ถูกแม่เลี้ยงขายให้กับเศรษฐี เพื่อแลกกับการปลดหนี้ในครอบครัว ในวันที่หลีกหนีความชิบหายไม่พ้นก็ยังมาซวยเจอเขา เขาที่ทำร้ายน้ำใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ -เอากับเธอให้กูดูหน่อย- เนื้อเรื่องบางส่วน "เธอจะเรียกร้องสิทธิอะไร เธอลืมไปแล้วหรอ ว่าเราจ่ายค่าตัวเธอไปเท่าไหร่ แล้วเราซื้อตัวเธอมาเพื่ออะไร" น้ำเสียงถามกลับอย่างเย้ยหยัน ทำให้คนใต้ร่างน้ำตาคลอ -ชีวิตที่น่าสมเพช-
มะลิ หญิงสาวที่ต้องทำงานเป็นคนรับใช้อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่เพื่อชดใช้หนี้ แต่ความโชคร้ายคือเธอดันตกเป็นทาสกามารมณ์ของ คุณตาม ลูกชายคนเล็ก ของคุณหญิงวงแหวน ที่คอยหาเรื่องแกล้งเธอ เพราะคุณหญิงเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรดี แต่อยู่ๆ คุณหญิงก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสละ มะลิจึงรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ หนีไปอยู่กับเพื่อนสาวและเพื่อนชายคนสนิท แต่เธอกลับมารู้ตัวว่าตั้งท้อง ถึงเธอจะเลือกเก็บลูกไว้ และเลือกจะใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ทุกอย่างมันกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิด คุณตามปล่อยนะคะ เดี๋ยวคุณหญิงจับได้ คุณก็รู้ว่าคุณหญิงเกลียดฉัน ก็อย่าให้ใครรู้สิ ถ้าเธอไม่พูด ฉันไม่พูด เรื่องของเรา มันก็จะเป็นแค่ความลับ แต่ว่า อย่ามัวแต่หาข้ออ้างยื้อเวลาฉันเลย เธอแค่อ้าขาก็พอ..
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"