จากแฟนเก่าสุดรักครั้งวัยเด็ก ที่เคยเลิกรากันไปนานถึงห้าปี แต่พรหมลิขิตชักพาให้เขาสองคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานะท่านประธานกับเลขา ________________________ “นายเลิกยุ่งกับฉันได้ไหม ขอร้องละ” ริสาหดลำคอถอยหนีด้วยความกลัว เมื่อก่อนเคยโมโหร้ายยังไง ตอนนี้เขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้น!?” “....” หญิงสาวน้ำตาคลอเมื่อคนตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “เมียเก่าของฉันดูน่าสงสารจังเลยนะ” “เลิกแกล้งฉันสักทีได้ไหม จะทำร้ายความรู้สึกฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน?” “พอโดนฉันเอาคืนแค่นี้ ถึงกลับทนไม่ได้เลยเหรอ?” “แล้วต้องให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันชดใช้ยังไงก็บอกมาสิ” “มันชดใช้แทนกันไม่ได้หรอก เพราะฉันเจ็บปวดกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ” “ฉันก็เจ็บปวดไม่แพ้นายนั่นแหละ” “ถ้าเจ็บปวดแล้วทำไมไม่กลับมา ทำไมต้องทิ้งฉันไปแบบนั้น!” “....”
HUGO SCHOOL
“ดูสภาพยัยริสาสิ น่าเวทนาสิ้นดี”
“กล้าดียังไงมาชอบเหมันต์ คนอะไรไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว”
“ชาตินี้ทั้งชาติ เหมันต์ก็ไม่มีวันชายตาแลหล่อนหรอกย่ะ”
ริสาได้แต่ก้มหน้าเดินผ่านคนพวกนั้นออกไปเงียบๆ ‘เหมันต์’ คือเพื่อนชายร่วมห้องที่เธอแอบชอบมานานหลายปี
แต่นั่นก็ได้แค่คิด เพราะเขาและเธอแตกต่างกันมากเหลือเกิน ไหนจะสถานะทางครอบครัวที่เหมันต์รวยกว่าเธอมากเป็นไหนๆ ไหนจะทางรูปร่างหน้าตา บอกเลยว่าเธอต้องอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ
ริสาเป็นเด็กสาวอายุสิบเจ็ด ที่กำลังศึกษาเรียนชั้นมัธยมอยู่ที่โรงเรียนระดับจังหวัด เธอมีรูปร่างอวบอ้วน ผิวขาวเหลืองออกไปทางซีด หน้าตาก็ถือว่างั้นๆ ใส่แว่นตากรอบหนา กับกระโปรงนักเรียนยาวคลุมเข่า
และแล้วความลับที่ปกปิดมานานต้องถูกเปิดเผยเมื่อมีคนเห็นจดหมายสารภาพรักของเธอที่เขียนถึงเหมันต์ พอข่าวหลุดออกไป เพื่อนๆ หลายคนเอาแต่ล้อเธอ โดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด
“หน้างอมาอีกแล้วเพื่อนฉัน ยัยพวกนั้นมันว่าแกอีกแล้วใช่ไหม?” อิงฟ้าเพื่อนสนิทเอ่ยถามด้วยความเดือดดาลแทนเพื่อนรัก เพราะอุปนิสัยของริสาคือยอมคน และไม่ค่อยทันโลกภายนอกสักเท่าไร
“ช่างมันเถอะ ฉันชินแล้ว” ริสาตอบอย่างไม่ใส่ใจ พลางหยิบขนมปังใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ถึงน้ำหนักจะปาเข้าเลขเจ็ด แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการกินแต่อย่างใด
แต่แล้วหัวใจดวงน้อยดันกลับมาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อเห็นใครบางคนที่กำลังเดินผ่านหน้าเธอไป
ดวงตากลมโตจ้องมองผู้ชายคนนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม เพราะเขาคือเหมันต์คนที่เธอแอบชอบมาโดยตลอด
“หล่อจัง” ริสาเอ่ยเพราะตกอยู่ในภวังค์ความหล่อของเด็กหนุ่มที่เพิ่งเดินผ่านไป
ความสูงของเขาอยู่ที่ราวๆ ร้อยแปดสิบกว่าได้ คิ้วเข้มหนา สันจมูกโด่งคม ผิวหนาเนียนละเอียด ปากสีชมพูอ่อนๆ ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องชื่นชอบเหมือนเธอ
“ตื่นได้แล้วย่ะ ไอ้เหมันต์ของแกมันเดินไปนู้นแล้ว” อิงฟ้าดึงสติเพื่อนสาวที่ดูเหมือนว่าจะหลุดลอยไปไกล
“…..” ริสาถอนหายใจ ก่อนจะวางหน้าซบลงบนโต๊ะหินอ่อนอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอพยายามอยู่หลายครั้งที่จะเลิกชอบเหมันต์ แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนเลิกชอบเขาไม่ได้อยู่ดี
“ริสา คงทวี”
เด็กสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาไทยเรียกชื่อ
“ริสามาค่ะ” เธอขานรับ
“คะแนนสอบออกมาแล้วนะ ริสาได้สามสิบคะแนนเต็ม เก่งมากจ้ะ”
เด็กสาวยิ้มกว้างออกมาด้วยความภาคภูมิใจ ที่อย่างน้อยเธอก็ยังพอมีสมองอันชาญฉลาดที่เป็นข้อดีอยู่บ้าง
“เหมันต์ วรตระกูล ได้สามสิบคะแนนเต็มเหมือนกันนะ”
“ฮิ้ววววว เก่งมากๆ เลยเหมันต์” เพื่อนๆ ร่วมห้องต่างพากันปรบมือโห่ร้องแสดงความชื่นชมยินดี ต่างจากริสาที่ไม่ได้กลับมาแม้เสียงปรบมือ
“พอเป็นผู้ชาย ยัยพวกนี่มันสองมาตราฐานชัดๆ เลยแฮะ ยัยพวกกิ้งก่าแอฟริกาใต้ เห็นแล้วหมั่นไส้ อยากจะอ้วก!” อิงฟ้าจิ๊จ๊ะในลำคอด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ที่เพื่อนผู้หญิงในห้องต่างพากันไม่ชอบริสา ต่างจากเหมันต์ที่ทุกคนต่างพากันรุมล้อมให้ความสนใจ
“ช่างเขาเถอะน่า อย่าไปใส่ใจเลย” ริสาพูดอย่างปลงๆ
“ต่อไปนี้อาจารย์จะให้นักเรียนออกมาจับคู่เพื่อทำโครงงาน กำหนดส่งคืออาทิตย์หน้า มีคะแนนเก็บให้ยี่สิบคะแนน ทุกคนพร้อมไหม?”
“พร้อมค่ะ/พร้อมครับ” นักเรียนในห้องต่างส่งเสียงขานรับพร้อมกัน
“งั้นเรามาเริ่มกันเลย” อาจารย์ประจำวิชาวางโหลแก้วที่มีรายชื่อนักเรียนทุกคนลงบนโต๊ะ
“เลขที่1 เหมันต์ เชิญออกมาจับฉลาก”
“สาธุขอให้จับได้เลขที่ฉันด้วยเถอะ”
“ให้ได้ฉันดีกว่า ฉันอยากคู่กับเหมันต์”
“เหมันต์ต้องจับชื่อฉันได้แน่นอน เพราะเขาเป็นเนื้อคู่ฉัน”
เด็กสาวในห้องต่างพากันจับกลุ่มคุยซุบซิบเมื่อเห็นเหมันต์เดินผ่านหน้าไป ไม่เว้นแม้แต่ริสาที่เหลือบสายตามองตามเขาไปเช่นกัน
“ถ้าพร้อมแล้วจับได้เลยจ้ะ”
เหมันต์ล้วงมือเข้าไปจับฉลากที่อยู่ในโหลแก้วแบบไม่ลังเล พอได้ใบรายชื่อที่ต้องการจึงยื่นมันให้อาจารย์
“เหมันต์จับได้เลขที่27”
“…..” นักเรียนในห้องต่างพากันหันขวับไปมองหาเจ้าของเลขที่27 แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของคนนั้นจะยังไม่ปรากฏตัว
“ใครเลขที่27 รายงานตัวด้วยจ้ะ”
“เลขที่27?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อได้ยินอาจารย์เรียกเลขที่ของตัวเอง ริสาเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อคิดได้ว่ามันคือเลขที่ของเธอ
“ทำหน้างงอะไร ก็เธอนั่นแหละยัยเผือก” เหมันต์ตะโกนเรียกเด็กสาวที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดของห้อง ตอนนี้เธอกำลังทำหน้าตาเหลอหลา
“ริสา คงทวี เธอได้คู่กับเหมันต์นะ”
“คะ…คะ?” ริสาหยัดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงง ตอนนี้มันเหมือนกับความฝันก็ว่าได้
“เวรกรรมอะไรของเหมันต์ที่จับได้ยัยริสา”
“ยัยนี่มันทำบุญด้วยอะไร กรี๊ดดดด”
“ดูสภาพมันสิ หมาวัดกับเครื่องบินชัดๆ เลย”
เด็กสาวถึงกลับนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นสายตาของเพื่อนๆ และคำซุบซิบที่กำลังหมายถึงเธอ
“จะหุบปากกันได้หรือยัง หนวกหู!” เหมันต์ที่ยืนเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งพอเพื่อนๆ ร่วมห้องได้ยินต่างพากันเงียบลงในทันที
อาจจะเป็นเพราะเขานิ่งเงียบ รักสันโดษและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เลยทำให้คนอื่นๆ รู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง
“เอาเป็นว่าเหมันต์ได้คู่กับริสานะ”
“ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์ หนูอยากให้เหมันต์จับฉลากใหม่” ริสาพูดอย่างไม่มีทางเลือก ถ้าเธอได้คู่กับเหมันต์จริงๆ มีหวังพวกเพื่อนคงได้เกลียดเธอมากกว่านี้แน่ๆ
“เอางั้นเหรอ?”
“ค่ะอาจารย์ ให้เหมันต์จับฉลากใหม่” ริสายังยืนยันกับอาจารย์ประจำวิชาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ถ้างั้นเหมันต์จับฉลากใหม่อีกทีนะ”
“ไม่ครับ ผมขอเลือกริสา”
“…..”
ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายสองคนในคราเดียว ยิ่งฉันหนี พวกเขาก็ยิ่งตาม! “ไอ้พระรามมันเคยทำกับน้องกูแบบไหน กูก็จะทำกับน้องมันแบบนั้นแหละ!” ปึง! ไดมอนด์วางแก้วเหล้ากระทบกับโต๊ะกระเบื้องอย่างแรงเพื่อระบายความรู้สึก เมื่อนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต “กูขอเวลาสองเดือน กูจะปิดจ๊อบน้องมันให้ได้” “สองเดือนเลยหรอวะ ระดับคุณไดมอนด์แค่เดือนเดียวก็พอมั้ง?” “ไม่มีปัญหา เดือนเดียวก็เดือนเดียวสิวะ” “แล้วมึงอ่ะไอ้ดิน เห็นด้วยกับไอ้มอนด์หรือเปล่า?” เพื่อนชายในกลุ่มหันไปถามแผ่นดินที่เอาแต่นั่งกอดอกเงียบตั้งแต่มาถึง “เอาดิ! ช่วงนี้กูว่าง ไม่มีอะไรทำ” แผ่นดินแบบไม่ใส่ใจมากนัก “ใครที่ปิดจ๊อบยัยนั่นได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ ตกลงไหม?” ไดมอนด์หันไปกอดคอแผ่นดินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน “ชนะแล้วได้อะไร?” “สามล้าน!” “กูขอห้าล้าน!” แผ่นดินต่อรองพร้อมกับหันไปจ้องหน้าเพื่อนชาย “ถ้าไม่ได้ห้าล้านก็ไม่เล่น เสียเวลา!” สิ้นประโยคนั้นเขาก็หยัดตัวลุกขึ้น แต่ถูกไดมอนด์คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน “ได้ดิ! ไม่มีปัญหา ห้าล้านก็ห้าล้าน”
“มึงอยากจะคิดยังไงก็เชิญ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ากูไม่เคยรักมัน” “......” “เรยามันก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วๆ ไป ใช้แค่เศษเงินแลกไม่กี่บาทกูก็ได้เอาแล้ว” เคร้งงงง เสียงแจกันที่อยู่แถวนั้นหล่นแตกกระจัดกระจาย เมื่อฉันเดินถอยหลังไปชนแบบไม่ตั้งใจ ทำให้คนที่อยู่ในห้องต่างพากันหันมามองตามเสียง รวมถึงคุณใหญ่ที่กำลังมองมาในแววตาของเขาที่มองฉัน มันไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรอยู่เลย มันมีแต่ความว่างเปล่า น้ำตาของฉันมันค่อยๆ ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง เมื่อได้ยินประโยคที่พวกเขานั้นพูดคุยกันก่อนหน้านั้น ที่ผ่านมาคุณใหญ่ไม่เคยรักฉัน มีแต่ฉันที่คิดไปเองว่าเขานั้นรัก แล้วทำไมเขาถึงต้องมาวาดฝันร่วมกับฉัน ให้ฉันคิดไปไกลคิดไปเองคนเดียว ทั้งๆ ที่ความรู้สึกเล่านั้น มันไม่เคยมีอยู่จริง! “แสดงว่าที่ผ่านมา คุณหลอกฉันมาโดยตลอด” ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มันเจ็บเหมือนใจมันจะขาดที่ได้เห็นภาพตรงหน้า “ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เอง!” “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม!?” ฉันกรีดร้องลั่นออกมาจนสุดเสียงที่มี สติของฉันตอนนี้มันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว “ผู้ชายเวลามันอยากเอา มันก็ทำได้หมดนั่นแหละ!” “......” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงเงียบไม่พูดอะไรต่อ มันหมดเรี่ยวแรงแล้วตอนนี้
เพล้ง! โจเซฟเขวี้ยงแก้วเหล้าที่อยู่ในมือทิ้งลงบนพื้นจนแตกละเอียดกระ จัดกระจายเมื่อนั่งดูคลิปของกล้องวงจรปิดที่พึ่งกู้คืนกลับมา เขาเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ทั้งหมดว่ามันเป็นแผนของดารินที่เป็นคนจัดฉากนี้ขึ้นมา ที่ผ่านมาเธอคงหลอกใช้เขาและเห็นเขาเป็นแค่ทางผ่านเพื่อไปหาเหมันต์ ไม่ว่าจะพยายามติดต่อหรือใช้เบอร์แปลกโทรไปหา เธอก็รู้และไหวตัวทันไม่ยอมรับสายมันยิ่งทำให้แน่ใจขึ้นไปอีกว่าเรื่องที่ผ่านมาเขากลายเป็นหมากที่ดารินวางไว้ “คิดจะทำแบบนี้กับฉันงั้นเหรอ แล้วเธอจะได้รู้ว่านรกบนดินมันเป็นยังไง” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มพลางมองไปยังรูปถ่ายของดารินที่มีทุกอริยาบถนับร้อยนับพันรูปที่ติดอยู่บนผนังในห้องลับส่วนตัว เขาแอบถ่ายไว้สมัยเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน “เบบี้ของฉัน อดใจรออีกนิดนะ เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอมาอยู่ด้วยกัน ใบหน้าคมคายโน้มลงไปจูบที่รูปถ่ายของดารินด้วยความหลงไหลและโกรธแค้นไปพร้อมๆ กัน “ฉันแทบจะอดทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วสิ”
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลิวฉูฉู่นางเอกดังย้อนเวลากลับเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ตัวเองแสดง ทว่าเรื่องไม่ง่ายเลยสักนิด เมื่อเธอ ต้องเข้าไปอยู่ในร่างนางร้ายที่สุดท้ายต้องตายตอนจบเพราะถูกพระเอกฆ่าตาย! หลิวฉูฉู่จึงต้องทำทุกวิธีที่จะให้รอดพ้นจากความตายนี้ "ฝ่าบาท รักนะเพคะ" นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวสุขนิยม สายคลั่งรักไม่ควรพลาด ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านคลายเครียด นุบนิบหัวใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดวัน หมายเหตุ ซื้อในเวบถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................