"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
กลางดึก
เซิ่งเกอนอนอย่างกระสับกระส่าย
เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคนทับอยู่บนตัว จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก
ข้างหูยังมีเสียงลมหายใจหนักหอบ
แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บแสบที่ด้านล่าง
หลังจากได้สติ เซิ่งเกอก็ลืมตาขึ้นอย่างตกใจ แลเห็นเงาลาง ๆ ของผู้ชายที่อยู่บนตัวเธอ
“หยุนเหนียน ใช่..... คุณไหม?”
ชายคนนั้นส่งเสียง “อื้ม” ขึ้นมาเบา ๆ ในลำคอ บนตัวคละเคลาไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ หลังจากที่เขาจู่โจมรอบแล้วรอบเล่า ก็ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ อีก
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เซิ่งเกอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ปล่อยตัวไปตามการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย แล้วก็ส่งเสียงครวญครางในลำคอออกมาโดยไม่รู้ตัว
การจู่โจมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด ตัวเธอเหมือนกับจมดิ่งลงไปภายใต้บรรยากาศชวนรักชวนฝัน ราวกับว่าเธอกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ในที่สุดเฟิงหยุนเหนียนก็ยอมแตะเนื้อต้องตัวเธอสักที!
เนื่องจากเธอเป็นภรรยาที่คุณท่านยัดเยียดให้เขา หลายปีที่ผ่านมานี้เฟิงหยุนเหนียนจึงไม่เคยมองเธอเต็ม ๆ ตาเลย
ครั้งนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ที่ทำให้เขาเข้ามาในห้องเธอ
นั้นก็ทำให้เธอก็มีความสุขมาก!
สองชั่วโมงต่อมา เฟิงหยุนเหนียนก็นอนลงบนตัวเธออย่างอ่อนล้าพร้อมกับเสียงครวญคราง แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเผยให้เห็นรูปร่างที่เพอร์เฟคของเขา
เซิ่งเกอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเร็วมาก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่กลับเหมือนเป็นความฝัน
หากเป็นความฝันจริง ๆ เธอคงไม่อยากที่จะตื่นตลอดไป
เธอโอบท้ายทอยเขา ราวกับตกอยู่ในความหลงใหล พลางหอบหายใจหลังออกกำลังกายเสร็จ “หยุนเหนียน.....หยุนเหนียน จริง ๆ แล้วฉัน......”
ก่อนที่เธอจะทันได้เอ่ยคำว่า “รักคุณมาก” ออกไป อีกฝ่ายก็พึมพำขึ้นมาด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า
“อาหนิง.......”
เซิ่งเกอแข็งเป็นหินไปในทันที
หัวใจของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง เหมือนเลือดทั้งตัวของเธอกำลังไหลย้อนกลับ
อาหนิงเป็นชื่อเล่นของมู่จือหนิง ธอเป็นรักแรกที่เฟิงหยุนเหนียนรักหมดหัวใจ เป็นเพราะฝีมือของคุณท่าน หลายปีมานี้เธอจึงอยู่แต่ต่างประเทศมาตลอด
แต่เมื่อวานนี้มู่จือหนิงกลับมาแล้ว
แถมยังส่งข้อความมาหาเรื่องเธออีกด้วย
“เซิ่งเกอ ฉันกลับมาแล้วนะ ไม่มีที่สำหรับเธอในตระกูลเฟิงอีกแล้ว!”
“ฉันกับอาหยุนรักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอคิดจริง ๆ เหรอว่า แค่เธอเข้ามาไม่กี่ปีก็จะมาแทนที่ของฉันได้น่ะ?! ไปให้พ้น กลับไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะ ที่นั่นต่างหากคือที่ที่เธอควรอยู่”
“เธอไม่รู้เหรอว่าอาหยุนรักฉันมากแค่ไหน แม้ว่าเขาจะนอนอยู่บนเตียงของเธอ แต่เขาต้องเรียกชื่อของฉันอย่างแน่นอน แล้วเธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนของฉันเท่านั้น เซิ่งเกอ ความรู้สึกแบบนี้มันคงจะแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?”
ตัวแทนงั้นเหรอ?
เธอเป็นหลานสะใภ้ที่คุณท่านเป็นคนกำหนด เธอเป็นคุณนายเฟิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย เธอคือเซิ่งเกอ! เธอไม่ใช่ที่ตัวแทนของใครทั้งนั้น!
ที่ข้าง ๆ หู เฟิงหยุนเหนียนยังพูดขึ้นมาว่า “อาหนิง อาหนิง”
ส่วนข้อความประชดประชันเหล่านั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุด มันแสดงให้เห็นว่าเธอหลอกตัวเองมากแค่ไหน!
ทันใดนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เซิ่งเกอกำมือแน่น พยายามควบคุมตัวที่กำลังสั่นเอาไว้
หลายปีที่ผ่านมา เธอคอยระมัดระวังทำตัวเชื่อฟัง หรือแม้กระทั่งลาออกจากงานมาเพื่อเป็นภรรยาที่ดีของเฟิงหยุนเหนียนด้วยความเต็มใจ
แต่แม่สามี และน้องสาวของสามีคิดว่าเธอเป็นคนที่ไม่มีภูมิหลังที่ดี เป็นพวกที่เกลียดคนจน รักคนรวยมาก จึงพยายามกลั่นแกล้งเธอสารพัด ทำให้เธอต้องอับอาย เธอที่ไม่อยากสร้างปัญหาให้เฟิงหยุนเหนียน จึงต้องกัดฟัน และอดทนกล้ำกลืนอยู่คนเดียว
เพื่อจะได้รับความรักจากเขา การถ่อมตนของเธอมันยังไม่พออีกเหรอ?
ทำไมเธอต้องเอาศักดิ์ศรีสุดท้ายของตัวเองมาให้คนอื่นเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ด้วย!
ค่ำคืนนี้ยาวนานเป็นพิเศษ
เซิ่งเกอยังคงลืมตาอยู่ เธอนอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน
.......
ในเช้าตรู่ของวันต่อมา เฟิงหยุนเหนียนถูกแสงแดดจ้าที่ส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่างปลุกให้ตื่น
เขาเอามือนวดขมับไปมา พอเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าเซิ่งเกอกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งโดยหันหลังให้เขาอยู่
จู่ ๆ เรื่องเมื่อคืนก็แวบเข้ามาในหัวของเขา ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ลูกตาสีดำของเขาก็มืดมนขึ้นมาทันที อากาศรอบ ๆ ตัวเขาค่อย ๆ เย็นขึ้นมา
แม้ว่าเซิ่งเกอจะหันหลังให้เขาอยู่ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของฝ่ายชายอย่างชัดเจน
เธอยังคงทาครีมบำรุงผิวต่อไป ราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วจู่ ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกเขากระชากไปอย่างแรง
ทำให้ครีมบำรุงผิวในมือของเธอตกลงไปที่พื้น ขวดแก้วแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เนื้อครีมสีขาวหกกระจายเต็มพื้น
เซิ่งเกอเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเขาด้วยความโกรธ แต่เมื่อเธอได้สบตากับลูกตาสีดำที่กำลังแสดงอารมณ์โกรธ และอารมณ์ขยะแขยงของชายคนนั้น หัวใจของเธอก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
“คุณคิดว่าคุณใช้วิธีวางยาที่น่ารังเกียจแบบนี้เพื่อทำให้ผมแตะต้องคุณ แล้วคุณจะเป็นคุณนายเฟิงจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เฟิงหยุนเหนียนที่ยืนอยู่สูงกว่าจ้องมองมาที่เธอ เขากัดฟันมองเธอตาเขม็ง ส่วนมือก็ยังไม่คลายออก แถมยังกำแน่นขึ้นด้วย
เป็นเพราะใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา จึงทำให้ดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
วางยางั้นเหรอ?
เซิ่งเกอยิ้มทั้งที่หน้าซีดเผือก “ในสายตาคุณ ฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอไง?”
มุมปากของเฟิงหยุนเหนียนโค้งขึ้นอย่างเย้ยหยัน แววตาของเขาแสดงความรังเกียจออกมาอย่างแรง “ตอนแรกคุณก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับคุณปู่ไม่ใช่เหรอ คุณถึงทำให้ผมแต่งงานกับคุณได้ แล้วตอนนี้จะมาแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอะไร”
“ผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างคุณ เทียบไม่ได้แม้แต่นิ้วเท้าสักนิ้วของอาหนิงเลยด้วยซ้ำ!”
น่ารังเกียจ แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา.....
ที่แท้ในความคิดของเขา เธอดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ
ส่วนเรื่องการวางยาอะไรแบบนี้ หากเธอคิดจะทำจริง ๆ เธอคงทำไปตั้งนานแล้ว ทำไมต้องทนทุกข์ใจรอมาจนถึงตอนนี้ด้วย? เฟิงหยุนเหนียนไม่รู้จักเธอเลยจริง ๆ!
มันน่าตลกตรงที่ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอพยายามที่จะทุ่มเทสุดแรงกายแรงใจ แต่ผลที่ได้กลับย่ำแย่สุด ๆ!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องฝืนทนอีกต่อไปแล้ว
เซิ่งเกออดทนต่อความเจ็บปวดที่ถูกเขาจับข้อมือไว้แน่น เธอกัดฟัน แล้วก็ออกแรงสุดกำลัง เพื่อสะบัดมือเขาออก
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น และพูดอย่างหนักแน่นว่า
“เฟิงหยุนเหนียน เราหย่ากันเถอะ”
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก