S2..ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งฐานะ และสถานะของเราสามคน3P
• ACTION •
สองปีที่ผ่านมาครอบครัวของฉันเจอวิกฤตครั้งใหญ่ เพราะจู่ๆ คู่ค้ารายใหญ่ที่มาเก๊าทยอยไม่ต่อสัญญา เราเลยต้องย้ายกลับมาที่ไทยแต่พอกลับมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ก็เกิดปัญหาขึ้นอีก
พ่อของฉันถูกยัดคดีและเมื่อวานศาลก็มีคำตัดสินให้พ่อจำคุกนานสิบห้าปี ซึ่งตอนนี้เราก็พยามที่จะสู้คดีกันอยู่ แต่ทรัพย์สินที่เป็นชื่อพ่อถูกอายัดไว้ทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นของกลาง ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากตัว
“พ่ออยู่ในนั้นไม่ลำบากใช่ไหมคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามพ่อของเธอผ่านกระจกหนากั้นห้องเยี่ยมญาติในเรือนจำ
“ไม่ลำบากหรอก โบอาไม่ต้องห่วงพ่อนะ” เสียงชายวัยกลางคนพูดบอกลูกสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้า เพราะไม่อยากให้เธอต้องเป็นห่วง
“หนูกำลังเดินเรื่องสู้คดีให้พ่ออยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” สีหน้าของเธอดูเป็นกังวล เมื่อเห็นว่าพ่อของเธออยู่ในชุดนักโทษ
“พ่อเชื่อว่าโบอาทำได้ ไม่ต้องห่วงพ่อนะ พ่ออยู่ที่นี่มีลูกน้องคอยดูแลอยู่ ไม่ลำบากหรอกลูก” ผมอยู่ในนี้ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะมีลูกน้องอยู่ด้านในเยอะ เรื่องที่ผมเป็นห่วงคงเป็นเรื่องภายนอกเรือนจำนี้มากกว่า ไม่รู้ว่าคนที่จ้องจะทำลายครอบครัวของผมมันเป็นใคร ศัตรูที่ไม่รู้หน้านี่แหละหน้ากลัวที่สุด...
“ผมจะดูแลโบอาให้ดีที่สุด นายไม่ต้องห่วงนะครับ” เสียงเข้มทุ้มของเจเคเอ่ยบอกกับพ่อของโบอา นายของเขาอย่างสุภาพเหมือนเคย แม้ว่าในตอนนี้เขาจะอยู่ในสภาพนักโทษ
“ฝากมึงสองคนดูแลลูกกูด้วย ส่วนเรื่องคดี ดึงทนายของเรามาทำคดีนี้ แล้วก็สืบให้รู้ว่าใครมันอยู่เบื้องหลัง” เสียงนายใหญ่สั่งการกับบอดี้การ์ดมือขวาและมือซ้ายของเขา ให้จัดการธุระสำคัญให้
“ครับนาย” เสียงนุ่มทุ้มของวอมเอ่ยตอบรับคำสั่งของนายเขาอย่างสุภาพส่วนเจเคก็โค้งหัวรับคำสั่งนั้น
หน้าเรือนจำ…
วันนี้เป็นวันที่พ่อของโบอาเข้าไปอยู่ในเรือนจำวันที่สอง ซึ่งมันเป็นวันที่ชีวิตของเธอจะกลับไปนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด ความสุขสบายที่เคยมี คงไม่ได้มีเหมือนก่อนอีกแล้ว “แล้วเราจะไปอยู่ไหนกันดีคะ ตอนนี้บ้านก็โดนยึดไปแล้ว รถก็ไม่เหลือสักคัน เงินก็ไม่มีเลย” เธอพูดหน้าเศร้า
“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวพี่พาไปอยู่วัด” เจเคพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ที่พยามกลั้นขำไว้สุดๆ กับคำพูดหยอกเมียของเขา
“พูดจริงเหรอคะ? เราจะไปอยู่วัดกันเหรอ” สีหน้าของหญิงสาวที่ดูวิตกกังวลกับคำพูดนั้นของเจเค
“ไอเจเค มันใช่เวลาไหม?” วอมพูดดุเพื่อนของเขา ที่เล่นไม่รู้เวล่ำเวลา
“พี่ล้อเล่นครับ” เจเคระบายยิ้มออกมา ก่อนจะดึงโบอาเข้ามากอด เพื่อปลอบเธอจากสิ่งที่กังวลอยู่
“เดี๋ยวเราย้ายไปอยู่คอนโดกัน พี่ให้ลูกน้องเก็บของที่บ้านของหนู ไปไว้ที่นั่นให้แล้ว” ผมกับไอเจเคเคยหารกันซื้อคอนโดหรูแถวสีลมไว้เป็นห้องเชือด ซึ่งหลังจากได้โบอาเป็นเมียก็ไม่ได้เปิดใช้งานที่นั่นอีกเลย ซึ่งยังดีที่เราทั้งคู่ไม่ได้ตัดสินใจขายมันไปก่อน เพราะไม่งั้นก็คงวุ่นวายเรื่องที่อยู่ใหม่กันแน่
“เราจะมีตังใช้กันไหมคะ หนูต้องออกไปทำงานไหม แล้วเราจะทำงานอะไรกัน” ใบหน้าขมวดคิ้วกังวลของโบอา เงยหน้าถามชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ
“หนูไม่ต้องออกไปทำงานหรอก อยู่บ้านคอยทำงานที่พี่สั่งก็พอเดี๋ยวพี่จ่ายเงินเดือนให้เอง” มือหนาของวอมลูบลงที่หัวของหญิงสาวอย่างเบามือ
“งานอะไรคะ?” โบอาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“งานถนัดครับ” เสียงนุ่มทุ้มของวอมพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย ที่ภายในแฝงไปด้วยความร้ายกาจ
คอนโด…
เมื่อเดินเข้ามาในห้องก็พบกับครัวรูปตัวยูขนาดใหญ่ที่อยู่กลางบ้านใกล้กับห้องรับแขกซึ่งสองฝั่งของห้องรับแขกจะเป็นห้องนอนที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวา ที่นี่ดูหรูหรามากเมื่อมองดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านแน่นอน
“คอนโดนี้ของใครคะ ทำไมถึงมีตังซื้อคอนโดหรูขนาดนี้ล่ะ” สาวสวยเอ่ยถามด้วยความข้องใจ
“พี่กับไอเจเคหารกันซื้อครับ”
“พี่ทำงานกับพ่อหนูมาตั้งหลายปี จะไม่ให้มีเงินเก็บเลยเหรอ” เจเคพูดตอบคนตัวเล็กที่กำลังเดินสำรวจห้องอยู่
“ไม่เคยพาใครมาที่นี่ใช่ไหมคะ?” โบอาเอ่ยถามด้วยสัญชาตญาณความเป็นเมีย และก็เห็นว่าที่นี่ยังใหม่อยู่ เหมือนไม่เคยมีคนเข้ามาอยู่
“ไม่เคยครับ พวกพี่แค่ซื้อที่นี่เก็บไว้ ไม่ค่อยได้เข้ามานอนหรอก” วอมตอบกลับคำถามของสาวสวยด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็ไม่หลุดพิรุธออกมาให้เธอจับได้
“แล้วของหนูอยู่ไหนเหรอคะ” สาวสวยเอ่ยถามแฟนหนุ่มทั้งสองคนของเธอก่อนจะเดินมาเปิดประตูห้องจนเห็นว่าของใช้ และกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอถูกขนมาไว้อยู่ในห้องนอนใหญ่ “ทำไมของหนูมีแค่นี้ล่ะคะ กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนมหนูล่ะ”
“กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม ของมีค่าของหนูถูกยึดไปหมดแล้วครับ พี่ให้คนเก็บมาได้เท่านั้น แต่ก็น่าจะพอมีเสื้อผ้าแบรนด์เหลืออยู่บ้าง ตำรวจน่าจะเก็บไปไม่หมด” วอมพูดบอกสาวสวยที่กำลังทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าของรักของหวงของเธอหายไปเป็นจำนวนมาก
“ฮือ แล้วหนูจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะเนี่ย? ...” ฉันกลายเป็นคุณหนูไส้แห้ง ตกอับไปแล้วเหรอเนี่ย ไม่เอานะ...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀