เขา…ชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว เธอ…เด็กสาวขาพิการผู้ไม่เคยสิ้นหวัง
“พิรุณ” แปลว่าฝน สำหรับบางคนฝนคือสายน้ำแห่งความสดชื่นชุ่มฉ่ำคือหยาดฝนที่ทำให้รู้สึกมีความสุขหรืออย่างน้อยๆ ได้มองเม็ดฝนที่ข้างหน้าต่างก็คงเป็นความเพลิดเพลินได้พอสมควรแต่ไม่ใช่กับผู้ชายคนหนึ่ง
เขาชื่อ “พิรุณ” อายุยี่สิบแปดปี ทั้งชีวิตมีแค่ความโดดเดี่ยวเป็นเพื่อนข้างกาย หลังเข้าชั้นประถมได้ไม่กี่วันแม่แท้ๆ ก็พาไปหาย่าแล้วก็ไม่เคยกลับมาให้เห็นหน้าอีกเลยเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้หนักขึ้นเมื่อคนเพียงคนเดียวที่รักเขาดั่งดวงใจก็มาด่วนจากไปตอนอยู่ประถมปีที่สาม หลังจากนั้นพิรุณก็ระเหเร่ร่อนย้ายโรงเรียนย้ายบ้านไปเรื่อยตามแต่ความเวทนาสงสารของเหล่าญาติๆ ว่าปีนั้นใครจะรับไปดูแล เขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหมางเมินและไม่เคยได้รับความรักและอ้อมกอดจากใครเลย
พิรุณคือฝนแห่งความโดดเดี่ยว ฝนแห่งความอ้างว้าง คล้ายๆ ว่าเขาคือบ่อเกิดแห่งความโศกเศร้า ชีวิตหลังย่าจากไปเขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตามส่วนรอยยิ้มคือสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจากคนแบบเขา
“พิรุณ” เกิดตอนฝนโปรยปรายเขาคือสายฝนแห่งความชื่นใจของมารดาอย่างแท้จริงส่วนชื่อเล่นคือ “ฟ้า” เพราะเด็กสาวที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นรักการมองท้องฟ้าเป็นที่สุด หลายครั้งที่ท้อแท้เธอมักจะแหงนหน้าขึ้นไปมองแผ่นฟ้ากว้างใหญ่แล้วก็จะมีแรงใจขึ้นมาทันทีเธอบอกกับตัวเองว่าถ้ามีลูกไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจะตั้งชื่อว่าฟ้าแน่นอน
“ฟ้า เดี๋ยวช่วยดูแลคนไข้คนนี้ทีดูแลเป็นพิเศษนะ” หญิงสาววัยกลางคนเข้ามาแจ้งข่าวให้ผู้ร่วมงาน พิรุณเข้าใจทันทีถึงสิ่งที่เธอย้ำประโยคสุดท้ายว่ามันหมายความถึงอะไร ปีละครั้งสองครั้งเขาจะได้รับคำสั่งแบบนี้
“สวัสดีค่ะ” ตุลยดาและพรรัมภายกมือไหว้ชายหนุ่มท่าทางภูมิฐาน ทั้งคู่แปลกใจมากแต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะเจ้าหน้าที่ด้านหน้าแจ้งให้มาพบผู้บำบัดในห้องซึ่งก็คือผู้ชายคนนี้ เขาหนุ่มมากไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักบำบัดได้บอกว่ายังเรียนไม่จบก็ไม่แคลงใจแต่อย่างใด
“สวัสดีครับ ผมขอตรวจอาการเบื้องต้นนะครับ” พิรุณขออนุญาตก่อนเพราะเขาต้องโดนตัวคนไข้ เขาใช้มือสัมผัส กดและเตะไปทั่วขาของเด็กสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยความตั้งใจ
ตุลยดาขนลุกเล็กน้อยจากสัมผัสที่ได้รับ นอกจากพี่ชายแล้วก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนถูกเนื้อต้องตัวแบบตั้งอกตั้งใจขนาดนี้มาก่อน ที่ผ่านมาเธอพบแต่ผู้บำบัดและหมอที่เป็นผู้หญิงเท่านั้นมันจึงอดหวิวๆ ไม่ได้เมื่อเขาลูบไล้เรียวขาของเธอซ้ำไปซ้ำมา
“สนใจคอร์สวารีบำบัดใช่ไหมครับ คนไข้ว่ายน้ำเป็นไหมครับ”
“เป็นค่ะ แต่ แต่ไม่ได้ว่ายนานแล้วไม่รู้จะยังว่ายได้อยู่ไหม” ตุลยดาตอบ
“ไม่ต้องห่วงครับเราแค่ถามเพื่อกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ถึงว่ายไม่เป็นก็เข้าคอร์สได้ครับเพราะเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดหนึ่งต่อหนึ่งส่วนคนไข้ที่เคยว่ายน้ำเป็นแต่ห่างหายไปนานส่วนมากพอลงน้ำก็ว่ายได้เหมือนเดิมครับหรืออาจจะใช้เวลาสักพักเท่านั้นครับร่างกายก็จะเรียกความสามารถส่วนนั้นกลับมา”
“ไม่ทราบว่าญาติคนไข้เข้าไปดูการบำบัดได้ไหมคะ” พรรัมภาถาม เธอไม่อยากปล่อยน้องสาวให้อยู่ตามลำพังกับผู้ชายในชุดว่ายน้ำเธอรู้ว่าต่อไม่พอใจแน่ๆ และเธอก็ไม่ชอบใจเช่นกันเพราะเห็นสายตาประหลาดๆ ของเขา
“ได้ครับเพราะคนไข้จองคอร์สส่วนตัวมาปกติถ้าเป็นคอร์สธรรมดาจะไม่ให้เข้าครับ”
“คนไข้ต้องการรถรับส่งไหมครับ”
“ไม่ค่ะ เดี๋ยวพีชมารับมาส่งเอง”
พิรุณซักถามข้อมูลจากคนไข้อีกพักใหญ่เพราะต้องการรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการรักษาและออกแบบคอร์สบำบัดที่เหมาะสมกับคนไข้ พรรัมภาพอใจมากกับความใส่ใจและมีมาตรฐานของศูนย์บำบัดคิดไม่ผิดเลยที่ยอมจ่ายเงินให้กับที่นี่ถึงมันจะแพงกว่าที่อื่นๆ ตั้งห้าเท่าก็ตาม
“พบกันสัปดาห์หน้านะครับ” ผ่านไปเกือบชั่วโมง พิรุณก็บอกลาคนไข้และพี่สาวของเธอ
“พี่พีชคะ” ตุลยดาเรียกว่าที่สะใภ้ของเธอด้วยเสียงกระซิบ
“ไหนว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วไง” พรรัมภาบอกแล้วจับมือน้องสาวมากุมไว้ เธอรู้ว่าสาวน้อยหน้าหวานจะพูดเรื่องอะไร
“มันแพงมากเลย” ตุลยดาบอกแล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ตอนพี่พีชรูดบัตรเครดิตจ่ายเงินเธอเกือบจะร่วงตกจากรถเข็นเพราะราคามันห่างครึ่งล้านไปนิดเดียวเท่านั้น ศูนย์แห่งนี้เป็นที่หนึ่งด้านวารีบำบัดและหัตถบำบัดพี่พีชเลือกคอร์สหกเดือนแบบ VIP ทุกรูปแบบทั้งผู้ดูแล ห้องบำบัดหรือแม้แต่อาหารการกินและเธอต้องมาที่นี่สัปดาห์ละสี่วัน
“ทำให้พี่ไม่ได้เหรอมันคงลำบากและต้องใช้ความอดทนมากแต่พี่ก็อยากให้ตาลลองดูส่วนเรื่องเงินพี่ขอพูดแบบนี้แล้วกัน ในเมื่อพี่มีเยอะกว่าพี่ก็อยากดูแลตรงนี้แล้วถ้าพี่จะซื้อความสุขด้วยเงินมันก็ไม่แปลกใช่ไหมความสุขของพี่คืออยากเห็นตาลกลับมาเดินได้ตาลช่วยทำให้ความฝันของพี่เป็นจริงได้ไหม”
“ค่ะ พี่พีช ตาลจะพยายามตาลจะไม่ดื้อ”
“สัญญาด้วยว่าจะเลิกคิดเรื่องค่าใช้จ่าย สิ่งเดียวที่พี่อยากให้ตาลทำก็คือตั้งใจกับการบำบัด”
“ค่ะพี่พีช ตาลสัญญา”
พรรัมภาพาตุลยดาไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อชุดว่ายน้ำทั้งสองคนเห็นตรงกันว่าควรซื้อแบบชุดชิ้นเดียวมีกระโปรงปิดบั้นท้ายและสีเข้มๆ เข้าไว้ หลังจากเลือกกันอยู่นานจึงได้มาทั้งหมดสามชุด
“ตาลคิดว่าคุณพิรุณเขาเป็นยังไง” พรรัมภาถามระหว่างที่กินของหวาน
“ก็ดีนะคะ เขาพูดจาเข้าใจง่ายดีไม่ใช้ภาษาหมอหรือศัพท์ยากๆ ที่ฟังแล้วงง”
“แล้วต้องอยู่กับเขาครึ่งปีคิดว่าไหวไหม” พรรัมภายังคงถามต่อไป เธอว่าเธอเดาสายตาของอีกฝ่ายไม่ผิดถึงเขาพยายามจะซ่อนมันไว้ก็เถอะแต่ไม่รอดพ้นคนช่างสังเกตแบบเธอหรอก
“ไหวสิคะแล้วตาลก็ไม่ได้อยู่กับเขาสักหน่อยแค่ไปบำบัดสี่วันเองครั้งละไม่กี่ชั่วโมงด้วย”
“ทำไมพี่พีชถามแปลกๆ คะ”
“เปล่าจ้ะพี่แค่อยากแน่ใจว่าตาลโอเคกับมันจริงๆ พี่ก็คิดเองเออเองหลายอย่างกลัวจะเป็นการบังคับตาลมากไป”
“ไม่เลยค่ะพี่พีชอย่าคิดแบบนั้น ทุกคนหวังดีกับตาลค่ะตาลเข้าใจแล้วก็ดีใจมาก”
“น้องสาวของพี่น่ารักที่สุดเลย” พรรัมภาหอมแก้มใสๆ ของตุลยดาแล้วทั้งคู่ก็กอดกัน เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรักและทุ่มเทให้เด็กคนนี้มากมายเหลือเกิน เธอกับตาลไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกัน ญาติห่างๆ ก็ไม่ใช่แถมเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่นานแต่ระยะเวลาอันน้อยนิดกลับสร้างความผูกพันระหว่างเธอกับเด็กคนนี้ได้ยิ่งใหญ่มหาศาล
“กลับกันเลยไหม พี่ต่อคงชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟแล้ว”
“กลับเลยค่ะพี่พีช” พรรัมภาโบกมือให้คนขับรถที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป จริงๆ เธออยากให้มานั่งด้วยกันแต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้งเพราะความเกรงใจ เธอเคยอ้อนวอนปนขอร้องสำเร็จครั้งนึงแล้วก็คิดว่าการแยกโต๊ะคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะวันนั้นลุงตุ่มแทบไม่กระดิกตัวเลยระหว่างนั่งทานอาหาร
ตุ่มคือคนขับรถที่บ้านพรรัมภา พ่อกับแม่จ้างไว้ให้ลูกสาวคนเดียวโดยเฉพาะเธอเพิ่งจะมาใช้บริการเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสี่เพราะต้องใช้รับส่งตุลยดาที่เดินไม่ได้และต้องมีรถเข็นติดตัวตลอดเวลา ก่อนหน้านั้นพรรัมภาวิ่งหนีตัวตนและความร่ำรวยของตัวเองสุดกำลังเพราะเธอไม่เห็นคุณค่าว่าการมีเงินมากมายล้นฟ้ามันดียังไงแต่ตอนนี้เมื่อเธอได้รู้จักตุลยดาเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอมีจะทำให้เด็กสาวคนนึงมีชีวิตที่ดีขึ้นมันทำให้เธอมีความสุขเหลือเกิน
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"