ทั้งหวานทั้งซิงเสี่ยเลยอยากชิม
ปัจจุบัน
“ฮือๆ” เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวเล็ดลอดจากริมฝีปากที่โดนอุดไว้ด้วยผ้าแบบไม่แน่นอะไรนัก เด็กสาวหน้าตาสะสวยพยายามดิ้นรนสุดกำลังให้หลุดจากพันธนาการ เรียวขาช่วงน่องของเธอแยกออกจากกันแล้วโดนผูกไว้กับขาเก้าอี้ส่วนแขนสองข้างถูกไพล่ไปด้านหลังและมัดไว้อย่างแน่นหนา
“อย่าทำ ฮือๆ ได้โปรด” เด็กสาวอ้อนวอนขอความเมตตา
“หนีบซะแน่นเชียวแต่เสี่ยทำให้มันอ้าได้แน่ๆ” มือสากๆ ของชายหนุ่มวัยสี่สิบปลายๆ ลูบไล้ไปที่ต้นขาด้านในของหญิงสาว อีกนิดเดียวเขาก็จะได้สัมผัสจุดสงวนอันหอมหวาน
“ฮือๆๆ” แววตาที่เคยสดใสเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เธอดิ้น ร้องและเบี่ยงตัวไปทุกทางเท่าที่จะทำได้แต่ผ้าที่มัดก็ยังแน่นอยู่เหมือนเดิม
“จุ๊ๆ ร้องทำไมครับทูนหัว เสี่ยพามาทำอะไรสนุกๆ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลยไม่ร้องนะครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผิวขาวสะอาดสะอ้านไล้มือไปตามใบหน้าสวยหวานสมกับชื่อของเจ้าตัว
“ฮือๆ อย่าทำหนูเลย หนูกลัว” เด็กสาวอ้อนวอนขอร้องแทบจะทุกนาทีเผื่อผู้ชายคนนี้จะเห็นใจ
“กลัวทำไมครับ งั้นเรามาเริ่มกันดีกว่าจะได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรน่ากลัว”
มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วถอดมันไปให้พ้นตัวต่อจากนั้นก็รูดซิปกางเกงสีดำเนื้อดีและก็เช่นเดียวกันมันถูกเหวี่ยงไปที่เดียวกับเสื้อ สายตาวาวฉ่ำมองไปที่เรือนร่างสะโอดสะองของนักศึกษาสาวด้วยความกระหาย
“ซ่วบ” ปากใหญ่ๆ ของผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเสี่ยอมทรวงอกของเด็กสาวเข้าไปจนเกือบหมดเต้า เธอพยายามสะบัดตัวหนีแต่ก็ไม่ให้ผลอะไรนอกจากกระตุ้นอารมณ์ของชายคนนั้นให้มันโหมกระพือหนักขึ้นกว่าเดิม
“หวานจริงๆ ทูนหัว” เขาถึงกับเพ้อในรสหอมหวานของเด็กสาวที่ยังไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน
“ได้โปรด” เธอยังคงพร่ำพูดอ้อนวอนขอความเมตตา
ชายหนุ่มที่นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียวนั่งคุกเข่าแล้วลูบไล้มือไปตามเรือนกายขาวนวลราวไข่ปอกของเด็กสาว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากยัดท่อนเนื้อเข้าไปกระหน่ำแทงในทางรักของเธอใจจะขาดแต่เขามันพวกโรคจิตแค่จับซอยกระแทกๆ ให้เสร็จไป มันไม่ใช่การร่วมเพศแบบที่โปรดปราน เขาชอบได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงครวญครางเขาชอบมองยามที่ผู้หญิงเสร็จสมและควบคุมตัวเองไม่ได้มันเป็นอะไรที่เร้าใจมาก
“ไม่ๆ อย่า ได้โปรด” เด็กสาวขอร้องอ้อนวอนจนสุดเสียงเมื่อเห็นสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นหยิบออกมาจากลิ้นชัก
“ไม่ต้องกลัวนะทูนหัว” ชายหนุ่มหยิบแท่งจำลองของอวัยวะเพศชายออกมาแล้วเปิดระบบสั่น มือหนาออกแรงเพียงครั้งเดียวต้นขาที่เคยหนีบแน่นเข้าหากันก็อ้ากว้างต้อนรับเจ้าดิลโด้ยางสีสวย
“ว๊าย” เด็กสาวกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะแรงสั่นจากของจำลองที่จี้อยู่บนเม็ดเล็กๆ บนเนินสามเหลี่ยมของตัวเอง
“ดีใช่ไหมทูนหัว”
“ฮือๆ อย่า อ๊ายยย” ทั้งที่หวาดกลัวจับใจแต่มันก็ห้ามไม่ได้เลยที่จะไม่รู้สึกอะไรกับการจู่โจมตรงจุดสงวน เจ้าแท่งจำลองสั่นด้วยจังหวะเร็วไปทั่วกลีบเนื้อของเธอ ผู้ชายคนนั้นลากมันขึ้นลงไปตามรอยแยกสลับกับแช่มันนิ่งๆ ไว้ที่ปุ่มกระสัน
“มะ ไม่ ไม่ อ๊า” ส่วนหัวมนๆ ประมาณสองข้อนิ้วหายเข้าไปในร่องอุ่นแล้วร่างกายของเธอก็กระตุกสั่นรุนแรงยิ่งกว่าเจ้าแท่งเนื้อจำลองนั่นซะอีก
“เก่งมากทูนหัว” ชายหนุ่มปิดระบบสั่นของแท่งจำลอง สองมือจับหัวเข่าของเด็กสาวไว้มั่นแล้วเขาก็ละเลงลิ้นไปที่กลีบเนื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำแสนหวานลิ้นหนาตวัดเลียไปทั่วพูเนื้อนิ่มเพื่อซับทุกหยาดหยดอันแสนบริสุทธิ์และเขาก็ลอบยิ้มเพราะร่างอรชรสั่นสะท้านและครวญครางปิ่มจะขาดใจ
“ฮือๆ พอเถอะค่ะได้โปรด” ร่างบางกระตุกเกร็งอีกครั้ง เธอเพิ่งถึงจุดสุดยอดสองครั้งติดๆ กันและเพลียขึ้นทุกที เกือบชั่วโมงแล้วที่เธอถูกมัดอยู่กับเก้าอี้และดิ้นรนจนสุดแรง
“นี่แค่เริ่มเองครับทูนหัว” ชายหนุ่มลากลิ้นจากจุดสงวนของเด็กสาวขึ้นไปตามลำตัวเรียวระหง ลิ้นสากตวัดเลียเต้านมอีกครั้งเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะผ่านไปโดยไม่ทักทายทรวงงามที่แสนหอมหวาน
“ฮือๆ” เด็กสาวพยายามปัดป้องทุกทางแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรต่อให้สะบัดตัวแค่ไหนเธอก็หนีไม่พ้นการเล้าโลมที่แสนน่ารังเกียจจากชายแปลกหน้า ถ้าแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนทำเธอคงไม่รู้สึกหวาดกลัวและขยะแขยงจนอยากอาเจียนแบบนี้
อีกครั้งที่ร่างเล็กๆ ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ผู้ชายคนนั้นหยิบขนนกออกมาจากลิ้นชักแล้วปัดมันผ่านไปทั่วตัวของเธอด้วยสัมผัสอันแผ่วเบา เธอครางและร้องไห้ในเวลาเดียวกันเพราะมันแยกไม่ได้เลยระหว่างความหวาดกลัวและความเสียวสยิวที่กำลังได้รับ เธอแสนจะอับอายและเกลียดตัวเองที่ดูเหมือนกำลังจะมีอารมณ์กับการร่วมเพศที่แสนวิตถารของผู้ชายจิตป่วยคนนี้
“ยะ อย่า” มือหนาแยกเรียวขาขาวๆ ให้อ้ากว้างอีกครั้ง เม็ดทับทิมถูกสะกิดเบาๆ ด้วยปลายขนนกและเธอก็สะดุ้งเฮือกร้องครวญครางออกมา
“เสี่ยบอกแล้วว่าไม่มีอะไรน่ากลัว” ชายหนุ่มยิ้มด้วยความพอใจและหยิบอุปกรณ์อีกชิ้นออกมา
“อื้ดๆๆๆ” เสียงของอุปกรณ์คล้ายไข่ไก่ใบจิ๋วอยู่ในระบบสั่น
“โอ๊ย” เด็กสาวร้องเสียงหลงเพราะหัวนมโดนหนีบด้วยไม้หนีบ
“ฮือๆ อย่า ได้โปรด อืม โอ้ว” เม็ดทับทิมที่เนินสาวถูกบดบี้ด้วยแรงสั่นจากเจ้าอุปกรณ์ประหลาด เต้านมข้างนึงถูกหนีบไว้ด้วยไม้หนีบส่วนอีกข้างปากของผู้ชายคนนั้นดูดเลียมันอยู่ ยามที่เขาออกแรงคลึงเคล้นหน้าอกข้างที่โดนหนีบไว้มันก็เจ็บแปลบๆ ขึ้นมา
“ซี๊ด ทูนหัว ร้องดังดีจัง” ชายหนุ่มกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อได้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวเหยแกด้วยความทรมานจากความเสียวกระสัน
“หยุดเถอะค่ะ ยะ หยุด” เสียงอ้อนวอนแหบแห้งขึ้นทุกที เธอรู้ว่าอีกไม่กี่อึดใจร่างกายก็จะทรยศอีกครั้งเธออยากให้เขาหยุดเธอไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นเข้าใจว่าเธอมีอารมณ์ร่วมกับเกมวิตถารแบบนี้
“ทูนหัว จะเสร็จแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มถามเด็กสาวเสียงกระเส่า
“โอ๊ย แฮ่กๆ” แล้วจู่ๆ เขาก็กัดหัวนมของเธอและมันเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอถึงจุดสุดยอดพอดี
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!