“ลี...” เจตวัฒน์ครางพลางหอบเมื่อการขยับครั้งสุดท้ายจบลงพร้อมปลดปล่อยสายธารแห่งรักไว้ภายใน มัณฑลีบนเตียงในเวลานี้ยั่วยวนที่สุด ผมดำยาวสยายเต็มหมอน ดวงตาปรือฉ่ำ ใบหน้าแดงนิดๆ ริมฝีปากเอิบอิ่มเพราะฝีมือเขา “คุณยอดไปเลย” ความอัดอั้นสะสมที่ไม่กล้าแตะต้องเธอมานาน เพราะกลัวจะรบกวนคนป่วยแสดงออกมาเป็นความหนักหน่วงในคืนนี้ กายแกร่งยังดิ้นรนอยู่แม้จะอ่อนแรงแล้ว ราบกับดาบแกร่งที่สมัครใจจะอยู่ในฝักอันอบอุ่น “ออกไป” มัณฑลีไล่เจ้าของบ้านด้วยเสียงที่แหบโหย มือเปลี่ยนมาเป็นดันอกแข็งแรง หน้าแดงแต่ตาดุวาว “ใจร้ายจัง ... เสร็จแล้วก็ไล่เลยเหรอ บอกแล้วยังไงคืนนี้ผมก็ไม่นอนบนพื้นเด็ดขาด” เจตวัฒน์เรียกร้องทวงสิทธิ์ของเขาอีกครั้งแบบทบต้นดอก มัณฑลีเพลียจนหลับเปลือยซุกหน้ากับอกแกร่งนั้นก่อนตื่นเช้ามาอย่างเจ็บใจที่เสียทีซ้ำสอง ... ต้องมีวิธีสิน่า ที่เธอจะหนีให้พ้นจากสภาพนี้
มือเล็กคลำสะเปะสะปะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่กดเลื่อนปลุกแล้ว... ปลุกอีกบนโต๊ะข้างเตียง หยีตาเต็มไปด้วยฤทธิ์ความง่วงมองดู ตีห้าครึ่ง! มัณฑลีกรีดร้องอยู่ในใจ สลัดผ้าห่มออกจากร่าง รวบผมดำขลับยาวสยายด้วยกิ๊ฟตัวใหญ่ ข้างโทรศัพท์ รีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปลงฟันโดยไว จากนั้นวิ่งจี๋ไปที่ครัว จัดการเตรียมกาแฟและโจ๊กมื้อเช้า ตายล่ะ! หมูหมด ไม่เป็นไรเอาไก่สับใส่แทน เจตวัฒน์กินง่าย เขาคงไม่สนหรอกว่าเป็นเนื้ออะไร ขอให้ทุกอย่างพรั่งพร้อมบนโต๊ะอาหารก็พอ
หกโมงเช้า มัณฑลีใช้ทัพพีกระบวยค่อยๆ ตักโจ๊กจากหม้อบนเตาแบ่งใส่ชามเล็ก โรยต้นหอมและพริกไทยป่นนิดหน่อย เจตวัฒน์ไม่ชอบกินขิง สังเกตได้จากการที่เขาชะงักมือทุกครั้งเมื่อเจอเจ้าสมุนไพรเหลืองอ่อนหั่นบางเป็นเส้นบนโจ๊ก เขามักเขี่ยไปไว้อีกฟากหนึ่งของชามโดยที่ไม่พูดอะไร อา...ใช่ เจตวัฒน์เป็นคนไม่ช่างพูดตามที่คฑาวุฒิบอกเปี๊ยบ มัณฑลีแบ่งโจ๊กไว้ให้ตัวเองถ้วยหนึ่งซึ่งเล็กกว่า ตามปรกติเธอไม่ค่อยทานอาหารพวกนี้ตอนเช้า จะกินแค่ขนมปัง กาแฟ กับผลไม้มากกว่า ก็ตั้งแต่มาอยู่กับเขานี่แหละที่ชีวิตมัณฑลี ‘เปลี่ยน’ ไปมาก
หกโมงยี่สิบ อาหารเช้าขึ้นตั้งโต๊ะบริเวณเทอเรซข้างสวน จะเรียกว่าสวนก็ไม่ค่อยถูกนัก เรียกว่าเป็นที่รวมของต้นไม้ซึ่งเจ้าของบ้านซื้อมาเพราะถูกใจมากกว่า การจัดวางแต่ก่อนระเกะระกะ เช่น กระถางต้นปรงวางไว้คู่กับกุหลาบแดง หรือพลูด่างคู่กับดอกไฮเดรนเยีย ตอนนี้เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นด้วยฝีมือมัณฑลี ความจริงเธอก็ไม่อยากยุ่งนักหรอก แต่เสียดายดอกไม้สวยๆ จะอดอวดโฉมเต็มที่เพราะความไม่เอาใจใส่ของเขา
เสียงแตรรถดังที่ประตูรั้ว มัณฑลีเงยหน้าจากโต๊ะ รถเก๋งคันงามคุ้นตารออยู่
“สวัสดีครับ” ผู้มาใหม่ยิ้มยิงฟันขาว หลังเลี้ยวรถเข้าบ้าน เขาสวมสูทสีเทาขี้บุหรี่ เชิ้ตขาว ผูกเนคไทด์ ผมเสยเรียบ ดูภูมิฐาน แต่ไม่อาจกลบบุคลิก คล่องแคล่ว ร่าเริงของเจ้าตัวได้
“คุณหนึ่งคงจะตื่นแล้ว ไปดูที่ห้องทดลองสิคะ ทานอะไรมาหรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวลียกมาให้” มัณฑลียิ้มตอบ
“โอ๊ะ... ลาภปากตอนเช้า ยกมาเลยครับ ผมหิวพอดี” คฑาวุฒิเอามือลูบท้องแล้วเดินลับหายไปในตัวบ้าน สักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับร่างสูงของเจตวัฒน์
“คุณลีทานข้าวเช้าด้วยกันสิครับ” ทนายหนุ่มชวนเมื่อเห็นเธอยกชามโจ๊กอีกใบมาให้
“ไม่หรอกค่ะ ลีมีงานอื่นต้องทำในครัว”
มัณฑลีขอตัวอย่างสุภาพ คฑาวุฒิยิ้มอย่างเข้าใจตามเคย ส่วนอีกคนก็ทำหน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์เหมือนที่ผ่านมา
มัณฑลีไม่สนและไม่อยากรู้ด้วยว่าทั้งสองคุยเรื่องอะไรกันบ้าง ... ไม่ใช่เรื่องของเธอ ตราบใดที่เขายังทำตามสัญญาและจ่ายเงินตรงทุกเดือน ใช่แล้ว... เงิน เพราะเจ้าสิ่งนี้แหละที่ทำให้มัณฑลีมาอยู่ที่นี่ ในบ้านหลังนี้กับผู้ชายแปลกหน้าในฐานะภรรยา! เธอเดินกลับไปห้องนอน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มีสายไม่ได้รับจากมณียา ... ภรรยาจิรกัณผู้เป็นพี่ชายสามสาย โทร.มาเช้าตรู่อย่างนี้คงไม่พ้นมีเรื่องร้อนแน่ๆ ... เงินอีกตามเคย จิรกัณและมัณฑลีเป็นพี่น้องอายุห่างกันมากถึงสิบห้าปี ตอนพ่อแม่เสียก็ได้เขาเลี้ยงดูจนเธอเรียนจบมหาวิทยาลัย จิรกัณแต่งงานกับมณียา พี่สะใภ้ผู้คิดแต่เรื่องความร่ำรวย ยุให้สามีทำธุรกิจโน่นนี่ไปหมด ซึ่งแต่ละอย่างสองสามีภรรยาก็ไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งเอาเสียเลย จนธุรกิจล่ม หนี้สินพอกพูน จิรกัณเป็นคนปากหนักหยิ่งในศักดิ์ศรี เรื่องจะมาขอร้องให้น้องสาวช่วยเหลือนั้นเป็นไม่มี แต่มณียาไม่ใช่
‘ช่วยพี่กัณใช้หนี้หน่อยนะ ยังไงพี่กัณก็ส่งเสียลีมาตั้งแต่เล็ก’
เป็นการทวงบุญคุณนิ่มๆ ที่มัณฑลีไม่ถือ ตอนเธอยังทำงานบริษัทอยู่ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่มณียายังไปยืมเงินกู้นอกระบบมาอีก
‘ลีคราวนี้ต้องช่วยพี่กัณแล้วนะไม่อย่างนั้นตายแน่ เจ้าหนี้เขาต้องการเงินคืนเป็นก้อนใหญ่’
มณียามาขอร้องทั้งน้ำตา มัณฑลีในตอนนั้นก็อยากจะร้องไห้เหมือนกันเพราะสงสารพี่ เธอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับสโรชาเพื่อนที่คบกันตั้งแต่เด็ก สโรชาฐานะทางบ้านไม่ดีนัก และตอนนี้ยึดอาชีพสาวนั่งดริ๊งในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ทีแรกสโรชาเสนองานแบบเจ้าตัวให้แต่มัณฑลีปฏิเสธ ต่อมาจึงพาไปพบเสี่ยกฤตซึ่งเป็นเพื่อนของคฑาวุฒิ แล้วข้อเสนองานที่แปลกประหลาดก็ตามมา
‘เงินดี ทำสัญญาเมื่อไร จ่ายทันทีเมื่อนั้น มีเงินรายเดือนให้ด้วย สัญญาสามปี’ คฑาวุฒิอธิบาย
‘เนื้อหางานคือไปดูแลคนๆ หนึ่ง แบบใกล้ชิด ยี่สิบสี่ชั่วโมง กินอยู่ด้วยพร้อม’ ทีแรกเธอนึกว่าเป็นงานดูแลคนป่วย แต่...
‘คุณต้องไปดูแลเขาในฐานะภรรยา’
มัณฑลีหน้าถอดสีแล้วผุดลุกขึ้นเตรียมจะชิ่งหนีอยู่แล้วเชียว ถ้าสโรชากับเสี่ยกฤตไม่ดึงมือไว้ก่อน
‘เดี๋ยวๆ ฟังอธิบายก่อน ความหวังของเพื่อนผมตอนนี้อยู่ที่คุณ’
คฑาวุฒิขอร้องเสียงน่าสงสงสาร แล้วเธอก็ได้รับรู้ถึงความยุ่งยากในชีวิตของชายหนุ่มผู้แสนมั่งคั่ง ดร.เจตวัฒน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ จบนอก ปริญญาหลายใบ หน้าที่การงานดี มีชาติตระกูล แต่มีปัญหาเรื่องบ้างาน อายุจนจะสามสิบห้าอยู่แล้วยังไม่แต่งงาน กระทั่งคุณย่าผู้ดีเก่าต้องลั่นคำขาดว่าหากไม่แต่งภายในสามปีจะไม่ให้สมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว แล้วสามปีที่ว่ามันก็มาครบเอาปีนี้พอดี
‘พวกผมอยากช่วยจริงๆ นะ สงสารแล้วก็เห็นใจมัน’
คฑาวุฒิกับเสี่ยกฤตเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กของเจตวัฒน์ ครอบครัวของเขาซับซ้อน แม่ตาย พ่อแต่งงานใหม่ แม่เลี้ยงร้าย น้องใหม่ก็แย่ สรุปโดยรวมคือถ้าไม่ได้สมบัติจากคุณย่าแล้วเจตวัฒน์จะไม่เหลืออะไรเลย
‘เราต้องช่วยกันรักษาสิทธิ์ของเขาจริงไหมครับ’
คฑาวุฒิมีวาทศิลป์เก่งสมเป็นทนาย เขากล่อมจนมัณฑลียอมมาพบกับเจตวัฒน์เพื่อ ‘สัมภาษณ์’ ในตำแหน่งภรรยา
ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!
วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++
ภริยา(ไม่รัก)ของมาเฟีย +++++++++++++++++ “ถ้าฉันไม่มีลูก คุณก็จะไม่มาที่นี่ใช่ไหม” ในใจส่วนลึกคาดหวังคำตอบว่า...ไม่ใช่ เลโอนาร์ดเบนสายตามองเธอนิ่ง “คงจะอย่างนั้นแหละ” ประไพสุดาเม้มริมฝีปากแน่น กายสั่นเทิ้ม “เลโอนาร์ด เบลุซซี่ คุณออกไปจากที่นี่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เด็กในท้องนี่เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าอยากได้แกก็ฆ่าฉันเสียเถอะ” ดวงตาดำสนิทลุกวาว มองอดีตสามีดังจะสาปส่งให้สลายเป็นจุณ “ฉันเกลียดคุณ!” +++++++++++++
อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป